จะตัดสินใจอย่างไร เมื่อไม่แน่ใจกับความเป็นไปของสามี ขอให้คุณผู้ชายช่วยวิเคราะห์หน่อย

เป็นช่วงเวลาที่สับสนมากสำหรับเรา เรากับสามีคบกันและอยู่ด้วยกันมา 4 ปี มีลูกชาย 1 คน 2 ขวบครึ่ง เรา 38 เขา 31
ตลอดเวลาที่ผ่านมา อยู่ด้วยกัน ทำงานที่เดียวกัน ไปกลับที่ทำงานด้วยกันทุกวัน ไปทำงานต่างจังหวัดก็ไปด้วยกัน

          2 ปีแรกที่คบกัน เขาเงินเดือนน้อยกว่าเรา ต้องผ่อนของ ผ่อนมอเตอร์ไซค์ เงินเดือนไม่พอใช้ เหลือเดือนละ 1-2 พัน มีเรื่องต้องใช้เงิน ก็เป็นเราตลอด ที่ออกให้ จ่ายให้ ให้ยืมแต่ก็ไม่หวังได้คืน เพราะคิดว่ามาเป็นครอบครัวกันแล้ว เราเข้ามาอยู่บ้านเขา เงินเดือนเราก็ไม่ได้มากมายอะไร เราต้องผ่อนบ้าน จ่ายหนี้บัตรด้วย แต่ก็หมุนใช้ได้ เราสามารถจัดการหนี้ได้ ไปงานต่างจังหวัดเราก็ไม่เคยเอาเงินเขา จนเราท้องเขาถึงให้เราถือเงินนั้น แต่เงินเดือนของเขาก็ยังไม่พอใช้
         
          จนเวลาผ่านไป หนี้เขาหมด แต่หนี้เรายังไม่หมด เพราะเราต้องกดมาใช้เนื่องจากเงินเดือนเหลือไม่พอใช้ เงินเดือนเขาเหลือมากขึ้น ก็ให้เราถือและจัดการเงิน แต่ในใจของเขา เขาอยากจัดการเองมากกว่า เขาหาว่าเราเก็บเงินไม่อยู่ แต่เราก็บอกเขา เราอยากปิดหนี้บัตรให้หมด และที่เป็นหนี้ก็เอามากินมาใช้ เขาไม่พอใช้เราก็กด เขาอยากได้อะไร เราก็กดให้ ไหนจะซื้อของใช้เข้าบ้าน สบู่ แชมพู ยาสีฟัน ผงซักฟอก ฯ ของลูก นม แพมเพิร์ส เสื้อผ้าของเล่นลูก ขนมของกินลูก เสื้อผ้าของเรา อยากได้รองเท้าผ้าใบ เราก็ตังให้ ก็คือกดบัตร เขาอยากกินเหล้า เราก็ยอม ทั้งๆ ที่ตังก็ไม่ค่อยมี แต่ไม่อยากขัดใจ
สิ่งเดียวที่เราขอจากเขา คือ ไม่นอกใจ ทำอะไรให้บอก อย่าให้เรารู้สึกว่าเราถูกทิ้งให้เลี้ยงลูกอยู่คนเดียว คือแม่เขาช่วยเลี้ยงนะคะ แต่เราอยากให้เขาซึ่งเป็นพ่อ ให้เวลากับลูกมากกว่า งานบ้านอะไร เราก็ทำหมด ซักผ้าตากผ้า เก็บผ้า จักกระเป๋าให้เขาเวลาไปงานต่างจังหวัด ซื้อกับข้าว ทำกับข้าวให้เขากิน กับข้าวลูกด้วย เราพยายามจะไม่ให้แม่สามีเหนื่อย เพราะเขาก็แก่แล้ว อีกไม่กี่ปีก็ 70 และแม่สามีก็ต้องดูแลพ่อสามีที่ป่วยติดเตียงด้วย ทั้งเหนื่อย ทั้งเครียด
           
           เราตามเขาบ่อยๆ ใช่ค่ะ อยากให้อยู่กับลูก มาช่วยกันเลี้ยงลูกบ้าง ไม่ใช่ให้อยู่กับย่าและทีวีบ่อยๆ เราไม่อยากให้ลูกติดทีวี และอยากให้ช่วยดูลูกบ้างตอนที่เราทำงานบ้าน
          ใช่ค่ะ เราบ่นเขา เราตามเขาบ่อยๆ เราไม่ค่อยอยากให้เขาไปไหน เพราะอยากให้ใส่ใจลูกมากๆ เราเองก็เหนื่อย แม่สามีก็เหนื่อย มันมีสาเหตุค่ะ ที่เราตาม เราไม่ไว้ใจ ไม่เชื่อใจเขา 
           
