ลาออกจากงาน เปลี่ยนงานใหม่ เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาในโลกการทำงาน ไม่ผิดที่เราจะมองหาบริษัทใหม่ที่ให้เงินเดือนมากขึ้น
ได้ทำงานที่ก้าวหน้ากว่าเดิม และอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ลาออกจากงาน แต่เรื่องที่คนส่วนใหญ่สงสัยก็คือ เราต้องรู้อะไรบ้างถ้าจะลาออก?
คงเคยได้ยินว่า “ถ้าจะลาออก ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันนะ” แล้วจำเป็นที่ต้องรอนายจ้าง “อนุมัติให้ลาออก” ก่อนไหม?
หรือ ลาออกแล้วเราจะได้อะไรบ้าง วันนี้ JobThai Tips รวบรวมคำตอบมาไว้ให้ทุกคนแล้ว
“ต้องแจ้งลาออกล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน” จริงหรอ?
จริง ๆ แล้ว กฎหมายไม่ได้กำหนดเอาไว้ว่าต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนลาออกนานแค่ไหน เราจะยื่นจดหมายวันนี้แล้วพรุ่งนี้ไม่มาทำงานเลยก็ได้
แต่ถ้าทำแบบนี้ จะทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีความรับผิดชอบ และยังส่งผลกระทบกับงานของคนอื่นด้วย
การแจ้งล่วงหน้า 30 วัน จึงเป็นการให้องค์กรเตรียมคนใหม่มาทำงานแทน และเราจะได้มีเวลาจัดการงานที่ค้างอยู่
และเตรียมส่งต่องานไปให้เพื่อนคนอื่นดูแลนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมก็คือ เราต้องแจ้งลาออกโดยการยื่นจดหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ เพราะการแจ้งออกด้วยคำพูดอย่างเดียวแล้วหายไปเฉย ๆ
จะทำให้ไม่มีหลักฐานการลาออก และถ้าขาดงานเกิน 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร ก็อาจเป็นเหตุผลให้บริษัทบอกเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้
แถมยังส่งผลให้เสียสิทธิ์ต่าง ๆ อย่าง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือสวัสดิการอื่นของบริษัทอีกด้วย
ยื่นจดหมายลาออกแล้ว แต่นายจ้างไม่อนุมัติ แบบนี้ได้หรอ?
นายจ้างไม่สามารถปฏิเสธการลาออกของเราได้ ถ้ามีการยื่นจดหมายลาออกที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
เราจะไม่มาทำงานตามวันที่แจ้งลาออกเลยก็ได้โดยไม่ต้องรออนุมัติ และนายจ้างเองก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับไม่ให้เราออกด้วยเช่นกัน
ลาออกตอนไหนก็ได้? ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแจ้งลาออกตอนไหนก็ได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาจ้างงานที่เราทำกับบริษัทว่าเป็นสัญญาแบบไหน
ซึ่งมี 2 ประเภท คือ สัญญาแบบไม่มีระยะเวลา และ สัญญาแบบมีกำหนดระยะเวลา
สัญญาแบบไม่มีระยะเวลา
คือสัญญาจ้างของพนักงานทั่วไปหรือที่เราเรียกกันว่า “พนักงานประจำ” สัญญาแบบนี้จะไม่มีการระบุเอาไว้ว่าต้องทำงานนานแค่ไหน ทั้งเราและนายจ้างมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้ทั้งคู่ ถ้าเราเซ็นสัญญาแบบนี้ก็จะสามารถลาออกเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ
สัญญาแบบมีกำหนดระยะเวลา
เป็นสัญญาที่กำหนดระยะเวลาทำงานไว้ชัดเจน เช่น สัญญาจ้าง 6 เดือน สัญญาจ้าง 1 ปี ถ้าทำงานจนครบกำหนดเวลาแล้วเราจะไม่ไปทำงานเลยก็ได้
แต่ถ้าลาออกก่อนครบกำหนดในสัญญาก็อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้บริษัท ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและรายละเอียดในสัญญาแต่ละฉบับ
แต่ก็จะมีสัญญาจ้างกำหนดระยะเวลาบางประเภท ที่ระบุไว้ว่านายจ้างและลูกจ้างสามารถยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็จะถือว่าสัญญาแบบนี้เป็นสัญญาที่ไม่กำหนดระยะเวลาเช่นกัน
ลาออก จะได้ค่าชดเชยไหม ได้ค่าชดเชยอะไรบ้าง?
