สวัสดีครับทุกๆท่าน วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การผ่าตัดฝีคัณฑสูตรให้กับคนที่เป็นโรคนี้อยู่แล้วไม่กล้าไปผ่าตัดนะครับ
เรื่มเลยนะครับ ผมเป็นโรคฝีคัณฑสูตรตั้งแต่จำความได้ก็น่าจะประมาณ 5 ปีมั้งครับ ตอนแรกที่เป็นผมไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะหายขาด ตอนนั้นบอกเลยว่ากลัวมากๆครับ แค่ได้ยินคำว่าผ่าตัดก็จะเป็นลมแล้ว ผมเลยตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่แบบทรมานตั้งแต่นั้นมา ลักษณะอาการของฝีคือเมื่อไรก็ตามที่มันเริ่มบวมมันจะมีอาการปวดมากครับ ปวดชนิดที่ว่าอะไรไปโดนไม่ได้เลย มีทางเดียวคือรอให้ฝีมันแตกอาการปวดจึงหายไป แต่หายไปไม่นานก็กลับมาเป็นอีก วนไปวนมาแบบนี้ 5 ปี นานเอาเรื่องเลย จนกนะทั่งมีอยู่วันนึง ไอฝีนรกนี่มันบวมหนักมากครับ นั่งไม่ได้ เดินก็เจ็บ ทรมานมากครับ ถ้าให้คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 20 เลย คือมันปวดมาก เจ็บมาก คิดในใจว่าเมื่อไรมันจะแตกๆสักที ผมทนเจ็บอยู่ประมาณอาทิตย์นึงได้มั้งครับ จนทนไม่ไหวต้องไปร้านขายยาซื้อยามากิน กินได้ 3 วัน อาการดีขึ้นครับ แต่ก็กลัวว่ามันจะเจ็บแบบนี้ขึ้นมาอีก เลยตัดสินใจผ่าเลยครับ ดังคำที่วัยรุ่นชอบพูดกันคือ เจ็บสั้นดีกว่าปวดนาน !!!
ผมไปหาหมอที่ รพ.รามาธิบดีครับ เข้าไปที่แผนกพรีเมี่ยม ก้ได้ไปพบกับอาจารย์หมอท่านนึง ผมขออนุญาตเอ่ยนามท่านอาจารย์หมอครับ ชื่อของท่านอาจารย์หมอคือ คุณหมอวีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา เมื่อผมเข้าไปผมกับคุณหมอ คุณหมอก้แนะนำว่าถ้าอยากหายก็ต้องผ่านะ ผมเลยตัดสินใจบอกกับคุณหมอเลยว่า ผ่าเลยครับ จากนั้นก็มีพยาบาลมานัดวันเวลาผ่าตัด จองห้องพักให้เสร็จเรียบร้อย ผมผ่าวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 17.00 น. การเตรียมตัวก็ไม่มีไรมากครับ แค่อดอาหารและน้ำมา กี่ชั่วโมงผมจำไม่ได้ แต่เดี๋ยวพยาบาลเค้าจะอธิบายเองครับ ข้ามมาที่ช่วงเวลาก่อนจะผ่าตัด ยอมรับเลยครับว่ากลัวมาก กลัวเจ็บ กลัวไปหมดทุกอย่าง แอบคิดเล่นๆว่า เปลี่ยนใจตอนนี้ทันมั้ย 555 แต่ก็ไม่ทันละครับ เจ้าหน้าที่พยาบาลก็เข้ามาในห้อง พานอนบนเตียง แล้วก็เข็นไป เจ้าหน้าที่ที่มาเข็นเตียงสุภาพมากครับ มีการบอกตลอดว่า สะเทือนหน่อยนะครับตลอด แต่ตอนนั้นหูผมดับไปแล้ว ในใจคิดเรื่องเดียวคือไม่อยากผ่าตัดเลย พอมาถึงหน้าห้องผ่าตัดก็พบกับคุณหมอวิสัญญี หมอก้อธิบายว่าต้องบล็อกหลังนะ ผมก้โอเค ไม่ได้กลัวอะไร กลัวแค่ผ่าตัดอย่างเดียว