          คบกันแรกๆ เขากินเหล้ากับเพื่อนบ่อยๆ ไปเที่ยวผับบาร์กับเพื่อนในช่วงที่เราท้อง ทิ้งเราให้อยู่คนเดียวเหงาๆ ส่วนเขาก็พูดให้เรารอเขาคอยเขา จนเราท้อง 6 เดือน จับได้ว่าเขาไปเที่ยวกับผู้หญิงคนอื่นซึ่งแก่กว่าเราหลายปี มีลูก และมีแฟนเป็นตัวเป็นตน ไปหาผู้หญิงคนนั้นถึงคอนโด และไม่ใช่แค่คนเดียว เขาคุยและไปหาผู้หญิงคนอื่นอีกซึ่งอยู่แถวๆ บ้านเขาทั้งนั้น มีคุยกับคนในทวีตเตอร์สายดาร์ก นัดไปมีอะไรกัน ตอนนั้นเราเสียใจมาก ไม่ได้โกรธเขาเลย ความรู้สึกตอนนั้น เราอยากออกไปให้พ้นๆ เราเชื่อว่า เวลาไม่นานจะทำให้เราดีขึ้น เพราะอีกไม่นานเราจะคลอดแล้ว เราจะยิ่ง เราจะไม่ช่องว่างมาสนใจเขา เขาจะไม่สำคัญกับเราอีก แต่เขาก็ร้องไห้กับเรา บอกว่ารักเรา ขอโทษ ขอโอกาส เราก็ให้ ทั้งๆ ที่ในใจก็คิดว่า ถ้ารักเรา ทำไมถึงทำกับเราแบบนี้ เขาบอกให้เราทำเพื่อลูก มาเริ่มต้นกันใหม่ เราก็ยอม เชื่อคำพูดของเขาว่าเขาจะทำให้เรากับลูกมีความสุข
           
          จนเวลาผ่านไป เราคลอด ก็ไม่มีอะไร ช่วงที่คลอดใหม่ๆ เขาก็ไม่ยอมเลิกไปกินเหล้ากับเพื่อน ทั้งที่ลูกเพิ่งคลอด และฮอร์โมนจากการตั้งครรภ์ทำให้เราแปรปรวน เราทะเลาะกันบ่อยมาก แต่ก็พยายามปรับกัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรกันเลย จนลูกได้ 6 เดือน เราไปงานต่างจังหวัดเอาลูกไปด้วย เรานึกสังหรณ์ใจในพฤติกรรมของเขา เราจับได้ เขาคุยกับคนอื่นอีกแล้ว เหมือนเดิม ไม่ใช่แค่คนเดียว เราเสียใจมาก ตอนนั้นเราตัดสินใจเด็ดขาด เราจะเลิก เราโทรไปบอกครอบครัวของเขาว่าเราจะเลิก เราจะย้ายออกจากบ้าน เราบอกหมดว่าเขาทำยังไงกับเราบ้าง แต่เขาก็ตามมา ขู่เราว่าถ้าเราเอาลูกไป เขาจะทำร้ายเรา เขาจะทำให้เราเสียใจ เราถามเขาว่า เธอไม่รักลูกเหรอ เธอถึงทำแบบนี้กับเรา ถ้าเราตาย เธอติดคุก ใครเลี้ยงลูก เธอไม่สงสารลูกเหรอ ถ้ารักลูกก็ปล่อยเรากับลูกไป เราจำเหตุการณ์วันนั้นได้ขึ้นใจเลย ทั้งภาพเหตุการณ์มันอยู่ในหัวเรามาตลอด เขาก็อ่อนลง ขอโทษเรา ขอเริ่มกันใหม่ เราถามเขาว่า แล้วเราจะมีความสุขเหรอ เราทนไม่ได้หรอก เธอนอกใจเรา เขาบอก เดี๋ยวเขาจะทำให้มีความสุขเอง อีกครั้งแล้ว ที่เราเชื่อคำพูดของเขา หวังว่าจะมีวันนั้นจริงๆ
         
           เราก็กลับมาเหมือนเดิม แต่ความเชื่อใจของเราหายไปหมดสิ้น เราไม่เชื่อใจอีก เราระแวงตลอดเวลา เขาจะทำอะไรที่ไหน กับใคร เขาจะแอบไปคุยกับใครอีกไหม ลับหลังเรา รู้สึกมาตลอด
           จนอีกครั้งหนึ่ง ตอนนั้นลูกเราไปอยู่กับพ่อแม่เราต่างจังหวัด เรากับเขาไปเที่ยวสงกรานต์กลับมา เขาเมาหลับไป เรานึกอะไรไม่รู้ส่องมือถือเขา เจออีกแล้ว คุยกับคนอื่นในเฟส คุยในทวิตเตอร์สายดาร์ก เราปลุกเขามาคุยกัน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราโกรธ เขาตื่นมาโมโหใส่เรา เขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้ง แตกหมด เราเห็นแบบนั้นแล้ว เราก็เลิกคุย ขับรถกลับบ้านตัวเอง เมาก็เมา แต่ก็ประคองตัวเองไปถึงบ้าน นอนร้องไห้ ตั้งใจแล้วว่าจะไม่กลับไปอีก แต่พอเช้ามา เขาก็แชทเฟสมาคุย มาเริ่มกันใหม่ เขาบอกเขาเหงา เขาคิดถึงลูกที่ลูกไปอยู่บ้านพ่อแม่เราต่างจังหวัด เขาเลยคุยกับคนอื่นแก้เหงา ขอให้เรากลับไป เขารักลูก คิดถึงลูก อยากอยู่กับลูก อีกครั้งแล้วที่เราใจอ่อน กลับไป เราก็ไปกดเงินสดมาซื้อเครื่องมือสองให้เขา ทั้งที่เพิ่งกดเงินไปเปลี่ยนหน้าจออันที่เขาเพิ่งปาแตกไป
           
            หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็ไม่มีเรื่องนอกใจอีก เขาให้เงินเดือนเราหมด เขาอยากไปเที่ยวกับเพื่อน เราก็ยอมไป ทั้งๆ ที่จริงๆ เราซีเรียสเรื่องเงิน เราอยากให้หนี้หมดไวๆ เราอยากเก็บเงินเอาไว้ให้ลูก เพราะลูกก็โตขึ้นเรื่อง เรามักทะเลาะกับเขาเวลาเขาจะซื้อของเล่นแพงๆ ให้ลูก เราบอกให้รอเวลาหน่อย ให้มีตังกว่านี้หน่อย เขาก็ทะเลาะกับเรา โกรธเรา เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนเขา เขาก็ไม่เคยสนใจเรา เวลาเอาลูกไปด้วย เขาก็ไม่ค่อยช่วยเรา จนเมียเพื่อนเขาที่ไปด้วย หรือ คนอื่นๆ ที่เห็นเขาทำกับเราแบบนี้ เขาถามว่า ดูเขาไม่สนใจใยดีเราเลย เขาไม่ช่วยเราดูลูกเลย ใช่เขาขับรถ แต่เวลากินข้าวก็ควรจะช่วยดูลูกหน่อย ผลัดกันกินข้าว เราก็รู้สึกนะ แต่ก็บอกไปนิสัยเขาเป็นแบบนั้น ไม่เอาใจใคร ทำงานบ้านอะไรไม่เป็น เวลาทะเลาะกันเขามักด่าพ่อแม่เรา เขาด่าว่าเกลียดพ่อแม่เรา โทรไปด่าเราให้แม่เราฟัง แม่เราได้แต่เก็บไว้ในใจ ยังไงก็พ่อของหลาน ที่จริงตอนไปแต่งงาน เขาไม่อยากไปด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่าเราท้อง และญาติพี่น้องของเขาจัดการอะไรเรียบร้อยแล้ว ตอนนั้นอยู่กับเราเขายังแอบคุยกับคนอื่นได้เลย นั่งข้างๆ นอนข้างๆ ก็ยังแอบคุยกับคนอื่น ละหันมาพูดดีกับเรา เขายังคงติดเพื่อน อยากไปกินเหล้ากับเพื่อน เราก็ให้ไป แต่ถึงเวลาตี 1 เราก็โทรตาม เพราะตอนกลางวันเราไม่อยากให้เขาเอาแต่นอน เราอยากให้เขาตื่นมาเล่นมาทำกิจกรรมกับลูกบ้าง บางครั้งเขาชวนไปเพราะอยากให้เชื่อใจเขา เราก็ไปบ้าง บางครั้งไปแล้วเราก็ขอกลับก่อน เราก็ไม่ได้จะอยู่กับเขาตลอดเวลา แต่เขาหาว่าเราตามเขามากเกินไป ไปทำงานก็ไปด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว ยังจะตามเขาอีก ที่จริงที่เราตาม เพราะเราอยากให้เขารู้เวลา รู้หน้าที่ อยากให้ลูกได้เห็นพ่อเป็นตัวอย่าง แต่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น
         