กรณีที่เราลาออกเอง จะไม่ได้ค่าชดเชยอะไรจากบริษัท แต่เราสามารถขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานจากประกันสังคมได้ ถ้าเราจ่ายประกันสังคมมาแล้วเกิน 6 เดือน (ภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน)
อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนออนไลน์ที่เว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน ภายใน 30 วันหลังลาออก เพราะถ้าเกินกำหนดแล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ย้อนหลังได้ นอกจากนี้เราต้องไปรายงานตัวกับสำนักจัดหางานเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย และถ้าทางสำนักจัดหางานมีงานมาแนะนำเราก็ต้องไปสมัครและสัมภาษณ์ด้วย
เงินทดแทนกรณีว่างงานนี้จะได้รับอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนล่าสุดและจะได้รับไม่เกินปีละ 90 วัน หรือ 3 เดือน
ถ้าเงินเดือนเรา 10,000 บาทจะได้เงินทดแทนเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท โดยที่จะคิดจากฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท เท่านั้น
หากได้เงินเดือนสูงกว่านี้ก็จะได้รับเงินชดเชยแค่เดือนละ 4,500 บาท นอกจากนี้ถ้าเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ คลอดบุตร ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
เรายังใช้สิทธิ์ประกันสังคมต่อได้อีก 6 เดือนหลังจากออกลาโดยไม่ต้องจ่ายเงินเข้าประกันสังคมอีกด้วย
ขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน
ลาออกแบบรักษากฎหมายก็ดี แต่รักษาความสัมพันธ์ที่มีด้วย
ถึงกฎหมายจะไม่ได้กำหนดเวลาการยื่นลาออกและเราก็ไม่ต้องรอให้นายจ้างอนุมัติ แต่โดยมารยาทในการลาออกแล้วเราก็ควรแจ้งล่วงหน้าตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพราะนอกจากจะไม่กระทบกับการทำงานของคนอื่นแล้ว ยังเป็นการรักษาน้ำใจระหว่างกันอีกด้วย เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจได้กลับมาร่วมงานกับคนจากบริษัทเก่าก็ได้
ถ้ายิ่งตำแหน่งเรามีความสำคัญกับบริษัท การลาออกไปแบบกะทันหันแล้วทำให้บริษัทเสียหายก็อาจมีการยื่นฟ้องร้องเราได้ด้วย
คงจะดีกว่าแน่ถ้าเราได้ลาออกอย่างถูกกฎหมายและส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงานหรือความรู้สึกระหว่างกัน
ใครที่กำลังมองหางานใหม่ JobThai Tips ขอให้ทุกคนได้งานที่ใช่
เรื่องที่คนทำงานต้องรู้ก่อนลาออก !!
ได้ทำงานที่ก้าวหน้ากว่าเดิม และอีกหลายเหตุผลที่ทำให้ลาออกจากงาน แต่เรื่องที่คนส่วนใหญ่สงสัยก็คือ เราต้องรู้อะไรบ้างถ้าจะลาออก?
คงเคยได้ยินว่า “ถ้าจะลาออก ต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วันนะ” แล้วจำเป็นที่ต้องรอนายจ้าง “อนุมัติให้ลาออก” ก่อนไหม?
หรือ ลาออกแล้วเราจะได้อะไรบ้าง วันนี้ JobThai Tips รวบรวมคำตอบมาไว้ให้ทุกคนแล้ว
“ต้องแจ้งลาออกล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน” จริงหรอ?
จริง ๆ แล้ว กฎหมายไม่ได้กำหนดเอาไว้ว่าต้องแจ้งล่วงหน้าก่อนลาออกนานแค่ไหน เราจะยื่นจดหมายวันนี้แล้วพรุ่งนี้ไม่มาทำงานเลยก็ได้
แต่ถ้าทำแบบนี้ จะทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ ไม่มีความรับผิดชอบ และยังส่งผลกระทบกับงานของคนอื่นด้วย
การแจ้งล่วงหน้า 30 วัน จึงเป็นการให้องค์กรเตรียมคนใหม่มาทำงานแทน และเราจะได้มีเวลาจัดการงานที่ค้างอยู่
และเตรียมส่งต่องานไปให้เพื่อนคนอื่นดูแลนั่นเอง
สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมก็คือ เราต้องแจ้งลาออกโดยการยื่นจดหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรเสมอ เพราะการแจ้งออกด้วยคำพูดอย่างเดียวแล้วหายไปเฉย ๆ
จะทำให้ไม่มีหลักฐานการลาออก และถ้าขาดงานเกิน 3 วัน โดยไม่มีเหตุอันควร ก็อาจเป็นเหตุผลให้บริษัทบอกเลิกจ้างโดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยได้
แถมยังส่งผลให้เสียสิทธิ์ต่าง ๆ อย่าง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือสวัสดิการอื่นของบริษัทอีกด้วย
ยื่นจดหมายลาออกแล้ว แต่นายจ้างไม่อนุมัติ แบบนี้ได้หรอ?