และแล้วเวลาที่สยองก็มาถึง เจ้าหน้าที่เข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด บอกเลยว่าเหมือนในหนังเลย ไฟดวงใหญ่ๆ เครื่องอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด คุณหมอกับพยาบาลรวมกันเกือบ 10 คน คิดในใจ เอาวะ มาถึงขั้นนี้ละ เป็นไงเป็นกัน จากนั้นคุณหมอวิสัญญี ก็มาทำการฉีดยาชาเพื่อจะบล๊อกหลัง พอยาออกฤทธิ์ อาการที่ตามมาคือส่วนล่างทั้งหมดชาไปหมดเลย ขยับไม่ได้ จากนั้นพยาบาลก็ให้เรานอนคว่ำถ่างขา แล้วก็เริ่มผ่าตัด
การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ระหว่างผ่าผมไม่รู้สึกอะไรเพราะชาไปหมด คุณหมอวิสัญญีจะคอยสอบถามอาการเราว่าเราโอเคมั้ย เป็นลมมั้ย มีอาการวูบๆมั้ย บอกเลยว่าดูแลเราดีมากครับ ระหว่างผ่าในห้องเงียบมาก ผมเลยชวนคุณหมอวิสัญญีคุย ถามไปเรื่อย 555 ต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่รบกวน ผมคุยเยอะมากครับ คุณหมอก็น่ารัก คุยกับผมตลอด คุยเพลินจนคุณหมอบอกว่าเสร็จแล้ว !!! ไวมาก แล้วคุณหมอก็เอาฝีที่ผ่าออกมาให้ดู จะบอกว่าหน้าตาอัปลักษณ์มากครับ 555 ผ่าเสร็จก็ไปพักที่ห้อง ICU 1ชม. จากนั้นก็กลับมาที่ห้องพักเรา ผมผ่าตอน 5 โมง พักอีก 1 ชม กลับมาที่ห้องประมาณ
18.30 ก็นอนหงายอยู่เฉยๆ ลุกไปไหนไม่ได้ ท่อนล่างชาไปหมด เหมือนคนเป็นตะคริว เวลาผ่านไป พยาบาลก็คอยมาวัดความดัน วัดไข้เป็นระยะๆ สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ ถ้ามันหายชามันจะเจ็บขนาดไหน เวลาล่วงเลยไป 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม 5ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 เห้ย ทำไมมันไม่หายชาสักทีวะ เลยสอบถามพยาบาลว่าอาการชาจะหายเมื่อไร แต่ตอนเที่ยงคืน ถึงตี 1 ผมเริ่มขยับได้แล้ว พยาบาลก็บอกว่า ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ไอเราก้คิดในใจ บ้าแล้ว ทำไมมันไม่เจ็บเลยลองขมิบก้นดู ก็ขมิบได้ปกติ แต่ในใจยังหลอนอยู่ ยังไม่กล้าพลิกตัว กลัวมันเจ็บ ผมก้นอนอยู่แบบนั้น จนพยาบาลถามว่าปวดฉี่มั้ยคะ ผมก็บอกว่าไม่ปวดครับ พยาบาลบอกว่าให้เวลาถึง ตี 2 ครึ่ง นะคะ ถ้าไม่ฉี่ต้องสวน !!! แล้วพยาบาลก็เอาคล้ายๆแผ่นเจลเย็นๆมาวางไว้ที่ท้องน้อยเพื่อกระตุ้นให้ฉี่ไวๆ พอถึงตี 2 ครึ่งพยาบาลเดินเข้ามาถามว่าฉี่รึยัง ผมเลยบอกยัง พยาบาลบอกงั้นต้องสวนนะคะ ผมเลยบอกว่า ขอลองเข้าห้องน้ำก่อน ในใจก็ภาวนาเลย ออกมาๆๆๆๆๆ ได้ผลครับ 555 รอดตัวไป ลืมไปเลยว่ากังวลเรื่องแผลอยู่
พอผมกลับขึ้นเตียงก็นอนคิด ถ้าเราเดินได้ ฉี่ได้ แปลว่าหายชาแล้ว ทุกๆท่านครับ คืออยากบอกว่า มันไม่เจ็บเลย ไม่ใช่เจ็บแต่ทนได้นะครับ คือไม่เจ็บ 555 ยูโน๊ว ไม่เจ็บบบบ ดีใจมาก ผมอยากให้มันเจ็บ เลยลองพิสูจน์โดยการขมิบก้นรัวๆ 5555 ไม่เจ็บโว้ยยยย ดีใจแล้วก็หลับไป แต่ครับ แต่ !!! อย่าพึ่งได้ใจ คนเรานอกจากปัสสาวะแล้วยังมีอุจจาระด้วย เอาล่ะสิ เคยอ่านในพันทิปมาว่าน่ากลัว