สวัสดีค่ะ ขอบ่น ขอระบาย ขอคำปรึกษาหน่อยค่า เรื่องก็คือ เครื่องซักผ้าของคนข้างบ้าน ก็ไม่เชิงคนข้างบ้านซะทีเดียวหรอกค่ะ แค่ใช้เสาบ้านร่วมกัน ประตูใหญ่เข้าบริเวณบ้านเดียวกัน แต่แยกทางเข้าตัวบ้าน ลองนึกภาพตามนะคะ บ้านแยกเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งเราบ้านไม้ยกใต้ถุน อีกฝั่งเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้มีประตูแยกต่างหาก มีบันไดขึ้นบ้านตรงกลางเป็นของเราใช้ขึ้น-ลง และครอบครัวเรา (เรา+แฟนเรา) กับครอบครัวนาง (ญ+ช) ไม่คุยกันมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ เพราะกระดาษบางๆที่มีอิทธิพลเหลือเกิน ทำให้พี่น้องตัดกันขาดสะบั้น หากถามว่าทำไมยังอยู่ที่เดียวกัน คำตอบคือ "แม่" ค่ะ และเรากับ ญ ก็เป็นสะไภ้ทั้งคู่ค่ะ (ต่อไปนี้ขอเรียกฝั่งครึ่งปูนครึ่งไม้ว่า"บ้านนาง"นะคะ)
เรื่องของเรื่องคือ "บ้านนาง" ซื้อเครื่องซักผ้ามาใหม่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ ญ ของ "บ้านนาง" ลาออกจากงานมาเฝ้า ช เพราะ ช เคยมีประวัติมีเล็กมีน้อย (ลูก 2 แล้วนะคะ) ออกมาเป็นแม่บ้านแม่เรือน โดยนางจะลุกขึ้นมาซักผ้า 05.30น. ใช่ค่ะเวลาไม่ผิด 05.30น. จริงๆ และเสียงเครื่องซักผ้าก็จะดัง งืดดดดด งืดดดดด งืดดดดด เข้ามาในโสตประสาทเราจนสะดุ้งตื่น ซึ่งปกติเราตื่น 6 โมงนิดๆ โมโหสิค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทน แฟนเราให้ทนค่ะ ถามว่าทำไมซักแต่เช้า สายๆ ช จะออกเวรกลับมานอนบ้านค่ะ งานกลางวันไม่ทำค่ะ ทำกลางคืน ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่มีเวรกลางวันบ้าง ทั้งที่งานที่ บ.นี้มีเวรกลางวัน ( เราและแฟนเคยทำที่เดียวกับ ช ค่ะ) พอ ช ออกเวรมานอน ญ กลัวเสียงดังรบกวนสามีค่ะ เลยต้องซักแต่เช้ารบกวนชาวบ้านแทน พอเราไปคุยกับแม่สามี แม่ไปพูดให้ว่า "ส่งลูกไป รร. แล้วกลับมาซักได้มั๊ย" คำตอบคือไม่ค่ะ นางให้เหตุผลมาว่า เราชอบล้างจานคว่ำจานเสียงดังไปรบกวนนาง เราล้างจานประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆค่ะ คือเลิกงานค่ำค่ะกินข้าวเสร็จแล้วล้างเลยไม่เกิน 5 ใบ คิดว่าเราจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงมั๊ยคะ! แต่นางบอกว่าไปรบกวนนาง (ที่คว่ำจานเราอยู่ติดกับห้องนอนนางค่ะ) เราไม่อยากเอาพิมเสนแลกเกลือ เลยขยับที่คว่ำจานออกมา แต่นางไม่จบค่ะ ยังซัก 