เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
[SR] รีวิวห้องอาหาร Hishou โรงแรม Hotel Nikko Bangkok บุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นและเทมปุระเริ่มต้นเพียง 580++฿!
เดินเข้ามาภายในห้องอาหารก็จะพบกับหุ่นซามูญี่ปุ่นสีแดงและโต๊ะนั่งวัสดุจากไม้หลากหลายสไตล์ รวมถึงการตกแต่งภายในห้องอาหารที่ดูหรูหราทันสมัยแต่ยังมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างเต็มเปี่ยม มีทั้งส่วนของบาร์เครื่องดื่ม/โต๊ะคู่สำหรับนั่งทานกัน 2 คน ใครมาเยอะหน่อยก็มีโต๊ะใหญ่/โซฟาสำหรับครอบครัว รวมไปถึงห้องแบบส่วนตัวที่ทางห้องอาหารไม่ได้คิดเงินค่าห้องเพิ่มแต่อย่างใด เพียงจองห้องส่วนตัวมาก่อนเข้าใช้บริการก็เข้าได้ฟรีๆเลยครับ
ตรงกลางห้องอาหารนี้เป็นไลน์อาหารแบบ Osouzai หรืออาหารแบบต้นตำรับแท้ของชาวญี่ปุ่น หลายๆเมนูเท่าที่ดูด้วยสายตาแล้ว ไม่เคยเจอในบุฟเฟ่ต์โรงแรมไหนมาก่อน ราคาและเงื่อนไขของไลน์อาหารตรงนี้เราบอกไปแล้วในเบื้องต้น แต่ถ้าหากใครแค่อยากเข้ามาทานอาหารเล็กๆน้อยๆและนั่งดื่มพอกรุ้มกริ่ม ที่ห้องอาหารนี้เขายังมีโปรโมชั่น Banshaku Set ที่เลือกทานอาหารได้ 4 อย่างจากไลน์อาหารนี้ และเลือกเครื่องดื่มได้ 2 แก้ว (สาเก/ โซจู/ เบียร์) จ่ายแค่ 480++ บาท แต่ถ้าเป็นคนไม่ดื่มก็แนะนำว่าทานแบบปกติดีกว่าเพิ่มเงินอีกแค่ 100 บาท ไล่ดูอาหารจากเมนูแรกเป็นกระเจี๊ยบลวกแช่เย็นคลุกกับน้ำมันงาและปลาโอแห้ง / สลัดพร้อมน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่น 4 สูตร / รากโกโบชุบแป้งทอดกรอบ / ฟักทองญี่ปุ่นต้มหวาน / โซบะซุปเย็นเส้นเหนียวนุ่มทานกับซุปกลิ่นปลาโอ-โชยุ รสชาติหวานหอมกลมกล่อมพร้อมเครื่องสำหรับทานคู่กันแบบครบสำรับ / ต้นหอมลวกทานกับมิโสะปรุงรสหวานมันไม่เคยทานที่ไหน
ออเดิร์ฟจานเล็ก 3 เมนู ปลาแห้งบดปรุงรสหวาน-ถั่วงอกลวกคลุกน้ำมันงา-เต้าหู้เย็นทานกับซอสเปรี้ยว ต้มหอมและปลาแห้ง เมนูผัดมาเป็นมะเขือม่วงผัดมิโสะรสชาติหวานเข้มข้นทานกับข้าวสวยอร่อยสุดๆ / สะโพกไก่ผัดผักรวมและเกาลัดญี่ปุ่น รสชาติหวานผักมันเกาลัดกลมกล่อม / อุด้งผัดผักและหมู ผักกรอบรสหวานเข้ากันได้ดีกับเส้นอุด้งเหนียวนุ่มหอมกลิ่นกระทะผัดและหมูย่าง / ผักดองญี่ปุ่นมีให้ทานถึง 6 ชนิดทั้ง รากบัวแดง-หัวไชเท้า-บ๊วยญี่ปุ่น-แตงกวาญี่ปุ่น-แครอท-หัวต้นหอม และตรงกลางเป็นซูชิมากิห่อสาหร่ายเรียกกันเป็นแนวยาวหลากหลายไส้
