ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่การรีวิว เพราะไม่มีข้อมูล (data) ข่าวสาร (information) หรือข้อเท็จจริง (fact) แต่อย่างใด อาศัยแต่อารมณ์และความรู้สึกล้วนๆ ครับ
ผมใช้ยางขนาด 195/65/15 ของเดิมใช้คอนติเนนตัล cc6 ผลิตสัปดาห์ที่ 34 ปี 2017 ใช้มาร่วม 2 ปีกว่า ระยะทาง 50,000 กม.กว่าๆ ดอกยางก็ยังเหลือเยอะอยู่นะครับ ยังมีความนุ่มเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ปนด้วยความแข็งกระด้างบ้าง เมื่อต้องใช้เดินทางไกลบ่อยๆ และช่วงปีใหม่ คงได้เดินทางไกลอีก จึงคิดว่าเปลี่ยนใหม่ดีกว่า
ผมมองหายางรุ่นเดิมอยู่ เพราะมีบางร้านขายในราคาเส้นละ 1,600 บาท เลยเอาเป็นราคาตั้ง จะหายางในราคาประมาณนี้ ซึ่งถ้าไม่มีที่น่าสนใจ ก็จะใช้รุ่นเดิมต่อไป เพราะที่ผ่านมายางรุ่นนี้ก็ตอบความความต้องการและวิธีการขับรถของผมได้แล้ว ผมไม่มุด ไม่ซิ่ง ไม่สาดโค้ง ไม่เปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับแบบเรียบร้อยครับ ความเร็วระหว่างจังหวัดโดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 100-110 กม.ต่อ ชม.
ระหว่างมองหายางไปเรื่อย ก็เจอร้านขายยางปี 2018 ยี่ห้อบริดสโตน EP300 ถ้าเป็นยางใหม่ปีปัจจุบัน ผมคงไม่สนใจเพราะราคาสูง แต่นี่เป็นยางเก่าที่ร้านนำมาขายราคาเส้นละ 1,650 บาท ยังติดใจว่าเป็นยางประหยัดน้ำมัน กลัวว่ามันจะลอยๆ ลื่นๆ จึงเป็นที่มาของการตั้งคำถามถึงลักษณะของยางรุ่นดังกล่าว ตั้งกระทู้ถามวันที่ 5 ธ.ค. วันที่ 7 ก็ไปเปลี่ยนเลย 4 เส้น เป็นยางผลิตสัปดาห์ที่ 50 ปี 2018
เปลี่ยนเสร็จ วิ่งๆ จอดๆ ในเมืองประมาณสัก 50-60 กม. วันที่ 8 ก็ได้ใช้เดินทางไกลเลย ความรู้สึกจากการใช้ใน 2 วันนี้ คือ
1.รู้สึกว่า “รถเบา” ขึ้น เร่งความเร็วได้ไวขึ้น พวงมาลัยคมขึ้น มั่นใจในการเปลี่ยนเลนมากขึ้น และไม่รู้สึกว่ารถลอยๆ หรือลื่นๆ
2.ความนุ่ม ผมเติมลมยาง 32 ปอนด์ อีพี300 “ไม่ค่อย” จะนุ่ม แต่ไม่ถึงกับแข็งกระด้างครับ วิ่งในเมืองแถบจรัญสนิทวงศ์ที่ถนนไม่เรียบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า รู้สึกถึงความแข็งของเนื้อยาง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ายางเก็บอาการจากความไม่เรียบของถนนได้ดีเหมือนกัน คือไม่รู้สึกกระเด้งกระดอนหรือสะเทือนมาก แต่วันที่ 8 ที่ผมใช้เดินทางไกล วิ่งต่อเนื่องบนทางด่วนต่อด้วยมอเตอร์เวย์สักประมาณ 100 กม. รู้สึกว่ามีความนุ่มมากขึ้น นิ่มมากขึ้น จนแอบมีย้วยเล็กน้อย (รู้สึกนิดเดียว) ผมรับความนุ่มระดับนี้ได้ แต่สายคอมฟอร์ตอาจจะไม่ชอบนัก ถ้าเทียบกับยางเดิม สายนั้นนุ่มกว่า นิ่มกว่า และย้วยกว่า
