

อ่านเพลินเลย หยิบเอาบางส่วนจากบทสัมภาษณ์มาให้อ่านกัน
.
.
.
Q:: อีกไม่กี่ตอนผู้ชมจะได้เห็นบทสรุปของเรื่องราวในซีรีส์“ONE YEAR 365 บ้านฉันบ้านเธอ”
กันแล้วพวกเราอยากให้ทุกคนใส่ใจอะไรเป็นพิเศษหรืออยากฝากอะไรกับคนที่กำลังลุ้นกับซีรีส์เรื่องนี้กันอยู่ไหม?
จูเน่: ช่วงหลังๆของ“ตะวัน” จะมีพาร์ตความรักเข้ามาเยอะขึ้นเหมือนตะวันก็ลั้นลาเหลือเกิน
ในขณะที่คนก็เอาใจช่วย“พี่เพชร” ว่าจะอะไรยังไง
เฌอปราง: ก็คือบทเรียนของ“พี่เพชร” นั่นแหละเรื่องการสื่อสารการไม่พูดกันซึ่งมันอาจจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นนั้นอยากให้รอติดตามชมในตอนต่อไปค่ะ
ปัญ: เอาจริงๆซีรีส์เรื่องนี้มันสอนอะไรหลายอย่างเลย เมื่อก่อนหนูเป็นคนที่รู้สึกว่าเราจะชอบคิดแทนคนอื่นแบบเขาอาจจะรู้สึกอย่างนี้อยู่ถ้าเราทำอย่างนี้เขาจะรู้สึกอย่างนี้คิดว่าสิ่งนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับเขา
อย่างในซีรีส์เรื่องนี้"พี่เพชร" ก็จะคิดว่าการที่เขาเป็นคนเดินออกมาแล้วให้ตะวันได้รักกับบูมคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ"ตะวัน" กับ"บูม"
เพราะว่า"ตะวัน" ก็รักเขาและ"พี่เพชร" ก็รัก"ตะวัน" แต่"พี่เพชร" หารู้ไม่ว่าถ้าตะวันรู้ทีหลังว่า"พี่เพชร" ทำแบบนั้นเขาจะยิ่งเสียใจ
มันเลยทำให้หนูรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าอย่าไปคิดแทนคนอื่นว่าอะไรจะดีที่สุดสำหรับเขาให้เขาเลือกเองเราก็ทำสิ่งที่ใจเราเรียกร้องแล้ว
สุดท้ายมันจะนำพาเราไปในสิ่งที่ถูกต้องเอง
ถ้าเราไปเก็บไว้กับตัวเองมันจะทุกข์ทั้งเขาและเราสิ่งนี้คือสิ่งที่หนูได้จากการที่หนูดูซีรีส์ตอนเล่นไม่รู้สึกแบบนี้นะแต่พอมานั่งดูแล้วก็เลยรู้ว่ามีจุดนี้ด้วย
ฟอนด์: อยากให้ทุกคนได้ดูกันค่ะว่าตอนจบจะเป็นอย่างไรอาจจะหักมุมก็ได้นะพ่อหนูอาจจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?
เฌอปราง: ในเรื่องมันก็จะมีการตัดสินใจที่ไม่ปรึกษากันอยู่เยอะมันจะสะท้อนให้เห็นว่าเราควรคุยกันให้มากกว่านี้เยอะมากๆๆ
พี่แหม่ม: ใช่ๆพี่ว่ามันจะเป็นบทเรียนที่ดีนะคะมันจะเป็นบทเรียนที่ดีกับความสัมพันธ์และสถาบันครอบครัวของแต่ละบ้าน
พี่ว่ามันจะช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้
จูเน่:หนูบังคับให้ทุกคนดูส่งให้พ่อแม่ดูด้วย
ปัญ: แต่หนูไม่กล้าดูพร้อมเขาอะเขิน
จูเน่: หนูดูพร้อมพ่อในซีนกับบูมอะพ่อก็แซวเอาดอกไม้มาให้ด้วย
เฌอปราง:เรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายด้วยทุกคนมีแต่ความหวังดีให้กันเป็นความหวังดีระหว่างกันค่ะ
พี่แหม่ม:เชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกอยากเอาใจช่วยทุกตัวละครเลยค่ะ
...................

.
.
