วันนี้เจอเรื่องที่คิดว่าเป็นเรื่องเล่าอาจจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆต่อไปครับ
เรื่องมีอยู่ว่าผมได้เข้าไปดูเพจหาบ้านเช่า หอพักในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่มาได้หลายปีแล้ว โดยอาศัยอยู่อพาร์ทเมนท์ที่อยู่ปัจจุบันนี้มานับเป็นระยะเวลาก็ 3- 4ปีแล้ว ก็เริ่มมีข้าวของสัมภาระต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมถึง มีคนอยู่อาศัยด้วยกัน (แฟน) และสัตว์เลี้ยง (แมว) ก็เลยคิดว่าอยากจะหาที่อยู่ใหม่ ในความคิดก็คืออาจจะซื้อหรือเช่าบ้านหลังเล็กๆ สักหลัง ก็เลยเข้าไปในเพจเฟซบุ๊คที่เกี่ยวกับบ้านเช่า หอพัก ขายบ้าน ในจังหวัดนั้น ก็ไปเจอโพสต์นึงที่น่าสนใจมาก คือ เป็นบ้านเช่า บ้านใหม่ด้วย มีโปรโมชั่น มากมาย แถมราคาถ้าทำสัญญารายปีถูกมาก ตกเดือนละไม่ถึง 2,000 (ดูรูปประกอบ)
เจอแบบนี้ผมรีบแชร์ไปให้แฟนดูทันทีเลยครับ แฟนผมก็โทรไปสอบถาม และนัดกับทางนั้นว่าเย็นนี้หลังเลิกงานจะเข้าไปดูบ้าน แต่ต้องโหลดแอป mPay ก่อนเพื่อยืนยันด้วยตน และรับคูปอง เพื่อแสดงว่าเราจะรับโปรโมชั่น ตามในรูปก็คือ เหมาปี เพราะถูกที่สุด ตกเดือนละไม่ถึง 2,000.- ตอนนั้นก็ยังไม่คิดอะไร เพราะแค่โหลดแอปลงทะเบียนก็น่าเป็นอะไร ก็ทำไปจนเสร็จ ตอนนั้นยังจับใจความที่แฟนคุยกับทางนั้นได้ไม่หมด เข้าใจว่าแค่โหลดแอป ลงทะเบียน แล้วเอาไปแลกคูปองก็พอ
จากนั้นด้วยความที่ผมอยากรู้ว่าบ้านพิกัดอยู่ตรงไหน บ้านเป็นยังไง เพราะในโพสต์นั้นบอกว่ามี 2สาขา ผมไม่แน่ใจว่าในโพสต์นั้นเป็นบ้านสาขาที่ผมต้องการรึเปล่า ก็เลยจะติดต่อไปเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ลองแอดไลน์ก็ไม่พบเบอร์ ทั้งๆ ที่สมัยนี้มันสะดวกมากสำหรับนายหน้าที่ต้องการติดต่อลูกค้าที่หาบ้านเช่า ช่วงนั้นก็ยังอยู่ในเวลางาน ผมจึงยังไม่ได้โทรไปหาทางนั้น
จนประมาณช่วงบ่ายๆ ผมก็ลองโทรไปดูก็ไม่ติด เป็นระบบฝากข้อความ ทิ้งช่วงแล้วโทรไปใหม่อีกหลายครั้งก็ไม่ติดเหมือนเดิม ก็น่าสงสัยอยู่ว่าทำไม แต่ก็ติดว่าเค้าคงไม่สะดวกมั้ง จนถึงตอนเย็นหลังเลิกงานผมกับแฟนก็ออกจากที่ทำงาน แฟนก็พยายามโทรติดต่อหลายครั้ง ทีนี้มีสัญญาณแล้ว แต่ไม่มีคนรับ แฟนก็เริ่มหงุดหงิดหน่อยๆ เพราะกลัวไม่ได้บ้านหลังนี้ เพราะตอนที่แผนคุยกับทางนั้นตอนเช้า เหมือนทางนั้นจะบอกมาว่ามีหลายคนสนใจ เหลือหลังเดียวแล้ว แต่โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ ก็คิดว่าเค้าคงเลิกงานแล้ว
ด้วยความที่อยากจะดูบ้านรู้แค่ว่า อยู่ใกล้ๆ โลตัส และบ้านเอื้อ ก็เลยพาแผนขับรถไปวนดู ปรากฎว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอบ้านที่คล้ายๆ กับในรูปเลย แฟนก็เรื่องอารมณ์เสียมากขึ้น ผ่านตรงไหนที่คิดว่าใช่ก็เข้าไปดูหมด แต่ตอนนั้นมันเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ บางหมู่บ้านที่เข้าไปก็มืดมาก แทบไม่มีไฟถนน มีบ้านหลังที่กำลังทำยังไม่เสร็จ แฟนเห็นก็อยากรู้ว่าใช่รึเปล่า จะลงไปถาม แต่ดูแล้วมีแต่คนงานน่ากลัวๆ ผมเลยไม่ให้แฟนลงไป ก็เลยขับรถกลับด้วยความค้างในของแฟนผมอย่างมากถงึขั้นเริ่มมีปากเสียงกันเพราะผมไม่ให้เค้าลงไปถามคนงานที่น่ากลัวๆ คนนั้น
