คือไปนอนโรงพยาบาลมา มีอาหารอ่อนเพลีย แพ้อากาศ กรดไหลย้อน ทานอะไรเข้าไปก็ปวดท้องมาก นอนไม่หลับ กระสับส่าย งานเยอะ ไม่ค่อยได้นอน คุณหมอเลยบอกแอดมิดละกัน จะได้พัก
ก็โอเคมากๆเลยครับ ก็รู้สึกว่าได้นอนก็ดีขึ้น จนตอนกลางคืน รู้สึกว่า สองสามทุ่มเราอยากจะนอน แต่นอนไม่หลับ ก็นึกว่าแปลกที่ คนเฝ้าก็พยายามเข้ามาคุยให้ผ่อนคลายว่ากันไป จนสี่ทุ่ม จนห้าทุ่ม จนตีหนึ่ง สอง สองครึ่ง พยายามนอนก็ไม่หลับ และมีอาการอื่น คือ แน่นหน้าอก แบบเบาๆ ทุกครั้งที่หลับตา ใจสั่นมาก จนได้ยินเสียงดัง ตึกๆๆๆๆ ในหู หายใจไม่ค่อยออก เหงื่อออกมากกกก จนเปียกไปทั้งหน้าอกและคอ..... อาการทั้งหมดเกิดขึ้นมาตั้งแต่ประมาณสี่ห้าทุ่ม แต่เราคิดว่าเราแปลกที่ นอนไม่หลับเอง ก็นอน ทน ๆๆๆ
ตีสองครึ่ง คนเฝ้าไข้หลับไปแล้ว ตัดสินใจ พยายามลุกขึ้นจากเตียง ลากตัวเองออกไปหาพยาบาล บอกว่า คิดว่าไม่ปกติ ช่วยมาดูหน่อย
พยาบาลเดินเข้ามาเปิดไฟ ถามว่าจะหาคุณหมอไหม อาการเป็นอย่างไร ก็เล่าให้เค้าฟัง โดยเฉพาะตอนนั้น รู้สึกใจสั่นมากกกกกจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะหัวใจของบี้ สุกิต!
เลยสรุปตามหมอเวร หมอมาตอนใกล้ตีสาม คุณหมอคงเพิ่งตื่น หัวฟูงัวเงียมา
คุณหมอเดินมาฟังเสียงหัวใจ หยิบแฟ้มพลิกไปมา พยาบาลยืนอยุ่ใกล้ๆ แล้วคุณหมอก็บอกว่า
อ๋อ......คุณหมอเจ้าของไข้ให้ยาแก้ไข้แก้หวัด มันจะมีไซด์เอฟเฟ็ค ทำให้ใจสั่นได้ ไม่เป็นไร ทานน้ำ แล้วพยายามนอนนะครับ เด่วพรุ่งนี้จะให้พยาบาลแจ้งหมอให้งดยาเปลี่ยนยา
ตอนนั้นตกใจ เลยถามหมอเวรไปว่า คือผมแพ้ยาตัวนี้หรือครับ .....หมอเวรตอบว่า คิดว่าไม่นะครับ เป้นอาการปกติของคนที่ได้รับยาแก้หวัดตัวนี้ ใจสั่นกันแทบทุกคน.......
