โรคซึมเศร้า

จงเปิดใจให้กับผู้ป่วยจิตเวช บทเรียนวิชาใหม่ที่บางคนไม่อาจเจอกับตัวเอง(อยากให้อ่านให้จบนะคับ) Sever depressive episode without psychotic symptoms ใช่ครับผมคือผู้ป่วยจิตเวชคนหนึ่ง ผมป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เมื่อไม่นานมานี้ สำหรับบทเรียนนี้ของ นายภูรินทร์ เริ่มมีอาการเบื่ออาหาร จนผมทานข้าวเพียงวันละ1 มื้อเท่านั้นเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ เบื่อผู้คนเบื่อเพื่อนๆรวมไปถึงสถานที่ที่มีผู้คนมากๆ มันทำให้ผมรู้สึกว่าเราหายใจไม่ออก เราอึดอัด เรามืด เหมือนเรากำลังจะตาย เราต้องการจะออกจากพื้นที่บริเวณนั้นให้เร็วที่สุด รวมไปถึงสิ่งเร้าสำคัญนั่นก็คือ เสียง ปกติเเล้วผมเป็นคนชอบความสนุกชอบเสียงหัวเราะ และปกติในเวลาที่ผมนั่งทำงานหรือการบ้านผมก็จะเปิดเพลงไปด้วย เเต่กลับกันในตอนนี้ผมฟังเพลงไม่ได้ อยู่กับผู้คนที่พูดเสียงดังไม่ได้ มันทำให้เราเกิดอาการหงดหงิดปวดหัว คำพูดบางคำที่คนอื่นพูดเราก็จะเก็บเอามาคิดว่ามันเป็นเรื่องของเราไปหมด เราจำแคร์ความรู้สึกของทุกคนไปหมด เราจะรู้สึกผิดและอยากขอโทษตลอดเวลา ตื่นตระหนกไปเองทุกเรื่องเหมือนกำลังจะตายตลอดเวลา ผมมีนิสัยที่ขี้เกียจเกิดขึ้นมาซึ่งเรารู้ตัวเองว่าพฤติกรรมของเราเปลี่ยนไปจากเดิม จากคนที่ต้องพับผ้าปูที่นอนทุกเช้า ก็ไม่ทำ ซักผ้าตากผ้า เราก็ไม่ทำ เรารู้สึกเหนื่อยเบื่อและล้าไปหมด มีอาการปวดเมื่อยตามตัวบริเวณช่วงบนบ่อยมาก ผมไปนวดบ่อยมาก อันนี้คือสิ่งที่ไม่ดีเลยนะครับ เส้นมันจะอักเสบได้ไม่แนะนำนะครับ และนิสัยที่ไม่ดีก็เกิดขึ้นคือพฤติกรรมที่ใช้ความรุนแรงโดยการขว้างสิ่งของที่อยู่รอบตัว ตอนนี้ที่บ้านไม่มีแก้วให้ใช้แล้ว และในบางเวลาเราก็เหม่อลอยเดินออกไปกลางถนน หรือไม่ก็อยากจะกระโดดจากชั้น 2 ของบ้านลงมา แต่ผมไม่รู้สึกตัวนะครับ ผมจะไม่โอเคกับคำถามคำสั่งที่ว่า กินข้าวแล้วยัง? อาบน้ำแล้วยัง? เรารู้สึกว่าถึงเวลาเราจะทำเองไม่ต้องถามหรือสั่งเรา ผมเข้าใจว่าเขาเป็นห่วงแต่เหมือนมันเป้นคำพูดที่ไม่โอเคกับผม ขอบคุณทุกคนนะครับที่ให้กำลังใจกำลังใจผม แต่คำว่า "สู้ๆ" "เป็นกำลังใจให้นะ"  คำบางคำฟังแล้วมีกำลังใจได้ความรู้สึกที่ดี แต่คำอีกหลายๆคำก็สามารถทิ่มแทงจิตใจให้ผมน้ำตาตกได้ และผมก็ได้เดินทางไปโรงพยาบาลจิตเวชสงขลาราชนครินทร์ จิตแพทย์คนแรกที่เจอก็คือ พ.ญ.คัคนางค์ หมอนางค์บอกว่าผมเป็น MDD c Panic attack c agoraphobia หมอแนะนำให้ผมนอนโรงพยาบาลอีกสักครั้งเพราะหมอต้องการรักษาผมด้วยการกระแสสไฟฟ้า ECT แต่ผมปฏิเสธไป และหมอนางค์ก็ refer ผมไปเจอกับ น.พ.ชูเกียรติ จิตเเพทย์เด็กและวัยรุ่น ผมรู้สึกว่าเป็นแผนกที่ตอบโจทย์และตรงกับผมมากกว่า พี่หมอใช้เวลาในการพูกคุยและตรวจผมประมาณ 20 นาที แล้วจึงให้ผมไปเจอกับนักจิตวิทยาคนเดิมก็คือ พี่โก้ เข้ามาหาผมเเละเราก็เริ่มพูดคุยและทำแบบทดสอบกัน จนผลออกมาว่าผมเป็น Sever depressive episode without psychotic symptoms และพี่โก้จึงนัดทำMindfulness base treatment MBTCS.1เพื่อบำบัดจิตใหม่ให้กลับมาเป็นปกติให้ได้มากที่ได้ ผมต้องเข้าบำบัดทั้งหมด 1 คอร์ส และกับไปเจอกับ น.พ.ชูเกียรติ เพื่อฟังผลและสั่งยา ครั้งนี้หมออยากให้ผมใช้ยาที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม แรงกว่า ดีกว่า แต่เป็นยาที่ต้องจ่ายเงินเอง และผมก็ยามที่จะจ่ายเงินเพื่อได้สิ่งที่ดีให้กับตัวเอง ตอนนี้ผมทานยาอยู่ 4 ตัว คือ Valosine 75 mg Clonazepam 2 mg Sertralinev 50 mg Risperidone 1 mg ยารอบนี้ผมยอมรับว่ามันดีจริง ผมรู้สึกโอเคกับตัวเองขึ้นเยอะมาก แต่ข้อเสียงของมันก็มีอยู่นะครับ คือมันปวดหัวมากต้องนอนทันที หลับเร็วมาก ผมเป็นลมไป 2 ครั้ง แต่ตอนนี้ก็โอเคกับตัวยาแล้วรู้สึกโอเคมากกับตัวเองตอนนี้ คำแนะนำของพี่พยามบาลผมทำตามแล้วนะครับ ยิ้มสิครับ ลองตื่นมาแล้วยิ้มให้กับตัวเอง ดูตัวเองในกระจกบ้าง ผมว่ามันเป็นวิธีที่ดีนะครับ ยิ้ม หัวเราะ บ้างมันช่วยได้จริงนะครับ สุดท้ายผมก็ขอโทษร่างกายตัวเองที่ปล่อยให้จิตทำร้ายมาตั้งนาน วันนี้พอเราคิดได้มันทำให้เรารู้สึกว่าเราได้ก้าวออกมาเป็นผู้ใหญ่อีกก้าวนึงได้แล้ว
___________________________________________
น.พ.ชูเกียรติ ยงพิทยาพงศ์
พ.ญ.คัคนางค์ วานิชย์เจริญ
วท.ม. บัณฑิต  คงประสิทธิ์
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ยินดีด้วยค่ะ จขกท

ด้วยวันเวลาและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ จขกท เติบโตขึ้นได้ โดยมีสุขภาพจิตแข็งแรง ตั้งใจรักษาตัว ขอให้อาการดีขึ้นค่ะ มอบรัก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่