อย่างที่ทราบกันดีว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ นี้จะมีงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 (Motor Expo 2019) ส่งท้ายปี
และค่ายรถเองก็ต่างเปิดตัวรถใหม่กันในช่วงนี้
ซึ่ง ศึกที่ดูจะดุดเดือดมาก เห็นจะเป็น Eco Car War (Phase 2) ด้วยเวลาประมาณ 1 เดือน ก็มีรถเปิดตัวใหม่ ด้วยกัน ถึง 4 แบรนด์ 5 โมเดล
เริ่มตั้งแต่ 2020 Nissan Almera
2020 Mitsubishi Mirage / Attrage
2020 Honda City
2020 Mazda2
เราจะขอมาเปรียบเทียบกันคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ ลองดูกันครับ และ ช่วงบอกเราหน่อย คุณชอบคันไหน เพราะอะไร เพื่อจะได้เป็นไอเดียทางเลือกกับเพื่อนๆ ที่กำลังหาข้อมูล และสนใจรถ Eco Car Phase 2 นี้กันครับ
ขอมาเริ่มกันที่ คู่ All New แบบยกลำกันก่อน นั่นก็คือ City VS Almera
เพราะ นอกจากปรับบอดี้ใหม่ หมด ขุมพลังก็ยกใหม่ด้วย เครื่องยนต์ 1 ลิตร เทอร์โบ 3 สูบ ด้วยกันทั้งคู่
ภายนอก สำหรับ City นั้น หากมองจากมุมข้าง 180 องศา จะพบลักษณะของตัวรถ และเส้นสายที่ดูมีความใกล้เคียง City โฉมเดิมอยู่
แต่ทาง Honda มีการปรับการดีไซน์ให้ดูทันสมัย และหรูหรา ขึ้น จากไฟหน้าแบบ LED รูปทรงที่ต่อยอดกันมากจาก Accord, Civic ถ่ายทอดลงมาสู่ City ใหม่ นี้ และยกตัวแต่งรุ่นท๊อป RS ในแบบของ Civic มาทำตลาดด้วย
ด้าน Almera ใหม่ จะเน้นดีไซน์ตามแบบ Nissan Versa เน้นความเหลี่ยมสันมากขึ้น ดูรูปลักษณ์ทันสมัย ตามแบบฉบับรถ Global ยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับภายในนั้น City ถือว่า ออกแบบให้ดูสวยงาม ดูดีทันสมัย และในรุ่นท๊อป RS ที่ให้โทนอารมณ์สปอร์ต
ภายในของ Almera ดูแล้วก็เน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย แต่เรื่องการดีไซน์ ยังดูเรียบๆ ไปเสียหน่อย
แต่ออปชั่นภายในของรุ่นท๊อป ก็ดูใกล้เคียงกัน
City มี Paddle Shift กับ Cruise Control รวมถึง ที่ท้าวแขนตอนหลัง
ด้าน Almera ให้มาตรวัดแบบสี TFT
ด้านขุมพลังก็ตามที่บอกไปว่า เป็นการ downsized เครื่องให้เล็กลงเหลือ 1 ลิตร บล็อก 3 สูบ พ่วงเทอร์โบ แต่ พละกำลังนั้น ถือว่าไม่ธรรมดาเลย City กำลังสูงกว่าแบบเห็นได้ชัด ให้กำลังพอๆ กับรถ 1.5 ลิตร แรงบิดให้มาประมาณรถ 1.8 ลิตรเลย
ด้าน Almera ให้แรงม้า มาประมาณรถพิกัด 1.4 ลิตร ขณะที่แรงบิดพอๆกับรถ 1.6 ลิตร
ส่วนระบบความปลอดภัย Almera รุ่นท๊อปดูจะให้ของมาเยอะกว่าหน่อย อาทิ ระบบช่วยเบรก IEB, Blindspot และ ตรวจจับวัตถุเมื่อถอยหลัง
สำหรับราคานั้น 2020 City เริ่ม 5.795 แสน – 7.39 แสน
ด้าน 2020 Almera เริ่ม 4.99 – 6.39 แสน
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในรุ่นท๊อปนั้น ต่างกันถึง 1 แสนบาท เลยทีเดียว
อาจเรียกได้ว่า ขุมพลัง Honda ดูกินขาด แต่ ออปชั่นก็ จะได้เปรียบเสียเปรียบกัน ในจุดที่ต่างกันไป ซึ่งใครสาวกค่ายไหน เลือกคันไหนบอกให้เรารับรู้กันได้เลยครับ
