กระโดดยังกับนักบาส! เเปิดเผยเคล็ดลับร่างกายสุดแกร่งของโรนัลโด้ & อย่างนี้นี่เอง!โรนัลโด้เผยที่มาท่าดีใจสุดเท่

กระโดดยังกับนักบาส! เปิดเผยเคล็ดลับร่างกายสุดแกร่งของ โรนัลโด้

เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ผ่านมา คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้สร้างความฮือฮาให้กับโลกลูกหนัง เมื่อเขากระโดดขึ้นไปโหม่งทำประตูในเกมชนะ ซาพ์โดเรีย 2-1 โดยมีการวัดความสูงแล้ว "ซีอาร์ 7" กระโดดจากพื้นไปถึงจุดสูงสุดประมาณ 2.56 เมตร และลอยตัวกลางอากาศ 1.5 วินาที



สำหรับประตูที่ โรนัลโด้ ทำได้มีการนำไปเปรียบเทียบกับลีลาการเล่นบาสของ ไมเคิ่ล จอร์แดน ตำนานนักยัดห่วงเอ็นบีเอ สหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสร้างความตื่นตะลึงในการทำประตู เพราะ ซูเปอร์สตาร์ชาวโปรตุกีส เคยโชว์ลีลาจักรยานอากาศทำประตูสมัยเล่นให้ เรอัล มาดริด โดยตอนนั้นมีการวัดจากพื้นไปถึงจุดที่เท้าสัมผัสบอลมีความสูงถึง 2.31 เมตร

แน่นอนว่าศักยภาพแบบนี้แสดงให้เห็นว่า โรนัลโด้ มีสภาพร่างกายที่ดีเยี่ยมสมเป็นนักกีฬา โดยเขาเคยอ้างว่าร่างกายของเขาเหมือนกับคนหนุ่มอายุ 23 ปีแม้ความจริงแล้วอายุตามบัตรประชาชนเข้าสู่หลักสามแล้วก็ตาม และยังต้องการค้าแข้งในลีกระดับสูงไปจนถึงอายุ 40 ปีเลยทีเดียว



ปัจจุบัน โรนัลโด้ อายุ 34 ปีแล้ว แต่ไม่มีสัญญาณบ่งบอกเลยว่าความเร็วของเขาช้าลง ทั้งหมดทั้งมวลที่ทำให้ โรนัลโด้ ยังคงมีร่างกายที่แข็งแกร่งมาจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการออกกำลังกาย และเรื่องโภชนาการที่ต้องกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อให้ร่างกายสามารถรักษาสมดุล

เคล็ดไม่ลับที่ โรนัลโด้ ไม่เคยปกปิดเลยในการทำให้ร่างกายของเขาแกร่งดั่งภูผาหินโดยเจ้าตัวมีปัจจัยสำคัญเพียงไม่กี่อย่าง แต่กระนั้นก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ สำหรับคนที่ขาดระเบียบวินัย โดยปัจจัยแรกก็คือการทุ่มเทเวลาในการเข้าโรงยิมอย่างสม่ำเสมอ แต่เขาจะเน้นการออกกำลังแบบ พิลาทีส ( Pilates) เป็นหลักโดยโฟกัสไปที่การออกกำลังกายด้วยแรงต้านเพื่อทำให้แกนกลางร่างกายแข็งแรง



การออกกำลังกายเทรนนิ่งที่ขาทั้งสองข้างก็สำคัญเช่นกัน โดย โรนัลโด้ ทำสิ่งนี้มาตั้งแต่อายุ 12 ปี ด้วยการกระโดดขึ้นลงโดยแบกลูกเหล็กถ่วงน้ำหนักด้วย ต่อด้วยการทำสควอดที่ขาทั้งสองข้าง และสลับทำด้วยขาข้างเดียว รวมถึงการกระโดดขึ้น-ลง บนกล่อง และกระโดดข้ามสิ่งกีดขวาง ทำซ้ำๆ ทุกวันจนกล้ามเนื้อขาได้รูป

