การดูแลผิว = การลงทุน
คนที่เริ่มดูแลผิวตั้งแต่อายุน้อย จะได้เปรียบมากกว่า เพราะผิวเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น!!
หลายคนอาจจะสงสัย
หรือเคยสังเกตจากคนรอบๆตัว
ว่าทำไมบางคนหน้าเด็กกว่าอายุจริงเป็น 10 ปี
ในขณะที่บางคนอายุจริงก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่หน้าดูไปไกลเกินอายุแล้ว
#7วิธีที่จะช่วยให้หน้าเด็ก
#เฉพาะวิธีที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รับรองว่าได้ผล
(ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดทุกข้อนะคะ)
1. Skin care
- moisturizer (บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น) ตามสภาพผิว ทาต่อเนื่อง ช่วยลดริ้วรอยได้
- sunscreen (กันแดด) ทาสม่ำเสมอ ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ ช่วยไม่ให้ผิวเหี่ยวย่นหรือบางตัวลงจากการเสื่อมแดด (photoaging)
- Retinoid, anti-oxidant ต่างๆ, AHA
2. การทำ treatment เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (AHA peeling)
ช่วยลดริ้วรอยที่อยู่ตื้นๆ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ฝ้าจางลงได้
แต่ต้องทำโดยแพทย์ เพราะใช้ความเข้มข้นสูงกว่าแบบที่ผสมใน skin care ที่วางขายทั่วไป
AHA peeling ทำได้ทุก 2-4 สัปดาห์ขึ้นกับความเข้มข้นของ AHA
3. ทำเลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน (laser for skin rejuvenation)
มีหลายเครื่อง ที่เมื่อทำสม่ำเสมอ เช่น เดือนละ 1 ครั้ง (จำนวนครั้งและความถี่แล้วแต่เครื่องที่ใช้)
จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน (เน้นที่ผิวชั้นบน) เช่น IPL, vbeam, long-pulse Nd-YAG, fine scan, Er-YAG
แต่เนื่องจากใช้เลเซอร์แบบ reju มักยิงด้วยพลังงานต่ำๆ เน้นการดูแลผิวชั้นบน
จึงช่วยเรื่องลดริ้วรอย หน้าใส ผิวดูเรียบเนียน แต่อาจจะไม่ค่อยช่วยเรื่องการยกกระชับผิว ได้มากเท่าข้อ 4
4. ใช้เทคโนโลยียกกระชับผิว ได้แก่ Ulthera, thermage หรือ HIFU
ถึงจะเป็นเครื่องที่ต่างกัน แต่ หลักการเดียวกัน คือ ใช้ความร้อนที่มากพอ ลงลึกพอ
ช่วยให้เกิดการยกกระชับและสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ ทำให้กรอบหน้าชัดเจน ผิว firm ลดริ้วรอยหรือ
พลางรูขุมขนให้มองเห็นไม่ชัดเจน
Ulthera หรือ thermage อยู่ได้นาน 1-2 ปี ส่วน HIFU อยู่ได้นาน 3-6 เดือน แล้วแต่บริษัท
5. Botox
- ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดเวลาที่เราขยับกล้ามเนื้อใบหน้า (dynamic line) เช่น รอยย่นหน้าผาก, ตีนกา,
รอยขมวดคิ้ว เป็นต้น
- ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ปรับรูปหน้า เช่น ฉีด lifting กรอบหน้า และลำคอ ให้ดูยกเรียวขึ้น
กรณีหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย ถ้าหย่อนมากควรทำคู่กับวิธีอื่นๆ เช่น ulthera
- ป้องกันการเกิด static line ได้เมื่อเริ่มฉีดตั้งแต่ ริ้วรอยยังไม่เป็นร่องที่อยู่ค้าง
(static line คือ ริ้วรอยหรือรอยย่นที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้แสดงสีหน้า เกิด
จากdynamic line ที่เกิดอยู่ต่อเนื่องตลอดนานๆก็จะกลายเป็น static line นั่นเองค่ะ)
- Botox เฉลี่ยอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
6. การฉีด Filler (สารเติมเต็ม)/ การฉีด fat (ฉีดไขมันของตัวเองกลับเข้าไป)
- ช่วยเติมเต็ม ริ้วรอยที่ลึกหน่อย หรือฉีดเสริมตรงส่วนที่ใบหน้ายุบตัวลงจากการที่ชั้นไขมันลดลง หรือกระดูกที่สลายหรือยุบลง เช่น midface (ตรงหน้าแก้มที่แบนๆลงเมื่ออายุมาก), เติมขมับที่บุ๋ม, เติมร่องแก้ม, เติมคาง, ริมฝีปาก
