สวัสดี S i n g a p o r e
###ก่อนอื่นของบอกก่อนนะครับว่า รีวิวนี้อาจจะมีคำที่ไม่สุภาพ เพื่ออรรถรสในการเขียนและการอ่าน จะได้รู้จริงๆถึงความรู้สึก 5555+ ถ้ามันผุดออกมาก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ###
***ทริปนี้เกิดจากการที่น้าไปเจอโปรของแอร์เอเชียที่ลดราคา จึงได้ทำการจองไป-กลับสิงคโปร์ ได้ในราคาที่โอเคมากๆ คือ 2700 บาท ย้ำว่า ไป-กลับ 2700 บาท อาจจะมีคนหาได้ถูกกว่านี้ แต่ว่านี้ก็ถูกมากๆแล้วในความคิด
***ระยะเวลาของทริปคือ 6 - 9 พฤศจิกายน 2562
***ในส่วนของที่พัก ได้พักในย่าน Kallang พักที่โรงแรม JH Hotel ที่จองผ่าน agoda ได้ในราคา 3200 บาท 3 คืน หาร 2 ก็ตกคนละ 1600 บาท ตกคืนละ 500 นิดๆ ก็ถือว่าโอเคสำหรับราคานี้ ห้องก็โอเคอยู่ สะอาดอยู่ สามารถนอนได้ แต่ว่าห้องน้ำไม่มีที่ฉีดตูด ไม่รู้เป็นเหมือนกันทุกโรงแรมรุป่าวอันนี้ โรงแรมที่พักห่างจาก รถไฟ MRT ประมาณ 800 เมตร ก็ถือว่ากำลังโอเคเลย สามารถเดินได้ชิวๆ
-- ในส่วนของรูปโรงแรมต้องขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้ถ่ายมาเลนแคปเอาจากวิดีโอ --
***การเดินทาง ในสิงคโปร์สามารถเดินทางได้หลักๆ 3 แบบ คือ MRT BUS และ TAXI (ร่วมถึง Grab ด้วย) แต่ในการเที่ยวครั้งนี้ส่วนมากจะใช้ MRT ไม่กฌ Bus เพราะว่า แท็กซี่น่าจะแพงเลยไม่กล้าขึ้น ก็คนจนอะเนาะ โดยใช้บัตรของ UOB ราคา 12S$ แต่จะมีค่าบัตร 5S$ แล้วสามารถใช้ได้ 7S$ แต่ก็สามารถเติมเงินเข้าได้ตลอด บัตรสามารถใช้ได้ 5 หรือ 7 ปีนี้ล่ะครับ ลืม บัตรนี้สามารถใช้ขึ้น MRT Bus Sentosa Express แล้วก็สามารถซื้อของตามพวกเซเว่นด้ด้วย ส่วนการเติมเงินก็สามารถเติมตามพวกสถานี MRT ได้เลย แต่ว่าในการเติมขึ้นต่ำคือ 10S$ เดี๋ยวไปบ่นต่อ เพราะมีเรื่องกับการขึ้น MRT
***เรื่องเงิน สิงคโปร์ใช้สกุล ดอลล่าสิงคโปร์ (S$) โดยในตอนที่ไป 1 บาท อยู่ 22.72S$
***ซิมที่ใช้ในสิงคโปร์ คือซื้อผ่าน klook ไป ราคา 233 บาท สามารถไปรับที่สนามบินที่สิงคโปร์ได้เลยที่เคาท์เตอร์ UOB มีทุกเทอมินอล แล้วก็เปิด 24
ชั่วโมงด้วย แต่ว่าจะมีบางช่วงที่เน็ตหาย งงมากกกก นี่หายไปวันนึงเต็มๆเลย ไม่รู้เกิดจากอะไร แต่วันที่เหบือก็สามารถใช้ได้ปติ แล้วก็เร็วด้วย
