...เหม่อมองไปไร้จุดหมาย กลายกำสรด
แฝงรันทด หดหู่ ดูสิ้นหวัง...
...ถึง วันนี้ หรือ พรุ่งนึ้ ล้วนจังงัง
ถึงกับนั่ง อนิจจัง ช่าง ระอา...
ความจริงที่ปรากฎ เห็นกันอยู่ทุกวี่วันนี้ ทำให้สะท้อนใจถามขึ้นมา...
ที่ว่าสะท้อน ก็เพราะมันเป็นคำถามเดิมๆ ที่นานมาแล้วได้เคยถามกับเพื่อนหลายๆคน เชิงบ่นนิดๆ
ว่า...ทำไมต้องตีความกฎหมายกันไปตามใจของตน ขัดใจคนอื่นอีกหลายคน ถูกใจคนก็หลายคน
...ยังไม่ต้องพูดถึงว่าที่ตีความไปนั้นถูกผิดอย่างไร...
เข้าหัวข้อเลยก็แล้วกันครับ...ในความเข้าใจของผมเองนั้น...
...หิริ โอตัปปะ ก็คือ ความละอายต่อบาป
...นิติรัฐ ก็คือ หลักการและวิธีการที่มีจุดมุ่งหมายในการ จำกัดอำนาจรัฐและผู้มีอำนาจให้อยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญ...
...ส่วน นิติธรรม ก็ตรงๆง่ายๆ ว่า ข้อกำหนด หรือกฏหมายที่ มีความยุติธรรม...
การละอายต่อบาปจะเกิดได้เฉพาะกับผู้ที่เจริญแล้ว และเชื่อเรื่องของเวรกรรมมีอยู่จริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เสียเป็นส่วนใหญ่
...แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า ความเชื่อเช่นนี้ มันไม่ได้มีทุกคน ไม่ว่า จะเป็นชาติใด ภาษาใด ชนชั้นวรรณะสูงต่ำดำขาวอย่างไร
และนั่นเป็นธรรมดาที่ กฏหมายแต่ละประเทศ แต่ละยุคสมัยย่อมมีความแตกต่างมากบ้าง น้อยบ้าง ตามผู้ที่ร่วมกันตรากฏหมาย
เมื่อมาดู นิติธรรม ที่ว่า กฏหมายที่ มีความยุติธรรม...ในนานาอารยะประเทศที่ยอมรับกันนั้น ล้วน มีความเห็นตรงกันว่า ความยุติธรรม
มาจาก ความเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมนั้นๆ จึงเป็นอันยุติ ข้อโต้แย้ง และสังคมทั้งหมดที่รวมเสียงส่วนมาก กับส่วนน้อยนั้นยอมรับ
ในข้อตกลงอันเป็นที่ยุติแล้วนั้น ... นั่นคือ สังคมที่มีความเป็นธรรม และสงบ มีหลายท่านเชื่อว่า กฏหมายต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ ผมก็เช่นกัน
คนเราเกิดมามีสิทธิในการมีชีวิต ในร่างกาย เสมอเหมือนกันมาตั้งแต่เกิด อันเป็นพื้นฐานของสิทธิอันชอบธรรมของปัจเจกบุคคลตามธรรมชาติ
ปัจเจก รวมกันก็เป็นสังคม จึงมีเหตุให้ต้องมีกฏในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ละเมิดสิทธิของกันเรียกว่ากฏหมายนั่นเอง
...ชนใดตรากฎหมาย ย่อมยังประโยชน์ ชนนั้น... ก็ได้ยินมาตลอด และเห็นด้วยอย่างยิ่ง กฏหมายที่ยุติธรรมย่อมมาจากเสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกัน
ในกฏหมายนั้นๆ อย่างมีเหตุผล หากกฎหมายใดมาจากความเห็นที่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ จะเกิดความสงสัยในความยุติธรรม เป็นธรรมดา ซึ่งที่จริงอาจเป็นกฏหมายที่ดีก็ได้เช่นกัน...
...วันนี้ก็ได้มาบอกเล่าถึงความเข้าใจของตัวเองให้เพื่อนๆได้รับรู้มาพอสมควรแล้ว ... ส่วนเพื่อนๆท่านใด อยากแชร์ เรื่องราวบอกเล่าอย่างไร ก็เรียนเชิญนะครับ...ขอสุขสวัสดีมีแด่เพื่อนสมาชิกทุกๆท่านในวาระสิ้นปีเก่า เข้าปีใหม่นี้ทั่วถ้วนทุกท่านครับ ... สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้า
...หิริ โอตัปปะ...นิติรัฐ...นิติธรรม ในห้วงคำนึง...(คน หลังเขา)
แฝงรันทด หดหู่ ดูสิ้นหวัง...