พอเรากลับถึงอพาร์ทเมนท์ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ก็คือเบอร์ของคนให้เช่าบ้านตามโพสต์นั้นนั่นเอง แฟนผมออกอาการค่อนข้างเบาใจขึ้นเมื่อได้คุย ทางนั้นก็พูดเหมือนเดิมคือให้เราโหลดแอป mPay แล้วต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์ AIS บนโรบินสัน (รู้ด้วย) ผมกับแผนก็ออกไปเพราะไม่ไกลจากที่พักมาก (ที่นี่ต่างจังหวัดครับ) ทางนั้นเค้าบอกว่าให้เราต้องเติมเงินเข้าไป ผมเริ่มเอะใจ "เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเติมเงิน แค่จะขอดูบ้านเฉยๆ นะ" แฟนผมอธิบายจากสิ่งที่ทางนั้นอธิบายมาว่า ต้องเติมเงินก่อนเพื่อแสดงว่าเราอยากได้โปรโมชั่นนั้น และรับคูปองจากนิติบุคคล (บ้านอยู่ไหนยังไม่รู้เลย) แล้วจึงจะเข้าไปดูบ้านได้ ตอนนั้นเวลาเลย 19:30น.มานิดหน่อยแล้ว ซึ่งตอนที่ทางนั้นโทรมาก็บอกเราด้วยว่าถ้าไปตอนนี้ยังทัน (รู้ดีไปหมด) ผมฟังแฟนผมอธิบายก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอะไรคือการแลกคูปอง เพราะเกิดมาไม่เคยเจอระบบนี้มาก่อน แฟนเริ่มรำคาญเลยส่งโทรศัพท์ให้ผมคุยเอง
ผมรับมือถือแฟนมาคุย ก็ถามทางนั้นว่าทำไมต้องมาผมต้องมาที่ศูนย์ในเมื่อผมโหลดแอปแล้วลงทะเบียนยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว (ซื้อข้อมูลที่ต้องให้กับทางแอปก็เยอะพอสมควรนะครับ) เค้าบอกว่าเพราะผมไม่ใช่ลูกค้า AIS ไม่ได้มีบัญชีกรุงไทยและไทยพาณิช ไม่ยอดการเงินหรือการชำระเงินมาก่อนฉะนั้นต้องยืนยันตัวตนที่ศูนย์แล้วเติมเงินเข้าไป ผมก็เลยบอกไปว่า งั้นเดี๋ยวขอถามพนง.ในศูนย์ก่อน ผมให้พนง.ดูแอปที่โหลดมาแล้วลงทะเบียนว่าผมลงทะเบียนสำเร็จรึยัง เปิดหน้าที่มีเลขบัตรประชาชน (ทั้งเลขหน้าบัตรและหลังบัตรให้ดู) พนง.ก็เช็คดู แล้วบอกว่าผม "ถ้าเป็นหน้านี้ก็แสดงว่าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วค่ะ"
ระหว่างที่ผมติดต่อกับพนักงาน แฟนผมก็คุยสายกับทางนั้นต่อ ได้ยินแว่วๆ ถึงสเต็ปการเติมเงิน จากนั้นแลกคูปองเพื่อยืนยันกับเค้าว่าถ้าดูบ้านแล้วโอเค เราจะมาสามารถรับโปรโมชั่นที่ต้องการได้ แต่ถ้าไม่แลกก่อนไปดูบ้านเกิดโอเค แล้วอยากจะได้โปรโมชั่นขึ้นมาก็จะถือว่าไม่สามารถใช้โปรนั้นได้ (ทำไมวะ) หลังจากคุยกับพนง.เสร็จ ผมก็มาคุยกับแฟนต่อ
แฟนถามว่าผมว่า "จะเติมเงินเลยมั้ย"
ผมถามกลับว่า "เติมเท่าไหร่ดี" ในใจคิดว่าสัก 300มั้ย เพราะคิดว่าแค่ต้องการยืนยันเฉยๆ ว่าเราสามารถทำธุรกรรมกับ mPay / AIS ได้นะ แล้วแคปหน้าจอส่งให้เค้าดูอะไรแบบนี้
แฟนตอบ "ก็สัก18,000 ล่ะมั้ง"
ผมตกใจ โวยวายขึ้นมาระดับนึง ว่าทำไมต้องเอาเงินเยอะขนาดนั้นเข้าไปในแอป ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ตกลงจะเช่าเลย จะขอดูบ้านเฉยๆ นะ
แฟนผมก็อธิบายตามที่ทางนั้นอธิบายมา แถมยังบอกด้วยว่า ถึงแลกคูปองไป เราก็ยังไม่เสียเงินไปนะ เดี๋ยวเค้าจะคืนให้เราทีหลัง
ผมโวยวายต่อ "ทีหลังนี่คือเมื่อไหร่ แล้วจะคืนยังไง"
แฟนบอก "เดี๋ยวเค้าคืนเงินสดให้"
ผม "เฮ้ย จะคืนเงินสดได้ไง ในเมื่อแอปเป็นของ AIS งั้นแสดงว่าเค้าจะให้เราโอนไปให้เค้าก่อน แล้วทำทีว่าเดี๋ยวคืนเป็นเงินสดให้เราอ่ะดิ"
แฟนตอบกลับมาว่า "เราจะยังไม่ถูกหักตังค์นะ จนกว่าจะไปจ่ายที่เซเว่น ยังไงเค้าก็เอาเงินไปไม่ได้" (หือ มีระบบนี้ด้วยหรือ โอนในแอปแล้วต้องไปจ่ายที่เซเว่นอีก)
ผมว่ามันแหม่งๆ ละ เลยขอถามพนักงานเพื่อความแน่ใจอีกที ว่าถ้าเติมเงินเข้าไปแล้ว สมมติว่า 10,000 แล้วต้องการจะถอนเป็นเงินสดได้รึเปล่า พนง.ก็บอกว่าได้ หรือจะโอนเข้าบัญชีที่ผูกไว้ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ได้ผูกบัญชี แต่ได้คำตอบมาว่าสามารถเอาเงินออกมาเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีได้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง (สบายใจทำไม กำลังจะเสียตังค์แล้ว)
พอได้คำตอบมาผมก็กลับไปคุยกับแฟนว่าโอเค เดี๋ยวจะเติมเงินกัน
แฟนบอก "พนง. บอกว่าถ้าจะเติมเงินให้ไปที่ตู้ได้เลย" เราก็เลยไปที่ตู้เติมเงิน
ตอนเติมเงินผมไม่เคยทำมาก่อนกดเข้าไปผิดเมนู พนง.เลยเดินเข้ามาช่วยดูให้ (คนเดียวกับที่ตอบคำถามผมทั้ง ２รอบ)
"ลูกค้าจะเติมเท่าไหร่คะ" พนง.ถาม
"18,000 ครับ/ค่ะ" เราตอบ
พนักงานตกใจเล็ก แล้วพูดว่า "ลูกค้าจะเติมเยอะขนาดนั้นเลยหรอคะ เดี๋ยวขอถาม (เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าไม่แน่ใจ) ก่อนนะคะว่าได้รึเปล่า"
พนง.ไปหาคำตอบแล้วกลับมาบอกกับเราว่า กลัวว่าระบบจะค้างแล้วกว่าจะ ทำเรื่องคืนเงินอาจจะเสียเวลาหลายวัน ก็เลยแนะนำให้เราไปทำที่ธนาคาร หรือ ตู้ ATMของธนาคารจะดีกว่า
ผมกับแฟนจึงมาที่ตู้ ATM แล้วผู้บัญชีเข้ากับแอป ผมทำการผูกบัญชีจนเสร็จ จากนั้นก็จะทำการเติมเงิน แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ เนื่องจากเลือกเมนูไม่ถูก แต่ด้วยความเป็นคนดื้อ ก็ทำจนเข้าเมนูที่จะเติมเงินได้ล่ะ แต่ปัญหาคือ เติมได้ที่ 300 - 1,000 ระหว่างผมทำรายการอยู่นั้น แฟนผมก็คุยกับทางนั้นอีกแล้ว แว่วๆ ว่าทางนั้นถามชื่อผมไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น (บอกเค้าไปทำไม๊) แล้วก็บอกปัญหาว่าเราจะต้องเติมเงิน 18ครั้งซึ่งมันยุ่งยากมาก ทางนั้นแนะนำมาว่าให้เติมผ่านแอปของกสิกรไทยได้เลย เติมได้ครั้งละ 5,000
ซึ่งในขณะที่แฟนผมคุยกับทางนั้นอยู่ ผมก็ดื้ออีก (จะหาเรื่องเสียเงินให้ได้) เปิดดูวิธีการเติมเงินผ่านตู้ ATM ที่อยู่ในแอป mPay นั่นแหละ สุดท้ายก็ทำได้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทางนั้นบอกให้เราเติมเงินผ่านแอปของกสิกรไทย
ผมเติมเงินจนได้ตามยอดที่เราต้องการ เสร็จแล้วก็นัดทางนั้นว่าจะไปแลกคูปอง เพื่อไปดูบ้าน ซึ่งขณะนั้นน่าจะใกล้สามทุ่มแล้ว แต่ทางนั้นก็ยังรับปากว่าพาไปดูบ้านได้ แต่ต้องให้เรา "แลกคูปองก่อน" ซึ่งก็คือการโอนเงินไปเข้าบัญชีเค้านั้นแหละ แต่ทางนั้นพยายามหลีกเลี่ยงคำนี้นะ แล้วอธิบายอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่ทางนั้นก็ยังย้ำเรื่องนี้ตลอดการสนทนา
ผมขับรถออกมาจากโรบินสัน ระหว่างทางแฟนก็คุยกับทางนั้นไปเรื่อยๆ ผมยังไม่โอนเงินให้เพราะขับรถอยู่ ทางนั้นน่าจะเริ่มเปลี่ยนแผน หันมาถามเลขบัตรประชาชนผม (หือ? แปลกขึ้นไปอีก) แฟนยื่นโทรศัพท์มาให้ผมบอกเลขบัตรปปช. แต่อย่างที่บอกว่าทางนั้นพยายามจะหลีกเลี่ยงคำพวกนี้ ทำเป็นคุยกับอีกคนที่อยู่ทางเค้าว่า "ID card นี่เรียกว่าอะไรนะ" "เอ่อ เลขรหัสบัตร" เสียงอ้อมแอ้มนิดหน่อย
ผมส่ายหน้า "ไม่ใช่ละ" แฟนเริ่มหน้าเสีย ว่าทำไมผมไม่ยอมบอกไป
ทางนั้นให้เหตุผลต่อว่า "ถึงยังไงถ้าทำสัญญาก็ต้องใช้บัตรประชาชนอยู่ดี"
จังหวะนั้นเรามาถึงอพาร์ทเมนท์ที่พักพอดี ผมจอดรถ เดินลงจากรถ
แล้วพูดว่า "ไม่ๆ ไม่ใช่ละ บ้านยังไม่ได้ดูเลย จะทำสัญญาอะไร ไม่ใช่ละ"
ทางนั้นตอบกลับมาว่า "งั้นก็ไม่เป็นไรครับ" หลังจากนั้นผมไม่ได้ยินว่าเค้าพูดอะไรต่อนะ เพราะเดินเข้าห้อง
แฟนผมถือสายคุยกะทางนั้น ช่วงที่ผมยื่นกรานว่าไม่ให้เลขบัตรปปช. เธอทำท่าโกรธผมมากว่าทำไมไม่บอกเค้า เสียโอกาสแล้ว อะไรประมาณนั้น
หลังจากว่าสายทางนั้นแล้วผมก็อธิบายความผิดปกติหลายๆ อย่างให้เธอฟัง เธอเริ่มมีท่าทีที่รับฟังและคิดตามมากขึ้น ระหว่างนั้นเอง ก็มีสายเข้าที่โทรศัพท์ของเธอ ซึ่งก็คือเบอร์ที่เพิ่งจะวางไปนั่นเอง "ฮัลโหล พอดีเห็นเบอร์นี้โทรเข้ามาครับ" แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบกลับไป ทางนั้นก็วางไปเสียก่อน สงสัยคงพึ่งดูเบอร์ว่าเป็นเบอร์ของแฟนผม นั่นยิ่งทำให้เธอเริ่มเห็นอะไรแปลกๆ ตามที่ผมอธิบายไป
เรื่องราวดูเหมือนว่าจะจบแค่นี้ แต่ยังก่อน เพราะระหว่างที่ แฟนผมกำลังอุ้มแมวจะเดินออกไปปลอบใจตัวเองข้างนอกห้องนั้น ก็มีสายเข้ามาที่เบอร์ของผม
ตั้งแต่ที่คุยกันมาทางนั้นไม่รู้เบอร์ผมมาก่อน ดังนั้นจึงน่าจะยังเข้าแอป mPay ด้วย Account ไม่ได้ เพราะเบอร์ที่โทรไปเป็นของแฟนผม แต่คนโหลดแอปและมือถือเครื่องที่ลงแอปคือของผม
ทางนั้นพูดเหมือนกับที่โทรมาหาแฟนผมเมื่อชั่วครู่ ผมแสร้งดัดเสียง ทำเป็นอีกคนเพื่อหลอกคุยกับทางนั้น ข้อเสนอที่ฟังมาแล้ว ผมไม่มีทางตกหลุมพลางเป็นครั้งที่สอง แต่ผมแกล้งทำเป็นจะขอเข้าไปดูบ้าน โดยไม่เอาโปรโมชั่น และขอนัดเวลาเป็นช่วงหกโมงเย็น
"สำนักงานเราปิดแล้วคร้บ ขอเป็นช่วงเช้าจะดีกว่า" ทางนั้นตอบกลับมา ทั้งๆ ที่วันนี้ สามทุ่มกว่าแล้วตอนคุยกับแฟนผมยังบอกว่ามาได้ ให้เราไปรอหน้าเซเว่นฯ ของหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร
ผมขอทางนั้นว่าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ได้รึเปล่า แต่ทางนั้นก็เลี่ยงที่จะรับปาก ทำทีเป็นว่ามีคิวลูกค้าหลายคนที่สนใจ บ้านอาจจะไม่ว่างแล้วเมื่อถึงวันนั้น ผมจบการสนทนาเท่านั้น
ผมเล่าให้แฟนฟังถึงความผิดปกตินี้ เพื่อยืนยันเรื่องนี้อีกครั้งว่านี่ไม่ใช่การเช่าบ้านปกติแน่ๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มากก่อน เธอยังคงเสียใจที่ไม่ได้บ้านเช่าหลังนั้น แต่ก็คิดได้แล้วว่า "เกือบแล้วที่จะต้องมาเสียเงินไปฟรี"
เดี๋ยวผมจะติดตามเรื่องนีต่อไป แล้วจะมาเล่าถึงความผิดปกติให้ฟังนะครับ ถ้ามีโอกาส
ให้เช่าบ้านแบบนี้มีด้วยหรือ? ให้โหลด mPay เติมเงินเข้าไป แล้วแลกคูปองเพื่อรับโปรโมชั่นก่อนเข้าดูบ้านได้
เรื่องมีอยู่ว่าผมได้เข้าไปดูเพจหาบ้านเช่า หอพักในต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่มาได้หลายปีแล้ว โดยอาศัยอยู่อพาร์ทเมนท์ที่อยู่ปัจจุบันนี้มานับเป็นระยะเวลาก็ 3- 4ปีแล้ว ก็เริ่มมีข้าวของสัมภาระต่างๆ เพิ่มขึ้น รวมถึง มีคนอยู่อาศัยด้วยกัน (แฟน) และสัตว์เลี้ยง (แมว) ก็เลยคิดว่าอยากจะหาที่อยู่ใหม่ ในความคิดก็คืออาจจะซื้อหรือเช่าบ้านหลังเล็กๆ สักหลัง ก็เลยเข้าไปในเพจเฟซบุ๊คที่เกี่ยวกับบ้านเช่า หอพัก ขายบ้าน ในจังหวัดนั้น ก็ไปเจอโพสต์นึงที่น่าสนใจมาก คือ เป็นบ้านเช่า บ้านใหม่ด้วย มีโปรโมชั่น มากมาย แถมราคาถ้าทำสัญญารายปีถูกมาก ตกเดือนละไม่ถึง 2,000 (ดูรูปประกอบ)
เจอแบบนี้ผมรีบแชร์ไปให้แฟนดูทันทีเลยครับ แฟนผมก็โทรไปสอบถาม และนัดกับทางนั้นว่าเย็นนี้หลังเลิกงานจะเข้าไปดูบ้าน แต่ต้องโหลดแอป mPay ก่อนเพื่อยืนยันด้วยตน และรับคูปอง เพื่อแสดงว่าเราจะรับโปรโมชั่น ตามในรูปก็คือ เหมาปี เพราะถูกที่สุด ตกเดือนละไม่ถึง 2,000.- ตอนนั้นก็ยังไม่คิดอะไร เพราะแค่โหลดแอปลงทะเบียนก็น่าเป็นอะไร ก็ทำไปจนเสร็จ ตอนนั้นยังจับใจความที่แฟนคุยกับทางนั้นได้ไม่หมด เข้าใจว่าแค่โหลดแอป ลงทะเบียน แล้วเอาไปแลกคูปองก็พอ
จากนั้นด้วยความที่ผมอยากรู้ว่าบ้านพิกัดอยู่ตรงไหน บ้านเป็นยังไง เพราะในโพสต์นั้นบอกว่ามี 2สาขา ผมไม่แน่ใจว่าในโพสต์นั้นเป็นบ้านสาขาที่ผมต้องการรึเปล่า ก็เลยจะติดต่อไปเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม ลองแอดไลน์ก็ไม่พบเบอร์ ทั้งๆ ที่สมัยนี้มันสะดวกมากสำหรับนายหน้าที่ต้องการติดต่อลูกค้าที่หาบ้านเช่า ช่วงนั้นก็ยังอยู่ในเวลางาน ผมจึงยังไม่ได้โทรไปหาทางนั้น
จนประมาณช่วงบ่ายๆ ผมก็ลองโทรไปดูก็ไม่ติด เป็นระบบฝากข้อความ ทิ้งช่วงแล้วโทรไปใหม่อีกหลายครั้งก็ไม่ติดเหมือนเดิม ก็น่าสงสัยอยู่ว่าทำไม แต่ก็ติดว่าเค้าคงไม่สะดวกมั้ง จนถึงตอนเย็นหลังเลิกงานผมกับแฟนก็ออกจากที่ทำงาน แฟนก็พยายามโทรติดต่อหลายครั้ง ทีนี้มีสัญญาณแล้ว แต่ไม่มีคนรับ แฟนก็เริ่มหงุดหงิดหน่อยๆ เพราะกลัวไม่ได้บ้านหลังนี้ เพราะตอนที่แผนคุยกับทางนั้นตอนเช้า เหมือนทางนั้นจะบอกมาว่ามีหลายคนสนใจ เหลือหลังเดียวแล้ว แต่โทรไปเท่าไหร่ก็ไม่มีคนรับ ก็คิดว่าเค้าคงเลิกงานแล้ว
ด้วยความที่อยากจะดูบ้านรู้แค่ว่า อยู่ใกล้ๆ โลตัส และบ้านเอื้อ ก็เลยพาแผนขับรถไปวนดู ปรากฎว่าหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอบ้านที่คล้ายๆ กับในรูปเลย แฟนก็เรื่องอารมณ์เสียมากขึ้น ผ่านตรงไหนที่คิดว่าใช่ก็เข้าไปดูหมด แต่ตอนนั้นมันเริ่มมืดขึ้นเรื่อยๆ บางหมู่บ้านที่เข้าไปก็มืดมาก แทบไม่มีไฟถนน มีบ้านหลังที่กำลังทำยังไม่เสร็จ แฟนเห็นก็อยากรู้ว่าใช่รึเปล่า จะลงไปถาม แต่ดูแล้วมีแต่คนงานน่ากลัวๆ ผมเลยไม่ให้แฟนลงไป ก็เลยขับรถกลับด้วยความค้างในของแฟนผมอย่างมากถงึขั้นเริ่มมีปากเสียงกันเพราะผมไม่ให้เค้าลงไปถามคนงานที่น่ากลัวๆ คนนั้น
