"ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก" โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ งดงามด้วยจิตใจ  นิยามแก่นแท้แห่งความงดงาม

"ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก"
  โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ งดงามด้วยจิตใจ 



ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก มีชื่อจริงว่า  "พรทิพย์ นาคหิรัญกนก" เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธุ์ พ.ศ. 2511 ณ โรงพยาบาลหญิง ชื่อเล่น  "ปุ๋ย"  มารดาชื่อ ซ่อนกลิ่น บิดาชื่อ อุดม พื้นเพเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา แต่ได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุเพียงแค่ 2 ขวบเนื่องจากบิดาได้ทุนไปศึกษาต่อด้านคอมพิวเตอร์ท่านจึงตัดสินใจพาครอบครัวไปอาศัยอยู่ด้วย ทว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาเป็นที่เรียบร้อย ตัวบิดาและมารดาของคุณปุ๋ยเองกลับมีงานทำที่สหรัฐอเมริกาแล้วทั้งสองจึงลงหลักปักฐานใช้ชีวิตครอบครัวอยู่ที่นั่น ทำให้บรรดาบุตรของทั้งสองได้ใช้ชีวิตท่ามกลางแวดล้อมซีกโลกตะวันตก

ทว่าแม้ครอบครัวของคุณปุ๋ยจะใช้ชีวิตอยู่ที่สหรัฐอเมริกา แต่ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารกันในครอบครัวกลับเป็นภาษาไทยซึ่งเป็นภาษาของบ้านเกิดที่พวกเธอจากมา ในขณะที่ภาษาอังกฤษกลับเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารภายนอกรั้วบ้านเท่านั้น ทำให้เมื่อเติบโตขึ้นจึงทำให้เธอยังสามารถสื่อสารภาษาไทยได้แม้อาจจะไม่ถนัดนัก และแม้เธอจะเติบโตท่ามกลางสังคมของชาวตะวันตก แต่ครอบครัวของเธอยังคงเลี้ยงดูปลูกฝังความเป็นกุลสตรีไทยผนวกกับธุรกิจร้านอาหารไทยทำให้เธอยังคงได้พบเจอกับสังคมคนไทยอยู่บ้าง ส่งผลให้กิริยาท่าทางของคุณปุ๋ยยังคงมีความเป็นคนไทยอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย

เมื่อเติบโตย่างก้าวเข้าสู่วัยสาวสะพรั่ง ความงดงามเยี่ยงสตรีของเธอก็เริ่มเปล่งประกาย แม้จะอยู่ในวัย 13 ถึง 14 ปีแต่คุณปุ๋ยกลับมีความรักสวยรักงาม ชื่นชอบในการละเล่นแต่งตัวให้กับตุ๊กตาเป็นอย่างยิ่ง และนอกจากจะงามด้วยรูปลักษณ์แล้ว กิริยาท่าทางของเธอยังงดงาม แม้จะอยู่ในบ้านซึ่งถือเป็นที่รโหฐานส่วนตัวของแต่ละบุคคล แต่เธอยังคงรักษากิริยาท่าทาง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในบ้านอยู่เสมอ โดยเธอมีความคิดว่าคนเรานั้นต้องรักษาความเรียบร้อยเสมอแม้อยู่ภายในที่รโหฐานก็ตาม


คุณปุ๋ยได้เข้าศึกษาทางด้านจิตวิทยา ในมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเปปเปอร์ไดน์ ช่วงขณะที่เธอกำลังศึกษาคุณปุ๋ยได้ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการกุศล โดยเฉพาะกิจกรรมที่เกี่ยวกับเด็กด้อยโอกาสและเด็กผู้ยากไร้ที่เธอมักมีส่วนร่วมอยู่บ่อยครั้ง นอกจากจะร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับด้านการกุศลแล้ว คุณปุ๋ยยังเคยเข้าร่วมการประกวดนางงาม โดยเธอได้เข้าร่วมการประกวดเวที Miss Teen California และได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 ไปครอบครอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเธอถึงไม่ดูเคอะเขินในการเข้าร่วมประกวดนางสาวไทยเลยแม้แต่น้อย

