เป็นพี่คนโตต้องแบกรับความกดดันไว้ทั้งหมดเลยหรอ ไม่ว่าจะควรช่วยพ่อปม่จ่ายค่าเทอมน้อง รวมถึงไม่สามารถมีชีวิตอิสระของตัวเอง

คือต้องเล่าก่อนว่า เราเป็นพี่คนโตสุด เรียนจบตั้งแต่19 ปี เพราะเรียนนอก ตั้งแต่เด็กไปเรียนกรุงเทพและสิงคโปร เลยไม่ได้อยู่บ้านที่ต่างจังหวัดกับที่บ้าน ทำงานมีเงินเดือนประมาณ3หมื่น ทุกวันนี้คืออยู่กับที่บ้านมีสมาชิกค่อยข้างหลายคน มีพ่อแม่ยาย ป้า และเรา และเราเป็นคนโตสุดอายุ24ปี มีน้องชาย2 คนเรียนกรุงเทพ1คนและโปแลนด์1คน ซึ่งทุกวันนี้ครอบครัวเราทำธุรกิจทัวร์ ซึ่งมันแย่มาก เพราะการทำธุรกิจมันต้องปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยให้ทันโลก แต่ที่บ้านเรายังอยู่ที่เดิม คือใช้วิธีเดิมๆ ทำให้ธุรกิจรายได้ไม่ได้จนถึงไม่มีแขก แต่ก็ไม่ได้พัฒนาอะไรต่อ ไม่คิดจะทำอย่างอื่นเพิ่มเติมหรือหาวิธีใหม่ๆเพื่อทำธุรกิจให้กลับมาดีเหมือนเดิม ทุกวันนี้ก็มีแค่เราที่อยู่บ้าน น้อง2คนก็ไม่อยู่ ซึ่งทำให้เรารู่สึกอึดอัดใคร ไม่ว่าเวลาเราจะมีแฟนหรืออะไร ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นทอม แล้วเราก็โตมากพอแล้วที่จะดูแลตัวเองได้ เวลาไปนอนบ้านแฟน แม่ก็จะว่าเสมอว่าไปนอนบ้านคนอื่นทำไม บ้านตัวเองก็มีทำไมไม่นอน พอเราเอาแฟนมานอนบ้าน ก็ไม่ชอบ แฟนคนล่าสุดทำงานเป็นกะ บางทีเข้าเช้า บางทีเข้าบ่าย ช่วงหลังๆเค้ามานอนกับเราเกือบทุกคืน แต่บางทีอาจทีตื่นสายบ้างเพราะเค้าทำงานดึก แต่ที่บ้านเราไม่พอใจ แม่โทรมาว่าเราว่า เจ้าของบ้านตื่นหมดแล้วทำไมมันยังนอนอยู่ บ้านตัวเองไม่มีให้นอนหรือไง ให้เค้านอนบ้านบ้างนะ ไม่ใช่มานอนแต่ที่นี้ ตั้งแต่นั้นเวลาเราไปทำงานตอนเช้า เราก็ปลุกแฟนไปด้วยทุกครั้ง เค้าก็ไปนอนต่อที่ทำงาน บางทีก็สงสารแฟน เราก็อยากอยู่ด้วยกัน แต่ก็เข้าใจที่บ้านแหละ เวลาพาเพื่อนมาก็เกรงใจ เวลาจะพาใครมาบ้างทีก็อย่าดีกว่าไปข้างนอกเอง หรือบางทีวันหยุดตัวเองอยากจะนอนตื่นสายก็ไม่ได้ พอตื่นสายก็โดนโกรธโดนเมินไม่พอใจ บางทีเราอึดอัดใจมากๆ เรารู้นะว่าบ้านมีกฎ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเคร่งทุกเรื่องก็ได้  เค้าบอกนี้บ้านเรา แต่บางทีเราคิดว่ามันไม่ใช่ มาเข้าเรื่องต่อดีกว่า เรื่องเงินเราก็มีให้ยายต่อเดือน ขนมของกินอะไรใครอยากกินเราก็ซื้อให้ พอเราชอบกินดึกเราก็สั่งอาหารให้ทุกค่ำน้องเราที่เรียนตปท. ค่าเทอมเดือนๆเป็นแสนไหนตะค่ากินค่าอยู่ แม่ต้องถอนเงินออกจากเกือบทุกบัญชีเพื่อให้น้องเรียน เราก็ข่วยได้แค่เงินเกือบไม่กี่แสนที่แม่เคยฝากให้และเราไม่เคยถอนออกมาใช้ แม่ขอ เราก็ให้น้อง บางทีทุกวันนี้คุยกันแต่เรื่องเงินในครอบครัว ถเามันไม่นักหนาเกินความสามารถเราช่วยได้นะ แต่น้องทั้งสองของเรายังต้องเรียนอีกเป็นหลายล้านซึ่งมันเกิดความสามารถจะช่วยหมด บางทีก็ไม่รู้ว่าเค้าพูดจริงพูดเล่นว่าให้ข่วยส่งน้องเรียนย้าง ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่บ้าง ทุกวันนี้อะไรที่มันแบ่งได้ ซื้อของอะไรเราได้หมด แต่กับเงินจำนวนมากขนาดนั้น เราควรต้องเป็นเจ้าของธุรกิจอะไรเองมั้ยถึงจะช่วยได้ เราก็คิดอยากจะมีเงินเก็บเหมือนกัน เวลาน้องไม่มีเราก็ให้เงิน ไม่ใช่ไม่ให้ แต่เงินเก็บเราก็อยากจะมีไว้ เราไม่ได้เห็นแก่ตัวใช่มั้ย ทีแค่อยากมีเงินเก็บ เพื่อวันไหนเงินพอจะย้ายออกไปซื้อบ้านหรือคอนโดข้างนอก เพราะทุกวันนีเราไม่มีความสุขที่จะอยู่เลย มันอึดอัดไปหมดทั้งเรื่องที่บ้านและเรื่องชีวิตส่วนตัวของเรา มันก็อาจจะน่าอายจะที่เราช่วยพวกท่านเรื่องน้องไม่ได้มาก แต่มันเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องใช้และหมดไปอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เราก็เป็นคนๆนึง ที่อยากมีชีวิตของตัวเอง ชีวิตอิสระ บางทีเราก็เหมือนว่าพ่อแม่ลำเอียง บ้านที่อยู่ปัจจุบันก็ให้น้องชายคนกลาง อีกที่เป็นชื่อเราแต่ท่านบอกว่าน้องเรียนจบเมื่อไหร่ให้ไปโอนเป็นชื่อน้องเพราะแม่ให้น้อง. คนเป็นพี่แบบเราต้องเข้มแข็งขนาดไหนหรอ แล้วย้ายชอบพูดถึงแต่เรื่องแม่หมดไปกับเราอะเท่าไหร่แล้ว หมดไปมากกว่าน้องอีก ช่วยแบ่งเบาภาระให้แม่บ้าง  เราผิดมากมั้ยที่เกิดมาเป็นพี่คนโต เราผิดมากมั้ยที่อยากมีชีวิตของตัวเองบ้าง อยากมีเงินเก็บเพื่อไปซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แกไม่รุ่หรอกว่าบางทีคำพูดที่พูดออกมา มันกำลังทำร้ายจิตใจของเราอยู่ บางทีเหนื่อยจนอยากร้องไห้ ทำไรก็ผิดไปหมด ไม่ว่าอะไรเราก็ผิด ผิดแต่เกิดมาแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่