- ช่วยให้ชั้นผิวยกตัวขึ้น (lifting) หรือปรับรูปหน้า เช่น ฉีดตรงกระดูกโหนกแก้ม, ฉีดแก้ร่องน้ำหมาก
ซึ่งทั้งเลือกฉีดฟิลเลอร์และไขมัน มีข้อดีข้อเสียต่างกัน
จะเลือกวิธีไหนขึ้นกับปัญหาและความเหมาะสมของและคน
สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้
7. การร้อยไหม
จริงๆนิยมมานาน มากกว่า 5 ปีในไทย แต่ เพิ่งจะมีไหมที่ผ่าน อย ไทย สำหรับใช้เพื่อการยกกระชับเพียงยี่ห้อเดียว คือ Definsse เท่านั้น ได้ผลนานประมาณ 15 เดือน ส่วนไหมยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาด ถึงจะผ่าน อย ก็จริง แต่จะผ่าน อย สำหรับใช้เย็บแผล ไม่ใช่เพื่อใช้ยกกระชับผิว หากร้อยไป อาจะเห็นผลได้เพียงชั่วคราว หรือบางชนิดอาจจะเกิดอันตรายจากที่เห็นในข่าวอยู่เรื่อยๆ ตัวหมอเองไม่ได้ทำเรื่องร้อยไหมนะคะ
ในโพสนี้จะเป็นภาพรวมของวิธีต่างๆ แต่หมอยังไม่ได้ลงรายละเอียดของแต่ละวิธี
จะแยกเรื่องที่แฟนเพจสนใจเยอะๆ ออกมาเขียนในโพสต่อๆไปนะคะ
Ulthera กับ thermage มีเขียนไว้ในเพจแล้วนะคะ อ่านได้ที่โพสปักหมุดค่ะ
#แถมให้สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้
ถ้าจะแบ่งตามสาเหตุความแก่ของผิวหนัง (Aging skin) จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1. ความแก่ที่เกิดจากร่างกายเราเอง
คือ ตามอายุ โดยข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เชื้อชาติ, ฮอร์โมน การทำงานระดับเซลล์ของแต่ละคน
2. ความแก่ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม
เช่น แสงยูวี (แดด), มลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะ PM2.5 ที่เกินมาตรฐานไปมาก, แรงโน้มถ่วง, lifestyle (ปาร์ตี้หนักดื่มเหล้าสูบบุหรี่, นอนดึก, เครียดง่าย, กินน้ำตาลเยอะ ไม่ทาครีม เป็นต้น)
ซึ่งสาเหตุจาก lifestyle เราสามารถปรับได้ (ทำตรงข้าม) นะคะ
เพจ Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว ❤️
7 วิธีที่ช่วยให้หน้าเด็ก
การดูแลผิว = การลงทุน
คนที่เริ่มดูแลผิวตั้งแต่อายุน้อย จะได้เปรียบมากกว่า เพราะผิวเริ่มเสื่อมตั้งแต่อายุเพียงแค่ 25 ปีเท่านั้น!!
หลายคนอาจจะสงสัย
หรือเคยสังเกตจากคนรอบๆตัว
ว่าทำไมบางคนหน้าเด็กกว่าอายุจริงเป็น 10 ปี
ในขณะที่บางคนอายุจริงก็ไม่เท่าไหร่นะ แต่หน้าดูไปไกลเกินอายุแล้ว
#7วิธีที่จะช่วยให้หน้าเด็ก
#เฉพาะวิธีที่มีงานวิจัยทางการแพทย์รับรองว่าได้ผล
(ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมดทุกข้อนะคะ)
1. Skin care
- moisturizer (บำรุงให้ผิวชุ่มชื้น) ตามสภาพผิว ทาต่อเนื่อง ช่วยลดริ้วรอยได้
- sunscreen (กันแดด) ทาสม่ำเสมอ ช่วยลดริ้วรอย จุดด่างดำ ช่วยไม่ให้ผิวเหี่ยวย่นหรือบางตัวลงจากการเสื่อมแดด (photoaging)
- Retinoid, anti-oxidant ต่างๆ, AHA
2. การทำ treatment เช่น การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ (AHA peeling)
ช่วยลดริ้วรอยที่อยู่ตื้นๆ ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยให้ฝ้าจางลงได้
แต่ต้องทำโดยแพทย์ เพราะใช้ความเข้มข้นสูงกว่าแบบที่ผสมใน skin care ที่วางขายทั่วไป
AHA peeling ทำได้ทุก 2-4 สัปดาห์ขึ้นกับความเข้มข้นของ AHA
3. ทำเลเซอร์ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน (laser for skin rejuvenation)
มีหลายเครื่อง ที่เมื่อทำสม่ำเสมอ เช่น เดือนละ 1 ครั้ง (จำนวนครั้งและความถี่แล้วแต่เครื่องที่ใช้)
จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน (เน้นที่ผิวชั้นบน) เช่น IPL, vbeam, long-pulse Nd-YAG, fine scan, Er-YAG