***บัตร Universal Studio อันนี้ก็ซื้อผ่าน Klook เหมือนกัน เราไม่ได้สปอนเซอร์แต่อย่างใด คิดว่ามันสะดวกดีแ้ลวเผื่อไม่มีเวลาไปซื้อที่ห้าง Sea Wheel ด้วย แต่ไม่รู้ที่ห้างราคาจะถูกกว่าในแอพรึป่าวนะ แต่ที่ซื้อนี้ได้ในราคา 1544 บาท แล้วยังได้คูปองอาหารอีกด้วย 5S$ ก็เลยซื้อเลย คือตอนซื้อมันลดเหลือ 1544 บาท แต่ไม่ได้แคปไว้
##ข้อมูลเบื้องต้นน่าจะหมดแล้ว แต่ไม่ ขอเล่าก่อน ก่อนจะไป คือแบบก็หาข้อมูลการเที่ยวไปคล่าวๆ วางแผนต่างๆ หาตามยูทูปบ้าง พันทิปบ้าง การไปเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้คือแบบกังวลเรื่องเดียวคือ การผ่าน ตม. เพราะด้วยภาษาของตัวเองที่ไม่ได้ดีมาก ไม่รู้จะฟังเขารู้เรื่องไหม ก็ได้ไปหาข้อมูลต่างดูว่าเขาจะถามอะไร เขาต้องการอะไรบ้าง แล้วอยูดีๆในยูทูปก็มีแต่พวก ติด ตม. สิงคโปร์ขึ้นมา อ้าวเหมือนรู้ว่ากำลังกังวลเรื่องนี้แล้ว
ขึ้นมากอีก ก็ดูๆไป เขาให้เตรียมพวกเอกสารนู้นนี่ แพลนเที่ยว หลักฐานการจองที่พัก บลาๆ ก็เออเตรียมไปเผื่อเขาถามหา เดี๋ยวไปเล่าตอนช่วงถึง ตม. แล้ว5555
### เริ่มทริปเครื่องอกก 18.50 น. ก็รีบคัก ไปสนามบินตั้งแต่บ่าย 2 แล้วเข้าไปรอหน้า Gate ตั้งแต่ บ่าย 3 กว่าๆคือ ฟ้าวมาก ตื่นเต้นคัก แต่ก่อนเข้าไปใน Gate ก็ได้ไปแลกเงิน โดยเรทการแลกตอนนั้นคือ 22.72บาท คือ 1S$ ได้ทำการแลกไปทั้งหมด 4700 บาท ได้มา 207S$ เสร็จก็ไปตรวจออกเมืองแล้วก็ไปนั่งรอใน Gate คำเตือน!! อย่านำสิ่งที่เป็นของเหลวเข้า Gate เกิน 100 ml เพราะไม่งั้นท่านจะโดนเก็บทิ้งหมดแบบไม่ใยดี ถึงแม้สิ่งของชิ้นนั้นจะแพงเพียงใดก็ตาม ถ้าอยากนำไปโดยโหลดใต้เครื่องเท่านั้น!! เครื่องจะใช้เวลาประมาณ 2 ขชั่วโมงในการเดินทางถึงสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ โดยเวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เครื่องบินจะไปจอดที่เทอมินอล 4 ของสนามบิน แล้วจากนั้นเรต้องผ่าน ตม. เพื่อที่จะไปเข้าเมือง พอมาถึง ตม. สิ่งที่กังวลก็มาถึง ก็เขียนใบเข้าเมืองก่อนผ่าน ตม. แต่แบบนั้นไปถึงกประมาณ 4 ทุ่ม กว่าที่บ้านเข้าแล้ว แล้วแบบคนเขาน่าจะผ่านไปหมดแล้ว เพราะเหลือคนที่เขียนใบเข้าเมืองตรงนั้นไม่เยอะ เขียนเสร็จก็เดินเข้าไป ตมใ. หน้าพี่แกแบบเป็นตาย่านคัก แบบเขาเป็นแขกอ่ะ แล้วหนาวเยอะๆ หนาวเข้มๆ เราก็เดินเข้าไปพร้อมกับถือใบต่างๆที่เตรียมมา แล้วตั้งใจฟังว่าเขาจะถามอะไรบ้าง เขาก็ถามว่ามากับใครอันนี้ก็ตอบได้ แล้วก็ถามว่ามากี่วัน แต่ก็งงตัวเองคือไม่รู้เป็นอะไรตอบไป 4 years แล้วคือพูดออกไปแล้วแล้วแบบคิดได้ เห้ย นั้นมี 4 ปีนี่หว่า