JJNY : ค่าแรง 425 บาท พิชัยเย้ยแค่หาเสียงฯ/อนค.เปิดโครงสร้าง RTA บริษัทที่กองทัพปล่อยกู้ฯ/สอท.ร้องรัฐช่วยเอสเอ็มอีฯ

ทวงสัญญาค่าแรง 425 บาท!! พิชัย เย้ย ตอนนั้นก็แค่หาเสียง สุดท้ายขึ้นแค่ 6 บาท
https://www.matichon.co.th/politics/news_1793680
  
 
“พิชัย” ชี้ ค่าแรงที่ขึ้นมาเพียงแค่ 6 บาท แสดงถึงรัฐบาลบริหารล้มเหลว ติง “ประยุทธ์” ยิ่งพูดยิ่งผิด เย้ย เศรษฐกิจทรุด การเมืองย้อนยุค และสังคมเสื่อมทราม
 
วันที่ 7 ธ.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลประกาศขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 5-6 บาททั่วประเทศ แสดงถึงความล้มเหลวของการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลตลอด 5 ปี เพราะการขึ้นค่าแรงดังกล่าวไม่ได้ทำให้ทั้งผู้ใช้แรงงาน และ ทั้งนายจ้างพอใจเลย โดยผู้ใช้แรงงานคาดหวังว่ารัฐบาลจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400-425 บาท ตามที่พรรคพลังประชารัฐได้หาเสียงไว้
 
ในขณะที่นายจ้างที่เป็นเจ้าของกิจการต้องรับภาระค่าแรงที่สูงขึ้น ทั้งๆที่บริษัทกำลังย่ำแย่ การค้าขายฝืดเคือง ธุรกิจทำท่าจะไปไม่รอด ซึ่งถ้ารัฐบาลสามารถบริหารเศรษฐกิจได้ดี เศรษฐกิจขยายตัวได้ตามศักยภาพทุกปี และรัฐบาลทะยอยขึ้นค่าแรงในระดับที่เหมาะสมทุกปี ตลอด 5 ปีผ่านมา ผู้ใช้แรงงานก็น่าจะมีรายได้ขั้นต่ำถึง 400 บาทแล้ว
 
ขณะที่หน่วยธุรกิจ ถ้าเศรษฐกิจดี ค้าขายคล่องมีกำไร การขึ้นค่าแรงทีละขั้นทุกปี ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะจะมีกำไรมาแบ่งปันลูกจ้างผู้ใช้แรงงานได้ แต่ในปัจจุบันเศรษฐกิจก็แย่ การค้าขายก็ซบเซา การขึ้นค่าแรงจึงเป็นเหมือนการซ้ำเติมธุรกิจให้ทรุดลงอีก และอาจถึงกับต้องปิดกิจการได้
 
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ตอนที่พรรคพลังประชารัฐหาเสียงค่าแรงขั้นต่ำที่ 400-425 บาท แสดงให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ ที่มีรัฐมนตรีเศรษฐกิจของรัฐบาลลาออกไปบริหาร ไม่ได้รับทราบสถานะเศรษฐกิจที่แท้จริงของประเทศเลย ซึ่งตนได้เคยทักท้วงไว้แล้วว่าอย่าเพียงแต่พูดหาเสียงแต่จะไม่สามารถทำได้เนื่องจากเศรษฐกิจไทยย่ำแย่มาตลอด 5 ปี
 
อีกทั้งการลงทุนหดหาย การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ก็ไม่มี การจะขึ้นค่าแรงในธุรกิจเดิมที่ย่ำแย่อยู่แล้วจะไม่สามารถทำได้ อีกทั้งจะยิ่งผลักให้นักลงทุนไม่มาลงทุนมากขึ้น แต่พรรคพลังประชารัฐโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และ เป็น อดีต รมว. อุตสาหกรรม ก็ยังปากแข็งยืนยันว่าทำได้แน่ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อย่างที่พูดหาเสียง
 
ทั้งนี้ การประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผิดพลาด ยังคงเป็นอยู่ถึงปัจจุบันที่มีแต่นโยบายการแจกเงิน แต่ประเทศไม่ได้พัฒนา ซึ่งจะสร้างปัญหาทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ ประเทศไทยจะต้องเร่งปรับเปลี่ยนการผลิตและการบริการให้มีการใช้เทคโนโลยีที่สูงขึ้น เพื่อที่หน่วยธุรกิจจะสามารถขึ้นค่าจ้างแรงงานได้มากขึ้น ซึ่งเป็นวัฏจักรการพัฒนาของประเทศรายได้สูงที่พัฒนาแล้ว ซึ่งต้องอาศัยผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ที่จะนำพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลงได้
 
หากปัจจุบัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ยังสับสน วันหนึ่งบอกให้คนพูดเรื่องเศรษฐกิจมากๆ และยังบอกว่าประเทศที่เจริญแล้วประชาชนเขาจะพูดเรื่องเศรษฐกิจกันมาก แต่พอมาอีกวันบอกไม่อยากให้วิจารณ์เศรษฐกิจเพราะจะทำให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจยาก
 
ทั้งๆ ที่ประเทศที่พัฒนาแล้วเขาจะช่วยกันวิจารณ์เศรษฐกิจเพื่อหาทางออกให้ประเทศ ซึ่งพลเอกประยุทธ์ควรจะต้องรับฟัง เพราะความรู้ทางเศรษฐกิจของพลเอกประยุทธ์มีน้อยถึงน้อยมากอยู่แล้ว อีกทั้งยังกล้าบอกว่าตลอด 5 ปี ประเทศพัฒนาทุกด้าน ซึ่งสวนกับความเป็นจริง เพราะประเทศไทยเสื่อมถอยทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง และ สังคม
 
โดยเศรษฐกิจทรุดต่ำอย่างหนักที่ทุกคนในประเทศรู้สึกได้ หุ้นก็ตกหนัก ด้านการเมืองยิ่งเสื่อมถอย ย้อนหลังไปในอดีตที่ยังมีการซื้องูเห่าจากพรรคฝ่ายค้าน และยังพยายามหนีการตรวจสอบ แม้กระทั่ง การตรวจสอบการใช้อำนาจ [เผล่ะจัง] ด้วย ม. 44 ในอดีต ด้านสังคม ยิ่งเสื่อมทราม มีการใช้ความรุนแรง และ การใช้อำนาจบาตรใหญ่ของคนจำนวนมาก ซึ่งอาจจะเป็นผลของการเลียนแบบผู้นำที่เป็นตัวอย่างของความรุนแรงและการลุแก่อำนาจ
 
นายพิชัย ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ พลเอกประยุทธ์ยังมีการตำหนิว่าประชาชนใช้จ่ายเงินแต่งตัวกันมาก และ ทำจมูก ทั้งที่เป็นสิทธิส่วนบุคคล อีกทั้งพลเอกประยุทธ์คงจะไม่ทราบและไม่มีความรู้ว่าธุรกิจเสริมความงาม มีมูลค่ามหาศาลปีละหลายหมื่นหลายแสนล้านบาทในประเทศไทย โดยมีทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศที่บินมาใช้บริการในประเทศไทย
 
การตำหนิดังกล่าวแสดงถึงความไม่รู้เรื่องทางเศรษฐกิจ อีกทั้งยังเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล หากผู้นำยังมีวิสัยทัศน์ที่คับแคบ แถมยังแสดงความเห็นแบบไม่ไตร่ตรองก่อนพูด ก็จะเป็นการยากที่ประเทศไทยจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจและยากที่จะพัฒนาได้
 

 
อนาคตใหม่ เปิดโครงสร้าง RTA บริษัทที่กองทัพปล่อยกู้ 1พันล้าน ไปลงทุนหุ้นในตลาด
https://www.matichon.co.th/politics/news_1793252
 
อนาคตใหม่ เปิดโครงสร้าง RTA บริษัทที่กองทัพปล่อยกู้ 1พันล้าน ไปลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์  
 
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แชร์โพสต์ของพรรคอนาคตใหม่ ในหัวข้อ เปิดมิติลี้ลับในกองทัพ ครั้งที่ 2 พร้อมกราฟฟิกรายละเอียด บริษัท RTA Entertainment ซึ่งกองทัพถือหุ้น 50% และอีก 50% ถือหุ้นโดยนายทหารระดับสูงขอกองทัพ ได้กู้เงินจากงบกองทัพ จำนวน 1,000 ล้านบาท โดยปลอดดอกเบี้ย ตามที่นายธนาธร เคยออกมาเปิดก่อนหน้านี้
 
พร้อมระบุข้อความ ใจความว่า
 
“สุดท้ายเงินหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่นล้านในกองทัพ ที่เราแทบจะตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยนี้ ก็คือเงินภาษีที่มาจากพวกคุณ – ประชาชนคนไทยทั้งนั้น
 
เงินภาษีที่เราสามารถนำมาพัฒนาคุณภาพโรงเรียนสำหรับบุตรหลานของเราทุกคน
 
เงินภาษีที่เราสามารถนำมาสร้างโรงพยาบาลที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน
 
การปฏิรูปให้กองทัพมีความโปร่งใส ประชาชนมีสิทธิและสามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เงินภาษีถูกใช้ไปอย่างสุจริตและคุ้มค่าที่สุด เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ช้าก็เร็ว
 
ไม่ว่า ใครก็ไม่สามารถขวางกระแสธารแห่งความเปลี่ยนแปลงนี้ได้”
 
https://www.facebook.com/ThanathornOfficial/posts/737098350027175
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่