การพักผ่อนก็เป็นส่วนสำคัญที่ โรนัลโด้ ทำอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงความเข้มงวดในเรื่องการรับประทานด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การออกกำลังกายหลังเกมก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่เจ้าตัวทำเป็นประจำ เพราะหากเป็นนักเตะบางคนอาจจะเลือกใช้เวลาอยู่กับการนั่งหน้าจอทีวีหลังจบการแข่งขัน แต่เขาเลือกที่จะไปที่สระว่ายน้ำ



 โรนัลโด้จะว่ายน้ำร่วมกับ คริสเตียโน่ จูเนียร์ ซึ่งมันไม่ใช่แค่ช่วยให้เขาร่างกายของเขาผ่อนคลายจากการทำงานหนัก แต่ยังช่วยให้เขาได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกายด้วย การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายแบบฟูลบอดี้ (ออกกำลังกายทั้งตัว) ที่ชาญฉลาดมากๆ เพราะกล้ามเนื้อแขน, แกนกลาง และขาได้ใช้งานอย่างเต็มที่

นอกจากการเข้ายิมแล้ว โรนัลโด้ ยังมีอาวุธลับสุดเด็ดในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ นั่นก็คืออุปกรณ์ที่ชื่อว่า ไครโอเทอราพี (Cryotherapy) หรือการบำบัดด้วยความเย็น สำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้มีมูลค่า 50,000 ปอนด์ (ราว 1.9 ล้านบาท) โดยเขาตัดสินใจซื้อมาติดตั้งเอาไว้ที่บ้านเมื่อปี 2013 หลังจากได้ทราบถึงประสิทธิภาพอันสุดยอดของมันตอนที่ ฟร้องค์ ริเบรี่ นำไปใช้สมัยที่อยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค



โรนัลโด้ จะเข้าไปอยู่ในเครื่อง ไครโอเทอราพี ซึ่งจะปล่อยไนโตรเจนเหลวที่มีความเย็นระหว่าง ลบ160 และลบ 200 องศาเซลเซียส ประมาณ 3 นาทีโดยการบำบัดด้วยความเย็นจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และลดอาการบวม, อักเสบ หรืออาการเคล็ดได้เป็นอย่างดี ซึ่งทำให้ "ซีอาร์ 7" พร้อมที่จะลงสนามในแมตช์ต่อไป หรือกลับมาฝึกซ้อมได้อย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ โรนัลโด้ ยังมีอ่างสำหรับใส่น้ำร้อน และน้ำเย็นเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ขณะเดียวกันระบบนวดตัวแรงดันน้ำแบบเจ็ท (Jet Massage) จะช่วยนวดกล้ามเนื้อในขณะที่เขานั่งอยู่ในอ่าง ส่วนการพักผ่อนและการฟื้นฟูมีความสำคัญพอๆ กับการออกกำลังกายเช่นกัน



โรนัลโด้ เคยออกมาปฏิเสธว่าซิทอัพ 3,000 ครั้งต่อวัน เพราะเจ้าตัวยืนยันว่าทำแค่ 1,000 ครั้งต่อสัปดาห์เท่านั้น เพราะการออกกำลังกายที่เยอะมากซึ่งอาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บ และกล้ามเนื้อหมดแรงได้ ขณะเดียวกันการนอนและการผ่อนคลายเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่เขามักทำอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการใช้เวลานอนหลับอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน

ช่วงเวลากับครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่แสนสุขกับลูกๆ ของเขา และจอร์จิน่า โรดริเกซ แฟนสาวหรือกับคุณแม่ และพี่ชายรวมทั้งน้องสาว เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากๆ โดย โรนัลโด้ ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า "จิตใจที่เข้มแข็งเป็นสิ่งสำคัญพอๆ กับร่างกายที่แข็งแกร่ง การฝึกซ้อม และรักษาร่างกายมีความสำคัญมาก แต่การใช้ชีวิตแบบผ่อนคลายก็ช่วยให้คุณอยู่ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดทั้งร่างกายและจิตใจ"



"ผมใช้เวลาอิสระร่วมกับครอบครัว และเพื่อนๆ ซึ่งทำให้ผมผ่อนคลาย และมีจิตใจในด้านบวก การนอนหลับพักผ่อนที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ สำหรับการฝึกซ้อมหนัก ผมจะนอนตั้งแต่หัวค่ำ และตื่นแต่เช้า โดยเฉพาะก่อนการแข่งขัน การนอนหลับช่วยพื้นฟูกล้ามเนื้อซึ่งสำคัญมาก"