ผิดๆๆ แล้วก็เลยบอกเขาไปใหม่ว่า 4days แล้วก็ขำๆ เขาก็บอกกลับเชิ่งประมาณว่า ถ้า 4ปี ไม่ได้ผ่าน ตม. ไปหรอก 55555 แต่ก็แบบขำๆแล้วเขาก็คุยกับเพื่อนเขาแล้วก็ปั้มแล้วก็เดินเข้าเมืองไปชิวๆ แบบไม่ขอดูอะไรสักอย่าง อุส่าเตรียมมา และเรื่องที่กังวลต่อมาคือรถไฟเข้าเมืองหมด 23.15 เวลาของที่นั้น ก็พอมีเวลาอยู่ก็ไปรับซิม แล้วก็ซื้อบัตรไว้ขึ้นรถไฟที่บอกไว้ข้างต้นที่เคาท์เตอร์ UOB ที่เปิด 24 ชั่วโมง ก่อนจะเดินตามป้ายเพื่อขึ้นบัสไปที่เทอมินอล 2 เพื่อไปขึ้นรถไฟเข้าดมือง เพราะถ้าจะเข้าเมืองโดยรถไฟจะต้องไปขึ้นที่เทอมินอล 2 เท่านั้น
รถไปจะไปเทอมินอล 2 รถฟรีเด้อ การเดินทางเข้าเมืองจะมี 3 ทางหลักๆคือ รถไฟ บัส แล้วก็แท็กซี่ รถไฟจะหมด 23.15 ส่วนบัสจะมีตลอด 24 ชั่วโมง แต่ราคาก็แรงหน่อยคือ 9S$ ส่วนแท็กซี่น่ะหรอ ราคาเท่าไหร่ไม่รู้ ย่านมันแพงเลยไม่เลือกที่จะใช้เลยพอไปถึงเทอมินอล 2 ก็จะมีป้าย Train to City ก็เดินตามไปโลด ก็ทันรถไฟรอบสุดท้ายพอดี ก็ขึ้น คือถ้าดูตามแผนที่แล้วต้องไปเปลี่ยนสายที่ Tanah Merah เพื่อจะนั่งรถไฟเข้าเมือง คือต้องนั่งไป 2 สถานี แต่แบบเอ๋อ ส่งสถานที่แรกเลยนึกว่าถึงแล้ว สรุปลงผิดสถานี แล้วรถไฟคือรอบสุดท้ายของสายนี้ อ้าวซวยแล้ว เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่อยู่ตรงนั้น แต่ก่อนไปถามก็แบบเอาไงดี จะถามยังไง ภาษาก็แบบเอ๋อๆ แต่จังหวะนั้นคือ ไม่มีทางเลือกเลยตัดสินใจเข้าไปถามเลยว่าจะไปที่ย่านนี้ต้องไปยังไง ก็มีอีกสายหนึ่งพออดีที่จะไปลงที่ใกล้ๆกัน คือสถานี gaylang bahru คือสายสีน้ำเงิน แต่ว่าจะต้องเดินจากสถานีไปที่พักประมาณ 1.8 กิโลเมตรแต่แบบจังหวะนั้นไม่ได้แล้ว ต้องไป เดินก็เดินว่ะ สุดท้ายก็สามารถถึงที่พักได้โดยการเดินตั้งแต่วันแรกเลย
- DAY 2 -
อยากได้วิวเมอริน่าแบบตอนเช้า พระอาทิตย์ขึ้น แสงสวยๆ กับเมอไลออน ก็เลยตื่นแต่เช้าๆเพื่อไปชมความงานตอนเช้าของอ่าวเมอริน่า นั่ง MRT ไปลงสถานี Raffles Place เพื่อที่จะเดินไปที่เมอไลออนชิวๆ
อันนี้จะเป็นตึกแถวๆที่พัก คือชอบการออกแบบตึกของที่นี่มากๆ สวยงามๆ สะออนแฮง
อันนี้จะเป็นการวางแผนในการเดินเที่ยววันที่ 2 ช่วงเช้า คือสุดท้ายแล้วก็อาจมีบางที่ได้ไป ไม่ได้ไปหรืออาจะมีที่อื่นที่ไม่ได้อยู่ในนี้แล้วได้ไป เพราะแผนมันเปลี่ยนได้ตลอด
เดินเล่นถ่ายรูปพอใจแล้วก็เดินไปแถวๆนั้นจะมีสะพาน Anderson Bridge แถวนั้นก็เดินไปถ่ายรูป คือโซนอ่าวเมอริน่ามีอะไรให้เดินเล่นถ่ายรูปเยอะ แล้วอยู่ใกล้ๆกันด้วยสามารถเดินถึงกันได้เลย