05.30น. อยู่อย่างนั้น เรากับแฟนทนมาเป็นปีๆ เนื่องจากเกรงใจแม่ ไม่อยากให้แม่เครียด จนเมื่อมีข่าวดีว่านางจะขายข้าวแกง แน่นอนค่ะตอนเช้าๆ ตี4 ตี5 นางต้องทำกับข้าวขายทุกวัน ไม่มีเสียงเครื่องซักผ้าแล้วค่ะ สบายหูละ แต่สบายได้ไม่ถึง 4 เดือน นางเลิกขายเพราะไม่มีกำไร (จะไปมีได้ยังไง ขายของเสร็จตกเย็นมาพาลูกๆเข้า 7-11 ทั้งแบกทั้งหอบกลับมา) เจ้ากรรมนายเวรกลับมาแล้วค่ะ ทีนี้หนักกว่าเดิม จากที่เคยซัก 3 วันเว้น 1 วัน ซัก 2 วัน เว้น 1 วัน กลายเป็นซักทุกวันค่ะ วันละ 2-3 ตัว หรือชั้นใน 1 พวง หรือ ถุงเท้า 1 พวง เป็นแบบนี้จริงๆ แต่เราไม่เคยตอบโต้นางนะ เพราะเกรงใจ "แม่สามี"ค่ะ ไม่ได้อยากจะเป็นสะไภ้ดีเด่นหรอกนะคะ แต่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ทำให้เช้านี้เรามีปากเสียงกับนางค่ะ นางบอกว่า "ก็ผ้ามีซักทุกวัน (วันละ 2-3 ตัว) เครื่องซักผ้าก็ของนาง ซักผ้าก็ซักในบ้านนาง ทนไม่ได้ก็ย้ายออกไป (ถ้าเราจะเปิดเพลงดังๆ ตอนที่สามีนางนอนกลางวัน แล้วพูดแบบนั้นบ้างจะได้มั๊ย) เรารู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ความอดทนเรามีกำจัด อดทนมา 2 ปี จนเสียสุขภาพจิต
เราอยากขอความเห็นเพื่อนๆว่า เราควรทำยังไงดี เวลาเราสะดุ้งตื่นเราปวดไมเกรน เราได้แต่โดนกระทำ ลดการกระทบกระทั่ง ยอมทุกๆเรื่อง แต่ในหัวนางก็ยังคิดแค่ว่าเราไปทำให้นางรำคาญ เหนื่อยค่ะ บอกตรงๆเลย เหนื่อยมาก ย้ายไปไหนก็ไม่ได้ เพราะแฟนยังห่วงแม่ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย ไม่อยากออกไปเสียค่าเช่าห้องที่อื่นค่ะ ได้แต่ทน ทน ทน และ ก็ทน เฮ้อออออออออออออออออออออ
มีเรื่องกับคนข้างบ้านเพราะเครื่องซักผ้า
เรื่องของเรื่องคือ "บ้านนาง" ซื้อเครื่องซักผ้ามาใหม่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงที่ ญ ของ "บ้านนาง" ลาออกจากงานมาเฝ้า ช เพราะ ช เคยมีประวัติมีเล็กมีน้อย (ลูก 2 แล้วนะคะ) ออกมาเป็นแม่บ้านแม่เรือน โดยนางจะลุกขึ้นมาซักผ้า 05.30น. ใช่ค่ะเวลาไม่ผิด 05.30น. จริงๆ และเสียงเครื่องซักผ้าก็จะดัง งืดดดดด งืดดดดด งืดดดดด เข้ามาในโสตประสาทเราจนสะดุ้งตื่น ซึ่งปกติเราตื่น 6 โมงนิดๆ โมโหสิค่ะ แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากทน แฟนเราให้ทนค่ะ ถามว่าทำไมซักแต่เช้า สายๆ ช จะออกเวรกลับมานอนบ้านค่ะ งานกลางวันไม่ทำค่ะ ทำกลางคืน ก็แอบสงสัยเหมือนกันว่าทำไมไม่มีเวรกลางวันบ้าง ทั้งที่งานที่ บ.