           ล่าสุดที่ทะเลาะกันครั้งนี้ รุนแรงมาก ช่วงก่อนปีใหม่ ที่ทำงานมีกินเลี้ยง เขาจับได้ซอง เราก็บอกว่าเอามาดูหน่อย ต่อหน้าคนเยอะๆ เขาก็บอกว่าไม่ให้ดู จะเก็บไปดูเอง เราก็น้อยใจและโกรธว่า ต่อหน้าคนมากมาย เขาไม่ให้เกียรติเรา เขาไม่เห็นเราเป็นเมีย เขาโกรธเดินเอาซองมาปาใส่หน้าเราต่อหน้าคนเยอะแยะ เราก็เสียใจ ใช่ตรงนี้เรายอมรับ เราเยอะ เราก็ขอโทษ แล้ววันนั้น เขาก็บอกเราว่าเย็นนี้ที่ส่วนของเขามีเลี้ยงที่ร้านข้างนอก เขาไม่ไปหรอก สักพักมาบอกเดี๋ยวไปดูสักหน่อย เราก็บอก อ้าว ไหนบอกไม่ไป เขาก็หงุดหงิด แต่ก็ยอมขับรถกลับบ้านกับเรา พอถึงบ้านเขาบอกเขาขอกลับไปได้มั้ย เราก็ถามจะไปทันเหรอ แล้วยังต้องขับมอเตอร์ไซค์กลับบ้านไกลๆ อีก เมาด้วย มันจะดีเหรอ เขาก็คงหงุดหงิด เปลี่ยนเป็นชวนเราไปหาซื้อเหล้ามากินที่บ้านแทน เราก็ไป และเอาผ้าไปซักด้วย พอไปซื้อเหล้ากลับมา เพื่อนเขาโทรมาบอกว่าวันนี้วันเกิดลูกเพื่อน ขอไปนะ เราก็ถามอีกว่า แล้วเหล้าที่ซื้อมาล่ะ แล้วพรุ่งนี้เราต้องไปทำงานแต่เช้า และเขาก็ต้องไปงานโรงเรียนลูกด้วยนะ เขาก็ทำหน้า เราก็เหวี่ยงเขาบอกว่าจะไปก็ไป อย่ากลับดึกละกัน 4 ทุ่มลูกต้องนอน แล้วเขาก็ไม่ได้ออกไป นั่งจมอยู่กับโทรศัพท์ แล้วเราก็ปิดไฟเอาลูกนอน สรุปเขาก็ไม่ได้กินเหล้า เรายอมรับ เราเหวี่ยง เราคงเยอะเกินไป