จุดเริ่มต้นแห่งการเป็นที่หนึ่งในจักรวาลของเธอเริ่มต้นขึ้นเมื่อคราวที่คุณปุ๋ยและ  "คุณอมรรัตน ศิริปรีชาพงษ์"  น้าสาวคนสนิทที่ได้ไปอาศัยอยู่ในอเมริการ่วมชายคาเดียวกับครอบครัวของเธอได้เปิดเธอวิดีโอเทปเกี่ยวกับการประกวดนางงามของฝั่งประเทศไทยที่ได้ถูกนำไปจัดจำหน่ายที่อเมริกา ในทุก ๆ ครั้งที่เธอและคุณอมรรัตน์ได้ดูเทปการประกวดนางงามของไทย มักจะมีเสียงหัวเราะของคุณปุ๋ยตามมาด้วยทุกครั้ง เธอมีความคิดว่านางงามไทยนั้นไม่มีเอกลักษณ์ที่เด่นชัด หน้าตา ท่าทาง กิริยา หน้าตา และทรงผม นางงามทุก ๆ คนต่างคล้ายคลึงกันจนไม่มีเอกลักษณ์ที่เป็นตัวตนของตนเอง บรรยากาศการรับชมเทปการประกวดนางสาวไทยระหว่างคุณปุ๋ยและคุณอมรรัตน์มักเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของเธออยู่เสมอ 

กระทั่งวันหนึ่งที่คุณปุ๋ยดูเทปการประกวดและได้พูดคุยกับคุณอมรรัตน์ว่า นับตั้งแต่คุณอาภัสรา หงสกุลบุคคลผู้มีชื่อเสียงของไทยคนเดียวที่เธอรู้จัก คว้าตำแหน่งนางงามจักรวาล จวบจนวันนั้นก็ยังไม่มีสาวงามคนไหนที่สามารถคว้าตำแหน่งอันทรงเกียรติยศนี้มาให้กับประเทศไทยได้ คุณอมรรัตน์จึงถามว่าเธอจะลองไปประกวดนางสาวไทยเพื่อไปประกวดนางงามจักรวาลดูไหม แต่คุณปุ๋ยกลับปฏิเสธเพราะเธอต้องการไปประกวดนางงามจักรวาลเลย คุณอมรรัตน์จึงต้องอธิบายให้หลานสาวคนงามของเธอฟังว่า คุณปุ๋ยนั้นไม่สามารถที่จะเดินไปที่กองประกวดเพื่อไปสมัครเข้าร่วมการประกวดได้ แต่เธอจำเป็นต้องเข้าร่วมการประกวดนางสาวไทยเพื่อที่เธอจะได้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดนางงามจักรวาลในนามของสาวไทย คุณปุ๋ยได้นำความต้องการของเธอไปปรึกษากับคุณซ่อนกลิ่นซึ่งท่านก็ไม่คัดค้านอะไรนัก เพียงแต่เป็นห่วงเรื่องการเรียน คุณปุ๋ยจึงตัดสินใจทำการดร็อปการเรียนไว้ก่อน ทางครอบครัวก็ไม่ได้เป็นห่วงหรือไม่พอใจเพราะโดยส่วนตัวเธอนั้นเป็นคนที่มีสามารถและผลการเรียนอยู่ในระดับดี การมาประกวดนางสาวไทยในครั้งนี้จึงเป็นไปได้ด้วยดีไม่ทำให้เธอต้องมีปัญหากับครอบครัว 

เธอเชื่อว่าหากเธอได้เข้าร่วมการประกวดเธอคงจะพอสูสีกับสาวงามคนอื่น ๆ อยู่บ้าง เพราะแม้เธอจะเติบโตในอเมริกาแต่เธอก็มีความเป็นคนไทยที่ถูกปลูกฝังมาจากครอบครัวอย่างเต็มเปี่ยม และเพราะการที่เธอเติบโตในสหรัฐอเมริกาจึงทำให้เธอสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วซึ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการใช้ประกวดนางงามจักรวาล เธอเชื่อว่าเธอนั้นจะไม่ทำให้ประเทศไทยต้องอายใคร เมื่อคุณอมรรัตน์ได้ยินก็ถูกใจเป็นอย่างมากในความมั่นใจของหลานสาวคนเก่ง เธอจึงช่วยเป็นธุระจัดการเครื่องบินให้ แต่ให้คุณปุ๋ยจัดการเป็นผู้ไปทำการประกวดด้วยตนเอง ไม่มีใครไปเป็นเพื่อนด้วย


