แบ่งเค้กประเทศไทย มือใครยาว สาวได้สาวเอา
อา..ในขณะน้ำท่วมเมืองอุบล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอีสานใต้ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างระดมกำลังกันเข้าช่วยกู้ภัย ก็ปรากฏเหตุการณ์สำคัญที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในคณะสงฆ์ไทยในอนาคตอันใกล้ ภายใต้การบริหารปกครองของสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ พระองค์ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะไม่แตะต้องเงินทองให้เป็นมลทินแก่ฝ่าพระหัตถ์ ถือหลัก พระที่ดีต้อง..เคร่งอย่างเดียว อย่างอื่นอย่ายุ่ง ก็เลยไม่มีพระสังฆราชทรัพย์ประทานให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เพราะเราก็ไม่มีแม้แต่..แดงเดียว !
มหาเถรสมาคม ภายใต้การบังคับบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ "สมเด็จพระมหาธีราจารย์" วัดยานนาวา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของ มส. ให้เป็นหัวหน้านำทีมลงพื้นที่ ในขณะที่องค์กรสงฆ์ภาคส่วนอื่นๆ ล้วนแต่ยื่นมือเข้าช่วย "ผ่านมหาเถรสมาคม"
แม้แต่ในต่างประเทศ อาทิเช่น สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ส่งเงินช่วยน้ำท่วม 30,000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,000,000 บาท
องค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ส่งเงินช่วยอีก 10,000 ปอนด์ ประมาณ 500,000 บาท
พระธรรมทูตไทยในอินเดีย-เนปาล จีน ยุโรป ฯลฯ อีกมากมาย รวมใส่ย่ามให้สมเด็จวัดยานนำไปช่วยผู้ประสบภัย ขณะที่สมเด็จอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเก่าหรือสมเด็จใหม่ ไม่มีใครขยับเรื่องนี้เลย โยนให้เป็นภาระของสมเด็จวัดยานเพียงรูปเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน "มือโปรทางด้านงานสาธารณสงเคราะห์ของประเทศไทย" คือ ท่านธัมมชโยแห่งราชอาณาจักรธรรมกาย ก็ได้เวลาออกศึก หลังจากถูกรัฐบาลทหารปิดล้อมมานาน แต่เวลานี้ทหารถูกน้ำปิดล้อม ปล่อยให้จระเข้ธรรมกายว่ายออกนอกกำแพงไปจนถึงริมโขง ป้ายและถุงยังชีพยี่ห้อ "มูลนิธิธรรมกาย-วัดพระธรรมกาย" จึงสยายปีกไปทุกตำบล รัฐบาลก็ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะบิ๊กตู่ประกาศว่า"ทำดีต้องช่วยๆ กัน อย่าผลักให้เป็นภาระของรัฐบาลเท่านั้น ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต่างก็มีหน้าที่ช่วยเหลือประเทศ" งานนี้เสร็จธัมมชโยแน่นอน
เพราะใช่แค่ขนถุงยังชีพลงพื้นที่อีสานเท่านั้น ธัมมชโยยังคิดการใหญ่"ใช้ให้" เจ้าคุณสมศักดิ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีตำแหน่งเป็น "เจ้านายสายตรง" แต่ให้มาเป็น "ลูกน้องสายอ้อมหรือเฉพาะกิจ" เอาหน้ามาเป็นประธานในงานตักบาตรช่วยน้ำท่วมใหญ่ ในวันที่ 22กันยายน ศกนี้ ข้าวของที่ได้ก็จะนำไปใช้ในนาม "มูลนิธิธรรมกาย-วัดพระธรรมกาย" คนโง่ก็ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด เป็นธรรมดา
คึกฤทธิ์ เจาะค่ายทหาร
ไอ้เข้ตัวที่สอง ที่ว่ายออกจากบ่อแถวๆ ปทุมธานี มีชื่อว่า "คึกฤทธิ์-พุทธวจน" ก็ว่ายออกถ้ำมาอย่างเงียบๆ ไม่โฉ่งฉ่าง แต่ว่าแรงมากๆ เพราะเล่นกินเหยื่อผ่าน "ทหาร" ให้ผ้าลายเอาห้องน้ำไปให้ทหาร แล้วให้ทหารเอาไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งทหารก็ยินดีรับการอุดหนุน ไม่ถามเลยซักคำว่า "เอ้า..วัดนาป่าพง เป็นวัดของคณะสงฆ์ไทยมิใช่หรือ ทำไมไม่เอาไปบริจาคผ่านมหาเถรสมาคม ทำไมต้องเอามาให้ทหาร"
มองในแง่ร้ายไว้ก่อนว่า ธรรมกายก็สร้างอิทธิพลส่วนตัว ไม่ทำงานร่วมกับมหาเถรสมาคม แถมยังทำได้ดีกว่ามหาเถรสมาคมเสียอีก มีนักการเมืองเป็นสาวก เลยได้ศาสนิกส่วนใหญ่ของประเทศไทยไปครอง ส่วนคึกฤทธิ์ก็เจาะตลาดทหาร เพราะเชื่อว่า ประเทศไทยมีทหารเป็นเจ้าของ ถ้าปกครองทหารได้ จะทำอะไรก็ได้ แล้วเรื่องอะไรจะเอาไปให้มหาเถรสมาคม เอาไปให้ทหารดีกว่า ตรงกว่า เป็น Direct Sale ได้ก็ได้ตรงๆ เสียเวลาไปวัดปากน้ำเหมือนเคย
http://www.alittlebuddha.com/News%202019/060_2019.html
มันมากับน้ำ ! ธรรมกาย-คึกฤทธิ์ ชิงพื้นที่เมืองอุบล ท่ามกลางกระแสน้ำหลากภาคอีสาน
อา..ในขณะน้ำท่วมเมืองอุบล ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอีสานใต้ ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างระดมกำลังกันเข้าช่วยกู้ภัย ก็ปรากฏเหตุการณ์สำคัญที่จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในคณะสงฆ์ไทยในอนาคตอันใกล้ ภายใต้การบริหารปกครองของสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ พระองค์ผู้บริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะไม่แตะต้องเงินทองให้เป็นมลทินแก่ฝ่าพระหัตถ์ ถือหลัก พระที่ดีต้อง..เคร่งอย่างเดียว อย่างอื่นอย่ายุ่ง ก็เลยไม่มีพระสังฆราชทรัพย์ประทานให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม เพราะเราก็ไม่มีแม้แต่..แดงเดียว !