เห็นมันแปลเลยลองซื้อมากิน ราคา 2S$ รสชาติก็ประมาณโค้กรสเบอรี่บ้านเรา
คือ มุมถ่ายรูปแบบสวยๆทั้งนั้น
อนนี้ก็เป็นอีกสะพานที่อยู่ถัดจาก Anderson ถ่ายรูปสวยเหมือนกันนะ
เป็น Theatre อะไรสักอย่าง
เห็นในรีวิวเขาบอกไอติมร้านนี้อร่อยแต่ว่าไม่ได้กินหรอก เดินผ่านเลยแอบถ่ายไป
คนสิงคโปร์แบบใจดีมาก ตอนเดินไปเดินมาแล้วไปเจอเหมือนลิฟลงไปใต้ดินแล้วแบบเป็นเหมือนป้ายโรงละครหรือโรงหนังเลยลงไปดูแล้วก็แบบทำตัวงงๆ แล้วมีคนเดินมาเขาเลยถามว่าจะไปไหนกันแล้วก็ชี้บอกให้ไปถามนั้นเป็นโรงละครหรืออะไรสักอย่างนิล่ะ ฟังบ่ค่อยออก ก็เลยเดินตามที่เขาบอกไป ปรากฎว่าไปโพล่ในตึกไอ้ทุเรียนที่เขายังไม่ได้แล้วเขาก็กำลังจัดสถานที่เพื่องานอะไรสักอย่างนี่ก็เอ๋อๆ เดินไปเดินมา แต่มันยังไม่มีไรเลยเดินกลับทางเดิม
อันนี้เป็น National Gallley ของสิงคโปร์ มันเสียเงินเข้าก็เลยไม่เข้าเพราะว่าไม่มีเงิน 55555+ ไปแบบจนๆ
เดินเที่ยวไปเรื่อยๆแล้วก็ไปแวะกินข้าวอยู่ห้างอะไรสักอย่างนี้แหละ ลืมไปแล้ว
ต่อไปเป็นสถานีดับเพลิงที่ตกแต่งสวยงาม ก็เลยเดินไปถ่ายรูปล่นจั๊กหน่อย ชื่อ Central Five Station
Grab ที่สิงคโปร์ คือปั่นจักรยานส่งชิวๆงี้หรอ 5555+ เท่ดีๆ
Old Hill Street Police Station ตึกที่มีสีๆเยอะ สวยงาม
แล้วก็เดินไปต่อกันที่ Fort Canning Park
[CR] Singapore มันโก้จริงๆหรอ
###ก่อนอื่นของบอกก่อนนะครับว่า รีวิวนี้อาจจะมีคำที่ไม่สุภาพ เพื่ออรรถรสในการเขียนและการอ่าน จะได้รู้จริงๆถึงความรู้สึก 5555+ ถ้ามันผุดออกมาก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ###
***ทริปนี้เกิดจากการที่น้าไปเจอโปรของแอร์เอเชียที่ลดราคา จึงได้ทำการจองไป-กลับสิงคโปร์ ได้ในราคาที่โอเคมากๆ คือ 2700 บาท ย้ำว่า ไป-กลับ 2700 บาท อาจจะมีคนหาได้ถูกกว่านี้ แต่ว่านี้ก็ถูกมากๆแล้วในความคิด
***ระยะเวลาของทริปคือ 6 - 9 พฤศจิกายน 2562
***ในส่วนของที่พัก ได้พักในย่าน Kallang พักที่โรงแรม JH Hotel ที่จองผ่าน agoda ได้ในราคา 3200 บาท 3 คืน หาร 2 ก็ตกคนละ 1600 บาท ตกคืนละ 500 นิดๆ ก็ถือว่าโอเคสำหรับราคานี้ ห้องก็โอเคอยู่ สะอาดอยู่ สามารถนอนได้ แต่ว่าห้องน้ำไม่มีที่ฉีดตูด ไม่รู้เป็นเหมือนกันทุกโรงแรมรุป่าวอันนี้ โรงแรมที่พักห่างจาก รถไฟ MRT ประมาณ 800 เมตร ก็ถือว่ากำลังโอเคเลย สามารถเดินได้ชิวๆ
-- ในส่วนของรูปโรงแรมต้องขออภัยด้วยนะครับ ไม่ได้ถ่ายมาเลนแคปเอาจากวิดีโอ --
