จขกท. ได้อ่านบทความนี้ช่วงที่กำลังอินกับหนัง Midsommar พอดี รู้สึกสนุกจนอดแปลมาลงไม่ได้
// ที่เลือกตั้งกระทู้คำถามเพราะมีสมาชิกบัตรผ่านหลายคนบอกว่า
อยากร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ไม่สามารถทำได้ ถ้าเป็นกระทู้คำถามจึงจะแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ
ยูริโกะแต่งงานตอนอายุ 28 และหย่าตอนอายุ 32
" ฉันแต่งงานกับเพื่อนร่วมงานที่อายุมากกว่า 2 ปี แต่แล้วเราก็รู้ตัวว่าเราเหมือนพี่ชายกับน้องสาวมากกว่า
สุดท้ายเราทั้งคู่จึงหย่ากัน "
#ยูริโกะกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง
หลังจากนั้น เธอก็ใช้บริการหาคู่โดยผู้เชี่ยวชาญ ( สำหรับสังคมญี่ปุ่น การใช้บริการหาคู่คือเรื่องปกติมาก
" ฉันได้พบกับริวอิจิ
เค้าอายุน้อยกว่าฉัน 2 ปี เค้าเป็นลูกชายของผู้นำหมู่บ้านในจังหวัดหนึ่ง ริวอิจิจะเดินทางมาหาฉันที่โตเกียวโดยรถบัสด่วนทุกสัปดาห์ "
*****************
*****************
ฉันถูกริวอิจิรุกอย่างหนักทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน
" ผมอยากแต่งงานกับคุณ มาเถอะ ผมจะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับพ่อแม่ จากโตเกียวไปที่นั่นใช่เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง คุณต้องชอบที่นั่น "
#ไม่นานทั้งคู่ก็ไปพบพ่อแม่ฝ่ายชายที่ต่างจังหวัด
บ้านของพ่อแม่ของริวอิจิตั้งอยู่ในชนบทท่ามกลางทิวทัศน์ของภูเขา มันสวยงามเหมือนฉากในภาพยนตร์ที่ยูริโกะเคยเห็น อากาศที่บริสุทธื์ของที่นี่ทำให้ยูริโกะรู้สึกสดชื่นและมีพลังชีวิต
#ใช่ เธอรู้สึกชอบที่นี่อย่างที่ริวอิจิบอกจริงๆ ด้วย
" ตอนที่ฉันไปพบกับครอบครัวเค้า พวกเค้าดีกับฉันมาก ๆ ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำอาหารท้องถิ่นให้ และพูดคุยกับฉันด้วยความเป็นกันเอง
ฉันรู้สึกมีความสุข และฝันถึงการได้ใช้ชีวิตกับคนรักในชทบทที่เงียบสงบและสวยงามเหมือนสวรรค์นี้ "
#จนกระทั่งแม่ของริวอิจิพูดอะไรบางอย่าง
" ยูริโกะซังควรมีเด็กผู้ชายให้พวกเรา และคอยอยู่ดูแลพวกเรา "
" รีบแต่งงานกับริวอิจิซ่ะ "
" ที่นี่เราอยู่รวมกัน ถึงแต่งงานไปก็ไม่แยกครอบครัว "
แม่ของเค้าเริ่มพูด บรรยากาศตอนนี้ทำให้ยูริโกะรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก
" ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกบังคับให้อยู่ในหมู่บ้านนี้และไม่สามารถออกไปได้ตลอดชีวิต "
********
********
ยูริโกะเล่าเรื่องนี้ให้ริวอิจิฟัง แต่เค้ากลับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ
" ในหมู่บ้านนี้คำว่า 'ดูแลพวกเรา' หมายความว่าคุณได้รับการยอมรับแล้ว
อันที่จริง มันก็เป็นหน้าที่ของพวกผู้หญิงด้วยไม่ใช่เหรอ ที่จะต้องดูแลทุกคน "
คำตอบของริวอิจิ ทำให้ยูริโกะ รู้สึกทั้งหนาวและหนักที่หลังแปลกๆ
ข่าวลือเกี่ยวกับการมาถึงของเธอกระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เหล่าบรรดาผู้คนและผู้อาวุโสของหมู่บ้านเริ่มประชุมกัน
"เราจะมีพิธีแต่งงานตามพิธีกรรมของหมู่บ้าน"
ฉันได้แต่ฟังอย่างตะลึง
ทุกคนพูดถึงพิธีแต่งงานของฉัน โดยที่ไม่สนใจฉันทั้ง ๆ ที่ฉันก็นั่งอยู่ด้วย
