คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
กษัยกล่อน 5 ประการ คือ กล่อนดิน กล่อนน้ำ กล่อนลม กล่อนไฟ และกล่อนเถา จะอยู่ในคัมภีร์กษัย ครับ ในลักษณะอาการจริงๆ ตามคัมภีร์จะไม่ได้อธิบายไว้เหมือนในพจนานุกรมครับ ที่อธิบายไว้ชัดเกี่ยวกับอัณฑะจะเป็นกล่อนดิน (จะคล้ายกับโรคไส้เลื่อนในปัจจุบัน) ส่วนกล่อนน้ำนั้น อธิบายรวบรัดตัดตอนเป็นรวมน้ำ 3 ประการจะเป็นลักษณะกษัยเลือด ซึ่งมีลักษณะแตกต่างกัน ระหว่างหญิงกับชาย จะมีอาการสำคัญบอกไว้ครับ (ศึกษารายละเอียดได้จากกษัยที่เกิดแต่กองธาตุ 8 จำพวก http://siam-herb.blogspot.com/2010/08/blog-post_9635.html) มักมีคำพูดติดปากของคนเก่าคนแก่ว่า กล่อนลงฟัก ก็เลยอาจจะหมายถึงโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบขับถ่ายปัสสาวะหรือระบบสืบพันธุ์ ก็อาจจะเป็นได้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมักเกิดกับเพศชายเป็นส่วนใหญ่
ดาน ก็จะมีการอธิบายไว้ในคัมภีร์กษัย เช่นกัน คือ กษัยดาน จะมีลักษณะท้องแข็งดั่งหิน ตั้งอยู่ที่ยอดอก แล้วค่อยๆลามลงไปที่หัวเหน่า ทิศทางก็จะเหนือสะดือลงมาใต้สะดือ ส่วน เถา ก็จะมีอธิบายในกษัยกล่อนเถา ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือ การแข็งของเส้นท้องในแนวเส้นสัณฑฆาตและปัตคาด ทิศทางก็คือ ตั้งแต่หัวเหน่าไปบรรจบที่เกลียวข้าง และชายโครงถึงยอดอก เรามักจะได้ยินการพูดรวมกันคือ เถาดาน ก็หมายรวมว่าการเกิดลมที่ทำให้ท้องเป็นก้อนแข็ง ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายปัจจัย เช่นการบีบตัวของลำไส้ การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณท้อง หรือการแข็งตัวของก้อนอุจจาระ (พรรดึก) เป็นต้น
พรรดึก จึงเกิดจากการแข็งตัวของก้อนอุจจาระ เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากการดูดซึมกลับไปของลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักเกิดจากการไม่ขับถ่ายอุจจาระนานหลายวัน โดยมากลักษณะอุจจาระที่เป็นพรรดึก จะเป็นก้อนเล็กแข็งเหมือนขี้แพะ หรือลูกกระสุน จะพบแทรกอยู่ในหลายคัมภีร์ อาทิ เช่น คัมภีร์โรคนิทาน คัมภีร์ชวดาล เป็นต้น
ส่วน มาน นั้นถูกแยกออกมาเป็นคัมภีร์เฉพาะโรคเลยก็ว่าได้ ชื่อ คัมภีร์อุทรโรค ([Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ) ประกอบด้วย มาน 18 ประการ คือ มานน้ำ 4 มานลม 4 มานหิน 4 มานโลหิต 4 และมานเกิดแต่ดาน 2 ซึ่งโรคมานนี้ถือเป็นชาติอวสานโรค (โรคอันดับท้ายที่สุดก่อนเสียชีวิต) ครับ
ดาน ก็จะมีการอธิบายไว้ในคัมภีร์กษัย เช่นกัน คือ กษัยดาน จะมีลักษณะท้องแข็งดั่งหิน ตั้งอยู่ที่ยอดอก แล้วค่อยๆลามลงไปที่หัวเหน่า ทิศทางก็จะเหนือสะดือลงมาใต้สะดือ ส่วน เถา ก็จะมีอธิบายในกษัยกล่อนเถา ซึ่งอธิบายง่ายๆ คือ การแข็งของเส้นท้องในแนวเส้นสัณฑฆาตและปัตคาด ทิศทางก็คือ ตั้งแต่หัวเหน่าไปบรรจบที่เกลียวข้าง และชายโครงถึงยอดอก เรามักจะได้ยินการพูดรวมกันคือ เถาดาน ก็หมายรวมว่าการเกิดลมที่ทำให้ท้องเป็นก้อนแข็ง ซึ่งอาจจะเกิดได้หลายปัจจัย เช่นการบีบตัวของลำไส้ การเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณท้อง หรือการแข็งตัวของก้อนอุจจาระ (พรรดึก) เป็นต้น
พรรดึก จึงเกิดจากการแข็งตัวของก้อนอุจจาระ เนื่องจากการสูญเสียน้ำจากการดูดซึมกลับไปของลำไส้ใหญ่ ซึ่งมักเกิดจากการไม่ขับถ่ายอุจจาระนานหลายวัน โดยมากลักษณะอุจจาระที่เป็นพรรดึก จะเป็นก้อนเล็กแข็งเหมือนขี้แพะ หรือลูกกระสุน จะพบแทรกอยู่ในหลายคัมภีร์ อาทิ เช่น คัมภีร์โรคนิทาน คัมภีร์ชวดาล เป็นต้น
ส่วน มาน นั้นถูกแยกออกมาเป็นคัมภีร์เฉพาะโรคเลยก็ว่าได้ ชื่อ คัมภีร์อุทรโรค ([Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ) ประกอบด้วย มาน 18 ประการ คือ มานน้ำ 4 มานลม 4 มานหิน 4 มานโลหิต 4 และมานเกิดแต่ดาน 2 ซึ่งโรคมานนี้ถือเป็นชาติอวสานโรค (โรคอันดับท้ายที่สุดก่อนเสียชีวิต) ครับ
แสดงความคิดเห็น
[แพทย์แผนไทย] ช่วยอธิบายอาการลักษณะของ กล่อนให้หน่อยครับ
ถ้าตามที่เค้าใจ กล่อนเกิดจากของเหลวไปขังอยู่ในถุงอัณฑะ
ถ้าเป็นน้ำ ก็จะเรียกกล่อนน้ำ
ถ้าเป็นเลือด ก็จะเรียกล่อนเลือด
ถ้าเป็นหนอง ก็จะเรียกกล่อนหนอง
คราวนี้
กล่อนดิน
กล่อนลม
กล่อนไฟ
กลอ่นเถา
มันเป็นอย่างไรครับ?
พอแนะนำคัมภีร์ ที่อธิบายเกี่ยวกับกล่อน เถา ดาน พรรดึก มาน ให้หน่อยครับ ว่าควรอ่านเพิ่มเติมในคัมภีร์เล่มไหนบ้างครับ