แนะนำวิธีเลือก SUP สำหรับมือใหม่หัดพาย

กระทู้ขายของ
แนะนำวิธีเลือก SUP สำหรับมือใหม่หัดพาย Stand Up Paddle Board
Stand UP Paddle Board หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า SUP เป็นกิจกรรมและกีฬาทางน้ำแนวใหม่ที่คนกำลังให้ความสนใจ
เพราะมันช่วยให้หลายคนได้มีประสบการณ์เหมือนกับได้ไปยืนอยู่บนผิวน้ำ เป็นความรู้สึกที่ทุกคนอยากลองสัมผัสดูสักครั้งในชีวิต
แถมยังใช้งานได้หลายสไตล์ทั้งพายชิลชมวิว พายสนุกชนคลื่นไม่ยั้ง และสามารถประยุกต์เข้ากับกิจกรรมอื่นๆ
ได้อย่างลงตัวทั้งโยคะ เซิร์ฟ แคมป์ปิ้ง จนถึงการพายเน้นออกกำลังหนักๆ เพื่อเผาพลาญพลังงาน
ซึ่งไม่ว่าจะพายในสไตล์ไหน การเลือกบอร์ดให้เหมาะสมกับการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อให้คุณได้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด
ในการตัดสินใจเลือก SUP หรือบอร์ดยืนพายสักตัว คุณไม่ควรจะมองข้าม 3 สิ่งนี้
1. ทรงของบอร์ด
2. Stiffness ของบอร์ด
3. น้ำหนักและขนาดของบอร์ด
1. รูปทรงของบอร์ด
มาเริ่มที่สิ่งแรกที่คุณต้องพิจารณาก็คือ ทรงของตัวบอร์ด ซึ่งมีอยู่ 3 ทรงหลักๆ 
ก็คือทรง All-Round ทรง Touring และ ทรง Racing ซึ่งบอร์ดยืนพายทั้ง 3 ทรงนี้นั้นก็มีจุดเด่นและการใช้งานที่แตกต่างกันไป

ทรง All-Round
บอร์ดยืนพายทรง All-Round ซึ่งหากแปลแบบตรงตัวก็คือ มนรอบด้าน บอร์ดทรง All-Round 
นั้นจึงมีลักษณะของบอร์ดที่โค้งมนคล้ายๆวงรี และเป็นทรงที่ตัวบอร์ดมีความกว้าง รูปทรงแบบนี้จะช่วยให้ตัวบอร์ดมีสเถียรช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทรงตัวบนบอร์ดได้ง่ายมากๆ ยืนได้อย่างมั่นคง ทรงตัวได้ดีขณะที่บอร์ดกำลังเคลื่อนที่อยู่ เป็นทรงบอร์ดที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม ใช้งานได้หลายสไตล์ ใช้พายได้ทั้งทะเล น้ำเชี่ยว และน้ำนิ่ง เป็นบอร์ดมีความคล่องตัวสูงมากผู้ใช้จึงสามารถบังคับวงเลี้ยวได้ดี
“บอร์ดทรง All-Round ใช้งานได้หลายสไตล์
ทรงตัวง่าย มีความคล่องตัวสูง”
 
 
ข้อดีของบอร์ดทรง All-Round
ทรงตัวง่าย
มีความคล่องตัว
ใช้งานได้หลากหลาย
ข้อด้อยของบอร์ดทรง All-Round
Tracking อยู่ในระดับปานกลาง
ไม่เหมาะสำหรับการพายที่เน้นความเร็ว
ซึ่งจากทั้งหมดนี้ก็จะเห็นว่าบอร์ดทรง All Round นั้นเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เล่นที่เน้นการพายแบบง่ายๆ
สบายๆ ไว้พายเที่ยว ไม่เน้นทำความเร็ว พายชิลๆ ชมวิวซึมซับบรรยากาศหรือมือใหม่ที่ต้องการหาบอร์ดไว้ฝึกซ้อม
ทรง Touring
บอร์ดยืนพายทรง Touring จะมีลักษณะเด่นตรงที่ส่วนหัวของบอร์ดจะมีความเรียวแหลมลักษณะคล้ายกับเรือคายัคออกแบบมาเพื่อให้บอร์ดตัดผ่านคลื่นและกระแสน้ำ ลดแรงต้านของน้ำที่บอร์ดต้องเข้าปะทะ ทำให้บอร์ดสามารถทำความเร็วได้ดีกว่าทรง All-Round เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานพายแบบมาราทอน การพายระยะไกล บอร์ดทรง touring จะช่วยความลดเหนื่อยล้าให้กับผู้พายได้อย่างดี
 
 
“บอร์ดทรง Touring จะลดแรงต้านของน้ำที่บอร์ดต้องเข้าปะทะ
ทำความเร็วได้ดี เหมาะกับการพายระยะไกล
เคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างดีโดยไม่ต้องออกแรงมาก”
 
