[Spoil+Review] The Mandalorian Ep.4 >>ปีศาจสองขา

[ความเดิม] นักล่าเงินรางวัลนายหนึ่งซึ่งเป็นสมาชิกเผ่า 'แมนดาโลเรี่ยน' ที่มีวิถีปฏิบัติเฉพาะตัว และลือชื่อด้านความสามารถในการสู้รบ
รับงานจากนายจ้างลึกลับให้ไปพาเด็กชายอายุ 50 ที่มีพรสวรรค์ด้าน 'พลัง' จากดาวอาร์วาลา 7 มาส่ง
แต่เนื่องจากเขาเคยถูกเด็กช่วยชีวิตไว้ แถมท่าทางงานนี้จะมีแผนร้ายของซากทัพจักรวรรดิอยู่เบื้องหลัง
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจช่วยเหลือ จนโดนตั้งค่าหัวและต้องถูกนักล่าเงินรางวัลคนอื่นๆ รุมทึ้ง
ทว่าก็ยังหนีบเอาเจ้าหนูที่มีทั้งคนอยากได้ตัวแบบเป็นๆ , ชำแหละเอาบางอย่าง และสังหารทิ้ง ขึ้นยานอวกาศพาหนีสำเร็จ


[สปอยล์ตอน 4] ดาวซอร์แกน (Sorgan) นั้นประชากรเบาบางเมื่อเทียบกับขนาด, ไม่มีท่าจอดยานอวกาศ, ไร้โรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ 
แมนโดเลยเห็นว่าเหมาะจะเป็นจุดแวะพักเพื่อกบดานสัก 2-3 เดือน ด้วยหวังรอให้เรื่องเงียบลงสักหน่อย ค่อยเคลื่อนไหวต่อ

แมนดาโลเรี่ยน ที่มีเด็กน้อยคอยเดินตามต้อยๆ แวะเข้าโรงเตี๊ยมบนซอร์แกน และสังเกตเห็นผู้หญิงน่าสงสัย
แมนโดระแวงว่าหล่อนอาจต้องการค่าหัวเขาจึงสะกดรอยตาม ก่อนเป็นฝ่ายโดนดักเล่นงานเสียเอง
อย่างไรก็ตาม ผลการต่อสู้ออกมาเสมอ และทั้งสองเปลี่ยนใจหันมานั่งจับเข่าคุยกันแทน

คาร่า ดูน (Cara Dune) ชี้แจงว่าหล่อนเป็นทหารผ่านศึกที่เคยช่วยฝ่ายกบฏรบกับทัพจักรวรรดิ
หลังสงครามจบเธอหันไปทำอาชีพทหารรับจ้าง และมาที่ซอร์แกนเพื่อเกษียณก่อนกำหนด แต่ตอนแรกระแวงแมนโดเพราะปัจจุบันมีค่าหัวติดตัวอยู่

หลังจากนั้นแมนโดพบชาวประมง 2 คนเดินทางมาติดต่อจ้างงาน 
พวกเขาอยากให้ช่วยคุ้มกันหมู่บ้านจากพวกคราทัวเนี่ยน (Klatooinian) ที่บุกปล้นโจมตีประจำ
แมนโดยอมรับงานเพื่อแลกบริการด้านกินอยู่และที่พัก พร้อมกับชวนคาร่า ดูนมาด้วย

เจ้าหนูอายุ 50 เป็นที่ชื่นชอบของเหล่าเด็กๆ ในหมู่บ้าน และพระเอกก็อาศัยอยู่นานพอสมควรโดยไม่เคยถอดหน้ากากต่อหน้าผู้อื่น
แม่ม่ายลูกติดผู้มอบที่พักแก่เขาเห็นแล้วสงสัย พระเอกจึงอธิบายว่าเขาไม่ถอดหน้ากากให้คนอื่นเห็นนานหลายปีดักละ
เพราะมันเป็นธรรมเนียมของชาวแมนดาลอร์ ซึ่งรับเค้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าตั้งแต่ยังเด็ก หลังจากสูญเสียบิดามารดาเพราะเหตุร้ายบางอย่าง

คาร่ากับแมนโดสอดแนมศัตรูเพื่อคิดวิธีเตรียมตัวรับมือ และพบร่องรอยของ 'AT-ST' เครื่องจักรหุ้มเกราะขนาดใหญ่
ทำให้ต้องแจ้งกับคนในหมู่บ้านว่างานนี้ย้ายที่ทำกินเถอะ เพราะลำพังกำลังของพวกเขา 2 คน
ไม่มีปัญญาเอาชนะเจ้ายานสอดแนมสำหรับทุกภูมิประเทศ (All Terrain Scout Transport) บวกกับกองกำลังโจร
แต่เมื่อชาวบ้านยืนกราน ว่ายังไงพวกเขาก็มิอาจยอมย้ายถิ่นฐาน
แมนโดกับคาร่าเลยสั่งขุดหลุมกับดัก และเริ่มต้นการฝึกสอนให้ทุกคนรู้จักวิธีใช้อาวุธต่อสู้
เพื่อรับมือกลุ่มพลเดินเท้าของเหล่าโจร ตอนที่ทั้ง 2 ต้องง่วนอยู่กับการกำจัด AT-ST 