การพัฒนากล้ามเนื้อเป็นส่วนสำคัญที่ โรนัลโด้ ทำอย่างสม่ำเสมอ แต่เคล็ดลับที่แท้จริงที่ทำให้ร่างกายของเขาสุดน่าเหลือเชื่อก็คือการออกกำลังกายแบบ พิลาทีส และการเล่นกล้ามที่บ้าน "การออกกำลังกายให้ร่างกายฟิตคุณสามารถทำที่ไหนก็ได้ คุณสามารถเล่นกล้ามท้องบนเตียงนอนช่วงที่คุณตื่นเช้า หรือก่อนเข้านอน ถ้าคุณทำอย่างสม่ำเสมอมันจะเป็นเรื่องง่ายๆ จนกลายเป็นงานอดิเรก"



อย่างไรก็ตามการทุ่มเทออกกำลังกายจะกลายเป็นเรื่องไร้ค่าทันทีถ้าเขาไม่ใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารให้เหมาะสม โดย โรนัลโด้ ไม่ใช่พวกมังสวิรัติหรือเน้นกินพวกพืชเป็นหลัก แต่เจ้าตัวจะจำกัดเรื่องการกินเนื้อสัตว์เพราะมีไขมันสูง ฉะนั้นเนื้อที่สำคัญก็คือเนื้อปลา

เมนูหลักของเขาสำหรับการไดเอทโดยเฉพาะเมนูที่ชื่อว่า บาคาเลา อะ ลาบราซ่า ซึ่งมีเป็นการผสมผสานปลาคอดเคี่ยว, หัวหอม, มันฝรั่งหั่นบาง และไข่กวน โดยนี่เป็นหนึ่งในเมนูสุดโปรดของ โรนัลโด้ "ผมต้องกินอาหารที่มีโปรตีนสูง พร้อมกับพวกแป้งโฮลเกรน, ผลไม้ และผัก โดยจะเลี่ยงพวกอาหารที่มีน้ำตาลสูง"



"ผมต้องกินอย่างสม่ำเสมอ ถ้าคุณฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องสิ่งสำคัญก็คือการมีระดับพลังงานที่สูงเพื่อที่จะทำให้ร่างกายได้เผาผลาญซึ่งจะทำให้ฟอร์มการเล่นดียิ่งขึ้น บางครั้งผมก็สอยอาหารเป็น 6 มื้อเล็กๆ ต่อวันเพื่อให้มั่นใจผมจะมีพลังงานมากพอสำหรับการฝึกซ้อมในระดับสูงทุกวัน" โรนัลโด้ กล่าว

 บุคคลสำคัญที่ทำให้ โรนัลโด้ มีความมุ่งมั่นในการดูแลตัวเองก็คือ  โดโลเรส อเวยโร่ คุณแม่บังเกิดเกล้าของเขา โดยเธอมักใช้เวลาอยู่ที่บ้านของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เพื่อทำอาหารและต้องแน่ใจว่าเขาจะเข้มงวดกับเรื่องอาหารอย่างเหมาะสม

เคล็ด (ไม่)ลับสร้างความฟิต โรนัลโด้

ทำงานหนัก : แรงกระตุ้นเป็นกุญแจที่ดีที่สุด ซึ่งการคว้า บัลลง ดอร์ 5 สมัยเป็นบทพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี
ทุกที่คือโรงยิม : ไม่มีข้อจำกัดสำหรับตัวเองในการออกกำลังกาย คุณสามารถออกกำลังกายที่บ้านตอนเช้าหรือกลางคืนก็ได้
เซย์โนของมึนเมา : ไม่สนใจออกไปย่ำราตรีถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ
คุณต้องกินอะไร : การไดเอทต้องมีความสมดุล โดยจะเน้นที่โปรตีนเพื่อให้พลังงานในการออกกำลังกาย ส่วนพวกของวันเป็นอาหารที่ไม่เหมาะสม
ผ่อนคายบ้าง : ใช้เวลาสบายๆ อยู่บ้านกับครอบครัว และเพื่อนๆ
นอนหลับพักผ่อน : พยายามนอนให้ได้อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อคืน การนอนเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ

cr : www.siamsport.cot.h

อย่างนี้นี่เอง!โรนัลโด้เผยที่มาท่าดีใจสุดเท่

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หัวหอกเลือดฝอยทองของ ยูเวนตุส เปิดเผยเหตุผลที่ตนแสดงท่าดีใจกระโดดหมุนตัวพร้อมกับกางแขนและตะโกนคำว่า ซี (siiii) หลังเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เจ้าตัวทำให้โลกต้องทึ่งกับการกระโดดขึ้นโขกทำประตูให้ต้นสังกัดในแมตช์ชนะ ซามพ์โดเรีย