********
********
#ความอัปยศของผู้หญิงเป็นความอัปยศของหมู่บ้าน
อีกเรื่องคือสำหรับหมู่บ้านนี้ผู้หญิงที่หย่าร้างแล้วเป็นคนอัปยศและนอกรีต และไม่เป็นที่ยอมรับอย่างมากๆ
ริวอิจิปกปิดเรื่องที่ยูริโกะเคยแต่งงานและหย่าใว้ไม่ให้คนในหมู่บ้านรู้ แม้แต่พ่อของเค้า แม้ยูริโกะจะต้องการให้เค้าบอกเรื่องนี้กับพ่อ แต่เค้ากลับทำหูทวนลมทุกที
และเมื่อถึงวันหยุดงานเสาร์ - อาทิตย์
เธออยากจะออกไปเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้าน ออกไปดูธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก ฯลฯ เมื่อเธอชวนยูจิ เค้าได้แต่ส่ายหัวและพูดว่า
" วันเสาร์และวันอาทิตย์จะมีการฝึกซ้อมดับเพลิงท้องถิ่นตั้งแต่เช้าจนถึงดึก "
" ส่วนพวกผู้หญิงมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และคอยให้ความบันเทิงกับพวกผู้ชายหลังการซ้อม "
#ถึงแม้มันเป็นประโยคบอกเล่า แต่ยูริโกะกลับรู้สึกเหมือนนี่คือคำสั่ง
คนในหมู่บ้านรวมตัวกันในวันเสาร์วันอาทิตย์รวมทั้งวันหยุดอื่น ๆ วันหยุดและเริ่มต้นการดับเพลิงตอนเช้าที่ศาลาสาธารณะตั้งแต่ตี 5 จนถึงดึก
และเมื่อเลิกการซ้อมจะมีการดื่มสังสรรของทุกคน นี่คือกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำร่วมกัน
#มันคือกฎของคนในหมู่บ้าน
" มันไม่สนุก แต่มันคือหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำ ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ฉันถูกบังคับให้ต้องไปร่วมกิจกรรม คอยทำอาหาร และดื่มสังสรรกับคนในหมู่บ้าน "
#ฉันอยากร้องไห้และเริ่มคิดอย่างจริงจังว่าฉันมาทำอะไรที่นี่กันแน่
********
********
ฉันเคยคิดว่าการย้ายมาอยู่ที่นี่ มันคือการเยียวยา ฉันคงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ มีหลายอย่างที่ผู้หญิงในหมู่บ้านนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ
มีงานเทศกาลหลายครั้งต่อปี
ที่ผู้หญิงต้องทำอาหารและสนับสนุนเบื้องหลัง หากมีงานพิธีของชาวบ้าน คุณต้องหยุดทำงานและไปให้ความบันเทิงกับผู้ชาย ตราบใดที่คุณอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่มีทางเลือกที่จะไม่เข้าร่วมในกิจกรรม
ผู้หญิงมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง ทุกคนทำงานหนักเหมือนม้าลากรถ แต่กลับดูเหมือนพลเมืองชั้นสองก็ไม่ปาน
#ยูริโกะรู้สึกอึดอัดกับวิถีชีวิตแบบนี้เหลือเกิน
*******
*******
วันนึงเธอบังเอิญได้พบกับชายที่มาจากโตเกียว ชายที่มาจากที่เดียวกับเธอ
เธอรู้สึกดีใจ ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ
เค้าเล่าให้เธอฟังว่าเค้าอยากใช้ชีวิตในชนบท และวาดฝันถึงชีวิตที่สวยงามที่นี่
#เหมือนที่ยูริโกะเองก็เคยทำในครั้งแรก
เธอคิด แต่ไม่ได้พูดออกไป
และใช่ ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่เค้าได้ประสบเป็นความขมขื่นไม่ต่างกัน
เค้าหางานไม่ได้ เพราะหมู่บ้านนี้ไม่ต้อนรับคนนอก เค้าถูกชาวบ้านกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา
และสุดท้ายผู้คนในหมู่บ้านก็รวมตัวกันขับไล่เค้าให้ออกไปจากหมู่บ้าน
เพื่อนเพียงคนเดียวของยูริโกะจากไปแล้ว ....