มหาเถรสมาคม ภายใต้การบังคับบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช แต่งตั้งให้ "สมเด็จพระมหาธีราจารย์" วัดยานนาวา ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของ มส. ให้เป็นหัวหน้านำทีมลงพื้นที่ ในขณะที่องค์กรสงฆ์ภาคส่วนอื่นๆ ล้วนแต่ยื่นมือเข้าช่วย "ผ่านมหาเถรสมาคม"
แม้แต่ในต่างประเทศ อาทิเช่น สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ส่งเงินช่วยน้ำท่วม 30,000 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,000,000 บาท
องค์กรพระธรรมทูตไทยในสหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ส่งเงินช่วยอีก 10,000 ปอนด์ ประมาณ 500,000 บาท
พระธรรมทูตไทยในอินเดีย-เนปาล จีน ยุโรป ฯลฯ อีกมากมาย รวมใส่ย่ามให้สมเด็จวัดยานนำไปช่วยผู้ประสบภัย ขณะที่สมเด็จอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จเก่าหรือสมเด็จใหม่ ไม่มีใครขยับเรื่องนี้เลย โยนให้เป็นภาระของสมเด็จวัดยานเพียงรูปเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน "มือโปรทางด้านงานสาธารณสงเคราะห์ของประเทศไทย" คือ ท่านธัมมชโยแห่งราชอาณาจักรธรรมกาย ก็ได้เวลาออกศึก หลังจากถูกรัฐบาลทหารปิดล้อมมานาน แต่เวลานี้ทหารถูกน้ำปิดล้อม ปล่อยให้จระเข้ธรรมกายว่ายออกนอกกำแพงไปจนถึงริมโขง ป้ายและถุงยังชีพยี่ห้อ "มูลนิธิธรรมกาย-วัดพระธรรมกาย" จึงสยายปีกไปทุกตำบล รัฐบาลก็ได้แต่มองตาปริบๆ เพราะบิ๊กตู่ประกาศว่า"ทำดีต้องช่วยๆ กัน อย่าผลักให้เป็นภาระของรัฐบาลเท่านั้น ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ต่างก็มีหน้าที่ช่วยเหลือประเทศ" งานนี้เสร็จธัมมชโยแน่นอน
เพราะใช่แค่ขนถุงยังชีพลงพื้นที่อีสานเท่านั้น ธัมมชโยยังคิดการใหญ่"ใช้ให้" เจ้าคุณสมศักดิ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีตำแหน่งเป็น "เจ้านายสายตรง" แต่ให้มาเป็น "ลูกน้องสายอ้อมหรือเฉพาะกิจ" เอาหน้ามาเป็นประธานในงานตักบาตรช่วยน้ำท่วมใหญ่ ในวันที่ 22กันยายน ศกนี้ ข้าวของที่ได้ก็จะนำไปใช้ในนาม "มูลนิธิธรรมกาย-วัดพระธรรมกาย" คนโง่ก็ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด เป็นธรรมดา
คึกฤทธิ์ เจาะค่ายทหาร
ไอ้เข้ตัวที่สอง ที่ว่ายออกจากบ่อแถวๆ ปทุมธานี มีชื่อว่า "คึกฤทธิ์-พุทธวจน" ก็ว่ายออกถ้ำมาอย่างเงียบๆ ไม่โฉ่งฉ่าง แต่ว่าแรงมากๆ เพราะเล่นกินเหยื่อผ่าน "ทหาร" ให้ผ้าลายเอาห้องน้ำไปให้ทหาร แล้วให้ทหารเอาไปช่วยน้ำท่วม ซึ่งทหารก็ยินดีรับการอุดหนุน ไม่ถามเลยซักคำว่า "เอ้า..วัดนาป่าพง เป็นวัดของคณะสงฆ์ไทยมิใช่หรือ ทำไมไม่เอาไปบริจาคผ่านมหาเถรสมาคม ทำไมต้องเอามาให้ทหาร"
มองในแง่ร้ายไว้ก่อนว่า ธรรมกายก็สร้างอิทธิพลส่วนตัว ไม่ทำงานร่วมกับมหาเถรสมาคม แถมยังทำได้ดีกว่ามหาเถรสมาคมเสียอีก มีนักการเมืองเป็นสาวก เลยได้ศาสนิกส่วนใหญ่ของประเทศไทยไปครอง ส่วนคึกฤทธิ์ก็เจาะตลาดทหาร เพราะเชื่อว่า ประเทศไทยมีทหารเป็นเจ้าของ ถ้าปกครองทหารได้ จะทำอะไรก็ได้ แล้วเรื่องอะไรจะเอาไปให้มหาเถรสมาคม เอาไปให้ทหารดีกว่า ตรงกว่า เป็น Direct Sale ได้ก็ได้ตรงๆ เสียเวลาไปวัดปากน้ำเหมือนเคย
http://www.alittlebuddha.com/News%202019/060_2019.html