ถอดรหัส หัวใจของสาวๆ One Year พร้อมเปิดตัว “สายซับ” ตัวจริงจาก Ok! Magazine Thailand

miniheartminiheartminiheart

# ถอดรหัสหัวใจของสาวๆ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ พร้อมเปิดตัว “สายซับ” ตัวจริง



  โดนตกทันทีที่สไลด์หน้าจอมือถือและคลิกเข้าไปดูไฮไลท์ของซีรีส์เรื่อง One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ 
และเป็นที่มาของการดูย้อนหลังพร้อมติดตามตอนต่อๆ ไป พร้อมลุ้นให้ความสัมพันธ์ทุกมิติของตัวละครผ่านไปด้วยดี
 ตอนนี้ซีรีส์เรื่องดังได้ฉายครบทุกตอนแล้ว สามารถดูย้อนหลังได้แบบรวดเดียวได้ทาง Line TV ซึ่งมียอดเข้าชมในแต่ละตอนอย่างน่าชื่นใจ 

อาจเป็นเพราะกว่าจะมาเป็นซีรีส์เรื่องนี้ได้ทีมงานทุกคนต้องทำการบ้านอย่างหนักโดยใช้เวลาทำงานประมาณ 2 ปี 

อีกทั้งยังได้พลังความสดใสของสาวๆ ทั้ง 8 คน จากวงเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BNK48 นำทีมโดย เฌอปราง อารีย์กุล, ปัญ-ปัญสิกรณ์ ติยะกร, จูเน่-เพลินพิชญา โกมลารชุน, วี-วีรยา จาง, มิวนิค-นันท์นภัส เลิศนามเชิดสกุล, ฟ้อนด์-ณัฐทิชา จันทรวารีเลขา, น้ำใส-พิชญาภา นาถา, เจน-กุลจิราณัฐ อินทรศิลป์ ที่เคมีเข้ากันจนคนดูอินจัดคิดว่าเป็นพี่น้องกันจริงๆ เมื่อผสมเข้ากับการแสดงของนักแสดงเบอร์ใหญ่อย่างแหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช, ดู๋-สัญญา คุณากร และขวัญใจวันรุ่ยที่อายุไล่เลี่ยกันอย่าง เก้า-จิรายุ ละอองมณี และไอซ์ซึ-ณัฐรัตน์ นพรัตยาภรณ์ ก็ยิ่งทำให้ทั้งเรื่องดูกลมกล่อม น่ารักและอบอุ่นสไตล์หนังครอบครัวที่มีทั้งความโรแมนติกและดราม่า

OK! มีโอกาสพูดคุยกับแคลร์-จิรัศยา วงษ์สุทิน ผู้กำกับสาวไฟแรงของเรื่องที่รั้งตำแหน่งหัวหน้าทีมเขียนบทของเรื่องไว้ด้วย เธอคนนี้อาจจะเป็นผู้กำกับหน้าใหม่ในวงการซีรีส์แต่ถ้าในวงการหนังสั้น แคลร์ได้รับการรันตีฝีมือจากรางวัลทั้งในไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้เรายังไปพูดคุยกับสาวๆ BNK48 ทั้ง 8 คน ถึงประสบการณ์ดีๆ ที่ได้รับจากผลงานชิ้นนี้ รวมไปถึงสเปกของหนุ่มๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตเธออีกด้วย



:: ถามถึงทีมาที่ไปของ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอหน่อยว่าทำไมถึงเลือกหยิบประเด็นเรื่องครอบครัวมาเล่า?