ขณะที่อีก 1 คู่ของ Mazda2 VS Mirage/Attrage นั้นเราอาจต้องขอนับเป็นการปรับโฉม Minorchanged กันทั้งคู่
โดยเฉพาะทางฝั่งของค่าย 3Diamond ที่จริงๆ น่าจะต้องบอกว่าเป็น All New แต่พอเปิดตัวจริงออกมา กลับ
ยกหน้าใหม่ ส่วนด้านท้าย ขอเรียกว่า Redesign เพียงเล็กน้อย
รวมถึงภายในห้องโดยสารก็ ปรับใหม่ ซึ่งดูไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ปรับเพิ่มออปชั่น
พวกชุดหน้าจอ เครื่องเสียง มาตรวัด เป็นต้น
ส่วนขุมพลัง ยังเป็นบล็อกเดิมไม่ผิดเพี้ยน
ออปชั่นความปลอดภัยก็ยังอาจจะดูน้อยกว่าคู่แข่งไปนิด
ส่วนค่าตัวปรับเพิ่มจากเดิม 7,000 – 10,000 บาท แล้วแต่ละรุ่นย่อย
อยู่ที่ 4.74 - 6.24 แสน
ด้าน 2020 Mazda2 ใหม่ ปรับ Minorchanged ก็ต้องถือว่าเป็นการปรับเสริมเพิ่มเติมออปชั่น
ภายนอก จะเห็นได้ว่าให้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์มาแล้ว
ภายในห้องโดยสาร มีการปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียง (NVH)
ตัวเบาะ ปรับให้เน้น Ergonomic ยิ่งขึ้น
เพิ่มออปชั่น อำนวยความสะดวก อาทิ Paddle Shift, Cruise Control
ระบบความปลอดภัยก็ให้ GVC + เพิ่มมา และ i-ACTIVSENSE ใหม่
ส่วนเครื่องยนต์ ก็ยังคงเป็นบล็อกเดิม ทั้ง เบนซิน Skyactiv G และ ดีเซล Skyactiv D
2020 Mazda2 ใหม่ ราคา 5.46-7.99 แสน
ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ 5 โมเดลนี้ เป็นคุณล่ะจะเลือกคันไหน ดีครับ
ศึกชิงจ้าว Eco Car เฟส2 ส่งท้ายปีนี้ City VS Almera กับ Mazda2 VS Mirage/Attrage คันไหนโดนใจคุณ
อย่างที่ทราบกันดีว่า ในช่วงสิ้นปีนี้ นี้จะมีงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 (Motor Expo 2019) ส่งท้ายปี
และค่ายรถเองก็ต่างเปิดตัวรถใหม่กันในช่วงนี้
ซึ่ง ศึกที่ดูจะดุดเดือดมาก เห็นจะเป็น Eco Car War (Phase 2) ด้วยเวลาประมาณ 1 เดือน ก็มีรถเปิดตัวใหม่ ด้วยกัน ถึง 4 แบรนด์ 5 โมเดล
เริ่มตั้งแต่ 2020 Nissan Almera
2020 Mitsubishi Mirage / Attrage
2020 Honda City
2020 Mazda2
เราจะขอมาเปรียบเทียบกันคร่าวๆ ให้เพื่อนๆ ลองดูกันครับ และ ช่วงบอกเราหน่อย คุณชอบคันไหน เพราะอะไร เพื่อจะได้เป็นไอเดียทางเลือกกับเพื่อนๆ ที่กำลังหาข้อมูล และสนใจรถ Eco Car Phase 2 นี้กันครับ
ขอมาเริ่มกันที่ คู่ All New แบบยกลำกันก่อน นั่นก็คือ City VS Almera
เพราะ นอกจากปรับบอดี้ใหม่ หมด ขุมพลังก็ยกใหม่ด้วย เครื่องยนต์ 1 ลิตร เทอร์โบ 3 สูบ ด้วยกันทั้งคู่
ภายนอก สำหรับ City นั้น หากมองจากมุมข้าง 180 องศา จะพบลักษณะของตัวรถ และเส้นสายที่ดูมีความใกล้เคียง City โฉมเดิมอยู่
แต่ทาง Honda มีการปรับการดีไซน์ให้ดูทันสมัย และหรูหรา ขึ้น จากไฟหน้าแบบ LED รูปทรงที่ต่อยอดกันมากจาก Accord, Civic ถ่ายทอดลงมาสู่ City ใหม่ นี้ และยกตัวแต่งรุ่นท๊อป RS ในแบบของ Civic มาทำตลาดด้วย
