ครูนัทยังมีดีอีกมากมาย ความรู้ก็เหลือเฟือ ออกจะเหนือกว่าคึกฤทธิ์ด้วยซ้ำไป ถ้าไม่เอาผ้าเหลืองผ้าลายมาวัดกัน

"ถ้าต้องการให้ดิฉันเคารพ ศรัทธา มีเพียงวิธีการเดียว คือ ออกมาถกข้อธรรมที่ดิฉันเชื่อว่าท่านบิดเบือนให้กระจ่างแจ้งเท่านั้น ซึ่งดิฉันจะยอมรับ ศรัทธา กราบไหว้ด้วยคว

ปากก็หลอกญาติโยมว่า อย่างอื่นไม่ยุ่ง มุ่งแต่สอนธรรม แล้ววันนี้เป็นไง พอตัวเองเกิดปัญหาก็วิ่งเข้าหาผู้มีอำนาจ ขณะที่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์นั้น คึกฤทธิ์ไม่เห็นโผล่หัวไปกราบ แถมยังพูดหยามหมิ่นวัดหนองป่าพ

ครูนัท ยืดอกยอมรับกติกามารยาท ทั้งด้านกฎหมายและพระธรรมวินัย ด้านกฎหมาย เมื่อศาลยืนยันจะตัดสินด้วยเหตุผลทางโลกแต่เพียงด้านเดียว ก็โอเค ว่ากันไปตามกระบวนการ  ด้านศาสนา เป็นเรื

อา..สงสัย "พุทธวจน" จะต้องไป..วัดปากน้ำ อีกรอบหนึ่งแล้ว หลังจากครั้งก่อน ร้อนอกร้อนใจ กลัวถูกคณะสงฆ์ไทย "ไสหัว" เหมือนโพธิรักษ์ ศาสดาคึกฤทธิ์ถึงกับยอม 

พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อเลี่ยม ฐิตธมฺโม)   เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง ประธานสาขาวัดหนองป่าพงทั่วโลก ผู้องอาจ ประกาศตัดขาดพระคึกฤทธิ์ออกจากสาขา ไม่นับเป็นศิษย์สายหลวงพ่อชาอีกต

(ของดเอยชื่อวัด) มีอิฐธาตุ ครูบาอาจารย์มากมาย มาตั้งโชว์ให้ดู ทั้งกระดูก เส้นผม น้ำหมาก ฉี่เลือด ที่กลายเป็นพระธาตุก็ยังมี (บางรูปยังมีชีวิตอยู่) อันนี้ ถูกต้องเหมาะควรประกาศใดครับ?

ศาสนาพุทธมีภัย เพราะมีบุคคลห่มผ้าเหลืองเช่นนี้ อยู่ และเมื่อใช้ผ้าเหลืองเผยแพร่ความเชื่อผิดๆ บิดๆ เบี้ยวๆ เหล่านี้ออกไป จึงพาพวกพ้องพุทธบริษัทบางคน บางกลุ่ม หลงทาง