[CR] ต้องหันมาบำรุงผิวแบบจัดเต็มกันหน่อย แต่งงานมาเป็นปีๆ อยู่ๆสามีดันมาชวนไปถ่ายพรีเวดดิ้งอีกรอบ!?

กระทู้รีวิว

Skin Care ความงาม ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า แต่งงาน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว

วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์น่ารักๆ ที่เราเองก็ค่อนข้างที่จะฟินแล้วก็ปลาบปลื้มใจเป็นที่สุด เพราะสามีน่ะสิคะ แต่งงานกันมาเป็นปีๆแล้ว แต่อยู่ๆดันมาชวนไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งอีกรอบ เห็นว่านางไปได้โปรโมชั่นลดราคาอะไรมาก็ไม่รู้ มาเปิดผลงานช่างภาพให้ดูก็ถูกใจเรามากเลยค่ะ สามีเทสดีเป็นที่สุดขอชมเชยยย เลือกช่างภาพได้ถูกใจมาก ก็ถือว่าเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆที่มาเติมเต็มความหวานให้กันวันครบรอบนี้อ่ะนะคะ จบไปกับงานอวดสามี อิอิ

ทีนี้พอรู้แล้วว่าจะไปถ่ายกันวันไหน ก็เหมือนจะไม่มีเวลาให้เตรียมตัวเท่าไหร่เลยค่ะ ตอนนั้นสภาพหน้า สภาพผิวประมาณนี้เลย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เลยคิดว่าไม่ไหวแน่ ไหนๆไปถ่ายกันทั้งที ต้องกู้หน้ากันหน่อยแล้ว เพราะไม่งั้นถ่ายมามีหวังไม่ถูกใจแหง นับวันจากตอนนั้นก็ใช้เวลาบำรุงผิวกู้หน้า กู้หุ่นด้วยประมาณ 1 เดือนเต็มๆค่ะ ก็เป็นเวลาที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไปนะคะ เลยตัดสินใจว่าจะมีไปออกกำลังกายบ้าง คุมอาหารบ้าง แล้วก็จะเน้นทาบำรุงผิวหน้าผิวตัวแบบสม่ำเสมอ เพื่อให้ออกมาดูดีที่สุด จะบอกว่าทำไม่ยากเลยนะคะ ผิวดีขึ้นแบบเห็นได้ชัดเลย เลยอยากจะเอามาบอกต่อกันค่ะ ว่าเรามีวิธียังไงบ้างเกี่ยวกับพวกสกินแคร์ที่ใช้ คนอื่นๆเผื่อมีแพลนจะออกงาน หรือจะนัดกันไปถ่ายพรีอีกรอบแบบเราจะเอาไปลองทำตามดูกันได้นะคะ ตอนนั้นเราทาบำรุงขั้นตอนประมาณนี้ค่ะ

1.ล้างหน้าให้สะอาด แต่ต้องเป็นโฟมล้างหน้าที่ไม่แห้งตึง เพราะโฟมที่ล้างแล้วหน้าตึง จะไปดึงความชุ่มชื้นของผิวออกมาหมด ทำให้หน้าเราเหี่ยวได้ค่ะ เราก็เลยซื้อเป็นเจลล้างหน้ามาใช้ Himalaya Purifying Neem Face Wash ตัวนี้เป็นเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยนนะคะ ไม่มี Parabens , SLS/SLES , Phthalates ทำให้เราค่อนข้างจะมั่นใจว่าจะไม่แพ้ พอใช้ก็ไม่แพ้จริงๆ เนื้อเค้าจะเป็นเจลสีฟ้าอมเขียว ล้างแล้วจะมีอาการแสบหน้าเล็กน้อย คาดว่าเป็นเรื่องของการช่วยลดสิวนะ เพราะสิวผดมันค่อยๆลดลง ส่วนตัวไม่แพ้ค่ะ ล้างแล้วหน้านุ่ม ไม่แห้งตึง แนะนำสำหรับคนที่เป็นสิวเลย

