ไม่นานมานี้เรานั่งดูโทรทัศน์กับแม่ เป็นข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายของเด็กวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า การสนทนาประมาณว่า
แม่ : โรคซึมเศร้ามันเป็นยังไง
เรา : เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้เหมือนเบาหวาน ความดันเลยแม่ เพียงแค่เกิดกับจิตใจ
แม่ : เป็นบ้าน่ะหรือ
เรา : (เราสตั๊นกับสิ่งที่แม่พูดไปพักนึง)
เรา : ไม่ได้ป็นบ้า มันเกี่ยวกับสภาพจิตใจอ่ะแม่ รู้สึกเศร้า หม่นหมอง ท้อแท้ บางคนหัวเราะยิ้มๆแต่ใจเค้าอาจกำลังเจ็บปวด
แม่ : มันก็เหมือนคนเป็นบ้านี่แหละ ฆ่าตัวตายเรียกร้องความสนใจ
นั่นเป็นหนึ่งในบทสนทนาของเรากับแม่ ซึ่งหลังจากแม่พูดจบเราก็ขอตัวไปนอนก่อน ตัวเราเองก็เป็นโรคซึมเศร้าในระยะที่ 2 ซึ่งเราอดทนมาตั้งแต่ม.ต้นไม่เคยปรึกษาใคร รอจนอายุ 20 ปี เพื่อที่จะสามารถไปหาหมอได้โดยไม่มีผู้ปกครองได้ 5-6 ปีที่เราอดทนนั้นเราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อกันตัวเองออกจากสิ่งที่เรียกว่าบ้าน มันเป็นสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ ทั้งการสอบเรียนต่อในโรงเรียนประจำ พอเข้ามหา'ลัยก็เลือกที่ไกลๆบ้าน นานทีจะกลับไป ในทุกครั้งที่เรากลับบ้านเราตั้งใจว่าคงมีซักครั้งที่เราสามารถอธิบายโรคที่เราเป็นอยู่ให้แม่ได้รู้ แต่หลังจากที่เราได้ยินประโยคนั้นจากแม่ เรายิ่งรู้สึกแย่และไม่กล้าที่จะพูดออกไป กลับบ้านน้อยลง บางทีสามเดือนครั้ง โทรหาแม่น้อยลงด้วย เรากลัวว่าทุกอย่างจะแย่กว่าเดิม กลัวตัวเองทนไม่ได้ รู้สึกอยากไปไหนสักแห่ง ไปไหนสักที่ มันทรมารกับสิ่งที่เป็นอยู่ เราต่อสู้กับช่วงเวลากลางคืนแทบทุกวัน
ครั้งหนึ่งเคยมีบางเสียงกับแม่เรื่องเรียนต่อ แม่อยากให้เรียนครูหรืออะไรก็ได้ที่ได้เป็นข้าราชการ แต่เราไม่ชอบ ไม่ได้ดูถูกในอาชีพ เรามีความฝันของเรา พยายามอยู่นานกว่าจะอธิบายให้แม่เข้าใจได้ แม่ทุกวันนี้แม่ยังพูดเสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้
หลายครั้งที่คิดว่าอยากหายไป จะอยากตายก็ไม่เชิง เพียงแค่คิดว่าถ้าไม่มีเราอยู่ทุกอย่างอาจดีกว่านี้ ตอนที่กำลังดิ่งในห้วงของตัวเอง คำพูดมากมายที่ทั้งแม่และใครคนอื่นพูดมักจะถาโถมเข้ามาไม่หยุด บางครั้งก็ร้องไห้จนหลับไปก็มี
สิ่งที่เราพยายามในทุกๆวันคือการทำตัวให้ไม่ว่าง ตั้งใจเรียน ทำกิจกรรม เล่นกับเพื่อน อ่านหนังสือ อ่านนิยายบ้าง เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรในด้านลบ มองโลกในแง้ดีเสมอ ช่วยเหลือคนอื่นให้คำปรึกษา ลางที่มันอาจทำให้เราอาการดีขึ้นได้
การตั้งกระทู้นี้ไม่เชิงระบาย เราอยากได้แนวทาง แนวคิด ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และการคุยกับแม่หรือคนในครอบครัว ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ
ไม่กล้าบอกแม่ว่าตัวเองเป็นโรคซึมเศร้า ไม่อยากรู้สึกแย่กว่าเดิม
แม่ : โรคซึมเศร้ามันเป็นยังไง
เรา : เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้เหมือนเบาหวาน ความดันเลยแม่ เพียงแค่เกิดกับจิตใจ
แม่ : เป็นบ้าน่ะหรือ
เรา : (เราสตั๊นกับสิ่งที่แม่พูดไปพักนึง)
เรา : ไม่ได้ป็นบ้า มันเกี่ยวกับสภาพจิตใจอ่ะแม่ รู้สึกเศร้า หม่นหมอง ท้อแท้ บางคนหัวเราะยิ้มๆแต่ใจเค้าอาจกำลังเจ็บปวด
แม่ : มันก็เหมือนคนเป็นบ้านี่แหละ ฆ่าตัวตายเรียกร้องความสนใจ
นั่นเป็นหนึ่งในบทสนทนาของเรากับแม่ ซึ่งหลังจากแม่พูดจบเราก็ขอตัวไปนอนก่อน ตัวเราเองก็เป็นโรคซึมเศร้าในระยะที่ 2 ซึ่งเราอดทนมาตั้งแต่ม.ต้นไม่เคยปรึกษาใคร รอจนอายุ 20 ปี เพื่อที่จะสามารถไปหาหมอได้โดยไม่มีผู้ปกครองได้ 5-6 ปีที่เราอดทนนั้นเราก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อกันตัวเองออกจากสิ่งที่เรียกว่าบ้าน มันเป็นสถานที่ที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากๆ ทั้งการสอบเรียนต่อในโรงเรียนประจำ พอเข้ามหา'ลัยก็เลือกที่ไกลๆบ้าน นานทีจะกลับไป ในทุกครั้งที่เรากลับบ้านเราตั้งใจว่าคงมีซักครั้งที่เราสามารถอธิบายโรคที่เราเป็นอยู่ให้แม่ได้รู้ แต่หลังจากที่เราได้ยินประโยคนั้นจากแม่ เรายิ่งรู้สึกแย่และไม่กล้าที่จะพูดออกไป กลับบ้านน้อยลง บางทีสามเดือนครั้ง โทรหาแม่น้อยลงด้วย เรากลัวว่าทุกอย่างจะแย่กว่าเดิม กลัวตัวเองทนไม่ได้ รู้สึกอยากไปไหนสักแห่ง ไปไหนสักที่ มันทรมารกับสิ่งที่เป็นอยู่ เราต่อสู้กับช่วงเวลากลางคืนแทบทุกวัน
ครั้งหนึ่งเคยมีบางเสียงกับแม่เรื่องเรียนต่อ แม่อยากให้เรียนครูหรืออะไรก็ได้ที่ได้เป็นข้าราชการ แต่เราไม่ชอบ ไม่ได้ดูถูกในอาชีพ เรามีความฝันของเรา พยายามอยู่นานกว่าจะอธิบายให้แม่เข้าใจได้ แม่ทุกวันนี้แม่ยังพูดเสมอว่ามันเป็นไปไม่ได้
หลายครั้งที่คิดว่าอยากหายไป จะอยากตายก็ไม่เชิง เพียงแค่คิดว่าถ้าไม่มีเราอยู่ทุกอย่างอาจดีกว่านี้ ตอนที่กำลังดิ่งในห้วงของตัวเอง คำพูดมากมายที่ทั้งแม่และใครคนอื่นพูดมักจะถาโถมเข้ามาไม่หยุด บางครั้งก็ร้องไห้จนหลับไปก็มี
สิ่งที่เราพยายามในทุกๆวันคือการทำตัวให้ไม่ว่าง ตั้งใจเรียน ทำกิจกรรม เล่นกับเพื่อน อ่านหนังสือ อ่านนิยายบ้าง เพื่อไม่ให้ตัวเองคิดอะไรในด้านลบ มองโลกในแง้ดีเสมอ ช่วยเหลือคนอื่นให้คำปรึกษา ลางที่มันอาจทำให้เราอาการดีขึ้นได้
การตั้งกระทู้นี้ไม่เชิงระบาย เราอยากได้แนวทาง แนวคิด ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต และการคุยกับแม่หรือคนในครอบครัว ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำแนะนำนะคะ