สวัสดีค่ะ เราเริ่มทำงานมาได้หลายเดือนแล้วล่ะ สำหรับคนที่ต้องยืนด้วยลำแข้งตัวเองครั้งแรกโดยไม่ต้องพึ่งเงินพ่อแม่ มันก็จะมีความงงๆ สับสนกับการบริหารการเงินด้วยตัวเองบ้าง วันนี้เราเลยตั้งใจว่าอยากจะมาแชร์ประสบการณ์และวิธีการเก็บเงินตามแบบฉบับของตัวเองค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ ได้บ้าง
ความจริงเราเป็นคนชอบออมเงินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะพ่อสอนให้ออมเงินตลอด ในห้องนอนนี่ต้องมีกระปุกออมสินตั้งเอาไว้หัวเตียงเลย วันนี้ใช้ตังค์ไปเหลือเท่าไรก็เอามาหยอดกระปุกตลอดทุกวันเป็นกิจวัตรไปเลย แล้วทุกสิ้นเดือนเนี่ย พ่อก็จะชวนมานับเงินที่หยอดไว้ แล้วหลังจากนั้นก็พาเราไปธนาคารฝากเงินเก็บไว้ให้เราทุกเดือน มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แหละ แต่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง แล้วก็เลยติดนิสัยชอบหยอดกระปุกไปนับตั้งแต่นั้นแหละ
เข้าเรื่องดีกว่า! สำหรับประสบการณ์ออมเงินของเรา อย่างแรกเลยที่สำคัญมากๆ คือการตั้งเป้าหมายในการออมเงินค่ะ เพราะถ้าเรามีเป้าหมายว่าอยากจะทำอะไร มันจะทำให้เรามีแรงฮึด มีความตั้งใจในการเก็บเงินมากขึ้น อย่างตัวเราเองมีเป้าหมายในใจเอาไว้ตั้งแต่หลังเรียนจบแล้วค่ะ ว่าอยากจะเก็บเงินไว้ต่อเติมบ้านให้พ่อกับแม่ ตั้งใจไว้แบบนั้น ซึ่งก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะ ลองมาดูกันนะว่าเรามีวิธียังไงบ้างเผื่อเป็นประโยชน์กับทุกท่านที่อยากจะเริ่มออมกันค่ะ
ต้องบอกก่อนว่าเงินเดือนที่เราได้คือหมื่นปลายๆนะคะ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเด็กจบใหม่นั่นแหละ

หลังเรียนจบพอได้งานทำแล้ว เราก็ระเห็ดจากบ้านที่ตจว.มาทำงานในกรุงเทพ ซึ่งตอนย้ายมาเนี่ยเราตั้งใจเลือกพักอยู่อพาร์ทเมนท์ใกล้ที่ทำงานที่สุดเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง แต่ก็ยังถือว่าค่าใช้จ่ายเยอะอยู่ดี ทั้งค่ากินค่าอยู่เดือนต่อเดือน ซึ่งต้องบอกว่าค่าครองชีพในกรุงเทพนี่แรงมากๆ เรียกว่าเดือนแรกๆ ที่มาอยู่กรุงเทพนี่เงินแทบไม่พอใช้เลย เราเลยต้องตั้งกฏของตัวเองขึ้นมาค่ะ กำหนดไว้ว่าจะใช้เงินไม่เกินวันละ 300 บาท เหลือเท่าไรก็เอามาเก็บ ถ้าวันไหนไม่ได้เก็บก็เอาเงินของวันถัดไปมาทบ เน้นประหยัดเอาค่ะ
“ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ” พี่ตูนกล่าวเอาไว้ แต่เราขอใช้ด้วยคนละกัน เพราะคนเราต้องมีจุดมุ่งหมายและต้องเดินไปให้ได้ตามฝัน และเป้าหมายของเราก็มีเยอะเลย อีกเรื่องหนึ่งก็คือตั้งใจว่าจะเอาเงินเก็บไปซื้อทองเป็นของขวัญปีใหม่ให้พ่อกับแม่ แต่ก็ไม่เคยซื้อทองไม่เคยแม้แต่เข้าร้านทอง เลยไม่กล้า ปกติเราชอบเล่นเน็ตอยู่แล้วพอดีไปอ่านเจอข่าวที่เค้าแนะนำแอพออมทองที่ชื่อ HelloGold เป็นแอพออมทองสำหรับคนเงินน้อยแต่อยากมีทองเป็นของตัวเองอย่างเรา ขั้นต่ำ 10 บาทก็ฝากได้แล้ว เราเลยเอาเงินที่เหลือนิดๆหน่อยๆ ฝากในแอพนี้วันละ 10-20 บาทก็ยังดี สะสมไปเรื่อยๆ
ใช้แอพนี้มันสะดวกดีนะแถมออมทองได้เลยไม่ต้องเสียเวลานั่งรถออกไปร้านทองด้วย แค่เอาเงินฝากเข้าไปที่ HelloGold Wallet ก็ออมและซื้อขายทองได้แล้ว อยากถอนออกมาเป็นเงินสดหรือไถ่ออกมาเป็นทองก็ได้แล้วแต่เราเลย ตอนนี้เรามีทองสะสมอยู่ในแอพนี้ 7 กรัมกว่าๆ แต่ก็ภูมิใจอยู่นะว่าเงินไม่มากก็สะสมทองได้ด้วย คิดไว้ว่าสิ้นปีนี้ยังไงก็ต้องมีทองไปฝากพ่อกับแม่ให้ได้ เดี๋ยวลองเก็บไปเรื่อยๆ ก่อนดีกว่ารอดูว่าจะถอนออกมาได้เท่าไร
ที่จริงแอพนี้ถ้าเราสะสมทองครบ 1 กรัม ก็ถอนได้เลยนะ แต่ข้อเสียคือมูลค่าน้อยเกินถ้าบวกค่ากำเหน็จทองและค่าใช้จ่ายในการขนส่งทองอีกมันอาจยังไม่คุ้มอ่ะ อีกอย่างสมัยนี้ใครๆ ก็ทำธุรกรรมออนไลน์กันหมดแล้วเราเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องถอนออกมาเป็นทองเลย ถอนออกมาเป็นเงินดีกว่า ตอนนี้ก็รอจังหวะที่ราคาทองพุ่งขึ้นเยอะๆ แล้วค่อยให้แอพช่วยคำนวนราคาทองที่คุ้มที่สุดให้เราแล้วค่อยถอนออกมาตอนนั้นล่ะกัน ที่จริงเราก็ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการซื้อขายทองมากเท่าไรยังมีงงๆ อยู่บ้างกับการคำนวนค่าทองเป็นเงิน แต่คิดว่าถ้าศึกษาเพิ่มเติมอีกนิดน่าจะเก่งขึ้น

ด้วยความที่เราเป็นคนขี้เหงาเพราะย้ายมาอยู่หอในเมืองคนเดียว มือถือก็เลยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด เวลาจะซื้อของก็มักจะซื้อออนไลน์มากกว่า ขี้เกียจออกไปข้างนอกเบื่อรถติดเปลืองตังด้วย เลยคิดว่าการมีบัตรเครดิตไว้น่าจะตอบโจทย์ชีวิตเรามากกว่า เวลาเล่นเน็ตทีไรโปรโมชั่นเร้าใจก็เด้งมาตลอด เลยตัดสินใจทำบัตรเครดิตเป็นเรื่องเป็นราวซะเลย เซ็นทรัล เดอะวัน เรดซ์ เป็นบัตรที่เราเลือกเพราะโปรโมชั่นสะสมคะแนนรับส่วนลดในบัตรนี้เยอะ ไม่มีค่าแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีด้วย เก็บไว้ซื้อของตอนมีโปรดีๆแล้วสะสมคะแนนไว้ซื้อสินค้าเป็นส่วนลดค่าของกินของใช้ได้อีก ตอนนี้สะสมได้ 3,127 คะแนนแล้วล่ะ อิอิ ปีหน้าแพลนว่าจะซื้อตู้เย็นเดี๋ยวเอามาใช้ผ่อน 0% ก็คุ้มนะไม่ต้องรอเก็บเงินด้วย เราว่าถ้าใช้บัตรให้เหมาะสมมันก็ช่วยเราได้อีกทางนะ
นี่….เอาสมุดบัญชีเงินฝากมาโชว์นิดนึง เราก็มีฝากธนาคารกับเค้าเหมือนกัน ก็เอาเงินที่เก็บนั่นแหล่ะมาฝากไว้
● กสิกรเป็นบัญชีเงินเดือนเราเอง แต่ก็ใช้บัญชีนี้ไว้ออมด้วยถ้าจะกดออกมาใช้ก็กดเท่าที่จำเป็น ตัวนี้เราไม่ได้ทำบัตรเอทีเอ็มใช้แอพกดเงินสดเอา เดี๋ยวนี้มันสะดวกจริงๆนะ แค่ไปยืนหน้าตู้กดตังแล้วสั่งผ่านแอพเลือกจำนวนเงินที่ต้องการกด ก็จะมี QR Code ให้เรานำมาสแกนหน้าตู้แล้วรับเงินได้เลย ที่เราชอบคือไม่เสียค่าบัตรรายปี ประหยัดเงินได้อีกหลายบาทเลย
● ออมสิน บัญชีนี้ที่พ่อพาไปฝากตอนเด็กเลยเอามาฝากต่อซะเลยประมาณสานฝันในวัยเด็กต่อ ในบัญชีนี้เลยมีเงินเก็บเยอะสุด เป็นบัญชีเงินเก็บที่ไม่เคยถอนออกมาเลยเพราะถ้าถอนพ่อด่าตาย บางครั้งเราก็มีเอาไปซื้อสลากออมสินเก็บไว้ลุ้นบ้างอะไรบ้าง ก็บอกแล้วว่าต้องอยู่อย่างมีความหวัง ตั้งแต่ลองซื้อมาก็ไม่เคยถูกสักทีนะ555 เคยอ่านเจอเคล็ดลับวิธีซื้อสลากให้ถูกด้วยนะแต่ต้องซื้อแบบคลุมทั้งหมดทุกหน่วย คือต้องมีเงินฝากเยอะพอควรเราเลยทำตามไม่ได้
● ทีเอ็มบี เราเลือกเปิดบัญชีโนฟิกซ์ ตัวนี้ไม่ฟิคว่าต้องฝากเท่ากันทุกเดือน ดอกเยอะพอได้อยู่ แต่ดีตรงยืดหยุ่นที่จะฝากจะถอนตอนไหนก็ได้ เวลาที่ไม่มีเงินจะได้ไม่ต้องกดดันตัวเอง
เงินในบัญชีที่เก็บๆตอนนี้ก็ไม่มากหรอกค่ะ แต่เน้นค่อยๆออมอย่างมีเป้าหมาย ทำให้เป็นนิสัยไว้ดีสุด เทคนิคของเราจะเน้นเซฟทุกอย่างที่สุด คือโหลดแอพมาไว้ในมือถือ เพราะมันค่อนข้างสะดวกในการใช้จ่ายไม่ต้องไปแบงค์ โอนย้ายเงินจากบัญชีนั้นไปบัญชีนี้ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมด้วย เราว่านะจะออมแบบไหนมันมีประโยชน์หมดและเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเราซะด้วย ถ้าฝึกทำบ่อยๆ ก็จะชินเองแถมมีเงินเก็บสบายๆ ลองเก็บเล็กผสมน้อยไปเดี๋ยวก็มีมากขึ้นเองค่ะ หวังว่าเรื่องที่นำมาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะคะ ใครที่ยังไม่เคยออมเงินอยากให้ลองเริ่มกันดูนะ ยิ่งเก็บยิ่งมีมากขึ้นเชื่อสิ ถ้าใครมีวิธีไหนที่น่าสนใจ เชิญเอามาแบ่งปันกันได้เลยนะค้า
ชวนมนุษย์เงินเดือนมาแชร์กันค่ะ เศรษฐกิจแบบนี้ เก็บออมวิธีไหนกันบ้างคะ
ความจริงเราเป็นคนชอบออมเงินมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะพ่อสอนให้ออมเงินตลอด ในห้องนอนนี่ต้องมีกระปุกออมสินตั้งเอาไว้หัวเตียงเลย วันนี้ใช้ตังค์ไปเหลือเท่าไรก็เอามาหยอดกระปุกตลอดทุกวันเป็นกิจวัตรไปเลย แล้วทุกสิ้นเดือนเนี่ย พ่อก็จะชวนมานับเงินที่หยอดไว้ แล้วหลังจากนั้นก็พาเราไปธนาคารฝากเงินเก็บไว้ให้เราทุกเดือน มันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แหละ แต่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจมากที่ได้มีเงินเก็บเป็นของตัวเอง แล้วก็เลยติดนิสัยชอบหยอดกระปุกไปนับตั้งแต่นั้นแหละ