เมื่อคนทั้งหมดเตรียมตัวพร้อม, ทั้งสองคนก็บุกค่ายคราทัวเนี่ยนกลางดึก เพื่อล่อปีศาจสองขา (AT-ST) สู่หลุมพราง
ทว่าพลขับของเจ้าปีศาจกลับเว้นระยะ ให้เครื่องจักรยืนห่างจากแนวตั้งรับของหมู่บ้าน
และสาดยิงปืนเพื่อสนับสนุนการโจมตีภาคพื้นของเหล่าพวกพ้องแทน
คาร่าเลยต้องสู้แบบเสี่ยงๆ ดึงดูดความสนใจเจ้าศัตรูขนาดใหญ่ และเมื่อมันตกหลุมกับดัก, แมนโดก็มีโอกาสยัดลูกระเบิดใส่ทำลายมันลงจนได้

พอคาร่าทราบว่าหากคนนอกเห็นหน้าแมนดาโลเรี่ยนขนานแท้เมื่อใด ชาวแมนดาลอร์ผู้เปิดเผยใบหน้าจะมิอาจสวมใส่หน้ากากได้อีก
เธอเสนอให้พระเอกถอดหมวกแล้วลงหลักปักฐาน ใช้ชีวิตอยู่กับแม่ม่าย เลี้ยงเด็กบนดาวนี้ซะ
แต่พระเอกกลัวว่าข่าวของเหตุการณ์โค่นกลุ่มโจรติดอาวุธพร้อมมือบนดาวบ้านนอก จะดึงดูดความสนใจของผู้คนในอีกไม่นาน
งานนี้จึงขอแค่ฝากเจ้าตัวเล็กไว้ ให้เค้าได้ใช้ชีวิตสงบสุขที่หมู่บ้านต่อ และรีบออกเดินทางคนเดียวดีกว่า

ทว่าขณะแมนโดยังไม่ทันออกเดินทาง, เจ้าตัวเล็กก็เกือบโดนฆ่าตายคาหมู่บ้าน (แม้คาร่าช่วยทัน)
ฉะนั้นพระเอกกับเด็กน้อยผู้ใช้พลังได้ เลยต้องผจญภัยร่วมกันต่อ


[วิจารณ์] คาดว่าองค์ประกอบต่างๆ ในตอนนี้ คือการปูพื้นฐานสำหรับสิ่งที่จะใช้ในวันหน้าหลายอย่าง

อย่างแรกคือตัวละครคาร่า ดูน ซึ่งถึงจะแยกย้ายกันฉันท์มิตรในวันนี้  แต่คิดว่าเจอกันอีกแน่ และเป็นได้ทั้งมิตรหรือศัตรูภายหลัง
อย่างที่สองคือเคลียร์ให้ชัด ว่าการหิ้วเด็กไปผจญภัยด้วยกันโดยมีพระเอกคอยดูแล
อันตรายน้อยกว่าฝากเขาไว้ที่ไหนสักแห่ง และหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะไม่เป็นไร

อย่างที่สามคือ เฉลยวิถีปฏิบัติสุดเคร่งครัดเรื่องหน้ากากของแมนดาโลเรี่ยน 
เป็นการบอกว่าเมื่อไหร่ที่พระเอกเปิดเผยใบหน้าให้ผู้อื่นเห็น เมื่อนั้นคือตอนที่เขาไม่ใช่แมนดาโลเรี่ยนอีกต่อไป
อย่างที่สี่ คือหมู่บ้านชาวประมงบนดาวซอร์แกน  ซึ่งหากวันใดพระเอกสามารถเลือกจะใช้ชีวิตสงบสุขได้ขึ้นมา เขาอาจกลับมาถอดหมวกโชว์แถวหมู่บ้านนี้

คิดว่าน่าจะเป็นสูตรการนำเสนอของซีรีส์นี้เลย ที่ใน 1 ตอนจะใช้ช่วงครึ่งแรกปูทางเนื้อหา และช่วงหลังจัดฉากบู๊มาเสิร์ฟคนดู
ทำให้ขนาดตอนนี้ที่ดูแล้วไม่ได้เข้มข้น หรือผลักดันเรื่องราวไปข้างหน้ามากเท่า 3 ตอนแรก ก็ยังจัดว่าสนุกอยู่
เรียกว่าคงไม่ต้องกังวลละ ว่า 4 ตอนที่เหลือจะน่าเบื่อไหม

และอีกอย่างที่ต้องชื่นชม คือการนำเสนอความร้ายกาจของเจ้าปีศาจสองขาออกมา จนดูน่าเชื่อว่ากองทัพผลิตของแบบนี้แล้วคุ้มค่า
เพราะสมัยมันปรากฏตัวในหนังภาค Return of the Jedi  ดูไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่


[ปล.] ผู้กำกับตอนนี้คือ 'ไบรซ์ ดัลลัส ฮาวเวิร์ด' ที่เคยใส่รองเท้าส้นสูงวิ่งหนีไดโนเสาร์ทั้งวันมาแล้วใน Jurassic World 
และหลังจากผู้ดูแลซีรีส์อย่างจอน ฟาฟโร เขียนบทเองมา 4 ตอนรวด ตอนหน้าจะเป็นครั้งแรกที่ใช้บริการผู้เขียนบทคนอื่น (เดฟ ฟิโลนี่ ที่กำกับตอนแรก)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่