3.เรื่องเสียง อีพี300 “ไม่ค่อย” จะเงียบครับ แม้ว่าจะวิ่งบนถนนที่เพิ่งราดยางมะตอยมาใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้เสียงดังตึงตัง ผมรับกับเสียงได้ครับ แต่สายยางเงียบอาจจะไม่ค่อยพอใจ ถ้าเทียบกับยางเดิม ยางเดิมเงียบกว่า
4.รู้สึกว่ารถวิ่งเสถียรขึ้น ทรงตัวนิ่งมากขึ้น ขับได้มั่นใจมากขึ้น รู้สึกได้ว่ายางเกาะถนนแบบหนึบๆ ได้ดีมากกับลักษณะการใช้งานของตัวเอง ระยะเบรคหยุดรถก็ดี แบบไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลืองกระทันหัน ก็เบรกอยู่ครับ ไม่ได้รู้สึกลื่นๆ หรือล้อจะหมุนไม่ยอมหยุดแต่อย่างใด ความเร็วที่ผมใช้เดินทางระหว่างจังหวัดประมาณ 100-110 กม.ต่อ ชม. ยางให้ความรู้สึกดีครับ
5.ความประหยัดน้ำมัน เติมน้ำมันจากปั๊มต้นทางและปลายทางปั๊มเดิม วิ่งถนนเส้นเดิม ก่อนหน้านี้ใช้ยางเดิม เติมกลับเข้าไปเต็มถัง 490 บาท ยางเส้นใหม่เติม 510 บาท แต่ที่ราคาสูงกว่า เป็นเพราะรถติดมากกว่า (ใช้เวลาเดินทางมากกว่าประมาณ 30-45 นาที) ดังนั้นบอกไม่ได้ว่าประหยัดน้ำมันกว่าหรือไม่ คิดว่าน่าจะประหยัดกว่าแต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ใช้มา 6 วัน ระยะทาง 900 กม.กว่าๆ รู้สึกนุ่มขึ้น เสียงเบาลง โดยรวมพอใจครับ เป็นยางที่ให้ความรู้สึกในการใช้ดีทีเดียว (คุณภาพน่าจะเหมาะกับราคาค่าตัวเหมือนกัน) ถ้าต้องเปลี่ยนยางในครั้งหน้า และมีลดราคาประมาณนี้อีก ผมคงเลือกใช้ ถ้าเป็นราคาเต็มก็คงไปใช้ cc6 เหมือนเดิม แต่ถ้าใครมีงบประมาณถึงก็น่าใช้ครับ
ความรู้สึกจากการใช้ยางบริดสโตน Ecopia EP300
ผมใช้ยางขนาด 195/65/15 ของเดิมใช้คอนติเนนตัล cc6 ผลิตสัปดาห์ที่ 34 ปี 2017 ใช้มาร่วม 2 ปีกว่า ระยะทาง 50,000 กม.กว่าๆ ดอกยางก็ยังเหลือเยอะอยู่นะครับ ยังมีความนุ่มเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ปนด้วยความแข็งกระด้างบ้าง เมื่อต้องใช้เดินทางไกลบ่อยๆ และช่วงปีใหม่ คงได้เดินทางไกลอีก จึงคิดว่าเปลี่ยนใหม่ดีกว่า
ผมมองหายางรุ่นเดิมอยู่ เพราะมีบางร้านขายในราคาเส้นละ 1,600 บาท เลยเอาเป็นราคาตั้ง จะหายางในราคาประมาณนี้ ซึ่งถ้าไม่มีที่น่าสนใจ ก็จะใช้รุ่นเดิมต่อไป เพราะที่ผ่านมายางรุ่นนี้ก็ตอบความความต้องการและวิธีการขับรถของผมได้แล้ว ผมไม่มุด ไม่ซิ่ง ไม่สาดโค้ง ไม่เปลี่ยนเลนกะทันหัน ขับแบบเรียบร้อยครับ ความเร็วระหว่างจังหวัดโดยส่วนใหญ่อยู่ที่ 100-110 กม.ต่อ ชม.