          พอวันถัดมาเรามาทำงาน เขาไปงานโรงเรียนลูก เขาโทรมาขอคุยกับเรา ขอแยกกันอยู่ เขาอยากมีชีวิตอิสระ อยากไปไหนมาไหน โดยที่เราไม่ต้องตาม ไม่ต้องมีเราในชีวิต อยากใช้เงินเดือนของตัวเอง อยากบริหารเงินเอง โทรไปบอกแม่เราเรียบร้อยแล้วถึงโทรหาเรา เราโกรธ เสียใจ ทนไม่ไหว เขาบอกว่าให้เราอยู่บ้านเขาจนกว่าพ่อแม่เราจะมารับลูกเราไปอยู่ต่างจังหวัด และเขามีรถคันใหม่ก่อน เขาบอกเขาจะยึดรถเราไว้ เพราะเขาขายมอเตอร์ไซค์มาให้เราปิดหนี้บัตร หนี้ที่เรากดมากินมาใช้กับเขาเพราะเขาเงินเดือนไม่พอใช้ แต่เราทนไม่ไหวหรอก เราไม่สามารถมองหน้าหรือคุยกับเขาต่อไปได้ คืนนั้น เราอุ้มลูกออกจากบ้านนั่งแท็กซี่ไปนอนบ้านตัวเอง กล่อมลูกหลับแล้ว นอนคิดทั้งคืน พรุ่งนี้เราจะทำยังไงต่อไป จะเดินทางยังไง ไม่มีรถ บ้านเราอยู่ไกลมาก อยู่ปริมณฑล เราวางแผนการเงิน เงินเดือนเราออกแล้วจะต้องใช้เงินยังไง ในใจก็ยังคิดถึงเขา เขาไม่มีเงินสักบาท เพราะทุกวันนี้ใช้เงินเดือนเราหมด พอเงินเดือนออกเราก็ใช้เงินเดือนเขาต่อ เราแบ่งเงินเดือนให้เขาพันนึง เพราะคิดว่าเขาคงจะอยู่ได้ถึงวันที่เงินเดือนเขาออก
         
          ตอนเช้าเราพาลูกไปจ่ายค่าน้ำประปาของบ้านหลังนี้ โดนตัดมิเตอร์เพราะเราลืมไปจ่าย 2 งวด เขาก็ไลน์มาบอกว่า กลับมาได้ไหม เขาอยากอยู่กับลูก กลับมาเริ่มกันใหม่ เราบอกเขาว่า เราเจ็บนะ จะให้เราไปๆ มาแบบนี้ ไม่สนุกนะ ถ้าเราไปแล้ว เดี๋ยวเธอก็ไล่เราอีก เขาบอกมาเถอะ เขาอยากอยู่กับลูกจริงๆ เราก็ถามก็ไหนเธอบอกทำใจได้ถ้าลูกไปอยู่กับพ่อแม่เรา เขาบอกลองมองหน้าลูกแล้วถามลูกว่าไปหาพ่อมั้ยสิ แล้วก็บอกให้รีบๆ กลับไป
เราก็ใจอ่อนอีกครั้ง แต่ก็คิดแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม มันก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆ พอกลับมา เขาก็ไม่ค่อยคุย ไม่ค่อยมาอยู่กับเรา ไม่แตะต้องเรา เรารู้สึกได้ จนวันที่เขาทักมาถามว่า ไปเที่ยวเชียงใหม่เดือน พ.ค. กับเพื่อนของเรา (เขาคุยกับเพื่อนว่าจะบินไปแล้วให้เรายืมรถพี่ชายมาใช้ที่เชียงใหม่) ทั้งๆ ที่เราคุยกับเพื่อนของเขาแล้วว่า มันอีกนาน เราก็ไม่รู้ว่าจะมีงานอะไรไหมช่วงนั้น มันไกลไป อีกอย่างเราก็ซีเรียสเรื่องค่าเครื่องบิน 3 คนพ่อแม่ลูก 3 ที่นั่ง ก็เป็นหมื่นแล้ว มันมากไป แล้วจะให้เราไปขอยืมรถของพี่เราซึ่งเป็นรถบริษัท เราก็เกรงใจ เขาเอาไว้ทำงาน เอาไว้รับรองแขก ถึงพี่จะบอกว่าให้น้องยืมได้ แต่เราก็เกรงใจ เขาโกรธเราที่เราไม่ยอมยืมรถให้เขา หาว่าเราไม่ไว้หน้าเขา ถ้าอย่างนั้นเราก็ไม่ต้องไป เขาอาจจะไปคนเดียว เราก็บอก แล้วแต่ ตามใจเขา เพราะเราเกรงใจพี่ชาย เขาก็บอกเขาจะรอให้เขามีรถก่อนแล้วค่อย.... เราก็เลยบอกว่าจะเอายังไงก็ให้มันชัดๆ ไปเลย เขากับเราแบบนี้ ไล่เราไปแล้ว เรียกเรากลับมาเพื่อจะมาตบหัวเราอย่างนั้นเหรอ มันเกินที่ผู้หญิงคนนึงจะรับไหว เราไม่ไหวแล้ว เราจะไปทันที เราเสียใจ เราเจ็บมาก เจ็บซ้ำๆ เขาก็ยังยืนยันจะยึดรถเราไว้ เขาไม่มีรถใช้/  ต่อใน คห. ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่