พอเรากลับถึงอพาร์ทเมนท์ ก็มีโทรศัพท์เข้ามา ก็คือเบอร์ของคนให้เช่าบ้านตามโพสต์นั้นนั่นเอง แฟนผมออกอาการค่อนข้างเบาใจขึ้นเมื่อได้คุย ทางนั้นก็พูดเหมือนเดิมคือให้เราโหลดแอป mPay แล้วต้องไปลงทะเบียนที่ศูนย์ AIS บนโรบินสัน (รู้ด้วย) ผมกับแผนก็ออกไปเพราะไม่ไกลจากที่พักมาก (ที่นี่ต่างจังหวัดครับ) ทางนั้นเค้าบอกว่าให้เราต้องเติมเงินเข้าไป ผมเริ่มเอะใจ "เอ๊ะ เดี๋ยวนะ ทำไมต้องเติมเงิน แค่จะขอดูบ้านเฉยๆ นะ" แฟนผมอธิบายจากสิ่งที่ทางนั้นอธิบายมาว่า ต้องเติมเงินก่อนเพื่อแสดงว่าเราอยากได้โปรโมชั่นนั้น และรับคูปองจากนิติบุคคล (บ้านอยู่ไหนยังไม่รู้เลย) แล้วจึงจะเข้าไปดูบ้านได้ ตอนนั้นเวลาเลย 19:30น.มานิดหน่อยแล้ว ซึ่งตอนที่ทางนั้นโทรมาก็บอกเราด้วยว่าถ้าไปตอนนี้ยังทัน (รู้ดีไปหมด) ผมฟังแฟนผมอธิบายก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าอะไรคือการแลกคูปอง เพราะเกิดมาไม่เคยเจอระบบนี้มาก่อน แฟนเริ่มรำคาญเลยส่งโทรศัพท์ให้ผมคุยเอง
ผมรับมือถือแฟนมาคุย ก็ถามทางนั้นว่าทำไมต้องมาผมต้องมาที่ศูนย์ในเมื่อผมโหลดแอปแล้วลงทะเบียนยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว (ซื้อข้อมูลที่ต้องให้กับทางแอปก็เยอะพอสมควรนะครับ) เค้าบอกว่าเพราะผมไม่ใช่ลูกค้า AIS ไม่ได้มีบัญชีกรุงไทยและไทยพาณิช ไม่ยอดการเงินหรือการชำระเงินมาก่อนฉะนั้นต้องยืนยันตัวตนที่ศูนย์แล้วเติมเงินเข้าไป ผมก็เลยบอกไปว่า งั้นเดี๋ยวขอถามพนง.ในศูนย์ก่อน ผมให้พนง.ดูแอปที่โหลดมาแล้วลงทะเบียนว่าผมลงทะเบียนสำเร็จรึยัง เปิดหน้าที่มีเลขบัตรประชาชน (ทั้งเลขหน้าบัตรและหลังบัตรให้ดู) พนง.ก็เช็คดู แล้วบอกว่าผม "ถ้าเป็นหน้านี้ก็แสดงว่าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วค่ะ"
ระหว่างที่ผมติดต่อกับพนักงาน แฟนผมก็คุยสายกับทางนั้นต่อ ได้ยินแว่วๆ ถึงสเต็ปการเติมเงิน จากนั้นแลกคูปองเพื่อยืนยันกับเค้าว่าถ้าดูบ้านแล้วโอเค เราจะมาสามารถรับโปรโมชั่นที่ต้องการได้ แต่ถ้าไม่แลกก่อนไปดูบ้านเกิดโอเค แล้วอยากจะได้โปรโมชั่นขึ้นมาก็จะถือว่าไม่สามารถใช้โปรนั้นได้ (ทำไมวะ) หลังจากคุยกับพนง.เสร็จ ผมก็มาคุยกับแฟนต่อ
แฟนถามว่าผมว่า "จะเติมเงินเลยมั้ย"
ผมถามกลับว่า "เติมเท่าไหร่ดี" ในใจคิดว่าสัก 300มั้ย เพราะคิดว่าแค่ต้องการยืนยันเฉยๆ ว่าเราสามารถทำธุรกรรมกับ mPay / AIS ได้นะ แล้วแคปหน้าจอส่งให้เค้าดูอะไรแบบนี้
แฟนตอบ "ก็สัก18,000 ล่ะมั้ง"
ผมตกใจ โวยวายขึ้นมาระดับนึง ว่าทำไมต้องเอาเงินเยอะขนาดนั้นเข้าไปในแอป ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้ตกลงจะเช่าเลย จะขอดูบ้านเฉยๆ นะ
แฟนผมก็อธิบายตามที่ทางนั้นอธิบายมา แถมยังบอกด้วยว่า ถึงแลกคูปองไป เราก็ยังไม่เสียเงินไปนะ เดี๋ยวเค้าจะคืนให้เราทีหลัง
ผมโวยวายต่อ "ทีหลังนี่คือเมื่อไหร่ แล้วจะคืนยังไง"
แฟนบอก "เดี๋ยวเค้าคืนเงินสดให้"
ผม "เฮ้ย จะคืนเงินสดได้ไง ในเมื่อแอปเป็นของ AIS งั้นแสดงว่าเค้าจะให้เราโอนไปให้เค้าก่อน แล้วทำทีว่าเดี๋ยวคืนเป็นเงินสดให้เราอ่ะดิ"
แฟนตอบกลับมาว่า "เราจะยังไม่ถูกหักตังค์นะ จนกว่าจะไปจ่ายที่เซเว่น ยังไงเค้าก็เอาเงินไปไม่ได้" (หือ มีระบบนี้ด้วยหรือ โอนในแอปแล้วต้องไปจ่ายที่เซเว่นอีก)
ผมว่ามันแหม่งๆ ละ เลยขอถามพนักงานเพื่อความแน่ใจอีกที ว่าถ้าเติมเงินเข้าไปแล้ว สมมติว่า 10,000 แล้วต้องการจะถอนเป็นเงินสดได้รึเปล่า พนง.ก็บอกว่าได้ หรือจะโอนเข้าบัญชีที่ผูกไว้ก็ได้ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ได้ผูกบัญชี แต่ได้คำตอบมาว่าสามารถเอาเงินออกมาเป็นเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีได้ ผมก็สบายใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง (สบายใจทำไม กำลังจะเสียตังค์แล้ว)
พอได้คำตอบมาผมก็กลับไปคุยกับแฟนว่าโอเค เดี๋ยวจะเติมเงินกัน
แฟนบอก "พนง. บอกว่าถ้าจะเติมเงินให้ไปที่ตู้ได้เลย" เราก็เลยไปที่ตู้เติมเงิน
ตอนเติมเงินผมไม่เคยทำมาก่อนกดเข้าไปผิดเมนู พนง.เลยเดินเข้ามาช่วยดูให้ (คนเดียวกับที่ตอบคำถามผมทั้ง ２รอบ)
"ลูกค้าจะเติมเท่าไหร่คะ" พนง.ถาม
"18,000 ครับ/ค่ะ" เราตอบ
พนักงานตกใจเล็ก แล้วพูดว่า "ลูกค้าจะเติมเยอะขนาดนั้นเลยหรอคะ เดี๋ยวขอถาม (เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าไม่แน่ใจ) ก่อนนะคะว่าได้รึเปล่า"
พนง.ไปหาคำตอบแล้วกลับมาบอกกับเราว่า กลัวว่าระบบจะค้างแล้วกว่าจะ ทำเรื่องคืนเงินอาจจะเสียเวลาหลายวัน ก็เลยแนะนำให้เราไปทำที่ธนาคาร หรือ ตู้ ATMของธนาคารจะดีกว่า
ผมกับแฟนจึงมาที่ตู้ ATM แล้วผู้บัญชีเข้ากับแอป ผมทำการผูกบัญชีจนเสร็จ จากนั้นก็จะทำการเติมเงิน แต่ทำยังไงก็ไม่ได้ เนื่องจากเลือกเมนูไม่ถูก แต่ด้วยความเป็นคนดื้อ ก็ทำจนเข้าเมนูที่จะเติมเงินได้ล่ะ แต่ปัญหาคือ เติมได้ที่ 300 - 1,000 ระหว่างผมทำรายการอยู่นั้น แฟนผมก็คุยกับทางนั้นอีกแล้ว แว่วๆ ว่าทางนั้นถามชื่อผมไปเรียบร้อยแล้ว ทั้งชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น (บอกเค้าไปทำไม๊) แล้วก็บอกปัญหาว่าเราจะต้องเติมเงิน 18ครั้งซึ่งมันยุ่งยากมาก ทางนั้นแนะนำมาว่าให้เติมผ่านแอปของกสิกรไทยได้เลย เติมได้ครั้งละ 5,000
ซึ่งในขณะที่แฟนผมคุยกับทางนั้นอยู่ ผมก็ดื้ออีก (จะหาเรื่องเสียเงินให้ได้) เปิดดูวิธีการเติมเงินผ่านตู้ ATM ที่อยู่ในแอป mPay นั่นแหละ สุดท้ายก็ทำได้ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ทางนั้นบอกให้เราเติมเงินผ่านแอปของกสิกรไทย
ผมเติมเงินจนได้ตามยอดที่เราต้องการ เสร็จแล้วก็นัดทางนั้นว่าจะไปแลกคูปอง เพื่อไปดูบ้าน ซึ่งขณะนั้นน่าจะใกล้สามทุ่มแล้ว แต่ทางนั้นก็ยังรับปากว่าพาไปดูบ้านได้ แต่ต้องให้เรา "แลกคูปองก่อน" ซึ่งก็คือการโอนเงินไปเข้าบัญชีเค้านั้นแหละ แต่ทางนั้นพยายามหลีกเลี่ยงคำนี้นะ แล้วอธิบายอย่างที่บอกไปข้างต้น แต่ทางนั้นก็ยังย้ำเรื่องนี้ตลอดการสนทนา
