คือตอนนี้ผมอายุ 20 ปี เเฟนผมอายุ 17 เเฟนผมทำงานฟาสทามอยู่ร้านเสื้อผ้า เเต่ผมก้ไม่ค่อยได้ไปหาน้ะมีบางวันไปนั่งอยุ่ด้วยบ้างช่วยปิดร้านบ้างเเต่ก็ไม่ได้ไปหาบ่อย เเล้วหลังจากเเฟนทำงานเสร็จเขาก็จะมาหาผมอยู่ที่บ้านอย่างนี้เป็นประจำอยู่เเล้ว
จนมีวันหนึ่ง ผมช่วยเเม่ขายของเสร็จเเล้วก็เลยกลับมาพักบ้าน ไม่ได้ไปหาเเฟนทำให้ทะเลาะกันหนักมาก
เเฟนผมบอกว่าเห็นคนอื่นเขามานั่งช่วยเเฟนกันทำไมผมถึงไม่เห็นไปช่วยบ้างเลย ผมก็ให้เหตุผลไปว่า มันไม่ใช่ร้านตัวเอง ถ้าตัวเองเปิดร้านขายน้ำไรงี้เลิกเเล้วเค้าไม่ไปช่วยก็ว่าไปอย่าง เเต่นี้ตัวเองทำงานเป็นลูกจ้างเขา มันเเปลกน้ะเค้าว่า เเฟนผมตอบกลับมาว่า ผมเป็นคนเห็นเเก่ตัว เเล้วก็บอกว่าต่อให้ไม่ใช้เจ้าของธุรกิจเเต่มาอย่างน้อยก็มาช่วยกัน เเบ่งเบากุบ้าง.
เเล้วเเฟนผมก็เอาไปปรึกษาให้คนที่ทำงานฟังเขาก็ว่าผมเห็นเเก่ตัวกัน เเล้วตอนนี้ก็ลามไปเรื่องอื่นๆที่ผ่านมาทำให้ทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆครับ ทำให้ตอนนี้ผมยิ่งไม่อยากไปช่วยใหญ่เลยครับ เป็นขี้ปากชาวบ้านไปเเล้ว
ความคิดของผมคือเเฟนยังเด็กเลยไม่เข็มเเข็ง+คิดไม่เป็น ผมอยากรู้ว่า ความคิดผมถุกต้องไหมครับเเล้วผมเป็นคนเห็นเเก่ตัวจริงไหมครับ
ทะเลาะกับเเฟนหนักมากเพราะเเค่ไม่ไปหา
จนมีวันหนึ่ง ผมช่วยเเม่ขายของเสร็จเเล้วก็เลยกลับมาพักบ้าน ไม่ได้ไปหาเเฟนทำให้ทะเลาะกันหนักมาก
เเฟนผมบอกว่าเห็นคนอื่นเขามานั่งช่วยเเฟนกันทำไมผมถึงไม่เห็นไปช่วยบ้างเลย ผมก็ให้เหตุผลไปว่า มันไม่ใช่ร้านตัวเอง ถ้าตัวเองเปิดร้านขายน้ำไรงี้เลิกเเล้วเค้าไม่ไปช่วยก็ว่าไปอย่าง เเต่นี้ตัวเองทำงานเป็นลูกจ้างเขา มันเเปลกน้ะเค้าว่า เเฟนผมตอบกลับมาว่า ผมเป็นคนเห็นเเก่ตัว เเล้วก็บอกว่าต่อให้ไม่ใช้เจ้าของธุรกิจเเต่มาอย่างน้อยก็มาช่วยกัน เเบ่งเบากุบ้าง.
เเล้วเเฟนผมก็เอาไปปรึกษาให้คนที่ทำงานฟังเขาก็ว่าผมเห็นเเก่ตัวกัน เเล้วตอนนี้ก็ลามไปเรื่องอื่นๆที่ผ่านมาทำให้ทะเลาะกันหนักขึ้นเรื่อยๆครับ ทำให้ตอนนี้ผมยิ่งไม่อยากไปช่วยใหญ่เลยครับ เป็นขี้ปากชาวบ้านไปเเล้ว
ความคิดของผมคือเเฟนยังเด็กเลยไม่เข็มเเข็ง+คิดไม่เป็น ผมอยากรู้ว่า ความคิดผมถุกต้องไหมครับเเล้วผมเป็นคนเห็นเเก่ตัวจริงไหมครับ