นี้มีเวรกลางวัน ( เราและแฟนเคยทำที่เดียวกับ ช ค่ะ) พอ ช ออกเวรมานอน ญ กลัวเสียงดังรบกวนสามีค่ะ เลยต้องซักแต่เช้ารบกวนชาวบ้านแทน พอเราไปคุยกับแม่สามี แม่ไปพูดให้ว่า "ส่งลูกไป รร. แล้วกลับมาซักได้มั๊ย" คำตอบคือไม่ค่ะ นางให้เหตุผลมาว่า เราชอบล้างจานคว่ำจานเสียงดังไปรบกวนนาง เราล้างจานประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆค่ะ คือเลิกงานค่ำค่ะกินข้าวเสร็จแล้วล้างเลยไม่เกิน 5 ใบ คิดว่าเราจะใช้เวลานานเป็นชั่วโมงมั๊ยคะ! แต่นางบอกว่าไปรบกวนนาง (ที่คว่ำจานเราอยู่ติดกับห้องนอนนางค่ะ) เราไม่อยากเอาพิมเสนแลกเกลือ เลยขยับที่คว่ำจานออกมา แต่นางไม่จบค่ะ ยังซัก 05.30น. อยู่อย่างนั้น เรากับแฟนทนมาเป็นปีๆ เนื่องจากเกรงใจแม่ ไม่อยากให้แม่เครียด จนเมื่อมีข่าวดีว่านางจะขายข้าวแกง แน่นอนค่ะตอนเช้าๆ ตี4 ตี5 นางต้องทำกับข้าวขายทุกวัน ไม่มีเสียงเครื่องซักผ้าแล้วค่ะ สบายหูละ แต่สบายได้ไม่ถึง 4 เดือน นางเลิกขายเพราะไม่มีกำไร (จะไปมีได้ยังไง ขายของเสร็จตกเย็นมาพาลูกๆเข้า 7-11 ทั้งแบกทั้งหอบกลับมา) เจ้ากรรมนายเวรกลับมาแล้วค่ะ ทีนี้หนักกว่าเดิม จากที่เคยซัก 3 วันเว้น 1 วัน ซัก 2 วัน เว้น 1 วัน กลายเป็นซักทุกวันค่ะ วันละ 2-3 ตัว หรือชั้นใน 1 พวง หรือ ถุงเท้า 1 พวง เป็นแบบนี้จริงๆ แต่เราไม่เคยตอบโต้นางนะ เพราะเกรงใจ "แม่สามี"ค่ะ ไม่ได้อยากจะเป็นสะไภ้ดีเด่นหรอกนะคะ แต่ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ทำให้เช้านี้เรามีปากเสียงกับนางค่ะ นางบอกว่า "ก็ผ้ามีซักทุกวัน (วันละ 2-3 ตัว) เครื่องซักผ้าก็ของนาง ซักผ้าก็ซักในบ้านนาง ทนไม่ได้ก็ย้ายออกไป (ถ้าเราจะเปิดเพลงดังๆ ตอนที่สามีนางนอนกลางวัน แล้วพูดแบบนั้นบ้างจะได้มั๊ย) เรารู้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดี แต่ความอดทนเรามีกำจัด อดทนมา 2 ปี จนเสียสุขภาพจิต
เราอยากขอความเห็นเพื่อนๆว่า เราควรทำยังไงดี เวลาเราสะดุ้งตื่นเราปวดไมเกรน เราได้แต่โดนกระทำ ลดการกระทบกระทั่ง ยอมทุกๆเรื่อง แต่ในหัวนางก็ยังคิดแค่ว่าเราไปทำให้นางรำคาญ เหนื่อยค่ะ บอกตรงๆเลย เหนื่อยมาก ย้ายไปไหนก็ไม่ได้ เพราะแฟนยังห่วงแม่ และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย ไม่อยากออกไปเสียค่าเช่าห้องที่อื่นค่ะ ได้แต่ทน ทน ทน และ ก็ทน เฮ้อออออออออออออออออออออ