 
ข้อดีของบอร์ดทรง Touring
Tracking ได้ดี
ทำความเร็วได้ดี
สู้คลื่นได้ดี
ข้อด้อยของบอร์ดทรง 
วงเลี้ยวกว้าง
สำหรับมือใหม่อาจจะรู้สึกว่าทรงตัวได้ยากกว่าทรง All-Round
บอร์ดทรง Touring นั้นจะสามารถ Tracking ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ก็จะต้องแลกมากับความคล่องตัวที่ลดลง ทำให้คุณต้องออกแรงมากกว่าในการตีวงเลี้ยวบนบอร์ดทรง Touring ซึ่งก็เหมาะสมสำหรับการพายระยะไกลที่คุณไม่จำเป็นต้องเลี้ยวเยอะๆ แต่ต้องการที่จะถึงจุดหมายปลายทางอย่างรวดเร็ว
ทรง Racing
บอร์ดยืนพายทรง Racing นั้นโดยทั่วๆ ไปจะมีลักษณะภายนอกคล้ายๆ กับบอร์ดทรง Touring คือบริเวณส่วนหัวจะเรียวแหลม แต่จะมีความต่างตรงที่ บอร์ดทรง Racing มีความยาวที่ยาวเป็นพิเศษและความกว้างที่น้อยกว่าทุกๆทรง ซึ่งเป็นการออกแบบมาให้บอร์ดสามารถลดแรงต้านของน้ำและสร้าง tracking ได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด
จึงส่งผลให้บอร์ดทรง Racing เคลื่อนที่ได้เร็วเหนือกว่าบอร์ดทุกๆ ทรง แต่บอร์ดทรง Racing นั้นจะทรงตัวได้ยากกว่าบอร์ดทรงอื่นๆ เนื่องจากความแคบของบอร์ด ผู้เล่นที่เลือกใช้งานอาจจะต้องใช้เวลาเพื่อฝึกฝนการบาลานซ์การทรงตัวบนบอร์ด รวมทั้งเพราะความยาวของบอร์ดที่มีมากเป็นพิเศษนั้นส่งผลให้วงเลี้ยวของบอร์ดจะค่อนข้างกว้างมากซึ่งเป็นส่วนที่ต้องแลกมากับการเป็นบอร์ดที่สามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว
 
 
“บอร์ดทรง Racing จะมีความยาวและความแคบมากเป็นพิเศษ
ออกแบบมาให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ บอร์ดที่มีคุณภาพด้านความเร็ว ออกแบบมาให้ลดแรงต้านของน้ำ เคลื่อนที่ได้เร็วเหนือกว่าทุกๆ ทรง”
 
 
ข้อดีของบอร์ดทรง Racing
Tracking ได้อย่างยอดเยี่ยม
ทำความเร็วได้ดีที่สุด
ลดแรงต้านของน้ำได้ยอดเยี่ยม
ข้อเสียของบอร์ดทรง Racing 
ทรงตัวได้ยากกว่าทรงอื่นๆ
วงเลี้ยวกว้างที่สุด
บอร์ดทรง Racing นั้นเป็นบอร์ดที่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่หลงไหลในความเร็ว ชอบความหวือหวา ชอบความท้าทาย สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัว บอร์ดทรงนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์ของท่าน แต่ถ้าเป็นเรื่องความเร็ว การสู้คลื่น การทะยานตัดผ่านน้ำรับรองว่าบอร์ดทรง Racing
ไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน

2. การมี Stiffness ของบอร์ด
Stiffness คือค่าที่จะบอกความแข็งของบอร์ด บอร์ดที่มี Stiffness ที่ดีจะไม่เกิดการแอ่นตัวเมื่อเราขึ้นไปยืนอยู่บนบอร์ด ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยให้บอร์ดไม่เกิดการต้านน้ำที่มากเกิน ผู้ใช้งานจึงไม่ต้องออกแรงในการพายมากเกินไป สามารถพายได้อย่างสนุกและไม่เปลืองแรง
ส่วนบอร์ดที่มีค่า Stiffness ที่ไม่ดีนั้นเมื่อเราลองขึ้นไปยืนอยู่บนบอร์ดแล้วจะพบว่าบอร์ดมักจะเกิดการแอ่นตัวซึ่งมันจะส่งผลต่อการทรงตัวและการควบคุมบอร์ด เพราะบอร์ดที่เกิดการแอ่นตัวนั้นจะเกิดการต้านน้ำมากกว่าปกติทำให้ความเร็วในการพายลดลง
“แล้วบอร์ดยืนพายแบบไหนถึงจะมี Stiffness ที่ดี”
 
 
โดยบอร์ดยืนพายแบบสูบลมที่มีจำหน่ายอยู่ในตลาดทุกวันนี้จะมีอยู่ 2 แบบโดยจะเป็นบอร์ดสูบลมแบบ 1 ห้องลมและแบบ 2 ห้องลม
บอร์ดยืนพายแบบ 1 ห้องลมนั้นจะเป็นบอร์ดยืนพายแบบสูบลมที่มีน้ำหนักเบากว่าเล็กน้อยและราคาที่ไม่แพงมาก แต่บอร์ดก็จะมี Stiffness ที่ไม่สูงมากนัก