***การเดินทาง ในสิงคโปร์สามารถเดินทางได้หลักๆ 3 แบบ คือ MRT BUS และ TAXI (ร่วมถึง Grab ด้วย) แต่ในการเที่ยวครั้งนี้ส่วนมากจะใช้ MRT ไม่กฌ Bus เพราะว่า แท็กซี่น่าจะแพงเลยไม่กล้าขึ้น ก็คนจนอะเนาะ โดยใช้บัตรของ UOB ราคา 12S$ แต่จะมีค่าบัตร 5S$ แล้วสามารถใช้ได้ 7S$ แต่ก็สามารถเติมเงินเข้าได้ตลอด บัตรสามารถใช้ได้ 5 หรือ 7 ปีนี้ล่ะครับ ลืม บัตรนี้สามารถใช้ขึ้น MRT Bus Sentosa Express แล้วก็สามารถซื้อของตามพวกเซเว่นด้ด้วย ส่วนการเติมเงินก็สามารถเติมตามพวกสถานี MRT ได้เลย แต่ว่าในการเติมขึ้นต่ำคือ 10S$ เดี๋ยวไปบ่นต่อ เพราะมีเรื่องกับการขึ้น MRT
***เรื่องเงิน สิงคโปร์ใช้สกุล ดอลล่าสิงคโปร์ (S$) โดยในตอนที่ไป 1 บาท อยู่ 22.72S$
***ซิมที่ใช้ในสิงคโปร์ คือซื้อผ่าน klook ไป ราคา 233 บาท สามารถไปรับที่สนามบินที่สิงคโปร์ได้เลยที่เคาท์เตอร์ UOB มีทุกเทอมินอล แล้วก็เปิด 24
ชั่วโมงด้วย แต่ว่าจะมีบางช่วงที่เน็ตหาย งงมากกกก นี่หายไปวันนึงเต็มๆเลย ไม่รู้เกิดจากอะไร แต่วันที่เหบือก็สามารถใช้ได้ปติ แล้วก็เร็วด้วย
***บัตร Universal Studio อันนี้ก็ซื้อผ่าน Klook เหมือนกัน เราไม่ได้สปอนเซอร์แต่อย่างใด คิดว่ามันสะดวกดีแ้ลวเผื่อไม่มีเวลาไปซื้อที่ห้าง Sea Wheel ด้วย แต่ไม่รู้ที่ห้างราคาจะถูกกว่าในแอพรึป่าวนะ แต่ที่ซื้อนี้ได้ในราคา 1544 บาท แล้วยังได้คูปองอาหารอีกด้วย 5S$ ก็เลยซื้อเลย คือตอนซื้อมันลดเหลือ 1544 บาท แต่ไม่ได้แคปไว้
##ข้อมูลเบื้องต้นน่าจะหมดแล้ว แต่ไม่ ขอเล่าก่อน ก่อนจะไป คือแบบก็หาข้อมูลการเที่ยวไปคล่าวๆ วางแผนต่างๆ หาตามยูทูปบ้าง พันทิปบ้าง การไปเที่ยวสิงคโปร์ครั้งนี้คือแบบกังวลเรื่องเดียวคือ การผ่าน ตม. เพราะด้วยภาษาของตัวเองที่ไม่ได้ดีมาก ไม่รู้จะฟังเขารู้เรื่องไหม ก็ได้ไปหาข้อมูลต่างดูว่าเขาจะถามอะไร เขาต้องการอะไรบ้าง แล้วอยูดีๆในยูทูปก็มีแต่พวก ติด ตม. สิงคโปร์ขึ้นมา อ้าวเหมือนรู้ว่ากำลังกังวลเรื่องนี้แล้ว
