จดหมายจากหัวใจลุงมิโล : เปิดบทสัมภาษณ์สุดท้าย(ที่ไม่เคยมีใครรู้)ของ มิโลวาน ราเยวัช หลังโดนปลดเมื่อปีก่อน

กระทู้สนทนา
จดหมายจากหัวใจลุงมิโล : เปิดบทสัมภาษณ์สุดท้าย(ที่ไม่เคยมีใครรู้)ของ มิโลวาน ราเยวัช หลังโดนปลดเมื่อปีก่อน
6 มกราคม 2019 คือ วันสุดท้ายที่ มิโลวาน ราเยวัช ได้ดำรงตำแหน่ง “หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย” โดยเกมสุดท้ายของ ยอดขงเบ้งชาวเซิร์บ คือ เกมที่ ไทย พ่าย อินเดีย 1-4 ในศึก เอเชียน คัพ โดยก่อนหน้านั้น โค้ชราเยวัช นำทีมตกรอบ ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 หลังผลรวมสกอร์สองนัดนั้น เรามีประตูทีมเยือนที่แย่กว่า มาเลเซีย (เยือน 0-0/ เหย้า 2-2)
แต่ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่ ในฐานะที่ผมเคยอยู่ตรงนั้น ผมมั่นใจว่า หากไม่มี เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ในตอนนั้นเข้ามา ผลงานของทัพ “ช้างศึก” ใน เอเชียน คัพ จะดีกว่านี้แน่ๆ และเราอาจจะไปไกลกว่าที่ควรจะเป็นก็เป็นได้ แม้มันจะป่วยการที่จะไปพูดถึงอดีตก็ตาม

ทว่า อดีต คือ บทเรียนและ อดีต สวยงามเสมอยามนึกถึง..
และเนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปีที่มีอะไรเปลี่ยนไปมากมายสำหรับวงการลูกหนังไทย วันนี้ผมขอหยิบยกบทสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายของคุณลุงใจดีที่ชื่อ มิโลวาน ในหลากหลายแง่มุม ที่รับประกันว่าไม่เคยมีใครได้อ่านมาแบ่งปันกันครับ
หมายเหตุ – บทสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้น หลังทีมชาติไทยภายใต้การนำของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ผู้รับบทกุนซือรักษาการณ์ในขณะนั้นพาทีมพ่าย จีน จนตกรอบ

“ผมผิดหวังเหมือนกัน เพราะผมตั้งใจทำงานหนักทุกคืนวันตลอด 20 เดือนเพื่อพาทีมชาติไทยไปสู่อีกระดับหนึ่ง ผมคิดว่าเราใกล้มากๆ ลองดูวิธีการเล่นของเราใน เอเชียน คัพ สิ เราสามารถต่อกรกับทีมที่มีอันดับเหนือกว่าเราได้ เราเกือบเข้ารอบก่อนรองฯด้วยซ้ำ” อดีตนายใหญ่ทีมชาติกาน่า เปิดใจเป็นอย่างแรก
“เกมกับ อินเดีย ผมว่ามีหลายอย่างที่แปลกมากๆ ผมไม่อยากโทษใครหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ แต่ผมไม่ได้วางแผนให้ทีมเล่นแบบนั้น ตลอดชีวิตการเป็นโค้ชของผม ทีมของผมไม่เคยเสียถึง 4 ประตูในเกมเดียว และแม้เราจะแพ้เกมนั้น หลังจบเกม ผมยังมั่นใจว่า เราจะกลับมาได้ เราจะผ่านเข้ารอบต่อไปได้”
“คืนนั้น ผมนอนไม่หลับทั้งคืน ผมคิดถึงแค่เกมต่อไปกับ บาห์เรน แต่ว่าตอนเช้า คุณก็เป็นคนบอกผมเองว่า ผมโดนปลดแล้ว” ราเยวัช กล่าวพร้อมหัวเราะ หลังจากที่วันนั้นผมเป็นคนแจ้งเขาเองว่า ถูกยกเลิกสัญญาแล้ว
“ผมคิดว่าผมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จนั้นนะ(ที่ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายของ เอเชียน คัพ 2019) ผมดีใจและภูมิใจกับท่านนายกสมาคมฯ ผู้บริหาร นักเตะ สต๊าฟโค้ช ทีมงาน สื่อมวลชน แฟนๆ และทุกคนจริงๆ ผมคิดว่ามันเกิดจากความพยายามของทุกคน รวมทั้งผมด้วย ผมคิดว่าไม่มีใครเปลี่ยนแปลงทีม ฟอร์ม วิธีการเล่น และผลงานของทีมได้ภายใน 3 วันหรอก เพราะงั้นผมคิดว่าผมคือส่วนหนึ่งของผลแห่งความสำเร็จเหมือนกัน”
“ใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ผมว่ารอบแรก เราทำได้ดีมาก แต่กับ มาเลเซีย พวกเราต่ำกว่ามาตราฐานจริงๆ เราพลาดจุดโทษในวินาทีสุดท้าย และทุกอย่างก็เป็นอย่างที่รู้กัน” อดีตนายใหญ่ทีมชาติกาตาร์ในปี 2011 กล่าวถึงทัวร์นาเมนต์ที่เขาไม่อยากส่งทีมชุดใหญ่เข้าแข่งด้วยซ้ำ

