ประสบการณ์การไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเมื่อวาน (16/12/ 2019) เรื่องมันต้องเล่า

โดยปกติ จขกท เดินทางท่องเที่ยวอยู่บ่อยๆ โดยทุกครั้งไปทั้งครอบครัว  เริ่มจากประเทศในเอเชียที่ไม่ต้องใช้วีซ่า 
4 ปีที่แล้วขอวีซ่าครั้งแรกเชงเก้นที่สถานฑูตฝรั่งเศสได้มาสี่ปี
ขอวีซ่าง่ายๆจากจีนมา 2 ครั้ง (ที่ว่าง่ายเพราะไม่ต้องไปเอง เอกสารไม่มาก)
ปีนี้ขอวีซ่าไปนิวซีแลนด์ทางออนไลน์ซึ่งกรอกเอกสารเพียบผ่านมาเรียบร้อย

ซึ่งทั้งหมดนั้น สามีเป็นคนจัดการเอกสารทั้งหมด และกรอกเอกสารให้ รวมถึงพาไปยื่นเอกสารสัมภาษณ์
ตัวเราไปยืนยิ้มเฉยๆ ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ไม่เคยมีความกังวลในการขอวีซ่า 

ก่อนเดินทางไปนิวซีแลนด์(ตุลา 2019) เจอตั๋วโปรโมชั่นไปอเมริกาถูกมาก เลยซื้อเลยจ้ะ 4ใบ
จองโรงแรมรวมถึงซื้อ ตั๋ว Domestic ไว้เรียบร้อย 
ซึ่งทั้งสองอย่างนั้นคืนเงินไม่ได้ แล้วก็เพลิดเพลินกับนิวซีแลนด์ กลับมาจะขอวีซ่าอเมริกา
สามีก็เดินทางตลอดไม่ว่างกรอกใบสมัครให้เสียที (ต้องเดินทางจากชลบุรีไปสัมภาษณ์ที่ กทม )
เลยตัดสินใจกรอกเอง โดยไม่ได้คิดอะไรมาก ไม่เคยรู้กิตติศัพท์การขอวีซ่าอเมริกามาก่อนเลย
เพราะสามีไปขอมาเมื่อปีก่อนได้มาสิบปีก็ไม่เห็นมาเล่าอะไร

เปิดเวปกรอกตามเค้าถาม แล้วให้สามีเช็คนิดหน่อย พิมพ์ละไปจ่ายตังค์ 
กลับมานัดสัมภาษณ์ ได้วันที่ 16 DEC (บิน 27 DEC มั่นหน้ามาก )

ช่องที่น่าสนใจคือเคยทำพาสปอร์ตหายไหม เคยเมื่อ 10 ปีก่อนตอนย้ายบ้านก็ว่าไป 

สามีทักว่าไม่น่ากรอกไปเพราะมันนานแล้ว เราคิดว่าถามมาก็ตอบไปตรงๆ นี่ดีนะกรอกเอง สามีกรอกให้คงลืมไปแล้วว่าเคยหาย

ขอชื่อ Social ที่ใช้ ก็เป็นชื่อและนามสกุลภาษาอังกฤษ ตรงตาม passport ยังนึกว่าถ้าเรามีชื่อ Facebook ว่า จิ้มลิ้ม พิมพ์นิยม นี่คงตลกดี

ไม่มีการโหลดเอกสารหลักฐานใดๆแบบตอนนิวซีแลนด์ ถ้าจำไม่ผิดเค้าไม่ได้ให้กรอกเงินเดือนอะไรด้วย
ถามว่าทำงานอะไร ตอนแรกจะกรอกเป็นแม่บ้านแบบทุกการขอวีซ่า เพราะหลายๆคนแนะนำมา จะได้ไม่ต้องตอบคำถามมาก
แต่สามีทักว่าเขียนว่าทำเบเกอรี่โฮมเมดตามจริงดีกว่า
แม้จะไม่ได้จดทะเบียนบริษัท แต่การเดิน บช มีเงินเข้าออกแบบสม่ำเสมอ ถึงจะให้สามีเป็นสปอนเซอร์ แต่กรอกตามจริงดีกว่า

ส่วนลูกนั้นก็ไม่เห็นเค้าถามว่าเรียนอะไรที่ไหน ใบรับรองการเรียนก็ไม่เอา
จริงๆก็กังวลนิดๆเพราะลูกเรียน แนว Home school (9และ10 ขวบ) ไม่ได้เรียนในโรงเรียนที่รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ ใช้สอบเทียบเอา

มีคนรู้จักที่โน่นแต่ไม่ได้ไปพักด้วยและไม่ได้รู้จักดีพอที่จะตอบคำถามหากเค้าซักขึ้นมาเลยไม่ใส่

ใส่ที่อยู่ที่โน่นเป็นโรงแรมซึ่งสัมพันธ์กับเอกสารที่มี เรียกว่าแทบไม่ได้แก้อะไรเลย ตอบก็ตอบสั้นๆ ใส่ทีเดียวจบพิมพ์แก้ไม่ได้แล้วด้วยจ้ะ

พอได้เอกสารนัดสัมภาษณ์ ก็มาดูเอกสารที่เค้าให้เอาไปด้วย มีน้อยมาก น้อยกว่าเชงเก้นอีก ตอนนั้นแหละเลยเริ่มหากระทู้อ่าน
พออ่านปั๊บจากที่ชิลๆก็เครียดเลยค่ะคุณ สามีเข้าไปด้วยไม่ได้ เฉพาะคนขอวีซ่า จากที่เคยไปนั่งยิ้มมาตลอดต้องพูดเองละ