2.สครับริมฝีปาก เราจะใช้สครับน้ำตาล FRESH Sugar Lip Polish ทาทิ้งไว้ซักประมาณ 1-2 นาที จากนั้นค่อยๆขัดเบาๆเป็นวงกลมให้ริมฝีปากที่เป็นขุยๆหลุดออก แต่เราจะขัดเบาๆนะคะ ไม่งั้นปากเยินแย่เลย ตัวนี้หลังจากขัดแล้วปากจะเนียนนุ่มมากๆ ขุยๆที่ปากหลุดออกหมดเลย จะมีความชุ่มชื้นที่ริมฝีปากด้วย เพราะเค้าเหมือนเป็นเนื้อน้ำตาลผสมลิปมันมาในตัว ทริคก็คือ หลังสครับเสร็จให้ใช้ทิชชู่เปียกเช็ดออกเอานะคะ ถ้าใช้น้ำล้างเหมือนจะล้างไม่ค่อยออกค่ะ ตัวนี้จะทำให้ปากเรียบเนียน ทาลิปแล้วไม่เป็นขุยไม่แห้งลอก

3.ทาน้ำมันที่ผิวตัว อันนี้เราใช้เป็น Palmers Cocoa Butter Formula Skin Therapy Oil ออยล์ทาผิวตัวนี้เป็นสูตรสำหรับคุณแม่นะคะ ค่อนข้างจะอ่อนโยน เราเลยเอามาลองใช้ดูค่ะ แต่ด้วยความเป็นออยล์อ่ะเนอะ เค้าจะเหนียวๆ มันๆ พอสมควรเลย เราเองจะทาหลังอาบน้ำเสร็จทันทีค่ะตอนที่ผิวยังเปียกๆ นวดๆวนๆไป เพราะมีรอยแตกลายเยอะ ยิ่งตรงต้นแขนด้านในมีรอยชัดมาก เลยพยายามทาทุกวันค่ะ หวังให้เค้าจางลง ใส่ชุดถ่ายรูปจะได้ดูสวยๆ

4.ขั้นตอนการลงสกินแคร์ เราจะเริ่มจากการลงเอสเซนส์ก่อนเป็นอันดับแรกเลยค่ะ โดยที่ตัวนี้เราจะเน้นเรื่องของการลดริ้วรอยเลยนะคะ เพราะว่าเราเนี่ยปล่อยให้ผิวเราไม่ได้รับการดูแลมานานพอสมควร แล้วรู้สึกได้ว่าผิวมันไม่เนียนนุ่มเหมือนแต่ก่อน เริ่มมีริ้วรอยผิวหน้าดูไม่สดใส ที่เราใช้ประจำก็จะเป็น Pond’s Age Miracle Ultimate Youth Essence ตัวนี้จะเน้นเรื่องของการลดริ้วรอย ทำให้ผิวตึงกระชับ เราเองจะใช้ในขั้นตอนแรกหลังการล้างหน้าเลยค่ะ จากที่ใช้มาเห็นผลชัดเจนมากเลยว่าผิวละเอียดขึ้น ดูเด้งขึ้น ตรงหน้าแก้มไม่แห้งผากเหมือนแต่ก่อน แล้วรูขุมขนก็เล็กลงด้วยค่ะ เรื่องของกระตรงหน้าแก้มก็ดูจางลงนะคะ ให้ความชุ่มชื้นดี ทาได้ทั้งเช้าและเย็นเลย แนะนำนะคะสำหรับคนที่มีริ้วรอยหรือเริ่มที่จะมีริ้วรอย ตัวนี้บำรุงได้ดีเลยค่ะ ค่อนข้างที่จะมีความเข้มข้น ทาแล้วเห็นผลไว ใช้แล้วแต่งหน้าง่ายขึ้นไม่ตกร่องด้วย

5.หลังจากลงเอสเซนส์ที่ช่วยเรื่องริ้วรอยไปแล้ว เราจะเติมความชุ่มชื้นอีกนิดนึงด้วย The Face Shop YEHWADAM Revitalizing Moisturizing Cream ตัวนี้จะเป็นครีมเนื้อเจลที่เน้นให้ความชุ่มชื้นแบบมากๆ ทาแล้วกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีด้วยค่ะ ส่วนใหญ่เราจะพอกแค่ตอนกลางคืนที่นอนในห้องแอร์นะคะ ถ้าเป็นตอนกลางวันเราลงแค่เอสเซนส์ของพอนด์สก็ให้ความชุ่มชื้นได้เพียงพอแล้วค่ะ แต่ในส่วนของตอนนอนในห้องแอร์ก็พอกเข้าไปเพื่อไม่ให้น้ำในผิวระเหย เพราะในห้องแอร์อากาศจะค่อนข้างแห้ง สำหรับตัวนี้เราก็ชอบนะคะ เนื้อหนักนิดนึง เหนียวหน้านิดหน่อย แต่ก็พอได้อยู่ค่ะ ด้วยความเป็นเนื้อเจลด้วยแหละก็เลยยังพอทนไหวอยู่ แลกกับความสวยต้องอดทนนิดนึง หรือถ้าใครว่าเหนียวไป จะเอาทิชชู่ซับออกก็ได้นะคะ จะได้สบายผิวขึ้นค่ะ