แต่เนื่องจากใช้เลเซอร์แบบ reju มักยิงด้วยพลังงานต่ำๆ เน้นการดูแลผิวชั้นบน
จึงช่วยเรื่องลดริ้วรอย หน้าใส ผิวดูเรียบเนียน แต่อาจจะไม่ค่อยช่วยเรื่องการยกกระชับผิว ได้มากเท่าข้อ 4
4. ใช้เทคโนโลยียกกระชับผิว ได้แก่ Ulthera, thermage หรือ HIFU
ถึงจะเป็นเครื่องที่ต่างกัน แต่ หลักการเดียวกัน คือ ใช้ความร้อนที่มากพอ ลงลึกพอ
ช่วยให้เกิดการยกกระชับและสร้างคอลลาเจนใหม่ได้ ทำให้กรอบหน้าชัดเจน ผิว firm ลดริ้วรอยหรือ
พลางรูขุมขนให้มองเห็นไม่ชัดเจน
Ulthera หรือ thermage อยู่ได้นาน 1-2 ปี ส่วน HIFU อยู่ได้นาน 3-6 เดือน แล้วแต่บริษัท
5. Botox
- ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดเวลาที่เราขยับกล้ามเนื้อใบหน้า (dynamic line) เช่น รอยย่นหน้าผาก, ตีนกา,
รอยขมวดคิ้ว เป็นต้น
- ช่วยให้ผิวตึงกระชับ ปรับรูปหน้า เช่น ฉีด lifting กรอบหน้า และลำคอ ให้ดูยกเรียวขึ้น
กรณีหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อย ถ้าหย่อนมากควรทำคู่กับวิธีอื่นๆ เช่น ulthera
- ป้องกันการเกิด static line ได้เมื่อเริ่มฉีดตั้งแต่ ริ้วรอยยังไม่เป็นร่องที่อยู่ค้าง
(static line คือ ริ้วรอยหรือรอยย่นที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาแม้จะไม่ได้แสดงสีหน้า เกิด
จากdynamic line ที่เกิดอยู่ต่อเนื่องตลอดนานๆก็จะกลายเป็น static line นั่นเองค่ะ)
- Botox เฉลี่ยอยู่ได้นาน 4-6 เดือน
6. การฉีด Filler (สารเติมเต็ม)/ การฉีด fat (ฉีดไขมันของตัวเองกลับเข้าไป)
- ช่วยเติมเต็ม ริ้วรอยที่ลึกหน่อย หรือฉีดเสริมตรงส่วนที่ใบหน้ายุบตัวลงจากการที่ชั้นไขมันลดลง หรือกระดูกที่สลายหรือยุบลง เช่น midface (ตรงหน้าแก้มที่แบนๆลงเมื่ออายุมาก), เติมขมับที่บุ๋ม, เติมร่องแก้ม, เติมคาง, ริมฝีปาก
- ช่วยให้ชั้นผิวยกตัวขึ้น (lifting) หรือปรับรูปหน้า เช่น ฉีดตรงกระดูกโหนกแก้ม, ฉีดแก้ร่องน้ำหมาก
ซึ่งทั้งเลือกฉีดฟิลเลอร์และไขมัน มีข้อดีข้อเสียต่างกัน
จะเลือกวิธีไหนขึ้นกับปัญหาและความเหมาะสมของและคน
สามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนได้
7. การร้อยไหม
จริงๆนิยมมานาน มากกว่า 5 ปีในไทย แต่ เพิ่งจะมีไหมที่ผ่าน อย ไทย สำหรับใช้เพื่อการยกกระชับเพียงยี่ห้อเดียว คือ Definsse เท่านั้น ได้ผลนานประมาณ 15 เดือน ส่วนไหมยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาด ถึงจะผ่าน อย ก็จริง แต่จะผ่าน อย สำหรับใช้เย็บแผล ไม่ใช่เพื่อใช้ยกกระชับผิว หากร้อยไป อาจะเห็นผลได้เพียงชั่วคราว หรือบางชนิดอาจจะเกิดอันตรายจากที่เห็นในข่าวอยู่เรื่อยๆ ตัวหมอเองไม่ได้ทำเรื่องร้อยไหมนะคะ
ในโพสนี้จะเป็นภาพรวมของวิธีต่างๆ แต่หมอยังไม่ได้ลงรายละเอียดของแต่ละวิธี
จะแยกเรื่องที่แฟนเพจสนใจเยอะๆ ออกมาเขียนในโพสต่อๆไปนะคะ
Ulthera กับ thermage มีเขียนไว้ในเพจแล้วนะคะ อ่านได้ที่โพสปักหมุดค่ะ
#แถมให้สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้
ถ้าจะแบ่งตามสาเหตุความแก่ของผิวหนัง (Aging skin) จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน
1. ความแก่ที่เกิดจากร่างกายเราเอง
คือ ตามอายุ โดยข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับพันธุกรรม เชื้อชาติ, ฮอร์โมน การทำงานระดับเซลล์ของแต่ละคน
2. ความแก่ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อม
เช่น แสงยูวี (แดด), มลภาวะต่างๆ โดยเฉพาะ PM2.5 ที่เกินมาตรฐานไปมาก, แรงโน้มถ่วง, lifestyle (ปาร์ตี้หนักดื่มเหล้าสูบบุหรี่, นอนดึก, เครียดง่าย, กินน้ำตาลเยอะ ไม่ทาครีม เป็นต้น)
ซึ่งสาเหตุจาก lifestyle เราสามารถปรับได้ (ทำตรงข้าม) นะคะ
เพจ Dr. Yui คุยทุกเรื่องผิว ❤️