ระหว่างมองหายางไปเรื่อย ก็เจอร้านขายยางปี 2018 ยี่ห้อบริดสโตน EP300 ถ้าเป็นยางใหม่ปีปัจจุบัน ผมคงไม่สนใจเพราะราคาสูง แต่นี่เป็นยางเก่าที่ร้านนำมาขายราคาเส้นละ 1,650 บาท ยังติดใจว่าเป็นยางประหยัดน้ำมัน กลัวว่ามันจะลอยๆ ลื่นๆ จึงเป็นที่มาของการตั้งคำถามถึงลักษณะของยางรุ่นดังกล่าว ตั้งกระทู้ถามวันที่ 5 ธ.ค. วันที่ 7 ก็ไปเปลี่ยนเลย 4 เส้น เป็นยางผลิตสัปดาห์ที่ 50 ปี 2018
เปลี่ยนเสร็จ วิ่งๆ จอดๆ ในเมืองประมาณสัก 50-60 กม. วันที่ 8 ก็ได้ใช้เดินทางไกลเลย ความรู้สึกจากการใช้ใน 2 วันนี้ คือ
1.รู้สึกว่า “รถเบา” ขึ้น เร่งความเร็วได้ไวขึ้น พวงมาลัยคมขึ้น มั่นใจในการเปลี่ยนเลนมากขึ้น และไม่รู้สึกว่ารถลอยๆ หรือลื่นๆ
2.ความนุ่ม ผมเติมลมยาง 32 ปอนด์ อีพี300 “ไม่ค่อย” จะนุ่ม แต่ไม่ถึงกับแข็งกระด้างครับ วิ่งในเมืองแถบจรัญสนิทวงศ์ที่ถนนไม่เรียบจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า รู้สึกถึงความแข็งของเนื้อยาง แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่ายางเก็บอาการจากความไม่เรียบของถนนได้ดีเหมือนกัน คือไม่รู้สึกกระเด้งกระดอนหรือสะเทือนมาก แต่วันที่ 8 ที่ผมใช้เดินทางไกล วิ่งต่อเนื่องบนทางด่วนต่อด้วยมอเตอร์เวย์สักประมาณ 100 กม. รู้สึกว่ามีความนุ่มมากขึ้น นิ่มมากขึ้น จนแอบมีย้วยเล็กน้อย (รู้สึกนิดเดียว) ผมรับความนุ่มระดับนี้ได้ แต่สายคอมฟอร์ตอาจจะไม่ชอบนัก ถ้าเทียบกับยางเดิม สายนั้นนุ่มกว่า นิ่มกว่า และย้วยกว่า
3.เรื่องเสียง อีพี300 “ไม่ค่อย” จะเงียบครับ แม้ว่าจะวิ่งบนถนนที่เพิ่งราดยางมะตอยมาใหม่ๆ แต่ก็ไม่ได้เสียงดังตึงตัง ผมรับกับเสียงได้ครับ แต่สายยางเงียบอาจจะไม่ค่อยพอใจ ถ้าเทียบกับยางเดิม ยางเดิมเงียบกว่า
4.รู้สึกว่ารถวิ่งเสถียรขึ้น ทรงตัวนิ่งมากขึ้น ขับได้มั่นใจมากขึ้น รู้สึกได้ว่ายางเกาะถนนแบบหนึบๆ ได้ดีมากกับลักษณะการใช้งานของตัวเอง ระยะเบรคหยุดรถก็ดี แบบไฟเขียวเปลี่ยนเป็นเหลืองกระทันหัน ก็เบรกอยู่ครับ ไม่ได้รู้สึกลื่นๆ หรือล้อจะหมุนไม่ยอมหยุดแต่อย่างใด ความเร็วที่ผมใช้เดินทางระหว่างจังหวัดประมาณ 100-110 กม.ต่อ ชม. ยางให้ความรู้สึกดีครับ
5.ความประหยัดน้ำมัน เติมน้ำมันจากปั๊มต้นทางและปลายทางปั๊มเดิม วิ่งถนนเส้นเดิม ก่อนหน้านี้ใช้ยางเดิม เติมกลับเข้าไปเต็มถัง 490 บาท ยางเส้นใหม่เติม 510 บาท แต่ที่ราคาสูงกว่า เป็นเพราะรถติดมากกว่า (ใช้เวลาเดินทางมากกว่าประมาณ 30-45 นาที) ดังนั้นบอกไม่ได้ว่าประหยัดน้ำมันกว่าหรือไม่ คิดว่าน่าจะประหยัดกว่าแต่เป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ใช้มา 6 วัน ระยะทาง 900 กม.กว่าๆ รู้สึกนุ่มขึ้น เสียงเบาลง โดยรวมพอใจครับ เป็นยางที่ให้ความรู้สึกในการใช้ดีทีเดียว (คุณภาพน่าจะเหมาะกับราคาค่าตัวเหมือนกัน) ถ้าต้องเปลี่ยนยางในครั้งหน้า และมีลดราคาประมาณนี้อีก ผมคงเลือกใช้ ถ้าเป็นราคาเต็มก็คงไปใช้ cc6 เหมือนเดิม แต่ถ้าใครมีงบประมาณถึงก็น่าใช้ครับ