คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ผมว่ามีส่วนครับ แต่เป็นเหตุผลหลักหรือเปล่าผมก็ไม่กล้าฟันธง แต่มั่นใจมากว่ามันมีส่วนเพราะฟุตบอลมันต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายด้วย แต่นี่เหมือนเรายังไปไม่สุดในด้านนี้เป็นอีกหนึ่งด้านที่เรายังอัพเลเวลได้อีก ลองคิดดูง่ายๆสมมุติถ้ามีนักเตะสองคน มีทักษะการเล่น มีความสามารถ มีความเข้าใจเกม มีไอคิวพอๆกัน แต่อีกคนหนึ่งร่างกายแข็งแรงกว่ายังไงคนที่แข็งแรงกว่าก็ดีกว่าอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไทยควรจริงจังกับวิทยาศาสตร์การกีฬามากกว่านี้โดยเฉพาะด้านอาหาร
ผมเคยดู youtube ของสโมสรดังของไทยสโมสรหนึ่งเวลาเค้าทำกับข้าวเลี้ยงนักเตะผมว่ามันดูเหมือนไม่ค่อยเน้นว่าสำหรับนักกีฬาเหมือนก็กินเหมือนเราๆทั่วๆไป มีอยู่เทปหนึ่งสัมภาษณ์แม่ครัวแกยังบอกด้วยซ้ำว่าบางทีมีนักเตะต่างชาติมาใหม่แกยังเคยถามว่าชอบกินอะไรแกจะทำให้ ซึ่งผมว่ามันไม่น่าใช่แนวทางที่ถูกสำหรับนักกีฬา ที่ถูกมันควรจะผ่านการคิดคำนวณมาแล้วว่าต้องทำอะไรให้นักกีฬากินเพื่อจะได้สารอาหารประเภทที่ต้องการในปริมาณเท่าไหร่ มันควรจะเป็นแบบนั้นรึป่าว?
ผมเคยดู youtube ของสโมสรดังของไทยสโมสรหนึ่งเวลาเค้าทำกับข้าวเลี้ยงนักเตะผมว่ามันดูเหมือนไม่ค่อยเน้นว่าสำหรับนักกีฬาเหมือนก็กินเหมือนเราๆทั่วๆไป มีอยู่เทปหนึ่งสัมภาษณ์แม่ครัวแกยังบอกด้วยซ้ำว่าบางทีมีนักเตะต่างชาติมาใหม่แกยังเคยถามว่าชอบกินอะไรแกจะทำให้ ซึ่งผมว่ามันไม่น่าใช่แนวทางที่ถูกสำหรับนักกีฬา ที่ถูกมันควรจะผ่านการคิดคำนวณมาแล้วว่าต้องทำอะไรให้นักกีฬากินเพื่อจะได้สารอาหารประเภทที่ต้องการในปริมาณเท่าไหร่ มันควรจะเป็นแบบนั้นรึป่าว?
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 19
ไม่ใช่ว่า วิทยาศาสตร์การกีฬาบ้านเราไม่ดี องค์ความรู้เรื่องนี้เพียบ . . .
นักกอล์ฟ นักกรีฑา พวกไตรกีฬา ฯลฯ
กีฬาแบบไหนต้องสร้างกล้ามเนื้อชนิดไหน มากน้อยเท่าไร ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ องค์ความรู้พวกนี้เรามีหมดแหละครับ
แค่วงการนักเตะไม่สนใจกันแค่นั้น มีแค่นี้ก็เล่นได้ . . . นี่
ใครมีรูปเจ รูปอุ้มก่อนไปญี่ปุ่น กับรูปตอนนี้เอามาเทียบดูเลยครับ
แต่ก่อนจะฟิตกล้ามเนื้อของนักบอลเราต้องรู้ก่อนว่า กีฬาฟุตบอลใช้งานกล้ามเนื้อไหนเมื่อไร ใช้หนักแค่ไหน ใช้ต่อเนื่องเท่าไร ใช้เต็มที่ช่วงสั้นหรือยาว ฯลฯ << จริงๆสโมสรไม่ต้องเก็บข้อมูลอะไรก็ได้ ขนาดผมเพิ่งมาสนใจฟุตบอลแค่ไม่กี่เดือนเองยังเห็นรายงานวิจัยฯเรื่องพวกนี้เพียบเลย บอลโลกครั้งนึงพอมีคำถาม มีข้อสงสัย เดี๋ยวก็มีคนทำวิจัยมาขาย ที่ฟีฟ่าแหละเพียบเลย แค่เอามาปรับใช้ให้เป็นระบบ ให้เหมาะสมกับตัวสโมสรเองก็พอแล้ว
นักกอล์ฟ นักกรีฑา พวกไตรกีฬา ฯลฯ
กีฬาแบบไหนต้องสร้างกล้ามเนื้อชนิดไหน มากน้อยเท่าไร ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะได้ องค์ความรู้พวกนี้เรามีหมดแหละครับ
แค่วงการนักเตะไม่สนใจกันแค่นั้น มีแค่นี้ก็เล่นได้ . . . นี่
ใครมีรูปเจ รูปอุ้มก่อนไปญี่ปุ่น กับรูปตอนนี้เอามาเทียบดูเลยครับ
แต่ก่อนจะฟิตกล้ามเนื้อของนักบอลเราต้องรู้ก่อนว่า กีฬาฟุตบอลใช้งานกล้ามเนื้อไหนเมื่อไร ใช้หนักแค่ไหน ใช้ต่อเนื่องเท่าไร ใช้เต็มที่ช่วงสั้นหรือยาว ฯลฯ << จริงๆสโมสรไม่ต้องเก็บข้อมูลอะไรก็ได้ ขนาดผมเพิ่งมาสนใจฟุตบอลแค่ไม่กี่เดือนเองยังเห็นรายงานวิจัยฯเรื่องพวกนี้เพียบเลย บอลโลกครั้งนึงพอมีคำถาม มีข้อสงสัย เดี๋ยวก็มีคนทำวิจัยมาขาย ที่ฟีฟ่าแหละเพียบเลย แค่เอามาปรับใช้ให้เป็นระบบ ให้เหมาะสมกับตัวสโมสรเองก็พอแล้ว
แสดงความคิดเห็น
คิดว่านี่เป็น 1 เหตุผลหลัก ทําไมไทยยังไม่ได้ไปบอลโลก หรือมีนักเตะไปเล่นพรีเมียร์ลีคเลย หรือเปล่าครับ