เอ แต่ถ้าพ่อมีนี่ ลูกขอทางไปรษณีย์ยังได้เลย แม่ก็น่าจะผ่านสบายๆ  กวาดสายตาไปอ่านยังเจอกระทู้ที่ไปขอทั้งบ้านไม่ได้คนเดียว ไปกับแม่ แม่ได้ลูกไม่ได้ก็มี

เหงื่อเริ่มแตกเพราะมีทุกอย่างตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และขอกระชั้นมากเรียกว่าถ้าได้ กว่าพาสปอร์ตจะกลับมาก็ อีก 7 วันบิน
พี่ไม่รีบ T-T ทำไมเป็นคนใจเย็นแบบนี้เนอะ ถ้าไม่ผ่านนะ สนุกเลย 

นอนไม่หลับมาสามวันก่อนสัมภาษณ์ ถึงกับละเมอเลย กลัวเงินที่จ่ายไปทุกอย่างจะมลายหายไปหมด
วันมาสัมภษษณ์เดินลงแทกซี่มา เดินสวนคนที่โทรศัพท์คุยกับเพื่อนว่า
เค้าไม่ดูอะไรเลยแก เค้าไม่ให้ผ่าน ถามแค่สามคำแล้วคืนพาสปอร์ตเลย แหมใจยิ่งระส่ำระสาย ยืนต่อคิวยาวมาก
มีคนที่สัมภาษณ์เสร็จเดินผ่านมาเป็นระยะ ประเมินจากสายตาน่าจะเยอะเหมือนกันนะที่ไม่ผ่าน จากสีหน้า คำพูด
และซองใสมีพาสปอร์(ที่แปะเลข EMS แล้วคืนกลับมาในซอง)

พอเข้าไปข้างในตอนตรวจเอกสาร โดยเจ้าหน้าที่ไทย ถามว่าเคยเปลี่ยนนามสกุลมาใช่ไหม เราก็ว่าใช่ค่ะ
เพราะแต่งงาน มีเอกสารจากอำเภอไปแสดงเค้าก็พยักหน้าไม่ได้ขอดู เหมือนทุกอย่างได้อยู่ในคอมพิวเตอร์ตรงหน้าแล้ว
เพราะเค้าทวนนามสกุลเก่าเราออกมาด้วย สั้นๆแค่นั้นแล้วก็สแกนนิ้วไปสัมภาษณ์เลย
คนก่อนหน้า 5 คนสัมภาษณ์นานมาก มีเอเชียมีฝรั่ง เสียงดุแว่วๆมา ถามเยอะ
ได้ยินไม่ชัดหรอก แต่ถ้าเรากรอกว่ามีคนรู้จักนี่ถามนานพิเศษ เรียกว่าถ้าแค่รู้จักอย่าใส่ไปเลย เดี๋ยวเค้าซักมาตอบไม่ได้จะบันเทิง

ถึงตาเรายื่นพาสปอร์ตไป ซึ่งเป็นเล่มใหม่ล่าสุด ไปเกาหลีมาเมื่อเดือนสิงหา และกลับจากนิวซีแลนด์มาเมื่อตุลา
คุณคนที่ถามเป็นฝรั่งผมทองผู้หญิง ซึ่งเพิ่ง kill คนที่สัมภาษณ์ก่อนหน้าเราไปด้วยคำถามรัวๆละไม่ได้ผ่าน 
เค้ายิ้มให้ และเราก็เป็นประเภทที่พอตื่นเต้นก็จะยิ้มไม่หุบ 55
จริงๆต้องบอกว่าเสียงมันก้องๆและฟังไม่ชัด แต่ก็เดาได้ 

Where will you go in the US?
Los angles and San francisco.
Do you know anyone in the US?
No, i dIdn't.
Does your hasband go with you?
Yes and he got America Visa already.
Travel on Holiday?
Yes family Trip.
Ok. I see, enjoy your trip 
ว่าแล้วก็เก็บพาสปอร์ตทั้งสามเล่มใส่กล่อง เราก็say thank you และเดินออกมางงๆ 

คืองงว่า ดูแค่ passport แล้วสเตทเม้นก็ไม่ดู เห็นคนข้างหน้าเรา เค้าถามยันเรื่องเสียภาษี 
หอบเอกสารลูกไปด้วยเพื่อขอวีซ่าให้ด้วย (แต่ตัวเด็กไม่ต้องไป)
เพราะอ่านในเวปสถานฑูตว่าต้องมีเอกสารอะไรก็เตรียมไป แต่ก็ไม่ขอดูหรือไม่เก็บอะไรเลย
อันว่าเดินทางไปไหนมาบ้างนั้น อาจเช็คได้จาก passport 
แต่เรื่องเงินทองนี่ไม่ขอดูก็รู้ด้วยเหรอว่ามีเงินไปหรือไม่(น่าจะรู้จากประวัติการเสียภาษีของสามีไหม)

ก็เก็บกระเป๋ารอพาสปอร์ตกลับมา จะได้กี่ปีกี่เดือนก็ดีใจมากแล้วที่ทริปไม่ล่ม 
เป็นการขอวีซ่าที่กระชั้นที่สุดในชีวิตกับประเทศที่เค้าว่ากันว่าขอยากมากประเทศหนึ่ง 
อยากจะเล่าจริงๆเพราะมันวนอยู่ในหัวมาหลายวัน เผื่อจะเป็นประโยชน์นะคะ

มาเพิ่มเติมว่าได้10ปีทั้งสามคน ขอบคุณทุกท่านที่แสดงความเห็นและมาอวยพรให้เที่ยวสนุกนะคะ ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่