บอร์ดยืนพายแบบ 2 ห้องลมนั้นเป็นบอร์ดยืนพายที่มี Stiffness มากกว่าแบบ 1 ห้องลมด้วยการเป็นบอร์ดแบบ 2 ห้องลม จึงทำให้เกิดโครงสร้างพิเศษภายในที่เรียกว่า I-beam Core Technology ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหมือนคานสำหรับการรับน้ำหนัก เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้บอร์ดจึงมีค่า Stiffness ที่สูงกว่าบอร์ดแบบ 1 ห้องลม
สำหรับบอร์ดยืนพายที่เป็นบอร์ดแข็งนั้นโดยปกติจะมี Stiffness ที่ค่อนข้างดีอยู่แล้ว เป็นประเภทของบอร์ดยืนพายที่มีประสิทธิภาพที่สุด แต่ก็เป็นบอร์ดที่มีความยากในการพกพาและการเก็บรักษา และมีข้อจำกัดค่อนข้างมาก ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ใช้แล้วว่า คุณต้องการได้บอร์ดที่มีคุณภาพแบบไหนและคุณมีความสะดวกในการขนย้ายบอร์ดยืนพายได้ที่ประมาณไหน
 
 
สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องพิจารณาก็คือน้ำหนักและขนาดของบอร์ดยืนพาย
SUP หรือบอร์ดยืนพายที่คุณเลือกจะต้องมี “น้ำหนักและขนาดของบอร์ดให้เหมาะสมกับน้ำหนักของผู้ใช้งาน” ถ้าบอร์ดมีขนาดที่ไม่พอดี จะทำให้คุณควบคุมความเร็วและตี้วงเลี้ยวของบอร์ดได้ไม่เต็มที่และอาจจะทำให้คุณยืนทรงตัวบนบอร์ดได้อย่างไม่ดีเท่าที่ควร
3. น้ำหนักและขนาดของบอร์ดยืนพาย
น้ำหนักของ SUP จะขึ้นอยู่กับเกรดของวัสดุและเทคโนโลยีการผลิต บอร์ดยืนพายแต่ละอันสามารถรับน้ำหนักได้แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนเลือกบอร์ดยืนพายที่จะนำมาใช้งานให้คุณลองคำนวนจากน้ำหนักผู้ใช้รวมกับสิ่งของอุปกรณ์สัมภาระต่างๆ ที่จะพกไปเป็นน้ำหนักรวมทั้งหมด แล้วจึงตัดสินใจเลือกบอร์ด
ขนาดของบอร์ดยืนพายจะประกอบไปด้วย ความกว้าง ความยาว ความสูง และความหนาของบอร์ด
ความยาวของบอร์ดยืนพาย
ความยาวของบอร์ดก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ บอร์ดที่ยาวกว่าจะสามารถ Tracking ได้ดีกว่าแต่ก็จะมีข้อด้อยตรงที่บอร์ดที่ค่อนข้างยาวก็จะมีวงเลี้ยวที่กว้างกว่าบอร์ดสั้น แต่บอร์ดที่สั้นก็จะมีความคล่องตัวในการใช้งานที่มากกว่า ซึ่งผู้ใช้ก็ต้องเป็นคนตัดสินใจว่าบอร์ดสั้นหรือบอร์ดยาวที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณ
“บอร์ดที่ยาวกว่าจะสามารถ Tracking ได้ดี
แต่บอร์ดสั้นจะมีความคล่องตัวกว่า”
 
 
เมื่อคุณดูความยาวของบอร์ดคุณจะเห็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกันระหว่างความยาวกับการรับน้ำหนัก บอร์ดที่ยาวกว่าจะสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่า ทำให้คุณสามารถวางสัมภาระได้ครบทั้งถัง Cooler กระเป๋าเดินทางและเต้นท์สำหรับนอนพัก
ความกว้างของบอร์ดยืนพาย
โดยทั่วไปความกว้างของบอร์ดยืนพายจะอยู่ที่ 25-36 นิ้ว บอร์ดที่กว้างจะช่วยให้คุณสามารถทรงตัวบนบอร์ดได้ง่าย ยืนได้โดยไม่รู้สึกโยกไปโยกมา แต่ถ้าคุณเป็นคนตัวเล็กก็ไม่จำเป็นต้องเลือกบอร์ดที่กว้างเกินเพราะคนตัวเล็กจะสามารถทรงตัวและควบคุมบาลานซ์ของตัวเองได้ดีบนบอร์ดที่ไม่กว้างมาก
ส่วนคนที่ตัวใหญ่ขึ้นมาก็อาจจะเกร็งและคุมบาลานซ์ได้ยากหากใช้บอร์ดที่แคบเกินและนอกจากนั้นความกว้างของบอร์ดยืนพายยังสามารถส่งผลต่อความเร็วในการเคลื่อนที่ เพราะบอร์ดยืนพายที่มีความแคบนั้นจะสามารถแหวกน้ำได้ดีกว่า
 
แก้ไขข้อความเมื่อ

สินค้าอื่นๆ ของ สมาชิกหมายเลข 5270299

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  กีฬา ท่องเที่ยว Outdoor Gadget
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่