เมื่อเดินทางมาถึงประเทศไทย คุณปุ๋ยเดินทางมาถึงในวันสุดท้ายของการรับสมัคร และเมื่อเธอได้เดินทางไปเข้าร่วมการคัดเลือก บุคคลิกภาพอันสง่างามที่เธอฟูมฟักตนเองมาตลอดก็เป็นโดดเด่นถูกอกถูกใจของคณะกรรมการ กระนั้นด้วยการรูปลักษณ์และท่วงท่าที่สง่างามยากหาใครเสมอเหมือนผนวกกับยอดคุณสมบัติของเธอในด้านการพูดภาษาอังกฤษที่คล่องแคล่วเนื่องจากการไปอาศัยอยู่ต่างประเทศทำให้วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2531 ณ เวทีห้องบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นทรัล พลาซา คณะกรรมการตัดสินให้เธอเป็นนางสาวไทยประจำปีพุทธศักราช 2531 และเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเข้าร่วมประกวด Miss Universe 1988
“ปุ๋ยเชื่อมั่นมาตั้งแต่ตอนเข้ามาประกวดว่าปุ๋ยสวยพอจะเป็นนางสาวไทยได้ แต่พอถึงเวลาจริง ๆ ปุ๋ยยังไม่อยากเชื่อเลย คือปุ๋ยมั่นใจ 100% ก่อนออกเวที แต่ปุ๋ยอึดอัดกับทรงผมนางงาม เพราะดูไม่เป็นตัวของตัวเอง ทุกคนทำเหมือนกันหมด ปุ๋ยคิดว่าบุคลิกของตัวเองไม่เหมาะกับทรงผมนี้เลย ไม่อยากทำ ไม่อยากแต่งหน้ามาก ปุ๋ยทำเองได้แต่พี่เลี้ยงไม่ยอม ปุ๋ยว่ากรรมการเก่งนะคะ เลือกนางงามได้หมด ปุ๋ยเองดูแล้วว่านางงามหน้าตาเหมือนกันหมดเลย”

ทว่าแม้เธอจะมีความฉลาด ไหวพริบปฏิภาณในการตอบคำถามและความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากการไปอาศัยอยู่ที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่วัยเพียงแค่ 2 ขวบ แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นดาบสองคมที่ทำให้เธอถูกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสามารถทางด้านการพูดภาษาไทยอันไม่แคล่วคล่องซึ่งไม่สมกับการเป็นตัวแทนสาวงามจากประเทศไทยที่จะเป็นผู้ไปเผยแพร่วัฒนธรรมและความเป็นไทยให้กับชาวโลกได้รู้จัก เธอจึงให้เหตุผลว่าการประกวดนางงามจักรวาลนั้นจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แม้เธอจะไม่ได้เติบโตที่เมืองไทยก็ตาม แต่เธอก็จะพยายามทำความรู้จักความเป็นไทยให้มากที่สุดเพื่อให้สมกับการเป็นตัวแทนสาวงามที่ไปเผยแพร่วัฒนธรรมความเป็นคนไทย 

“นางสาวไทยเวลาไปประกวดเมืองนอก ไม่จำเป็นต้องใช้ภาษาไทยไม่ใช่หรือคะ สำคัญกว่าคือต้องรู้จักเมืองไทยให้มาก ๆ ปุ๋ยจะใช้เวลาช่วงนี้ ทำความรู้จักเมืองไทย เงินรางวัลส่วนหนึ่งของปุ๋ยนี่ล่ะค่ะจะเอาไว้เที่ยวให้ทั่วเมืองไทย แต่เงินรางวัลอีกส่วนจะช่วยเด็กกำพร้า”


หลังได้รับตำแหน่งนางสาวไทยประจำปีพุทธศักราช 2531 ไม่นานก็ถึงเวลาที่เธอต้องเป็นตัวแทนเข้าร่วมการประกวด Miss Universe 1988 หรือเวทีการประกวดนางงามจักรวาล ประจำปี 1988 ณ เมืองไทเป ประเทศไต้หวัน เวทีนี้เป็นเวทีนางามที่รวบรวมสุดยอดสาวงามจากทั่วโลกมาเข้าร่วมการประกวดในเวทีเดียวกัน การเก็บตัวในการประกวดครั้งนี้มีกิจกรรมและการซักซ้อมมากมายทำให้สาวงามหลาย ๆ คนถึงกับต้องหลั่งน้ำตาเพราะความเหน็ดเหนื่อยและความคิดถึงบ้านเกิด ทางด้านคุณปุ๋ยได้ให้สัมภาษณ์ว่าเธอนั้นสบายดี แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่เธอก็อดทนได้ ที่สำคัญเธอไม่อยากจะคิดมุ่งมั่นถึงเรื่องตำแหน่งนางงามจักรวาลมากจนเกินไปนักเพราะทำให้การเข้าร่วมประกวดไม่สนุกหากเธอเอาแต่มุ่งมั่นคิดถึงมงกุฎนางงามจักรวาล "เฮนรี่ เช็ง" พี่เลี้ยงของเธอให้สัมภาษณ์ว่าเธอนั้นมีความตั้งอกตั้งใจ ฝึกซ้อมตลอดเวลา และมักบ่นคิดถึงอาหารไทยอยู่เสมอ นอกจากนี้ก่อนการประกวดวันสำคัญจะมาถึง ทางฝั่งนางงามจากเมืองไทยก็ได้รับรางวัลชุดประจำชาติยอดเยี่ยมไปครอง 