ถึงคราวของตัวเองมั่งแล้ว 555 อ้อ ลืมบอก แผลผ่าตัดฝี หมอไม่ได้เย็บให้นะครับ หมอเอาผ้าก๊อสยัดเข้าไปแล้วก็ปิดด้วยสกีอตเทปมั้ง มันเหนียวมาก ตอนก่อนจะถ่ายหนัก พยายามแกะอยู่นานมาก แกะเสร็จก็กลัวครับ ไม่กล้าจับแผล ถ่ายมันทั้งแบบนั้นแหละ ไม่มองด้วย กลัว 5555 ถ่ายเสร็จถึงตอนล้างก้น ลุ้นอยู่นาน จะเจ็บมั้ยวะๆ ป๊าบบบ !!! เจ็บนิดหน่อย แทบไม่รู้สึก 555 สบายละ หลังจากถ่ายเสร็จก็เป็นการแช่ก้น เค้ามีที่นั่งแช่ให้อย่างดีครับ ไม่ต้องห่วง วางพาดไว้กับโถ ใส่น้ำอุ่น นั่งได้เลย โคตรสบาย 555 นั่งแช่ 15 นาที ก็มีเลือดไหล กับน้ำเหลือง นิดหน่อย ไม่ได้มากอะไร ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ่ายเสร็จ อาบน้ำแปรงฟันออกมา มาเจอคุณหมอพอดีเลย หมอถามว่าถ่ายได้แล้วหรอ ผมก็บอกว่าได้แล้วครับ ถ่ายได้ปกติ หมอถามเจ็บมั้ย ตอบเลยว่าไม่ !!! 5555 หมอเลยบอกว่า งั้นก็กลับบ้านได้เลย คือตอนแรกหมอบอกให้นอน 2 คืน แต่ผมไม่เจ็บ หมอเลยบอกว่าเตรียมกลับได้เลย 5555 วู้วววว
ที่พิมพ์มาทั้งหมดก้แค่อยากจะบอกกับคนที่เป็นโรคเดียวกับผมนี้ ผ่าเถอะครับ มันไม่ได้เจ็บอะไรเลย ถ้าคุณสามารถอดทนกับฝีที่มันบวมได้ บอกเลยว่าอันนั้นอะปวดสุดๆแล้ว มันไม่เจ็บเลยครับ ไม่เจ็บ ดุปากนัชชานะคะ ไม่เจ็บเลย โล่ง สบาย ไม่ได้โกหก ยอมรับเลยว่าผมเป็นคนขี้ขลาดมาก กลัวเจ็บมาก แต่มันไม่ได้เจ็บ เชื่อผม ไม่เจ็บจริงๆ ขึ้นแท๊กซี่กลับบ้านแบบสบายๆ เดินเข้าบ้านเหมือนคนปกติ
วันนี้ขณะที่ผมพิมพ์อยู่คือวันที่ 2 มกราคม 2563 ผ่านมาประมาณจะ 3 สัปดาห์แล้ว ตอนนี้เลือดแทบไม่ไหลเลย อาจจะมีน้ำเหลืองไหลบ้างเล็กน้อย ปวดนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ การดูแลตัวเองก็แค่ กินยาตามที่หมอบอก แช่ก้นเช้า-เย็น และหลังขับถ่าย แค่นั้น กินได้ทุกอย่าง ไม่มียกเว้น
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอบพระคุณคุณหมอวีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา ที่ช่วยรักษาให้ผมมีชีวิตที่ดีไม่ทรมาน
ขอบคุณคุณหมอวิสัญญี (ต้องขอกราบขอโทษที่ผมไม่ทราบชื่อ) คุณหมอดูแลเท๊คแคร์ผมดีมาก เป็นห่วงเราตลอดการผ่าตัด
ขอบคุณพยาบาลทุกๆท่านที่คอยดูแลผม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เข็นเตียง กราบขอบพระคุณมากๆเลยครับ
ขออำนาจคุณพระรัตนตรัย ตลอดจนสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้ครอบครัวของคุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่ จงพบแต่ความสุขความเจริญ ไม่เจ็บไม่ป่วย พอเจอแต่สิ่งดีๆในชีวิตแคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเทอญญญ กราบขอบพระคุณครับ ^^
ประสบการณ์ผ่าตัดฝีคัณฑสูตร ธันวาคม 2562 มันไม่เจ็บอย่างที่คิด !!!