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าซูเปอร์สตาร์ "ม้าลาย" ยูเวนตุส เปิดเผยที่มาของลีลาการฉลองยิงประตู หลังจากที่เขาเพิ่งจะสร้างความฮือฮาในจังหวะการทำประตูชัยช่วยต้นสังกัดเฉือน ซามพ์โดเรีย 2-1 เกม กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
 
กัปตันทีมชาติโปรตุเกส แสดงให้โลกได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของร่างกาย แม้ว่าจะอายู 34 ปีแล้วก็ตาม เมื่อเขากระโดดขึ้นโหม่งทำประตูได้อย่างน่าเหนือเชื่อในช่วงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรกซึ่งเป็นประตูชัยซะด้วย ที่สำคัญจังหวะนั้น "ซีอาร์ 7" กระโดดสูงจากพื้นถึง 71 เซนติเมตรเลยทีเดียว

สำหรับการทำประตูดังกล่าว เคลาดิโอ รานิเอรี่ เทรนเนอร์ "ลา ซามพ์" ถึงขนาดยกย่องว่า โรนัลโด้ เหมือนกับสตาร์บาสเกตบอล เอ็นบีเอ โดย หัวหอกเลือดฝอยทอง แสดงความเห็นว่า "ประตูนั้นมันยอดเยี่ยมมากๆ แต่ผมมีความสุขเป็นพิเศษเพราะมันช่วยให้ทีมเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ"

"มีหลายคนถามผมว่า -ทำไมคุณถึงทำท่าแบบนี้ ?- ผมก็ไม่รู้นะ ผมจะทำแบบนี้ กระโดดหมุนตัว แต่มันเป็นไปตามธรรมชาติ เพราะผมมักจะพูดมาตลอดมีหลายๆ สิ่งที่ดีเยี่ยมที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แล้วเรื่องตะโกนนะเหรอ ? มีนักเตะหลายคนรู้ว่าผมมักจะตะโกนตลอดเวลาที่ผมยิงประตูได้หรือตอนที่เราชนะ" โรนัลโด้ ระบุ



cr : www.siamsport.co.th

บิ๊กลาซามพ์โจ๊ก"โด้"ควรโดนใบเหลืองโดนสูงอย่างกับเครื่องบิน
 
มัสซิโม แฟร์เรโร่ประธานสโมสร"ลา ซามพ์"ซามพ์โดเรียพูดติดตลกว่าคริสติอาโน่ โรนัลโด้สตาร์ของ"ม้าลาย"ยูเวนตุสควรโดดใบเหลืองที่กระโดดสูงเช่นนั้น
 
โรนัลโด้กระโดดนับความสูงจากพื้นถึงหัวของเขาตอนที่โหม่งทำประตูชัยเหนือซามพ์โดเรีย 2-1 ถึง 2.56 เมตรเลยทีเดียว

นั่นทำให้แฟร์เรโร่ชื่นชมในความสามารถของนักเตะคู่แข่งรายนี้เป็นอย่างมากและได้ออกมาพูดติดตลกถึงประตูดังกล่าว

"ทีมไปถึงระดับนั้น เราได้เห็นแล้วในการเจอกับยูเวนตุส"แฟร์เรโร่กล่าว

"ผมต้องบอกว่าโรนัลโด้ต้องโดนในเหลืองหลังการกระโดดลูกนั้น มันเหมือนกับว่าเขาทะยานขึ้นไปเป็นเครื่องบินเลย!"

"คริสติอาโน่เป็นคนคว้าชัยชนะในเกมนี้แต่ลูกทีมของผมก็ป้องกันได้ดีแล้ว"


 
cr : www.soccersuck.com
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่