### เริ่มทริปเครื่องอกก 18.50 น. ก็รีบคัก ไปสนามบินตั้งแต่บ่าย 2 แล้วเข้าไปรอหน้า Gate ตั้งแต่ บ่าย 3 กว่าๆคือ ฟ้าวมาก ตื่นเต้นคัก แต่ก่อนเข้าไปใน Gate ก็ได้ไปแลกเงิน โดยเรทการแลกตอนนั้นคือ 22.72บาท คือ 1S$ ได้ทำการแลกไปทั้งหมด 4700 บาท ได้มา 207S$ เสร็จก็ไปตรวจออกเมืองแล้วก็ไปนั่งรอใน Gate คำเตือน!! อย่านำสิ่งที่เป็นของเหลวเข้า Gate เกิน 100 ml เพราะไม่งั้นท่านจะโดนเก็บทิ้งหมดแบบไม่ใยดี ถึงแม้สิ่งของชิ้นนั้นจะแพงเพียงใดก็ตาม ถ้าอยากนำไปโดยโหลดใต้เครื่องเท่านั้น!! เครื่องจะใช้เวลาประมาณ 2 ขชั่วโมงในการเดินทางถึงสนามบินชางงีประเทศสิงคโปร์ โดยเวลาสิงคโปร์จะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เครื่องบินจะไปจอดที่เทอมินอล 4 ของสนามบิน แล้วจากนั้นเรต้องผ่าน ตม. เพื่อที่จะไปเข้าเมือง พอมาถึง ตม. สิ่งที่กังวลก็มาถึง ก็เขียนใบเข้าเมืองก่อนผ่าน ตม. แต่แบบนั้นไปถึงกประมาณ 4 ทุ่ม กว่าที่บ้านเข้าแล้ว แล้วแบบคนเขาน่าจะผ่านไปหมดแล้ว เพราะเหลือคนที่เขียนใบเข้าเมืองตรงนั้นไม่เยอะ เขียนเสร็จก็เดินเข้าไป ตมใ. หน้าพี่แกแบบเป็นตาย่านคัก แบบเขาเป็นแขกอ่ะ แล้วหนาวเยอะๆ หนาวเข้มๆ เราก็เดินเข้าไปพร้อมกับถือใบต่างๆที่เตรียมมา แล้วตั้งใจฟังว่าเขาจะถามอะไรบ้าง เขาก็ถามว่ามากับใครอันนี้ก็ตอบได้ แล้วก็ถามว่ามากี่วัน แต่ก็งงตัวเองคือไม่รู้เป็นอะไรตอบไป 4 years แล้วคือพูดออกไปแล้วแล้วแบบคิดได้ เห้ย นั้นมี 4 ปีนี่หว่า ผิดๆๆ แล้วก็เลยบอกเขาไปใหม่ว่า 4days แล้วก็ขำๆ เขาก็บอกกลับเชิ่งประมาณว่า ถ้า 4ปี ไม่ได้ผ่าน ตม. ไปหรอก 55555 แต่ก็แบบขำๆแล้วเขาก็คุยกับเพื่อนเขาแล้วก็ปั้มแล้วก็เดินเข้าเมืองไปชิวๆ แบบไม่ขอดูอะไรสักอย่าง อุส่าเตรียมมา และเรื่องที่กังวลต่อมาคือรถไฟเข้าเมืองหมด 23.15 เวลาของที่นั้น ก็พอมีเวลาอยู่ก็ไปรับซิม แล้วก็ซื้อบัตรไว้ขึ้นรถไฟที่บอกไว้ข้างต้นที่เคาท์เตอร์ UOB ที่เปิด 24 ชั่วโมง ก่อนจะเดินตามป้ายเพื่อขึ้นบัสไปที่เทอมินอล 2 เพื่อไปขึ้นรถไฟเข้าดมือง เพราะถ้าจะเข้าเมืองโดยรถไฟจะต้องไปขึ้นที่เทอมินอล 2 เท่านั้น
รถไปจะไปเทอมินอล 2 รถฟรีเด้อ การเดินทางเข้าเมืองจะมี 3 ทางหลักๆคือ รถไฟ บัส แล้วก็แท็กซี่ รถไฟจะหมด 23.15 ส่วนบัสจะมีตลอด 24 ชั่วโมง แต่ราคาก็แรงหน่อยคือ 9S$ ส่วนแท็กซี่น่ะหรอ ราคาเท่าไหร่ไม่รู้ ย่านมันแพงเลยไม่เลือกที่จะใช้เลยพอไปถึงเทอมินอล 2 ก็จะมีป้าย Train to City ก็เดินตามไปโลด ก็ทันรถไฟรอบสุดท้ายพอดี ก็ขึ้น คือถ้าดูตามแผนที่แล้วต้องไปเปลี่ยนสายที่ Tanah Merah เพื่อจะนั่งรถไฟเข้าเมือง คือต้องนั่งไป 2 สถานี แต่แบบเอ๋อ ส่งสถานที่แรกเลยนึกว่าถึงแล้ว สรุปลงผิดสถานี แล้วรถไฟคือรอบสุดท้ายของสายนี้ อ้าวซวยแล้ว