.
อ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆได้ที่
https://today.line.me/TH/article/XJ5vWX?utm_source=ttshare
# บทสัมภาษณ์ แม่มุกและลูกๆในซีรี่ส์ One Year จาก Line Today
อ่านเพลินเลย หยิบเอาบางส่วนจากบทสัมภาษณ์มาให้อ่านกัน
.
.
.
ในขณะที่คนก็เอาใจช่วย“พี่เพชร” ว่าจะอะไรยังไง
เฌอปราง: ก็คือบทเรียนของ“พี่เพชร” นั่นแหละเรื่องการสื่อสารการไม่พูดกันซึ่งมันอาจจะมีผลกระทบอะไรเกิดขึ้นนั้นอยากให้รอติดตามชมในตอนต่อไปค่ะ
ปัญ: เอาจริงๆซีรีส์เรื่องนี้มันสอนอะไรหลายอย่างเลย เมื่อก่อนหนูเป็นคนที่รู้สึกว่าเราจะชอบคิดแทนคนอื่นแบบเขาอาจจะรู้สึกอย่างนี้อยู่ถ้าเราทำอย่างนี้เขาจะรู้สึกอย่างนี้คิดว่าสิ่งนี้น่าจะดีที่สุดสำหรับเขา
อย่างในซีรีส์เรื่องนี้"พี่เพชร" ก็จะคิดว่าการที่เขาเป็นคนเดินออกมาแล้วให้ตะวันได้รักกับบูมคือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับ"ตะวัน" กับ"บูม"
เพราะว่า"ตะวัน" ก็รักเขาและ"พี่เพชร" ก็รัก"ตะวัน" แต่"พี่เพชร" หารู้ไม่ว่าถ้าตะวันรู้ทีหลังว่า"พี่เพชร" ทำแบบนั้นเขาจะยิ่งเสียใจ
มันเลยทำให้หนูรู้สึกว่าซีรีส์เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่าอย่าไปคิดแทนคนอื่นว่าอะไรจะดีที่สุดสำหรับเขาให้เขาเลือกเองเราก็ทำสิ่งที่ใจเราเรียกร้องแล้ว
สุดท้ายมันจะนำพาเราไปในสิ่งที่ถูกต้องเอง
ถ้าเราไปเก็บไว้กับตัวเองมันจะทุกข์ทั้งเขาและเราสิ่งนี้คือสิ่งที่หนูได้จากการที่หนูดูซีรีส์ตอนเล่นไม่รู้สึกแบบนี้นะแต่พอมานั่งดูแล้วก็เลยรู้ว่ามีจุดนี้ด้วย
ฟอนด์: อยากให้ทุกคนได้ดูกันค่ะว่าตอนจบจะเป็นอย่างไรอาจจะหักมุมก็ได้นะพ่อหนูอาจจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ?
เฌอปราง: ในเรื่องมันก็จะมีการตัดสินใจที่ไม่ปรึกษากันอยู่เยอะมันจะสะท้อนให้เห็นว่าเราควรคุยกันให้มากกว่านี้เยอะมากๆๆ
พี่แหม่ม: ใช่ๆพี่ว่ามันจะเป็นบทเรียนที่ดีนะคะมันจะเป็นบทเรียนที่ดีกับความสัมพันธ์และสถาบันครอบครัวของแต่ละบ้าน
พี่ว่ามันจะช่วยพัฒนาให้ดีขึ้นถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้
จูเน่:หนูบังคับให้ทุกคนดูส่งให้พ่อแม่ดูด้วย
ปัญ: แต่หนูไม่กล้าดูพร้อมเขาอะเขิน
จูเน่: หนูดูพร้อมพ่อในซีนกับบูมอะพ่อก็แซวเอาดอกไม้มาให้ด้วย
เฌอปราง:เรื่องนี้ไม่มีตัวร้ายด้วยทุกคนมีแต่ความหวังดีให้กันเป็นความหวังดีระหว่างกันค่ะ
พี่แหม่ม:เชื่อว่าทุกคนจะรู้สึกอยากเอาใจช่วยทุกตัวละครเลยค่ะ
...................
.
.
.
อ่านบทสัมภาษณ์แบบเต็มๆได้ที่ https://today.line.me/TH/article/XJ5vWX?utm_source=ttshare