เรื่มเลยนะครับ ผมเป็นโรคฝีคัณฑสูตรตั้งแต่จำความได้ก็น่าจะประมาณ 5 ปีมั้งครับ ตอนแรกที่เป็นผมไปหาหมอ หมอบอกว่าต้องผ่าตัดเท่านั้นถึงจะหายขาด ตอนนั้นบอกเลยว่ากลัวมากๆครับ แค่ได้ยินคำว่าผ่าตัดก็จะเป็นลมแล้ว ผมเลยตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่แบบทรมานตั้งแต่นั้นมา ลักษณะอาการของฝีคือเมื่อไรก็ตามที่มันเริ่มบวมมันจะมีอาการปวดมากครับ ปวดชนิดที่ว่าอะไรไปโดนไม่ได้เลย มีทางเดียวคือรอให้ฝีมันแตกอาการปวดจึงหายไป แต่หายไปไม่นานก็กลับมาเป็นอีก วนไปวนมาแบบนี้ 5 ปี นานเอาเรื่องเลย จนกนะทั่งมีอยู่วันนึง ไอฝีนรกนี่มันบวมหนักมากครับ นั่งไม่ได้ เดินก็เจ็บ ทรมานมากครับ ถ้าให้คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 20 เลย คือมันปวดมาก เจ็บมาก คิดในใจว่าเมื่อไรมันจะแตกๆสักที ผมทนเจ็บอยู่ประมาณอาทิตย์นึงได้มั้งครับ จนทนไม่ไหวต้องไปร้านขายยาซื้อยามากิน กินได้ 3 วัน อาการดีขึ้นครับ แต่ก็กลัวว่ามันจะเจ็บแบบนี้ขึ้นมาอีก เลยตัดสินใจผ่าเลยครับ ดังคำที่วัยรุ่นชอบพูดกันคือ เจ็บสั้นดีกว่าปวดนาน !!!
ผมไปหาหมอที่ รพ.รามาธิบดีครับ เข้าไปที่แผนกพรีเมี่ยม ก้ได้ไปพบกับอาจารย์หมอท่านนึง ผมขออนุญาตเอ่ยนามท่านอาจารย์หมอครับ ชื่อของท่านอาจารย์หมอคือ คุณหมอวีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา เมื่อผมเข้าไปผมกับคุณหมอ คุณหมอก้แนะนำว่าถ้าอยากหายก็ต้องผ่านะ ผมเลยตัดสินใจบอกกับคุณหมอเลยว่า ผ่าเลยครับ จากนั้นก็มีพยาบาลมานัดวันเวลาผ่าตัด จองห้องพักให้เสร็จเรียบร้อย ผมผ่าวันที่ 16 ธันวาคม 2562 เวลา 17.00 น. การเตรียมตัวก็ไม่มีไรมากครับ แค่อดอาหารและน้ำมา กี่ชั่วโมงผมจำไม่ได้ แต่เดี๋ยวพยาบาลเค้าจะอธิบายเองครับ ข้ามมาที่ช่วงเวลาก่อนจะผ่าตัด ยอมรับเลยครับว่ากลัวมาก กลัวเจ็บ กลัวไปหมดทุกอย่าง แอบคิดเล่นๆว่า เปลี่ยนใจตอนนี้ทันมั้ย 555 แต่ก็ไม่ทันละครับ เจ้าหน้าที่พยาบาลก็เข้ามาในห้อง พานอนบนเตียง แล้วก็เข็นไป เจ้าหน้าที่ที่มาเข็นเตียงสุภาพมากครับ มีการบอกตลอดว่า สะเทือนหน่อยนะครับตลอด แต่ตอนนั้นหูผมดับไปแล้ว ในใจคิดเรื่องเดียวคือไม่อยากผ่าตัดเลย พอมาถึงหน้าห้องผ่าตัดก็พบกับคุณหมอวิสัญญี หมอก้อธิบายว่าต้องบล็อกหลังนะ ผมก้โอเค ไม่ได้กลัวอะไร กลัวแค่ผ่าตัดอย่างเดียว