ส่วนคำถามถึงสไตล์และวิธีการเล่นของ ทีมชาติไทย ที่แฟนบอลมักวิจารณ์ว่าเราเล่นเกมรับมากเกินไปหรือเป็นรถบัสอาเซียนนั้น ลุงมิโล ตอบได้อย่างน่าสนใจมาก
“ผมบอกไปหลายครั้งก่อนหน้านี้แล้ว ในฟุตบอลสมัยใหม่ ทีมจำเป็นต้องเล่นเกมรุกและเกมรับให้ดีพอๆกัน ผมเชื่อว่า การเข้ามาของผม ทำให้ ทีมไทย เป็นทีมที่พร้อมเล่นเพื่อผลการแข่งขันมากขึ้น รู้วิธีเล่นเพื่อชัยชนะมากขึ้น เรามีเกมที่ดีมากมายที่ทำได้ดีกับทีมที่แกร่งกว่าทั้งในเรื่องของตัวผู้เล่นและอันดับฟีฟ่า อย่าง เกมพบ เคนย่า, กาบอง, ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก้ และ สโลวาเกีย”
“ก่อนหน้านี้ สไตล์ของทีมชาติไทยคือ เล่นเกมรุกและไม่เอาเกมรับเลย มันทำให้ทีมไม่ได้ผลการแข่งขันในระดับสูงหรอก ทุกคนเล่นตามใจตัวเอง ไม่ได้โฟกัสที่หน้าที่ ทุกคนคิดถึงแต่ปากประตูคู่แข่ง แต่ลืมนึกถืงประตูตัวเอง ปากประตูที่ทุกคนต้องช่วยกันรักษา”
“สิ่งที่ผมพยายามสอนลูกทีมตลอดเวลา คือ การเปลี่ยนรับเป็นรุกให้เร็วที่สุด เพราะมันคือทางลัดที่จะพา ไทย ไปสู่แถวหน้าของ เอเชีย ได้ ผมอยากเห็นทีมของผมเล่นด้วยความกระหาย วิ่งกดดันคู่แข่งตลอดทั้งเกม เหมือนอย่างที่ มาเลเซีย และ อินเดีย ทำกับเรา แบบนั้นเลย ผมคิดว่านักเตะไทยต้องพัฒนาในเรื่องของสภาพจิตใจ และต้องมีความกระหายมากกว่านี้ กระหายในความสำเร็จ กระหายที่จะทุ่มเท และทำมันออกมาให้ดีที่สุด”
“เราไปไกลกว่านี้ได้ ผมเชื่อแบบนั้นจริงๆ”
นี่คือภาคแรกและส่วนหนึ่งของจดหมายจาก มิสเตอร์ราเยวัช ที่ทิ้งไว้ก่อนที่แกจะกลับบ้านเกิดไป ในครั้งหน้าเราจะมาพูดถึง ความแตกต่างของทีมชาติไทยกับทีมชาติกาน่า, ผู้เล่นที่เขาชอบที่สุดในทีม, ความทรงจำที่ดีกับทัพ “ช้างศึก” และ ความรู้สึกสุดท้ายที่ไม่เคยได้บอกแฟนฟุตบอลชาวไทยทุกคนตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา…
 
เกี่ยวกับผู้เขียน
สรร ต่อศรีเจริญ – อดีตล่ามโค้ชมิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทยและผู้ประสานงานทีมชาติไทย ผู้หลงรักฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และฝันที่จะเห็นทีมชาติไทยไปบอลโลกให้ได้
Instagram: @san.torsricharoen

http://news.finalgoal.com/all/thai-league/thai-team/lastletterof-rajevac/?fbclid=IwAR2Cd8QmHDnBH3-lfF5mk_BcT1sIdUl6h2_kfdRFBXAjlkrLF9b43IAmrqI
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่