แคลร์: ตอนแรกที่ได้โจทย์ว่าต้องทำซีรีส์ที่มีน้องๆ BNK48 ก็เครียดเหมือนกัน รู้สึกว่าซีรีส์วัยรุ่นมีเยอะมากแล้ว เลยมาคิดว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ซีรีส์มีภาพอย่างที่เคยเห็นมาก่อน แล้วก็ไม่อยากเล่าแค่เรื่องวัยรุ่นอย่างเดียวแต่อยากเล่าถึงคนหลายๆ วัย เลยนึกถึงคำว่าครอบครัวขึ้นมาว่า แล้วน้องๆ เองก็มีหลายวัย ถ้านำมาเล่นเป็นพี่น้องกัน ก็น่าจะได้อะไรหลากหลายมากขึ้น พลอตในเรื่องนี้จะเป็นแบบ ซิงเกิลมัมกับซิงเกิลแด๊ดที่ต่างฝ่ายต่างก็มีลูกติดมารักกัน แล้วพอมาอยู่บ้านเดียวกัน หนุ่มสาวอยู่ใกล้ชิดกันก็เกิดอาการปิ๊งปั๊ง รู้สึกว่าน่าสนใจ เหมือนเป็นคอนฟลิกต์ในจิตใจของทุกคนในครอบครัว ที่จะมีความกระอักกระอ่วน 

เพราะความรักครั้งนี้ดูผิดๆ ไม่เหมาะไม่ควร ซึ่งแคลร์ชอบความรู้สึกแบบนี้ของมนุษย์ที่มีความหม่นๆ นิดนึง ก็เลยหยิบคำว่าบ้าน ครอบครัวที่เป็นผู้หญิงทั้งหมด มาบวกกับพล็อตนี้ พอบวกกันก็เลยกลายเป็นมีสองบ้าน อย่างบ้านฉัน แคลร์อยากได้บ้านหญิงล้วนอยู่แล้ว เป็นซิงเกิลมัมที่มีลูกสาว 5 คน รู้สึกว่าน่าสนใจดี เขาเลี้ยงกันมาอย่างไร โตมาอย่างไรในบ้านที่มีแต่ผู้หญิงเป็นอย่างไร ส่วนอีกบ้าน คิดว่าถ้ามีแต่ผู้ชาย คงจะแปลกๆ ก็น่าจะมีพ่อ ลูกชาย ลูกสาว อะไรแบบนี้



:: ด้วยสมการความรักที่ออกจะบิดๆ เบี้ยวๆ ในบ้านหลังนี้ แล้ววันหนึ่ง 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ จะกลายเป็นบ้านเราได้อย่างไร?

แคลร์: ถ้าตอบก็สปอยล์นะคะ อยากให้ดูกันก่อน (หัวเราะ) แต่ในความเป็นจริง เรื่องแบบนี้ก็มีอยู่ คิดว่าต้องอาศัยความเข้าใจ
 คือลูกต้องมองในฐานะแม่ แม่ต้องมองในฐานะลูกด้วย ไม่ใช่ต่างคนต่างมองในฐานะตัวเองอย่างเดียว 
นี่เป็นเบสิกในการใช้ชีวิตเลย คือ เราต้องมองมุมของอีกคนหนึ่งบ้าง เพราะถ้ามองในมุมอย่างนี้ เราจะไม่ทำร้ายกัน เข้าใจกัน แล้วจะไปกันได้ค่ะ



:: แล้วตัวละครในเรื่องเหมือนหรือต่างกับตัวจริงอย่างไรบ้าง?

เฌอปราง: ตัวละครเพชร มีส่วนที่ทั้งเหมือนและไม่เหมือนหนูค่ะ อย่างการตัดสินใจนี่ไม่เหมือนเลย (หัวเราะ) ด้วยความที่เพชรถูกบรีฟมาว่าเขาไม่เคยมีความรัก ไม่ได้ยุ่งกับคนอื่นข้างนอก ดูแลเรื่องในบ้านอย่างเดียว พอมาเจอก็คิดว่าจะทำยังไงดี ทำแบบนั้นได้ไหม แบบโน้นได้ไหม คนจะรู้ไหม แล้วมีคอนฟลิกต์เรื่องพ่อแม่อีก การตัดสินใจของเพชรก็จะคิดเผื่อคนอื่นมากกว่าตัวเอง แต่ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับเฌอ ก็จะตัดสินใจคนละแนวค่ะ คือถ้าชอบใครสักคนก็คงคุยตั้งแต่แรกๆ แล้ว ตัดสินใจคล้ายๆ ตัวละครบูม (เก้า จิรายุ) ที่ต้องคุยกับพ่อแม่ก่อน และไม่ได้มีปัญหากับการที่แม่จะมีบ้านใหม่ เพราะถ้าเป็นความสุขของแม่ก็ OK! ค่ะ แล้วดูกันว่าเราจะอยู่กับเขาอย่างไร ถ้าเขาเป็นคน OK! ไม่ได้ทำให้เกิดความเดือดร้อนอะไร ก็อยู่ได้ แต่ถ้าเรื่องสูบบุหรี่ เราก็จะขอพื้นที่กันนิดหนึ่งเพราะเป็นคนไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้มีข้อตกลงกันในบ้านค่ะ