ok! ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ก็พยายามนอน ซึ่งก็ไม่หลับจนเช้า เหมือนหัวใจจะทะลุออกมา 5555 แต่ยังหายใจได้ อะไรได้ปกติครับ
นอนสองคืน คืนต่อมาก็ยังนอนไม่หลับ แต่ไม่แย่มากเหมือนคืนแรก เข้าใจว่าหมอปรับยา
จนพอตอนออกโรงพยาบาล เสียค่าใช้จ่ายตามปกติ ประกันออกเกือบหมด ไม่ได้อะไร
แต่ในใบสรุปค่าใช้จ่าย มีการเรียกเก็บค่าแพทย์เวรฉุกเฉิน และค่าบริการพิเศษฉุกเฉินในคืนแรก เป็นจำนวนเงินประมาณเกือบ 2500 บาท
อดไม่ได้ที่จะคิดว่า จริงๆแล้วก็ยุติธรรมใช่ไหมครับ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้
เพราะ หมอเจ้าของไข้ให้ยาที่มีอาการข้างเคียง - อาการค้างเคียงเกิดขึ้นกับแทบทุกคน - คนไข้ใจสั่นแทบระเบิด - ตามพยาบาล พยาบาลถามว่าจะเรียกหมอเวรไหม - ก็ควรเรียกไหมหล่ะครับ คุณพยาบาลก็บอกว่าหัวใจเต้นเร็วมาก เสื้อเปียกไปทั้งตัว - คุณหมอเวรมาท่านก็ตรวจบอกว่าไม่มีอะไรครับ เป็นอาการที่ยา ไม่น่ามีอะไร พยายามนอนนะครับ ..........โอเคครับ จะพยายาม จะเช้าแล้ว 5555
.............
คือคุณหมอมาแล้ว ก็คิดว่าต้องเสียค่าบริการให้ท่านนะครับ ไม่ได้คิดว่าจะเรียกหมอมาฟรี แต่ในทางการรักษา มันก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงของเราหรือครับ แล้วทำไมแพทย์เจ้าของไข้หรือพยาบาลไม่บอกเราว่า ยามันน่าจะทำให้ใจสั่นพั่บๆนะครับ ไม่ต้องตกใจ คือ แล้วเราจะไปรู้ได้ไงครับ นอนไม่หลับทั้งคืน นี่มาแอดมิดเพราะร่างกายอ่อนแอมากนะครับ กลายเป็นไม่ได้นอนแย่กว่าที่บ้านอีก ตอนนั้นคิดว่าเป็นอะไรกระทันหันหรือเปล่า ก็เรียกหมอไว้ก่อน
สองพันก็เงิน เรามีประกันโชคดี คนอื่นโดนไปเต็มๆ
พูดยากนะครับ ไม่ดราม่านะครับ แค่คิดอะไรเล่นๆ
นอนโรงพยาบาล แล้วมีการเก็บค่าใช้จ่ายแบบนี้ ก็ถือว่าโอเคไหมครับ คิดๆๆๆๆๆ
ก็โอเคมากๆเลยครับ ก็รู้สึกว่าได้นอนก็ดีขึ้น จนตอนกลางคืน รู้สึกว่า สองสามทุ่มเราอยากจะนอน แต่นอนไม่หลับ ก็นึกว่าแปลกที่ คนเฝ้าก็พยายามเข้ามาคุยให้ผ่อนคลายว่ากันไป จนสี่ทุ่ม จนห้าทุ่ม จนตีหนึ่ง สอง สองครึ่ง พยายามนอนก็ไม่หลับ และมีอาการอื่น คือ แน่นหน้าอก แบบเบาๆ ทุกครั้งที่หลับตา ใจสั่นมาก จนได้ยินเสียงดัง ตึกๆๆๆๆ ในหู หายใจไม่ค่อยออก เหงื่อออกมากกกก จนเปียกไปทั้งหน้าอกและคอ..... อาการทั้งหมดเกิดขึ้นมาตั้งแต่ประมาณสี่ห้าทุ่ม แต่เราคิดว่าเราแปลกที่ นอนไม่หลับเอง ก็นอน ทน ๆๆๆ
ตีสองครึ่ง คนเฝ้าไข้หลับไปแล้ว ตัดสินใจ พยายามลุกขึ้นจากเตียง ลากตัวเองออกไปหาพยาบาล บอกว่า คิดว่าไม่ปกติ ช่วยมาดูหน่อย
พยาบาลเดินเข้ามาเปิดไฟ ถามว่าจะหาคุณหมอไหม อาการเป็นอย่างไร ก็เล่าให้เค้าฟัง โดยเฉพาะตอนนั้น รู้สึกใจสั่นมากกกกกจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นเป็นจังหวะหัวใจของบี้ สุกิต!