และแล้วเวลาที่สยองก็มาถึง เจ้าหน้าที่เข็นเข้าไปในห้องผ่าตัด บอกเลยว่าเหมือนในหนังเลย ไฟดวงใหญ่ๆ เครื่องอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด คุณหมอกับพยาบาลรวมกันเกือบ 10 คน คิดในใจ เอาวะ มาถึงขั้นนี้ละ เป็นไงเป็นกัน จากนั้นคุณหมอวิสัญญี ก็มาทำการฉีดยาชาเพื่อจะบล๊อกหลัง พอยาออกฤทธิ์ อาการที่ตามมาคือส่วนล่างทั้งหมดชาไปหมดเลย ขยับไม่ได้ จากนั้นพยาบาลก็ให้เรานอนคว่ำถ่างขา แล้วก็เริ่มผ่าตัด
การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ระหว่างผ่าผมไม่รู้สึกอะไรเพราะชาไปหมด คุณหมอวิสัญญีจะคอยสอบถามอาการเราว่าเราโอเคมั้ย เป็นลมมั้ย มีอาการวูบๆมั้ย บอกเลยว่าดูแลเราดีมากครับ ระหว่างผ่าในห้องเงียบมาก ผมเลยชวนคุณหมอวิสัญญีคุย ถามไปเรื่อย 555 ต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่รบกวน ผมคุยเยอะมากครับ คุณหมอก็น่ารัก คุยกับผมตลอด คุยเพลินจนคุณหมอบอกว่าเสร็จแล้ว !!! ไวมาก แล้วคุณหมอก็เอาฝีที่ผ่าออกมาให้ดู จะบอกว่าหน้าตาอัปลักษณ์มากครับ 555 ผ่าเสร็จก็ไปพักที่ห้อง ICU 1ชม. จากนั้นก็กลับมาที่ห้องพักเรา ผมผ่าตอน 5 โมง พักอีก 1 ชม กลับมาที่ห้องประมาณ
18.30 ก็นอนหงายอยู่เฉยๆ ลุกไปไหนไม่ได้ ท่อนล่างชาไปหมด เหมือนคนเป็นตะคริว เวลาผ่านไป พยาบาลก็คอยมาวัดความดัน วัดไข้เป็นระยะๆ สิ่งเดียวที่ผมคิดคือ ถ้ามันหายชามันจะเจ็บขนาดไหน เวลาล่วงเลยไป 1 ทุ่ม 2 ทุ่ม 5ทุ่ม เที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 เห้ย ทำไมมันไม่หายชาสักทีวะ เลยสอบถามพยาบาลว่าอาการชาจะหายเมื่อไร แต่ตอนเที่ยงคืน ถึงตี 1 ผมเริ่มขยับได้แล้ว พยาบาลก็บอกว่า ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ไอเราก้คิดในใจ บ้าแล้ว ทำไมมันไม่เจ็บเลยลองขมิบก้นดู ก็ขมิบได้ปกติ แต่ในใจยังหลอนอยู่ ยังไม่กล้าพลิกตัว กลัวมันเจ็บ ผมก้นอนอยู่แบบนั้น จนพยาบาลถามว่าปวดฉี่มั้ยคะ ผมก็บอกว่าไม่ปวดครับ พยาบาลบอกว่าให้เวลาถึง ตี 2 ครึ่ง นะคะ ถ้าไม่ฉี่ต้องสวน !!! แล้วพยาบาลก็เอาคล้ายๆแผ่นเจลเย็นๆมาวางไว้ที่ท้องน้อยเพื่อกระตุ้นให้ฉี่ไวๆ พอถึงตี 2 ครึ่งพยาบาลเดินเข้ามาถามว่าฉี่รึยัง ผมเลยบอกยัง พยาบาลบอกงั้นต้องสวนนะคะ ผมเลยบอกว่า ขอลองเข้าห้องน้ำก่อน ในใจก็ภาวนาเลย ออกมาๆๆๆๆๆ ได้ผลครับ 555 รอดตัวไป ลืมไปเลยว่ากังวลเรื่องแผลอยู่
พอผมกลับขึ้นเตียงก็นอนคิด ถ้าเราเดินได้ ฉี่ได้ แปลว่าหายชาแล้ว ทุกๆท่านครับ คืออยากบอกว่า มันไม่เจ็บเลย ไม่ใช่เจ็บแต่ทนได้นะครับ คือไม่เจ็บ 555 ยูโน๊ว ไม่เจ็บบบบ ดีใจมาก ผมอยากให้มันเจ็บ เลยลองพิสูจน์โดยการขมิบก้นรัวๆ 5555 ไม่เจ็บโว้ยยยย ดีใจแล้วก็หลับไป แต่ครับ แต่ !!! อย่าพึ่งได้ใจ คนเรานอกจากปัสสาวะแล้วยังมีอุจจาระด้วย เอาล่ะสิ เคยอ่านในพันทิปมาว่าน่ากลัว ถึงคราวของตัวเองมั่งแล้ว 555 อ้อ ลืมบอก แผลผ่าตัดฝี หมอไม่ได้เย็บให้นะครับ หมอเอาผ้าก๊อสยัดเข้าไปแล้วก็ปิดด้วยสกีอตเทปมั้ง มันเหนียวมาก ตอนก่อนจะถ่ายหนัก พยายามแกะอยู่นานมาก แกะเสร็จก็กลัวครับ ไม่กล้าจับแผล ถ่ายมันทั้งแบบนั้นแหละ ไม่มองด้วย กลัว 5555 ถ่ายเสร็จถึงตอนล้างก้น ลุ้นอยู่นาน จะเจ็บมั้ยวะๆ ป๊าบบบ !!! เจ็บนิดหน่อย แทบไม่รู้สึก 555 สบายละ หลังจากถ่ายเสร็จก็เป็นการแช่ก้น เค้ามีที่นั่งแช่ให้อย่างดีครับ ไม่ต้องห่วง วางพาดไว้กับโถ ใส่น้ำอุ่น นั่งได้เลย โคตรสบาย 555 นั่งแช่ 15 นาที ก็มีเลือดไหล กับน้ำเหลือง นิดหน่อย ไม่ได้มากอะไร ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ถ่ายเสร็จ อาบน้ำแปรงฟันออกมา มาเจอคุณหมอพอดีเลย หมอถามว่าถ่ายได้แล้วหรอ ผมก็บอกว่าได้แล้วครับ ถ่ายได้ปกติ หมอถามเจ็บมั้ย ตอบเลยว่าไม่ !!! 5555 หมอเลยบอกว่า งั้นก็กลับบ้านได้เลย คือตอนแรกหมอบอกให้นอน 2 คืน แต่ผมไม่เจ็บ หมอเลยบอกว่าเตรียมกลับได้เลย 5555 วู้วววว
ที่พิมพ์มาทั้งหมดก้แค่อยากจะบอกกับคนที่เป็นโรคเดียวกับผมนี้ ผ่าเถอะครับ มันไม่ได้เจ็บอะไรเลย ถ้าคุณสามารถอดทนกับฝีที่มันบวมได้ บอกเลยว่าอันนั้นอะปวดสุดๆแล้ว มันไม่เจ็บเลยครับ ไม่เจ็บ ดุปากนัชชานะคะ ไม่เจ็บเลย โล่ง สบาย ไม่ได้โกหก ยอมรับเลยว่าผมเป็นคนขี้ขลาดมาก กลัวเจ็บมาก แต่มันไม่ได้เจ็บ เชื่อผม ไม่เจ็บจริงๆ ขึ้นแท๊กซี่กลับบ้านแบบสบายๆ เดินเข้าบ้านเหมือนคนปกติ
วันนี้ขณะที่ผมพิมพ์อยู่คือวันที่ 2 มกราคม 2563 ผ่านมาประมาณจะ 3 สัปดาห์แล้ว ตอนนี้เลือดแทบไม่ไหลเลย อาจจะมีน้ำเหลืองไหลบ้างเล็กน้อย ปวดนิดหน่อย นิดเดียวจริงๆ การดูแลตัวเองก็แค่ กินยาตามที่หมอบอก แช่ก้นเช้า-เย็น และหลังขับถ่าย แค่นั้น กินได้ทุกอย่าง ไม่มียกเว้น
สุดท้ายนี้ผมอยากจะขอบพระคุณคุณหมอวีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา ที่ช่วยรักษาให้ผมมีชีวิตที่ดีไม่ทรมาน
ขอบคุณคุณหมอวิสัญญี (ต้องขอกราบขอโทษที่ผมไม่ทราบชื่อ) คุณหมอดูแลเท๊คแคร์ผมดีมาก เป็นห่วงเราตลอดการผ่าตัด
ขอบคุณพยาบาลทุกๆท่านที่คอยดูแลผม รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ที่เข็นเตียง กราบขอบพระคุณมากๆเลยครับ
ขออำนาจคุณพระรัตนตรัย ตลอดจนสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก จงดลบันดาลให้ครอบครัวของคุณหมอ คุณพยาบาล เจ้าหน้าที่ จงพบแต่ความสุขความเจริญ ไม่เจ็บไม่ป่วย พอเจอแต่สิ่งดีๆในชีวิตแคล้วคลาดปลอดภัยด้วยเทอญญญ กราบขอบพระคุณครับ ^^