เลยเดินไปถามเจ้าหน้าที่อยู่ตรงนั้น แต่ก่อนไปถามก็แบบเอาไงดี จะถามยังไง ภาษาก็แบบเอ๋อๆ แต่จังหวะนั้นคือ ไม่มีทางเลือกเลยตัดสินใจเข้าไปถามเลยว่าจะไปที่ย่านนี้ต้องไปยังไง ก็มีอีกสายหนึ่งพออดีที่จะไปลงที่ใกล้ๆกัน คือสถานี gaylang bahru คือสายสีน้ำเงิน แต่ว่าจะต้องเดินจากสถานีไปที่พักประมาณ 1.8 กิโลเมตรแต่แบบจังหวะนั้นไม่ได้แล้ว ต้องไป เดินก็เดินว่ะ สุดท้ายก็สามารถถึงที่พักได้โดยการเดินตั้งแต่วันแรกเลย
- DAY 2 -
อยากได้วิวเมอริน่าแบบตอนเช้า พระอาทิตย์ขึ้น แสงสวยๆ กับเมอไลออน ก็เลยตื่นแต่เช้าๆเพื่อไปชมความงานตอนเช้าของอ่าวเมอริน่า นั่ง MRT ไปลงสถานี Raffles Place เพื่อที่จะเดินไปที่เมอไลออนชิวๆ
อันนี้จะเป็นตึกแถวๆที่พัก คือชอบการออกแบบตึกของที่นี่มากๆ สวยงามๆ สะออนแฮง
เดินเล่นถ่ายรูปพอใจแล้วก็เดินไปแถวๆนั้นจะมีสะพาน Anderson Bridge แถวนั้นก็เดินไปถ่ายรูป คือโซนอ่าวเมอริน่ามีอะไรให้เดินเล่นถ่ายรูปเยอะ แล้วอยู่ใกล้ๆกันด้วยสามารถเดินถึงกันได้เลย
เห็นมันแปลเลยลองซื้อมากิน ราคา 2S$ รสชาติก็ประมาณโค้กรสเบอรี่บ้านเรา
คือ มุมถ่ายรูปแบบสวยๆทั้งนั้น
อนนี้ก็เป็นอีกสะพานที่อยู่ถัดจาก Anderson ถ่ายรูปสวยเหมือนกันนะ
เป็น Theatre อะไรสักอย่าง
เห็นในรีวิวเขาบอกไอติมร้านนี้อร่อยแต่ว่าไม่ได้กินหรอก เดินผ่านเลยแอบถ่ายไป
คนสิงคโปร์แบบใจดีมาก ตอนเดินไปเดินมาแล้วไปเจอเหมือนลิฟลงไปใต้ดินแล้วแบบเป็นเหมือนป้ายโรงละครหรือโรงหนังเลยลงไปดูแล้วก็แบบทำตัวงงๆ แล้วมีคนเดินมาเขาเลยถามว่าจะไปไหนกันแล้วก็ชี้บอกให้ไปถามนั้นเป็นโรงละครหรืออะไรสักอย่างนิล่ะ ฟังบ่ค่อยออก ก็เลยเดินตามที่เขาบอกไป ปรากฎว่าไปโพล่ในตึกไอ้ทุเรียนที่เขายังไม่ได้แล้วเขาก็กำลังจัดสถานที่เพื่องานอะไรสักอย่างนี่ก็เอ๋อๆ เดินไปเดินมา แต่มันยังไม่มีไรเลยเดินกลับทางเดิม
อันนี้เป็น National Gallley ของสิงคโปร์ มันเสียเงินเข้าก็เลยไม่เข้าเพราะว่าไม่มีเงิน 55555+ ไปแบบจนๆ
เดินเที่ยวไปเรื่อยๆแล้วก็ไปแวะกินข้าวอยู่ห้างอะไรสักอย่างนี้แหละ ลืมไปแล้ว
ต่อไปเป็นสถานีดับเพลิงที่ตกแต่งสวยงาม ก็เลยเดินไปถ่ายรูปล่นจั๊กหน่อย ชื่อ Central Five Station
Grab ที่สิงคโปร์ คือปั่นจักรยานส่งชิวๆงี้หรอ 5555+ เท่ดีๆ
Old Hill Street Police Station ตึกที่มีสีๆเยอะ สวยงาม
แล้วก็เดินไปต่อกันที่ Fort Canning Park
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้