ผมขับรถออกมาจากโรบินสัน ระหว่างทางแฟนก็คุยกับทางนั้นไปเรื่อยๆ ผมยังไม่โอนเงินให้เพราะขับรถอยู่ ทางนั้นน่าจะเริ่มเปลี่ยนแผน หันมาถามเลขบัตรประชาชนผม (หือ? แปลกขึ้นไปอีก) แฟนยื่นโทรศัพท์มาให้ผมบอกเลขบัตรปปช. แต่อย่างที่บอกว่าทางนั้นพยายามจะหลีกเลี่ยงคำพวกนี้ ทำเป็นคุยกับอีกคนที่อยู่ทางเค้าว่า "ID card นี่เรียกว่าอะไรนะ" "เอ่อ เลขรหัสบัตร" เสียงอ้อมแอ้มนิดหน่อย
ผมส่ายหน้า "ไม่ใช่ละ" แฟนเริ่มหน้าเสีย ว่าทำไมผมไม่ยอมบอกไป
ทางนั้นให้เหตุผลต่อว่า "ถึงยังไงถ้าทำสัญญาก็ต้องใช้บัตรประชาชนอยู่ดี"
จังหวะนั้นเรามาถึงอพาร์ทเมนท์ที่พักพอดี ผมจอดรถ เดินลงจากรถ
แล้วพูดว่า "ไม่ๆ ไม่ใช่ละ บ้านยังไม่ได้ดูเลย จะทำสัญญาอะไร ไม่ใช่ละ"
ทางนั้นตอบกลับมาว่า "งั้นก็ไม่เป็นไรครับ" หลังจากนั้นผมไม่ได้ยินว่าเค้าพูดอะไรต่อนะ เพราะเดินเข้าห้อง
แฟนผมถือสายคุยกะทางนั้น ช่วงที่ผมยื่นกรานว่าไม่ให้เลขบัตรปปช. เธอทำท่าโกรธผมมากว่าทำไมไม่บอกเค้า เสียโอกาสแล้ว อะไรประมาณนั้น
หลังจากว่าสายทางนั้นแล้วผมก็อธิบายความผิดปกติหลายๆ อย่างให้เธอฟัง เธอเริ่มมีท่าทีที่รับฟังและคิดตามมากขึ้น ระหว่างนั้นเอง ก็มีสายเข้าที่โทรศัพท์ของเธอ ซึ่งก็คือเบอร์ที่เพิ่งจะวางไปนั่นเอง "ฮัลโหล พอดีเห็นเบอร์นี้โทรเข้ามาครับ" แต่ยังไม่ทันที่จะได้ตอบกลับไป ทางนั้นก็วางไปเสียก่อน สงสัยคงพึ่งดูเบอร์ว่าเป็นเบอร์ของแฟนผม นั่นยิ่งทำให้เธอเริ่มเห็นอะไรแปลกๆ ตามที่ผมอธิบายไป
เรื่องราวดูเหมือนว่าจะจบแค่นี้ แต่ยังก่อน เพราะระหว่างที่ แฟนผมกำลังอุ้มแมวจะเดินออกไปปลอบใจตัวเองข้างนอกห้องนั้น ก็มีสายเข้ามาที่เบอร์ของผม
ตั้งแต่ที่คุยกันมาทางนั้นไม่รู้เบอร์ผมมาก่อน ดังนั้นจึงน่าจะยังเข้าแอป mPay ด้วย Account ไม่ได้ เพราะเบอร์ที่โทรไปเป็นของแฟนผม แต่คนโหลดแอปและมือถือเครื่องที่ลงแอปคือของผม
ทางนั้นพูดเหมือนกับที่โทรมาหาแฟนผมเมื่อชั่วครู่ ผมแสร้งดัดเสียง ทำเป็นอีกคนเพื่อหลอกคุยกับทางนั้น ข้อเสนอที่ฟังมาแล้ว ผมไม่มีทางตกหลุมพลางเป็นครั้งที่สอง แต่ผมแกล้งทำเป็นจะขอเข้าไปดูบ้าน โดยไม่เอาโปรโมชั่น และขอนัดเวลาเป็นช่วงหกโมงเย็น
"สำนักงานเราปิดแล้วคร้บ ขอเป็นช่วงเช้าจะดีกว่า" ทางนั้นตอบกลับมา ทั้งๆ ที่วันนี้ สามทุ่มกว่าแล้วตอนคุยกับแฟนผมยังบอกว่ามาได้ ให้เราไปรอหน้าเซเว่นฯ ของหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทร
ผมขอทางนั้นว่าเป็นวันเสาร์อาทิตย์ได้รึเปล่า แต่ทางนั้นก็เลี่ยงที่จะรับปาก ทำทีเป็นว่ามีคิวลูกค้าหลายคนที่สนใจ บ้านอาจจะไม่ว่างแล้วเมื่อถึงวันนั้น ผมจบการสนทนาเท่านั้น
ผมเล่าให้แฟนฟังถึงความผิดปกตินี้ เพื่อยืนยันเรื่องนี้อีกครั้งว่านี่ไม่ใช่การเช่าบ้านปกติแน่ๆ ที่ผ่านมา ไม่เคยเจออะไรแบบนี้มากก่อน เธอยังคงเสียใจที่ไม่ได้บ้านเช่าหลังนั้น แต่ก็คิดได้แล้วว่า "เกือบแล้วที่จะต้องมาเสียเงินไปฟรี"
เดี๋ยวผมจะติดตามเรื่องนีต่อไป แล้วจะมาเล่าถึงความผิดปกติให้ฟังนะครับ ถ้ามีโอกาส