ตอนนี้เหลือแค่เธอคนเดียวที่เป็นคนนอก
#ยูริโกะถูกบังคับให้มีชีวิตที่เหมือนหายใจไม่ออกในทุกๆ วัน
จนวันนึงความอดทนของเธอก็สิ้นสุด
เธอแอบหนีไปเที่ยวในเมืองโดยไม่บอกใคร
ข่าวลือการแอบออกจากหมู่บ้านแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
เกิดความวุ่นวายประหนึ่งจลาจลย่อมๆ ขึ้นทันที
"ฉันไม่สามารถยกโทษให้ผู้หญิงคนนี้ที่ออกไปเที่ยวคนเดียวในวันหยุด "
" ผู้หญิงของหมู่บ้านนี้ไม่ได้รับอณุญาตให้ออกไปไหนโดยลำพัง มันเป็นกฏ !! "
พ่อของริวอิจิตะโกนเสียงดังกลางที่ประชุมของหมู่บ้าน นั่นทำให้เธอตกตะลึงมาก
ผู้คนมองเธอด้วยสายตาตำหนิ และเริ่มซุบซิบเรื่องของเธอ
ในตอนนั้นเองเธอคิดได้ว่า เธอไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ
#ยูริโกะตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานและถอนหมั้นกับริวอิจิทันที
เธอบอกเค้าว่า เธอจะรอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงจะไปจากที่นี้
แต่แล้วเธอก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามาที่ข่มขู่และด่าทอเธอไม่หยุด เป็นสิบ ๆ สาย
เธอกลัวและรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
ต่อให้เธอไปแจ้งความ ตำรวจที่นี่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เธอตัดสินใจว่าต้องไปจากที่นี่ในตอนนี้เลย
*********
*********
ยูริโกะออกจากหมู่บ้านที่น่ากลัวเพื่อกลับโตเกียว
ทันทีที่หนีมาได้ เธอได้เล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวฟัง
" พ่อแม่ของฉันพูดว่าดีใจที่ฉันไม่ได้แต่งงานกับชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นตอนนี้ฉันอาจตาย หายสาบสูญ หรือกลายเป็นบ้าไปแล้วก็ได้
นั่นก็คงจะจริง เป็นแบบนั้นจริง ๆ
มองย้อนกลับไป มันช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าขนลุกสำหรับฉันจริงๆ โชคดีเหลือเกินที่รอดมาได้ "
********
********
** หมายเหตุ :: ตอนที่อ่านเรื่องนี้จบ และได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่ญี่ปุ่น เพื่อนหลายคนบอกว่า อันที่จริงตามหมู่บ้านชนบทมีแบบนี้หลายที่เหมือนกัน
มันคือสังคมผู้ชายเป็นใหญ่นะแหละ
ในสังคมนี้ผู้หญิงจะถูกกด ถูกห้ามทำอะไร ๆ หลายอย่าง ถ้าคนที่เติบโตมาแบบนี้ก็จะชิน แต่ถ้าเป็นคนที่มาจากในเมืองที่สังคมเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้ว จะไม่สามารถทนอยู่แบบนี้ได้
เค้าจึงไม่ค่อยต้อนรับคนนอก กลัวคนนอกมาทำให้คนในที่เค้าอยู่จนชินกับวิถีชีวิตไขว้เขวด้วย
จขกท. ได้มีโอกาสคุยกับหญิงไทยสองสามคนที่เคยหลงเข้าไปอยู่วังวนนี้ กว่าจะหลุดมาได้ โชกเลือดเลยก็ว่าได้
*********
*********
บทความแปลภาษาญี่ปุ่นและนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่ออรรถรสในการอ่านโดย เพจ :: ซากุระเที่ยงคืน.