เลยสรุปตามหมอเวร หมอมาตอนใกล้ตีสาม คุณหมอคงเพิ่งตื่น หัวฟูงัวเงียมา
คุณหมอเดินมาฟังเสียงหัวใจ หยิบแฟ้มพลิกไปมา พยาบาลยืนอยุ่ใกล้ๆ แล้วคุณหมอก็บอกว่า
อ๋อ......คุณหมอเจ้าของไข้ให้ยาแก้ไข้แก้หวัด มันจะมีไซด์เอฟเฟ็ค ทำให้ใจสั่นได้ ไม่เป็นไร ทานน้ำ แล้วพยายามนอนนะครับ เด่วพรุ่งนี้จะให้พยาบาลแจ้งหมอให้งดยาเปลี่ยนยา
ตอนนั้นตกใจ เลยถามหมอเวรไปว่า คือผมแพ้ยาตัวนี้หรือครับ .....หมอเวรตอบว่า คิดว่าไม่นะครับ เป้นอาการปกติของคนที่ได้รับยาแก้หวัดตัวนี้ ใจสั่นกันแทบทุกคน.......
ok! ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ก็พยายามนอน ซึ่งก็ไม่หลับจนเช้า เหมือนหัวใจจะทะลุออกมา 5555 แต่ยังหายใจได้ อะไรได้ปกติครับ
นอนสองคืน คืนต่อมาก็ยังนอนไม่หลับ แต่ไม่แย่มากเหมือนคืนแรก เข้าใจว่าหมอปรับยา
จนพอตอนออกโรงพยาบาล เสียค่าใช้จ่ายตามปกติ ประกันออกเกือบหมด ไม่ได้อะไร
แต่ในใบสรุปค่าใช้จ่าย มีการเรียกเก็บค่าแพทย์เวรฉุกเฉิน และค่าบริการพิเศษฉุกเฉินในคืนแรก เป็นจำนวนเงินประมาณเกือบ 2500 บาท
อดไม่ได้ที่จะคิดว่า จริงๆแล้วก็ยุติธรรมใช่ไหมครับ ที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้
เพราะ หมอเจ้าของไข้ให้ยาที่มีอาการข้างเคียง - อาการค้างเคียงเกิดขึ้นกับแทบทุกคน - คนไข้ใจสั่นแทบระเบิด - ตามพยาบาล พยาบาลถามว่าจะเรียกหมอเวรไหม - ก็ควรเรียกไหมหล่ะครับ คุณพยาบาลก็บอกว่าหัวใจเต้นเร็วมาก เสื้อเปียกไปทั้งตัว - คุณหมอเวรมาท่านก็ตรวจบอกว่าไม่มีอะไรครับ เป็นอาการที่ยา ไม่น่ามีอะไร พยายามนอนนะครับ ..........โอเคครับ จะพยายาม จะเช้าแล้ว 5555
.............
คือคุณหมอมาแล้ว ก็คิดว่าต้องเสียค่าบริการให้ท่านนะครับ ไม่ได้คิดว่าจะเรียกหมอมาฟรี แต่ในทางการรักษา มันก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงของเราหรือครับ แล้วทำไมแพทย์เจ้าของไข้หรือพยาบาลไม่บอกเราว่า ยามันน่าจะทำให้ใจสั่นพั่บๆนะครับ ไม่ต้องตกใจ คือ แล้วเราจะไปรู้ได้ไงครับ นอนไม่หลับทั้งคืน นี่มาแอดมิดเพราะร่างกายอ่อนแอมากนะครับ กลายเป็นไม่ได้นอนแย่กว่าที่บ้านอีก ตอนนั้นคิดว่าเป็นอะไรกระทันหันหรือเปล่า ก็เรียกหมอไว้ก่อน
สองพันก็เงิน เรามีประกันโชคดี คนอื่นโดนไปเต็มๆ
พูดยากนะครับ ไม่ดราม่านะครับ แค่คิดอะไรเล่นๆ