วันที่ 24 พฤษภาคม พุทธศักราช 2531 


และแล้วในที่สุดวันแห่งเกียรติยศที่ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนกและคนไทยทั้งประเทศต้องจดจำไปตลอดกาลก็ดำเนินมาถึง
วันนี้เป็นวันประกวดวันสุดท้าย คุณปุ๋ยทำคะแนนได้ดีมาตลอด กระทั่งเมื่อเข้าถึงรอบ 10 คนสุดท้าย ที่เธอได้ตอบคำถามอันแสดงถึงปฏิภาณความฉลาดหลักแหลมและความจริงใจของเธอ

พิธีกร : คุณไม่ได้อยู่ในเมืองไทยแล้วได้เป็นนางสาวไทยได้ไงครับ
คุณปุ๋ย : การที่ฉันไม่ได้อยู่ในประเทศไทย  ไม่ได้หมายความว่าฉันไม่ใช่คนไทย ฉันอยากจะทำตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่คนไทยทุกคน  อยากให้รู้ว่าแม้ฉันจะเติบโตที่แอลเอ แต่ฉันก็เป็นคนไทยทั้งกายและใจ ฉันยังคงอยู่ท่ามกลางวัฒนธรรมประเพณีของไทยและยังพูดภาษาไทย และอยากให้ทุก ๆ คนรู้ว่าฉันภูมิใจมากที่เกิดเป็นผู้หญิงไทย

พิธีกร : แล้วใครสอนภาษาอังกฤษให้คุณครับ

คุณปุ๋ย : ภาษาอังกฤษของฉันน่ะ ปกติแล้วจะไม่ได้รับอนุญาตให้พูดตอนอยู่ที่บ้าน เพราะเราจะพูดกันแต่ภาษาไทย นั่นคือเหตุผลที่ทำไมฉันยังพูดไทยได้ ส่วนภาษาอังกฤษนั้น ฉันคิดว่าฉันเป็นหนี้เจ้า Big Bird เพราะว่าสมัยเด็ก ๆ ฉันชอบดู Sesame  Street มาก ๆ เลย
 
พิธีกร : ได้ข่าวว่าคุณมีโครงการจะช่วยเหลือเด็ก ๆ ในประเทศไทยใช่ไหมครับ

คุณปุ๋ย : ใช่ค่ะ ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเป็นประเทศที่สวยงาม  มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมยาวนาน แต่จริง ๆ แล้วทุกวันนี้เราก็ยังคงมีปัญหาอยู่เหมือนกัน  เพราะมีเด็ก ๆ ด้อยโอกาสที่ยากไร้ต้องหิวโหย อดอยากนับหมื่นคน ในฐานะนางสาวไทยฉันคิดว่าฉันสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ค่ะ

การตอบคำถามของเธอเต็มไปด้วยความเฉียบแหลมอันแสดงถึงไหวพริบปฏิภาณอันยอดเยี่ยม ทว่าแม้คำตอบของเธอจะเป็นไปอย่างหลักแหลม แต่มันก็เป็นการตอบคำถามที่เป็นไปอย่างจริงใจ เรียบง่าย เป็นกันเอง ไม่ใช่การตอบคำถามที่เสแสร้งเพียงเพราะเธอกำลังประกวดอยู่บนเวทีนางงามที่มีผู้รับชมอยู่เป็นหมื่นเป็นล้านคน นอกจากจะมีการตอบคำถามที่ยอดเยี่ยมแล้ว เธอยังมีปฏิกิริยาควบคู่ไปกับการตอบคำถามในทางบวกเสมอ คุณปุ๋ยมักตอบคำถามไปพร้อมสายตาและรอยยิ้มที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรจริงใจ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่