...ถึง วันนี้ หรือ พรุ่งนึ้ ล้วนจังงัง
ถึงกับนั่ง อนิจจัง ช่าง ระอา...
ความจริงที่ปรากฎ เห็นกันอยู่ทุกวี่วันนี้ ทำให้สะท้อนใจถามขึ้นมา...
ที่ว่าสะท้อน ก็เพราะมันเป็นคำถามเดิมๆ ที่นานมาแล้วได้เคยถามกับเพื่อนหลายๆคน เชิงบ่นนิดๆ
ว่า...ทำไมต้องตีความกฎหมายกันไปตามใจของตน ขัดใจคนอื่นอีกหลายคน ถูกใจคนก็หลายคน
...ยังไม่ต้องพูดถึงว่าที่ตีความไปนั้นถูกผิดอย่างไร...
เข้าหัวข้อเลยก็แล้วกันครับ...ในความเข้าใจของผมเองนั้น...
...หิริ โอตัปปะ ก็คือ ความละอายต่อบาป
...นิติรัฐ ก็คือ หลักการและวิธีการที่มีจุดมุ่งหมายในการ จำกัดอำนาจรัฐและผู้มีอำนาจให้อยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญ...
...ส่วน นิติธรรม ก็ตรงๆง่ายๆ ว่า ข้อกำหนด หรือกฏหมายที่ มีความยุติธรรม...
การละอายต่อบาปจะเกิดได้เฉพาะกับผู้ที่เจริญแล้ว และเชื่อเรื่องของเวรกรรมมีอยู่จริง ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เสียเป็นส่วนใหญ่
...แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่า ความเชื่อเช่นนี้ มันไม่ได้มีทุกคน ไม่ว่า จะเป็นชาติใด ภาษาใด ชนชั้นวรรณะสูงต่ำดำขาวอย่างไร
และนั่นเป็นธรรมดาที่ กฏหมายแต่ละประเทศ แต่ละยุคสมัยย่อมมีความแตกต่างมากบ้าง น้อยบ้าง ตามผู้ที่ร่วมกันตรากฏหมาย
เมื่อมาดู นิติธรรม ที่ว่า กฏหมายที่ มีความยุติธรรม...ในนานาอารยะประเทศที่ยอมรับกันนั้น ล้วน มีความเห็นตรงกันว่า ความยุติธรรม
มาจาก ความเห็นของคนส่วนใหญ่ในสังคมนั้นๆ จึงเป็นอันยุติ ข้อโต้แย้ง และสังคมทั้งหมดที่รวมเสียงส่วนมาก กับส่วนน้อยนั้นยอมรับ
ในข้อตกลงอันเป็นที่ยุติแล้วนั้น ... นั่นคือ สังคมที่มีความเป็นธรรม และสงบ มีหลายท่านเชื่อว่า กฏหมายต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ ผมก็เช่นกัน
คนเราเกิดมามีสิทธิในการมีชีวิต ในร่างกาย เสมอเหมือนกันมาตั้งแต่เกิด อันเป็นพื้นฐานของสิทธิอันชอบธรรมของปัจเจกบุคคลตามธรรมชาติ
ปัจเจก รวมกันก็เป็นสังคม จึงมีเหตุให้ต้องมีกฏในการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขไม่ละเมิดสิทธิของกันเรียกว่ากฏหมายนั่นเอง
...ชนใดตรากฎหมาย ย่อมยังประโยชน์ ชนนั้น... ก็ได้ยินมาตลอด และเห็นด้วยอย่างยิ่ง กฏหมายที่ยุติธรรมย่อมมาจากเสียงส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกัน
ในกฏหมายนั้นๆ อย่างมีเหตุผล หากกฎหมายใดมาจากความเห็นที่ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ จะเกิดความสงสัยในความยุติธรรม เป็นธรรมดา ซึ่งที่จริงอาจเป็นกฏหมายที่ดีก็ได้เช่นกัน...
...วันนี้ก็ได้มาบอกเล่าถึงความเข้าใจของตัวเองให้เพื่อนๆได้รับรู้มาพอสมควรแล้ว ... ส่วนเพื่อนๆท่านใด อยากแชร์ เรื่องราวบอกเล่าอย่างไร ก็เรียนเชิญนะครับ...ขอสุขสวัสดีมีแด่เพื่อนสมาชิกทุกๆท่านในวาระสิ้นปีเก่า เข้าปีใหม่นี้ทั่วถ้วนทุกท่านครับ ... สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้า