https://www.facebook.com/SakuraInDaDark/
(
ฝากเพจด้วยนะคะ เป็นเพจที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน และด้านมืดของสังคมญี่ปุ่น )
บทความต้นฉบับโดยคุณ Kumiko Kanno : นักเขียนอิสระ:
ลิ้ค์งต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
👇🏻👇🏻👇🏻
https://toyokeizai.net/articles/-/256271
#ภาพประกอบบทความเฉยๆ ไม่ใช่ยูริโกะ
// ป ล. จขกท. อาจตกหล่นความเข้าใจเรื่องใด ๆ ไปบ้าง #แนะนำติชมบอกกล่าวได้ทุกอย่างนะคะ
#เรื่องเล่าจากญี่ปุ่น ชีวิตแสนหวานในหมู่บ้านชนบท !!??
// ที่เลือกตั้งกระทู้คำถามเพราะมีสมาชิกบัตรผ่านหลายคนบอกว่า
อยากร่วมแสดงความคิดเห็น แต่ไม่สามารถทำได้ ถ้าเป็นกระทู้คำถามจึงจะแสดงความคิดเห็นได้ค่ะ
ยูริโกะแต่งงานตอนอายุ 28 และหย่าตอนอายุ 32
" ฉันแต่งงานกับเพื่อนร่วมงานที่อายุมากกว่า 2 ปี แต่แล้วเราก็รู้ตัวว่าเราเหมือนพี่ชายกับน้องสาวมากกว่า
สุดท้ายเราทั้งคู่จึงหย่ากัน "
#ยูริโกะกลับไปอยู่คนเดียวอีกครั้ง
หลังจากนั้น เธอก็ใช้บริการหาคู่โดยผู้เชี่ยวชาญ ( สำหรับสังคมญี่ปุ่น การใช้บริการหาคู่คือเรื่องปกติมาก
" ฉันได้พบกับริวอิจิ
เค้าอายุน้อยกว่าฉัน 2 ปี เค้าเป็นลูกชายของผู้นำหมู่บ้านในจังหวัดหนึ่ง ริวอิจิจะเดินทางมาหาฉันที่โตเกียวโดยรถบัสด่วนทุกสัปดาห์ "
*****************
*****************
ฉันถูกริวอิจิรุกอย่างหนักทั้ง ๆ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่นาน
" ผมอยากแต่งงานกับคุณ มาเถอะ ผมจะพาคุณไปแนะนำให้รู้จักกับพ่อแม่ จากโตเกียวไปที่นั่นใช่เวลาแค่ไม่กี่ชั่วโมง คุณต้องชอบที่นั่น "
#ไม่นานทั้งคู่ก็ไปพบพ่อแม่ฝ่ายชายที่ต่างจังหวัด
บ้านของพ่อแม่ของริวอิจิตั้งอยู่ในชนบทท่ามกลางทิวทัศน์ของภูเขา มันสวยงามเหมือนฉากในภาพยนตร์ที่ยูริโกะเคยเห็น อากาศที่บริสุทธื์ของที่นี่ทำให้ยูริโกะรู้สึกสดชื่นและมีพลังชีวิต
#ใช่ เธอรู้สึกชอบที่นี่อย่างที่ริวอิจิบอกจริงๆ ด้วย
" ตอนที่ฉันไปพบกับครอบครัวเค้า พวกเค้าดีกับฉันมาก ๆ ทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำอาหารท้องถิ่นให้ และพูดคุยกับฉันด้วยความเป็นกันเอง