นายจ้างไม่สามารถปฏิเสธการลาออกของเราได้ ถ้ามีการยื่นจดหมายลาออกที่เป็นลายลักษณ์อักษรแล้ว
เราจะไม่มาทำงานตามวันที่แจ้งลาออกเลยก็ได้โดยไม่ต้องรออนุมัติ และนายจ้างเองก็ไม่มีสิทธิ์มาบังคับไม่ให้เราออกด้วยเช่นกัน
ลาออกตอนไหนก็ได้? ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้เสมอไป
ไม่ใช่ทุกคนที่จะแจ้งลาออกตอนไหนก็ได้ ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับสัญญาจ้างงานที่เราทำกับบริษัทว่าเป็นสัญญาแบบไหน
ซึ่งมี 2 ประเภท คือ สัญญาแบบไม่มีระยะเวลา และ สัญญาแบบมีกำหนดระยะเวลา
สัญญาแบบไม่มีระยะเวลา
คือสัญญาจ้างของพนักงานทั่วไปหรือที่เราเรียกกันว่า “พนักงานประจำ” สัญญาแบบนี้จะไม่มีการระบุเอาไว้ว่าต้องทำงานนานแค่ไหน ทั้งเราและนายจ้างมีสิทธิ์ยกเลิกสัญญาได้ทั้งคู่ ถ้าเราเซ็นสัญญาแบบนี้ก็จะสามารถลาออกเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ
สัญญาแบบมีกำหนดระยะเวลา
เป็นสัญญาที่กำหนดระยะเวลาทำงานไว้ชัดเจน เช่น สัญญาจ้าง 6 เดือน สัญญาจ้าง 1 ปี ถ้าทำงานจนครบกำหนดเวลาแล้วเราจะไม่ไปทำงานเลยก็ได้
แต่ถ้าลาออกก่อนครบกำหนดในสัญญาก็อาจต้องจ่ายค่าเสียหายให้บริษัท ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและรายละเอียดในสัญญาแต่ละฉบับ
แต่ก็จะมีสัญญาจ้างกำหนดระยะเวลาบางประเภท ที่ระบุไว้ว่านายจ้างและลูกจ้างสามารถยกเลิกสัญญาเมื่อไหร่ก็ได้ ก็จะถือว่าสัญญาแบบนี้เป็นสัญญาที่ไม่กำหนดระยะเวลาเช่นกัน
ลาออก จะได้ค่าชดเชยไหม ได้ค่าชดเชยอะไรบ้าง?
กรณีที่เราลาออกเอง จะไม่ได้ค่าชดเชยอะไรจากบริษัท แต่เราสามารถขอรับเงินทดแทนกรณีว่างงานจากประกันสังคมได้ ถ้าเราจ่ายประกันสังคมมาแล้วเกิน 6 เดือน (ภายใน 15 เดือนก่อนว่างงาน)
อย่าลืมไปขึ้นทะเบียนออนไลน์ที่เว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน ภายใน 30 วันหลังลาออก เพราะถ้าเกินกำหนดแล้วจะไม่สามารถใช้สิทธิ์ย้อนหลังได้ นอกจากนี้เราต้องไปรายงานตัวกับสำนักจัดหางานเดือนละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย และถ้าทางสำนักจัดหางานมีงานมาแนะนำเราก็ต้องไปสมัครและสัมภาษณ์ด้วย
เงินทดแทนกรณีว่างงานนี้จะได้รับอยู่ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนล่าสุดและจะได้รับไม่เกินปีละ 90 วัน หรือ 3 เดือน
ถ้าเงินเดือนเรา 10,000 บาทจะได้เงินทดแทนเฉลี่ยเดือนละ 3,000 บาท โดยที่จะคิดจากฐานเงินเดือนสูงสุดที่ 15,000 บาท เท่านั้น
หากได้เงินเดือนสูงกว่านี้ก็จะได้รับเงินชดเชยแค่เดือนละ 4,500 บาท นอกจากนี้ถ้าเจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ คลอดบุตร ทุพพลภาพ หรือเสียชีวิต
เรายังใช้สิทธิ์ประกันสังคมต่อได้อีก 6 เดือนหลังจากออกลาโดยไม่ต้องจ่ายเงินเข้าประกันสังคมอีกด้วย
ขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน
ลาออกแบบรักษากฎหมายก็ดี แต่รักษาความสัมพันธ์ที่มีด้วย
ถึงกฎหมายจะไม่ได้กำหนดเวลาการยื่นลาออกและเราก็ไม่ต้องรอให้นายจ้างอนุมัติ แต่โดยมารยาทในการลาออกแล้วเราก็ควรแจ้งล่วงหน้าตามที่บริษัทกำหนดไว้ เพราะนอกจากจะไม่กระทบกับการทำงานของคนอื่นแล้ว ยังเป็นการรักษาน้ำใจระหว่างกันอีกด้วย เพราะไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจได้กลับมาร่วมงานกับคนจากบริษัทเก่าก็ได้
ถ้ายิ่งตำแหน่งเรามีความสำคัญกับบริษัท การลาออกไปแบบกะทันหันแล้วทำให้บริษัทเสียหายก็อาจมีการยื่นฟ้องร้องเราได้ด้วย
คงจะดีกว่าแน่ถ้าเราได้ลาออกอย่างถูกกฎหมายและส่งผลดีต่อทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงานหรือความรู้สึกระหว่างกัน
ใครที่กำลังมองหางานใหม่ JobThai Tips ขอให้ทุกคนได้งานที่ใช่