หม้อฝาไม้ขนาดใหญ่ที่เห็นนี้คือหม้อใส่โอเด้งมีทั้งไข่ต้ม-ไชเท้าต้มและลูกชิ้นปลาอีก 4 ชนิด (ส่วนตัวแล้วชอบโอเด้งมาก เดี๋ยวตักไปชิมกัน) หมูสามชั้นต้มกิมจิร้อนๆ กิมจิเปรี้ยวๆกับหมูสามชั้นต้มเข้ากันได้เป็นอย่างดี / ซุปผักใส่เต้าหู้ขาวและไข่ รสชาติคล้ายกับซุปที่ใช้ต้มข้าวหน้าหมูทอดทงคัตสึแต่ไม่มีเนื้อสัตว์ / พุงแซลมอนย่างเกลือกรอบเกรียม บีบเลมอนลงไปก่อนทานลดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี /ถั่วมิโสะปรุงรสหวานเค็มเหมาะทานกับข้าวสวยร้อนๆ
สลัดทูน่าใส่เส้นแพนเน่เย็นๆทานง่าย หอมกลิ่นยาและพริกหยวก / เอดามาเมะหรือถั่วแระญี่ปุ่นนึ่ง ไลน์อาหารบนโต๊ะหมดแล้ว แต่ยังมีโซนด้านหลังอีกเป็นหม้อข้าวสวย ข้าวสวยของที่นี่ใช้ของนีงาตะโคชิฮิคาริที่ดีที่สุดอันดับ 1 ในญี่ปุ่น เมล็ดข้าวมันวาว มีรสหวาน เคี้ยวหนึบสู้ฟัน ทานกับกับข้าวสไตล์ญี่ปุ่นเมนูไหนก็อร่อย / แกงกะหรี่ญี่ปุ่นรสกลมกล่อม รสชาติแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นเลยครับ เบสของซุปเป็นเนื้อวัว ไม่มีเนื้อสัตว์ในหม้อนะครับ และสุดท้ายคือซุปมิโนะรสชาติกลมกล่อมหอมกลิ่นมิโสะและปลาโอแห้ง เติมสาหร่าย-เต้าหู้ข้าว-ต้นหอม ได้เองตามชอบเลยครับ
หมดโซนอาหารญี่ปุ่น Osouzai ที่สามารถตักทานได้ไม่อั้นแล้ว มาต่อกันด้วยเทมปุระบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกกัน 2 ราคา ราคาแรกคือ 1,100++ สั่งได้ทั้งกุ้งสด/ปลาหมึก/หมึกยักษ์ทาโกะ/ปลากระพงขาว/ปลาแมคเคอเรล/ใบโอบะ/เห็ด/มะเขือม่วง/รากบัว/หน่อไม้ฝรั่ง/ฟักทอง/ฝักกระเจี๊ยบ/มันหวาน/ข้าวโพดอ่อน/ถั่วลันเตาหวาน/ลูกชิ้นปลา/ไข่นกกระทา/ไอศครีมเทมปุระทอด(แต่วันนี้หมดเสียดายมากๆ) ถ้าอยากทานแบบพรีเมี่ยมสุดต้องสั่งราคา 1900++ มีเมนูมาเพิ่มทั้ง/กุ้งลายเสือ/ปลาไหลทะเลญี่ปุ่น/ปูหิมะ/ปลาทรายญี่ปุ่น/หอยเชลล์ฮอกไกโด/ปูอัด/แซลมอน/ขิงดองญี่ปุ่น/อโวคาโด/พริกเขียวสด/ชีส Camembertและสุดท้ายเป็นเทมปุระผักรวมผสมซีฟู้ด ตอนนี้ทางเชฟได้ทำการเตรียมวัตถุดิบต่างๆเอาไว้ในถาดเพื่อที่จะทอดเทมปุระให้เราทาน โดยขั้นตอนแรกคือคลุกแป้งแห้งเอาไว้ก่อน