ฉันรู้สึกมีความสุข และฝันถึงการได้ใช้ชีวิตกับคนรักในชทบทที่เงียบสงบและสวยงามเหมือนสวรรค์นี้ "
#จนกระทั่งแม่ของริวอิจิพูดอะไรบางอย่าง
" ยูริโกะซังควรมีเด็กผู้ชายให้พวกเรา และคอยอยู่ดูแลพวกเรา "
" รีบแต่งงานกับริวอิจิซ่ะ "
" ที่นี่เราอยู่รวมกัน ถึงแต่งงานไปก็ไม่แยกครอบครัว "
แม่ของเค้าเริ่มพูด บรรยากาศตอนนี้ทำให้ยูริโกะรู้สึกอึดอัดเหมือนจะหายใจไม่ออก
" ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกบังคับให้อยู่ในหมู่บ้านนี้และไม่สามารถออกไปได้ตลอดชีวิต "
********
********
ยูริโกะเล่าเรื่องนี้ให้ริวอิจิฟัง แต่เค้ากลับหัวเราะอย่างไม่ใส่ใจ
" ในหมู่บ้านนี้คำว่า 'ดูแลพวกเรา' หมายความว่าคุณได้รับการยอมรับแล้ว
อันที่จริง มันก็เป็นหน้าที่ของพวกผู้หญิงด้วยไม่ใช่เหรอ ที่จะต้องดูแลทุกคน "
คำตอบของริวอิจิ ทำให้ยูริโกะ รู้สึกทั้งหนาวและหนักที่หลังแปลกๆ
ข่าวลือเกี่ยวกับการมาถึงของเธอกระจายไปทั่วหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว เหล่าบรรดาผู้คนและผู้อาวุโสของหมู่บ้านเริ่มประชุมกัน
"เราจะมีพิธีแต่งงานตามพิธีกรรมของหมู่บ้าน"
ฉันได้แต่ฟังอย่างตะลึง
ทุกคนพูดถึงพิธีแต่งงานของฉัน โดยที่ไม่สนใจฉันทั้ง ๆ ที่ฉันก็นั่งอยู่ด้วย
********
********
#ความอัปยศของผู้หญิงเป็นความอัปยศของหมู่บ้าน
อีกเรื่องคือสำหรับหมู่บ้านนี้ผู้หญิงที่หย่าร้างแล้วเป็นคนอัปยศและนอกรีต และไม่เป็นที่ยอมรับอย่างมากๆ
ริวอิจิปกปิดเรื่องที่ยูริโกะเคยแต่งงานและหย่าใว้ไม่ให้คนในหมู่บ้านรู้ แม้แต่พ่อของเค้า แม้ยูริโกะจะต้องการให้เค้าบอกเรื่องนี้กับพ่อ แต่เค้ากลับทำหูทวนลมทุกที
และเมื่อถึงวันหยุดงานเสาร์ - อาทิตย์
เธออยากจะออกไปเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้าน ออกไปดูธรรมชาติ ภูเขา น้ำตก ฯลฯ เมื่อเธอชวนยูจิ เค้าได้แต่ส่ายหัวและพูดว่า
" วันเสาร์และวันอาทิตย์จะมีการฝึกซ้อมดับเพลิงท้องถิ่นตั้งแต่เช้าจนถึงดึก "