ต้องบอกก่อนว่าเงินเดือนที่เราได้คือหมื่นปลายๆนะคะ ก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับเด็กจบใหม่นั่นแหละ
“ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ” พี่ตูนกล่าวเอาไว้ แต่เราขอใช้ด้วยคนละกัน เพราะคนเราต้องมีจุดมุ่งหมายและต้องเดินไปให้ได้ตามฝัน และเป้าหมายของเราก็มีเยอะเลย อีกเรื่องหนึ่งก็คือตั้งใจว่าจะเอาเงินเก็บไปซื้อทองเป็นของขวัญปีใหม่ให้พ่อกับแม่ แต่ก็ไม่เคยซื้อทองไม่เคยแม้แต่เข้าร้านทอง เลยไม่กล้า ปกติเราชอบเล่นเน็ตอยู่แล้วพอดีไปอ่านเจอข่าวที่เค้าแนะนำแอพออมทองที่ชื่อ HelloGold เป็นแอพออมทองสำหรับคนเงินน้อยแต่อยากมีทองเป็นของตัวเองอย่างเรา ขั้นต่ำ 10 บาทก็ฝากได้แล้ว เราเลยเอาเงินที่เหลือนิดๆหน่อยๆ ฝากในแอพนี้วันละ 10-20 บาทก็ยังดี สะสมไปเรื่อยๆ
ที่จริงแอพนี้ถ้าเราสะสมทองครบ 1 กรัม ก็ถอนได้เลยนะ แต่ข้อเสียคือมูลค่าน้อยเกินถ้าบวกค่ากำเหน็จทองและค่าใช้จ่ายในการขนส่งทองอีกมันอาจยังไม่คุ้มอ่ะ อีกอย่างสมัยนี้ใครๆ ก็ทำธุรกรรมออนไลน์กันหมดแล้วเราเลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องถอนออกมาเป็นทองเลย ถอนออกมาเป็นเงินดีกว่า ตอนนี้ก็รอจังหวะที่ราคาทองพุ่งขึ้นเยอะๆ แล้วค่อยให้แอพช่วยคำนวนราคาทองที่คุ้มที่สุดให้เราแล้วค่อยถอนออกมาตอนนั้นล่ะกัน ที่จริงเราก็ยังไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการซื้อขายทองมากเท่าไรยังมีงงๆ อยู่บ้างกับการคำนวนค่าทองเป็นเงิน แต่คิดว่าถ้าศึกษาเพิ่มเติมอีกนิดน่าจะเก่งขึ้น
เงินในบัญชีที่เก็บๆตอนนี้ก็ไม่มากหรอกค่ะ แต่เน้นค่อยๆออมอย่างมีเป้าหมาย ทำให้เป็นนิสัยไว้ดีสุด เทคนิคของเราจะเน้นเซฟทุกอย่างที่สุด คือโหลดแอพมาไว้ในมือถือ เพราะมันค่อนข้างสะดวกในการใช้จ่ายไม่ต้องไปแบงค์ โอนย้ายเงินจากบัญชีนั้นไปบัญชีนี้ก็ไม่เสียค่าธรรมเนียมด้วย เราว่านะจะออมแบบไหนมันมีประโยชน์หมดและเป็นเรื่องง่ายๆ ใกล้ตัวเราซะด้วย ถ้าฝึกทำบ่อยๆ ก็จะชินเองแถมมีเงินเก็บสบายๆ ลองเก็บเล็กผสมน้อยไปเดี๋ยวก็มีมากขึ้นเองค่ะ หวังว่าเรื่องที่นำมาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะคะ ใครที่ยังไม่เคยออมเงินอยากให้ลองเริ่มกันดูนะ ยิ่งเก็บยิ่งมีมากขึ้นเชื่อสิ ถ้าใครมีวิธีไหนที่น่าสนใจ เชิญเอามาแบ่งปันกันได้เลยนะค้า