ปัญ: ตอนแสดงก็ไม่รู้ว่าเราเหมือนหรือต่างกับตัวละครพลอยอย่างไรนะคะ รู้สึกว่าในแง่การพูดการจา หรือคาแร็กเตอร์ก็คล้ายๆ กัน อาจจะมีต่างกันตรงการแต่งตัว แต่พอเราได้กลับมาย้อนดูถึงได้เห็นว่ามันต่างกับเราเยอะเหมือนกันนะ ตัวจริงหนูไม่ได้แบ๊วเท่าพลอย แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนแสดงเราทำแบบนั้นออกไปได้อย่างไร

วี: ไพลินกับหนูก็จะมีความเหมือนกันบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับ 100 เปอร์เซ็นต์ ตอนเด็กๆ หนูอาจจะมีความเหมือนไพลินอยู่ เพราะตอนนั้นทะเลาะกับพ่อแม่บ่อย หนูเคยเล่าเรื่องนี้ให้พี่แคลร์ฟัง เลยคิดว่าพี่เขาน่าจะนำชีวิตในวัยเด็กของเรามาปรับเป็นตัวละครตัวนี้ด้วย

ฟ้อนด์: ความเหมือนและความต่างของตัวจริงกับตัวละครเบบี้น่าจะ 50-50 นะคะ เราเหมือนกันตรงที่สดใส สนุกสนาน แต่เบบี้ค่อนข้างที่จะพูดจาขวานผ่าซาก ตรงๆ มากกว่าหนู และแต่งตัวสีสันจัดจ้านกว่า ส่วนหนูจะไม่ค่อยชอบแต่งตัวเท่าไร

น้ำใส: หนูกับจิ๊บบี้เหมือนกันตรงที่เราเป็นคนชอบเต้นเหมือนกัน รักเพื่อน สนุกสนานเฮฮาเหมือนกัน แต่ที่ต่างกันน่าจะเป็นความคิด หนูรู้สึกว่าตอนม.3 หนูอาจจะจะเหมือนตัวละครจิ๊บบี้ก็ได้ แต่พออายุ 20 แล้ว ความคิด การมองโลกอะไรทุกอย่าง มันคนละมุมเลย

จูเน่: หลายคนจะบอกว่าคนที่เล่นเป็นตัวเองมากที่สุดคือหนู เพราะตัวจริงก็เป็นคนชัดเจน กวนๆ มีความเป็นพี่หน่อย อีกอย่างที่คิดว่าตัวเองคล้ายตัวละครตะวันคือ พยายามมองหาผู้ชายที่เพอร์เฟ็กต์ มองหาคนที่ดีที่สุด ก็เลยรู้สึกว่าไม่ลงเอยกับใครเสียที แต่เรื่องที่ตะวันเก่งกว่าคือการควบคุมอารมณ์และการเอนเตอร์เทนคนอื่น ในชีวิตจริงอาจจะไม่ได้ทำได้มากขนาดนั้น

เจน: ตัวละครทรายกับเจนเหมือนกันค่ะ แต่ในซีรีส์จะมีความเป็นสาวมากขึ้น และน่าจะหวานกว่าตัวจริงนิดหน่อย

มิวนิค: ส่วนแพรวพราวกับหนู ต่างกันตรงที่ในชีวิตจริง หนูเป็นพี่คนโต แต่ในเรื่องเป็นน้องคนเล็กสุดของบ้าน  นิสัยก็อาจจะไม่เหมือน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะว่าแพรวพราวไม่ได้เป็นเด็กที่คิดมากและคนชอบวางแผนชีวิตแบบหนู


.
.
.
อ่านบทสัมภาษณ์ ตัวเต็มได้ที่. http://www.okmagazine-thai.com/one-year-365-theseries2020/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่