" ส่วนพวกผู้หญิงมีหน้าที่จัดเตรียมอาหารและเครื่องดื่ม และคอยให้ความบันเทิงกับพวกผู้ชายหลังการซ้อม "
#ถึงแม้มันเป็นประโยคบอกเล่า แต่ยูริโกะกลับรู้สึกเหมือนนี่คือคำสั่ง
คนในหมู่บ้านรวมตัวกันในวันเสาร์วันอาทิตย์รวมทั้งวันหยุดอื่น ๆ วันหยุดและเริ่มต้นการดับเพลิงตอนเช้าที่ศาลาสาธารณะตั้งแต่ตี 5 จนถึงดึก
และเมื่อเลิกการซ้อมจะมีการดื่มสังสรรของทุกคน นี่คือกิจกรรมที่ทุกคนต้องทำร่วมกัน
#มันคือกฎของคนในหมู่บ้าน
" มันไม่สนุก แต่มันคือหน้าที่ที่ทุกคนต้องทำ ฉันไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน ฉันถูกบังคับให้ต้องไปร่วมกิจกรรม คอยทำอาหาร และดื่มสังสรรกับคนในหมู่บ้าน "
#ฉันอยากร้องไห้และเริ่มคิดอย่างจริงจังว่าฉันมาทำอะไรที่นี่กันแน่
********
********
ฉันเคยคิดว่าการย้ายมาอยู่ที่นี่ มันคือการเยียวยา ฉันคงได้เริ่มต้นชีวิตใหม่
แต่ในความเป็นจริงมันไม่ใช่ มีหลายอย่างที่ผู้หญิงในหมู่บ้านนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำ
มีงานเทศกาลหลายครั้งต่อปี
ที่ผู้หญิงต้องทำอาหารและสนับสนุนเบื้องหลัง หากมีงานพิธีของชาวบ้าน คุณต้องหยุดทำงานและไปให้ความบันเทิงกับผู้ชาย ตราบใดที่คุณอาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่มีทางเลือกที่จะไม่เข้าร่วมในกิจกรรม
ผู้หญิงมีหน้าที่ทำตามคำสั่ง ทุกคนทำงานหนักเหมือนม้าลากรถ แต่กลับดูเหมือนพลเมืองชั้นสองก็ไม่ปาน
#ยูริโกะรู้สึกอึดอัดกับวิถีชีวิตแบบนี้เหลือเกิน
*******
*******
วันนึงเธอบังเอิญได้พบกับชายที่มาจากโตเกียว ชายที่มาจากที่เดียวกับเธอ
เธอรู้สึกดีใจ ทั้งคู่คุยกันอย่างถูกคอ
เค้าเล่าให้เธอฟังว่าเค้าอยากใช้ชีวิตในชนบท และวาดฝันถึงชีวิตที่สวยงามที่นี่
#เหมือนที่ยูริโกะเองก็เคยทำในครั้งแรก
เธอคิด แต่ไม่ได้พูดออกไป
และใช่ ความจริงมันไม่ได้เป็นเช่นนั้น สิ่งที่เค้าได้ประสบเป็นความขมขื่นไม่ต่างกัน
เค้าหางานไม่ได้ เพราะหมู่บ้านนี้ไม่ต้อนรับคนนอก เค้าถูกชาวบ้านกลั่นแกล้งต่าง ๆ นานา
และสุดท้ายผู้คนในหมู่บ้านก็รวมตัวกันขับไล่เค้าให้ออกไปจากหมู่บ้าน
เพื่อนเพียงคนเดียวของยูริโกะจากไปแล้ว ....
