https://petmaya.com/day-fine-finland?fbclid=IwAR3aZ9YEr3Du9XHdCqlQNguZqHbLvS62rCfrl2Wa8WQG_-JnNWir_MR-akE
การขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด ถือเป็นปัญหาที่เราสามารถพบได้ในทุก ๆ ประเทศ และสิ่งที่กฏหมายสามารถจัดการกับผู้กระทำผิดได้คือการเสียเงินค่าปรับ แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าค่าปรับของเราดันไม่เท่ากัน เพราะมันกลับขึ้นอยู่กับรายได้ของผู่ใช้รถใช้ถนน
ฟินแลนด์ คือหนึ่งในประเทศแรกที่ใช้การคิดค่าปรับในระบบ Day Fine หรือการเสียค่าปรับโดยอ้างอิงกับฐานรายได้ของผู้กระทำผิด โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เนื่องจากค่าปรับไม่ได้ตายตัว แต่ฝันแปรไปได้ตามค่าเงินและฐานะของผู้กระทำผิด ซึ่งระบบปรับแบบ Day Fine นี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพจนหลาย ๆ ประเทศนำระบบนี้ไปใช้บ้าง เช่น อเมริกา สวีเดน และเยอรมนี
คำว่า Day Fine ก็มีความหมายตรงตัวคือเป็น “ค่าปรับแบบวัน” โดยมีระบบการคิดค่าปรับง่าย ๆ 3 ขั้นตอน คือ
1. คุณมีรายได้เท่าไหร่
ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่า คุณมีรายได้ต่อวันเท่าไหร่ หักรายจ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพแล้วเหลือเท่าไหร่ หากคุณเป็นคนรวย มีรายได้เยอะ ค่าปรับก็จะเยอะตามไปได้
2. ปรับทั้งหมดกี่วัน
หากคุณทำผิดไม่ร้ายแรง จำนวนวันที่ปรับก็จะน้อย หากคุณทำผิดร้ายแรง จำนวนวันที่ปรับก็จะเยอะ โดยความร้ายแรงก็ผันแปรตามความเร็วที่คุณขับ ยิ่งขับเกินกำหนดไปเยอะก็ยิ่งร้ายแรงมากเท่านั้น
3. จำนวนค่าปรับทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น A มีรายได้ 1,000 บาทต่อวัน ศาลพิจารณาแล้วว่าค่าต่อวันคือ 500 บาท และ A โดนปรับทั้งหมด 10 วัน แสดงว่า A จะถูกปรับทั้งหมด 5,000 บาท
ในขณะที่ B โดนในข้อหาเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่ B มีรายได้ 500 บาทต่อวัน ศาลพิจารณาค่าปรับต่อวันคือ 250 บาท และ B ก็โดนปรับ 10 วัน ดังนั้น B จะโดนปรับเพียง 2,500 บาทเท่านั้น
ค่าปรับขับรถเร็วในฟินแลนด์อ้างอิงตามรายได้ คนรวยถูกปรับเป็นล้าน ยุติธรรมหรือไม่
การขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด ถือเป็นปัญหาที่เราสามารถพบได้ในทุก ๆ ประเทศ และสิ่งที่กฏหมายสามารถจัดการกับผู้กระทำผิดได้คือการเสียเงินค่าปรับ แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าค่าปรับของเราดันไม่เท่ากัน เพราะมันกลับขึ้นอยู่กับรายได้ของผู่ใช้รถใช้ถนน
ฟินแลนด์ คือหนึ่งในประเทศแรกที่ใช้การคิดค่าปรับในระบบ Day Fine หรือการเสียค่าปรับโดยอ้างอิงกับฐานรายได้ของผู้กระทำผิด โดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อ เนื่องจากค่าปรับไม่ได้ตายตัว แต่ฝันแปรไปได้ตามค่าเงินและฐานะของผู้กระทำผิด ซึ่งระบบปรับแบบ Day Fine นี้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพจนหลาย ๆ ประเทศนำระบบนี้ไปใช้บ้าง เช่น อเมริกา สวีเดน และเยอรมนี
คำว่า Day Fine ก็มีความหมายตรงตัวคือเป็น “ค่าปรับแบบวัน” โดยมีระบบการคิดค่าปรับง่าย ๆ 3 ขั้นตอน คือ
1. คุณมีรายได้เท่าไหร่
ศาลจะเป็นผู้พิจารณาว่า คุณมีรายได้ต่อวันเท่าไหร่ หักรายจ่ายอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพแล้วเหลือเท่าไหร่ หากคุณเป็นคนรวย มีรายได้เยอะ ค่าปรับก็จะเยอะตามไปได้
2. ปรับทั้งหมดกี่วัน
หากคุณทำผิดไม่ร้ายแรง จำนวนวันที่ปรับก็จะน้อย หากคุณทำผิดร้ายแรง จำนวนวันที่ปรับก็จะเยอะ โดยความร้ายแรงก็ผันแปรตามความเร็วที่คุณขับ ยิ่งขับเกินกำหนดไปเยอะก็ยิ่งร้ายแรงมากเท่านั้น
3. จำนวนค่าปรับทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น A มีรายได้ 1,000 บาทต่อวัน ศาลพิจารณาแล้วว่าค่าต่อวันคือ 500 บาท และ A โดนปรับทั้งหมด 10 วัน แสดงว่า A จะถูกปรับทั้งหมด 5,000 บาท
ในขณะที่ B โดนในข้อหาเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่ B มีรายได้ 500 บาทต่อวัน ศาลพิจารณาค่าปรับต่อวันคือ 250 บาท และ B ก็โดนปรับ 10 วัน ดังนั้น B จะโดนปรับเพียง 2,500 บาทเท่านั้น