6.มาต่อกันที่ริมฝีปากอีกรอบนึง หลังจากที่สครับปากแล้ว ให้พอกลิปมันหนาๆเลยค่ะ เราใช้เป็น Laneige Lip Sleeping mask ตัวนี้เป็นลิปมาส์กสำหรับตอนกลางคืน หรือพูดง่ายๆว่าเป็นลิปมันที่เข้มข้นมากนั่นเองค่ะ ตัวนี้จะมีกลิ่นเบอรี่อ่อนๆ แล้วก็มีความมันมาก เข้มข้นมาก ก่อนนอนหยิบมาทาหนาๆได้เลยค่ะ รับรองตื่นเช้ามาปากนุ่มมากเลย ทาลิปสีๆวันที่ไปถ่ายรูปจะได้ทาลิปได้สวยๆปากดูไม่แห้ง ไม่เป็นคราบ

7.ถ้าเป็นในตอนเช้า เราจะล้างหน้า ลงเอสเซนส์พอนด์ส แล้วตามด้วยครีมกันแดดเลยค่ะ บำรุงมาดีแล้ว ห้ามขาดกันแดดเด็ดขาดเลยนะคะ เพื่อเป็นการปกป้องสิ่งที่เราบำรุงไป กันแดดที่เราใช้ก็คือ SUPERGOOP! Everyday Sunscreen Broad Spectrum SPF 50 PA++++ กันแดดตัวนี้จะเป็นเนื้อครีมสีขาว ที่มีความเข้มข้น แต่เกลี่ยลงที่ผิวแล้วก็ค่อนข้างจะบางเบาเลยนะคะ ทาแล้วไม่ออกสีด้วย เพราะฉะนั้นจะไม่ทำให้หน้าวอกแน่นอน หลังจากเซตตัวแล้วจะให้ความสบายผิวค่ะไม่เหนียว ก็สามารถลงแป้ง หรือแต่งหน้าต่อได้เลย โดยไม่ทำให้เครื่องสำอางเป็นคราบ ในวันที่เราไปถ่ายรูปเราทาสองชั้นเลยค่ะ เพราะถ่ายกลางแจ้ง กลางไฟสตู กลัวหน้าไหม้

สำหรับเราก็เห็นผลชัดเจนเลยนะคะเรื่องผิวว่ามีสภาพที่ดีขึ้น มันไม่แห้งกร้านเต็มไปด้วยริ้วรอยเหมือนตอนแรกที่ผิวโทรมๆ ถ้ารู้แบบนี้ก่อนจริงๆเราบำรุงรอตั้งแต่ต้นปีซะก็ดีนะคะ อิอิ ส่วนเรื่องหุ่น อาหารที่เรากินเพื่อลดพุง เราก็มีทำIFบ้างเล็กๆน้อย สั่งอาหารคลีนมากินบ้างบางมื้อค่ะ เรื่องการลดน้ำหนักนี่อาจจะไม่ถูกหลักมาก เลยไม่ได้เอามาแนะนำกัน เพราะเราเองก็ไม่ใช่คนหุ่นดีอะไรค่ะ ยังไงก็หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณภรรยาท่านอื่นหันมาลองดูแลตัวเอง เตรียมพร้อมเผื่อว่าจะมีไปทำกิจกรรมหวานๆกับสามีกันนะคะ หมั่นเติมความหวานให้กัน จะกี่ปีผ่านไปก็รับรองว่าไม่มีหมดโปรค่ะ

การดูแลผิว ดูแลตัวเองจริงๆทำได้ในทุกวันนะคะ ไม่ต้องรอโอกาสพิเศษก็ได้ เราเองหลงทำงานหนักปล่อยตัวมาพักนึง มาลองล้างหน้าทาครีมเป็นจริงเป็นจัง ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายกว่าที่คิดนะ เพียงแต่เราอาจจะแค่ละเลย หลงลืมตรงจุดนี้ไป ลองหันกลับมาดูแลตัวเองด้วยวิธีง่ายๆกันค่ะ ถึงจะมีสามีแล้วก็ปล่อยโทรมไม่ได้น้าาา