ด้าน Almera ใหม่ จะเน้นดีไซน์ตามแบบ Nissan Versa เน้นความเหลี่ยมสันมากขึ้น ดูรูปลักษณ์ทันสมัย ตามแบบฉบับรถ Global ยิ่งขึ้นด้วย
สำหรับภายในนั้น City ถือว่า ออกแบบให้ดูสวยงาม ดูดีทันสมัย และในรุ่นท๊อป RS ที่ให้โทนอารมณ์สปอร์ต
ภายในของ Almera ดูแล้วก็เน้นความกว้างขวางสะดวกสบาย แต่เรื่องการดีไซน์ ยังดูเรียบๆ ไปเสียหน่อย
แต่ออปชั่นภายในของรุ่นท๊อป ก็ดูใกล้เคียงกัน
City มี Paddle Shift กับ Cruise Control รวมถึง ที่ท้าวแขนตอนหลัง
ด้าน Almera ให้มาตรวัดแบบสี TFT
ด้านขุมพลังก็ตามที่บอกไปว่า เป็นการ downsized เครื่องให้เล็กลงเหลือ 1 ลิตร บล็อก 3 สูบ พ่วงเทอร์โบ แต่ พละกำลังนั้น ถือว่าไม่ธรรมดาเลย City กำลังสูงกว่าแบบเห็นได้ชัด ให้กำลังพอๆ กับรถ 1.5 ลิตร แรงบิดให้มาประมาณรถ 1.8 ลิตรเลย
ด้าน Almera ให้แรงม้า มาประมาณรถพิกัด 1.4 ลิตร ขณะที่แรงบิดพอๆกับรถ 1.6 ลิตร
ส่วนระบบความปลอดภัย Almera รุ่นท๊อปดูจะให้ของมาเยอะกว่าหน่อย อาทิ ระบบช่วยเบรก IEB, Blindspot และ ตรวจจับวัตถุเมื่อถอยหลัง
สำหรับราคานั้น 2020 City เริ่ม 5.795 แสน – 7.39 แสน
ด้าน 2020 Almera เริ่ม 4.99 – 6.39 แสน
ซึ่งจะเห็นได้ว่าในรุ่นท๊อปนั้น ต่างกันถึง 1 แสนบาท เลยทีเดียว
อาจเรียกได้ว่า ขุมพลัง Honda ดูกินขาด แต่ ออปชั่นก็ จะได้เปรียบเสียเปรียบกัน ในจุดที่ต่างกันไป ซึ่งใครสาวกค่ายไหน เลือกคันไหนบอกให้เรารับรู้กันได้เลยครับ
ขณะที่อีก 1 คู่ของ Mazda2 VS Mirage/Attrage นั้นเราอาจต้องขอนับเป็นการปรับโฉม Minorchanged กันทั้งคู่
โดยเฉพาะทางฝั่งของค่าย 3Diamond ที่จริงๆ น่าจะต้องบอกว่าเป็น All New แต่พอเปิดตัวจริงออกมา กลับ
ยกหน้าใหม่ ส่วนด้านท้าย ขอเรียกว่า Redesign เพียงเล็กน้อย
รวมถึงภายในห้องโดยสารก็ ปรับใหม่ ซึ่งดูไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ปรับเพิ่มออปชั่น
พวกชุดหน้าจอ เครื่องเสียง มาตรวัด เป็นต้น
ส่วนขุมพลัง ยังเป็นบล็อกเดิมไม่ผิดเพี้ยน
ออปชั่นความปลอดภัยก็ยังอาจจะดูน้อยกว่าคู่แข่งไปนิด
ส่วนค่าตัวปรับเพิ่มจากเดิม 7,000 – 10,000 บาท แล้วแต่ละรุ่นย่อย
อยู่ที่ 4.74 - 6.24 แสน
ด้าน 2020 Mazda2 ใหม่ ปรับ Minorchanged ก็ต้องถือว่าเป็นการปรับเสริมเพิ่มเติมออปชั่น
ภายนอก จะเห็นได้ว่าให้ไฟหน้าโปรเจคเตอร์มาแล้ว
ภายในห้องโดยสาร มีการปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียง (NVH)
ตัวเบาะ ปรับให้เน้น Ergonomic ยิ่งขึ้น
เพิ่มออปชั่น อำนวยความสะดวก อาทิ Paddle Shift, Cruise Control
ระบบความปลอดภัยก็ให้ GVC + เพิ่มมา และ i-ACTIVSENSE ใหม่
ส่วนเครื่องยนต์ ก็ยังคงเป็นบล็อกเดิม ทั้ง เบนซิน Skyactiv G และ ดีเซล Skyactiv D
2020 Mazda2 ใหม่ ราคา 5.46-7.99 แสน
ซึ่งทั้ง 4 แบรนด์ 5 โมเดลนี้ เป็นคุณล่ะจะเลือกคันไหน ดีครับ