ตอนนี้เหลือแค่เธอคนเดียวที่เป็นคนนอก
#ยูริโกะถูกบังคับให้มีชีวิตที่เหมือนหายใจไม่ออกในทุกๆ วัน
จนวันนึงความอดทนของเธอก็สิ้นสุด
เธอแอบหนีไปเที่ยวในเมืองโดยไม่บอกใคร
ข่าวลือการแอบออกจากหมู่บ้านแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
เกิดความวุ่นวายประหนึ่งจลาจลย่อมๆ ขึ้นทันที
"ฉันไม่สามารถยกโทษให้ผู้หญิงคนนี้ที่ออกไปเที่ยวคนเดียวในวันหยุด "
" ผู้หญิงของหมู่บ้านนี้ไม่ได้รับอณุญาตให้ออกไปไหนโดยลำพัง มันเป็นกฏ !! "
พ่อของริวอิจิตะโกนเสียงดังกลางที่ประชุมของหมู่บ้าน นั่นทำให้เธอตกตะลึงมาก
ผู้คนมองเธอด้วยสายตาตำหนิ และเริ่มซุบซิบเรื่องของเธอ
ในตอนนั้นเองเธอคิดได้ว่า เธอไม่ควรอยู่ที่นี่อีกต่อไป ที่นี่ไม่ใช่ที่ของเธอ
#ยูริโกะตัดสินใจยกเลิกการแต่งงานและถอนหมั้นกับริวอิจิทันที
เธอบอกเค้าว่า เธอจะรอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นก่อนแล้วจึงจะไปจากที่นี้
แต่แล้วเธอก็ได้รับโทรศัพท์ลึกลับโทรเข้ามาที่ข่มขู่และด่าทอเธอไม่หยุด เป็นสิบ ๆ สาย
เธอกลัวและรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย
ต่อให้เธอไปแจ้งความ ตำรวจที่นี่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เธอตัดสินใจว่าต้องไปจากที่นี่ในตอนนี้เลย
*********
*********
ยูริโกะออกจากหมู่บ้านที่น่ากลัวเพื่อกลับโตเกียว
ทันทีที่หนีมาได้ เธอได้เล่าเรื่องนี้ให้ครอบครัวฟัง
" พ่อแม่ของฉันพูดว่าดีใจที่ฉันไม่ได้แต่งงานกับชายคนนั้น ไม่เช่นนั้นตอนนี้ฉันอาจตาย หายสาบสูญ หรือกลายเป็นบ้าไปแล้วก็ได้
นั่นก็คงจะจริง เป็นแบบนั้นจริง ๆ
มองย้อนกลับไป มันช่างเป็นประสบการณ์ที่น่าขนลุกสำหรับฉันจริงๆ โชคดีเหลือเกินที่รอดมาได้ "
********
********
** หมายเหตุ :: ตอนที่อ่านเรื่องนี้จบ และได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ ที่ญี่ปุ่น เพื่อนหลายคนบอกว่า อันที่จริงตามหมู่บ้านชนบทมีแบบนี้หลายที่เหมือนกัน
มันคือสังคมผู้ชายเป็นใหญ่นะแหละ
ในสังคมนี้ผู้หญิงจะถูกกด ถูกห้ามทำอะไร ๆ หลายอย่าง ถ้าคนที่เติบโตมาแบบนี้ก็จะชิน แต่ถ้าเป็นคนที่มาจากในเมืองที่สังคมเปลี่ยนไปตามยุคสมัยแล้ว จะไม่สามารถทนอยู่แบบนี้ได้
เค้าจึงไม่ค่อยต้อนรับคนนอก กลัวคนนอกมาทำให้คนในที่เค้าอยู่จนชินกับวิถีชีวิตไขว้เขวด้วย
จขกท. ได้มีโอกาสคุยกับหญิงไทยสองสามคนที่เคยหลงเข้าไปอยู่วังวนนี้ กว่าจะหลุดมาได้ โชกเลือดเลยก็ว่าได้
*********
*********
บทความแปลภาษาญี่ปุ่นและนำมาเรียบเรียงใหม่เพื่ออรรถรสในการอ่านโดย เพจ :: ซากุระเที่ยงคืน.
https://www.facebook.com/SakuraInDaDark/
( ฝากเพจด้วยนะคะ เป็นเพจที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้คน และด้านมืดของสังคมญี่ปุ่น )
บทความต้นฉบับโดยคุณ Kumiko Kanno : นักเขียนอิสระ:
ลิ้ค์งต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น
👇🏻👇🏻👇🏻
https://toyokeizai.net/articles/-/256271
#ภาพประกอบบทความเฉยๆ ไม่ใช่ยูริโกะ
// ป ล. จขกท. อาจตกหล่นความเข้าใจเรื่องใด ๆ ไปบ้าง #แนะนำติชมบอกกล่าวได้ทุกอย่างนะคะ