จากนั้นชุบแป้งแบบเปียกและทยอยนำวัตถุดิบที่เตรียมเอาไว้ทอดลงกระทะ ใช้ตะเกียบแบ่งให้แต่ละชิ้นไม่ติดกันเป็นแพ แล้วใช้ตะแกรงตักแป้งส่วนเกินออกจนน้ำมันใสแจ๋ว ไม่มีเศษแป้งไหม้ในกระทะ จากนั้นนำวัตถุดิบที่ทอดจนสุกได้ที่แล้ว เรียงใส่ในจานสวยงามพร้อมเสิร์ฟ หากอยากได้อารมณ์แบบร้านเทมปุระ Omakase สามารถมานั่งที่เค้าเตอร์ เชฟจะคอยทอดแล้วเสิร์ฟใส่จานตรงหน้าคุณเรื่อยๆไม่มีหยุด มาพร้อมกับน้ำจิ้มเทมปุระสูตรต้นตำรับญี่ปุ่นแท้และเกลือสำหรับทานกับเทมปุระอีก 6 รสชาติคือเกลือสมุทร/เกลือวาซาบิ/เกลือแกงกะหรี่/เกลือยูสุ/เกลือพริก/เกลือชาเขียว ตอนนี้เทมปุระชุดแรกทั้งหมดที่เชฟอยากให้เราชิมพร้อมแล้ว เดี๋ยวเราย้ายตัวไปชิมที่โต๊ะกันดีกว่าครับ
ที่โต๊ะเราพนักงานได้เตรียมน้ำดื่ม (ในบุฟเฟ่ต์มีให้เลือกทั้งชาเขียวร้อนและเย็น)/ซอสเทมปุระสูตรของทางที่นี่ ขิง/ไชเท้าขูดละเอียด (เอาไว้ผสมในน้ำจิ้ม) เริ่มชิมเทมปุระของที่นี่ด้วยการทานกับซอสก่อน รสชาติของซอสไม่ต่างจากร้านเทมปุระเจ้านึงที่ผมเคยไปรีวิวก่อนหน้านี้ คือมีความเค็มหวานใสๆ นำเทมปุระจิ้มลงไปแล้วไม่ค่อยรู้รส หากอยากทานรสจัดหน่อยต้องซดน้ำจิ้มทาน แต่ก็เข้าใจว่าอยากเน้นรสชาติของวัตถุดิบที่ดีเป็นสำคัญ ใครที่ไม่เคยทานเทมปุระตำรับนี้มาก่อนอาจจะรู้สึกว่าซอสรสอ่อนเกินไป แต่รสชาตินี้เป็นแบบที่คนญี่ปุ่นทานจริงๆครับ ถ้าอยากทานรสจัดหน่อย ให้จิ้มกับเกลือ 6 ชนิดแทน โดยทางห้องอาหารแนะนำว่าวัตถุดิบที่เป็นเนื้อสัตว์ให้จิ้มกับเกลือสมุทรเป็นหลัก ส่วนผักนั้นให้จิ้มเกลืออีกทั้ง 5 สูตรเปลี่ยนกลิ่นและรสชาติไปเรื่อยๆ ความกรอบและร้อนเข้ากันได้ดีกับรสเค็มของเกลือ ทำให้รู้สึกเพลิน เหมือนกำลังทานเฟรนซ์ฟรายที่สัมผัสและกลิ่นของเกลือเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบทานรสจัดจริงๆแล้วรู้สึกว่าทานเทมปุระไปนานๆแล้วเลี่ยนหนักมาก ให้เดินไปตักเมนูโซบะเย็นมาทานคู่กับเทมปุระ ได้เมนูใหม่ “เทมปุระโซบะ” ซอสเย็นโซบะเข้ากันได้ดีกับเทมปุระทอดร้อนๅ ใส่ต้นหอมและวาซาบิลงไปในซุปช่วยทำให้สดชื่น ทานได้อีกเยอะเลยครับ วิธีนี้ทางโรงแรมไม่ได้แนะนำแต่เรานำมาทานคู่กันเอง เข้ากันสุดๆครับ เทมปุระที่ถูกใจเราอยากแนะนำให้สั่งนั่นก็คือ กุ้งสด/กุ้งลายเสือ/ปลาไหลทะเลญี่ปุ่น/ปูหิมะ/ปลาทรายญี่ปุ่น/หอยเชลล์ฮอกไกโด/ชีส Camembertและเทมปุระผักรวมผสมซีฟู้ด ส่วนเมนูผักอื่นๆใครชอบอะไรก็สั่งตามใจนะครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น