เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา เราได้ลงวิ่งมาราธอนแรกในชีวิตที่โกเบมาราธอนค่ะ กระทู้ที่แล้วอันนี้ค่ะ
“โกเบมาราธอน” มาราธอนแรกในชีวิตกับ 42.195 กม.แห่งความสุขตลอด 5 ชั่วโมง ตลอด 2 เดือนกว่าๆที่เราศึกษาข้อมูลการวิ่งมาราธอน เตรียมอุปกรณ์ ซ้อมวิ่ง เราได้ลองผิดลองถูกมาหลายวิธี ครั้งนี้เลยมาขอแชร์ประสบการณ์ของเราผู้ที่ไม่เคยหลงใหลการวิ่งและไม่เคยลงวิ่งมาราธอนมาก่อน และสามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้ก่อนเวลา cut off และไม่บาดเจ็บระหว่างวิ่งค่ะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ
ผ่านมา 1 อาทิตย์แล้วกับการลงวิ่งโกเบมาราธอน มาราธอนแรกในชีวิตถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ชีวิตที่ดีที่สุดที่เต็มไปด้วยความทรงจําที่ดี การตัดสินใจลงวิ่งมาราธอนครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งความกล้าที่จะลองทําอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทํามาก่อนค่ะ และแน่นอนว่ามันจะสําเร็จไม่ได้ถ้าเราไม่มีความพยายามและความตั้งใจจริงที่จะทําให้สําเร็จค่ะ
พอรู้ว่าจะได้ลงวิ่งโกเบมาราธอน สิ่งแรกที่คิดคือ 42.195 กิโลเมตร ในเวลาจำกัด 7 ชั่วโมง เอาน่า .. “วิ่งไปเดินไป 7 ชั่วโมงน่าจะเข้าเส้นชัยได้สิ” ปีนขึ้นยอดฟูจิซังทั้งคืนยังทํามาแล้ว หาความน่าจะเป็นว่าวิ่งคราวนี้วิ่งได้อยู่แล้วมาคิดเข้าข้างตัวเอง....ใช่ค่ะ มันคือความคิดผิดๆของคนที่ไม่เคยลงวิ่งมาราธอนใดๆมาก่อนในชีวิต แต่ความคิดเหล่านั้นเราว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะคะ มันคืออีกหนึ่งพลังงานบวกที่เป็นกําลังใจให้กับตัวเองว่าเราทําได้แหละ
เราเริ่มหยิบรองเท้ากีฬาที่มีมาเริ่มซ้อมได้ไม่ถึงอาทิตย์เล็บของนิ้วกลางเท้าซ้ายชํ้าเลือด แต่ก็ทนวิ่งไปได้ไม่กี่วันเลยตัดสินใจหยุดวิ่งไปก่อน
ระหว่างหยุดวิ่งเราเริ่มเปิดดูข้อมูลในเน็ต ศึกษาจริงจัง มี Google YouTube Pantip เพจวิ่งต่างๆเป็นครูออนไลน์ ความรู้มีอยู่รอบตัวจริงๆค่ะถ้าเรานํามาใช้ให้เกิดประโยชน์
สิ่งแรกคือรองเท้า เราก็เริ่มดูละว่ารองเท้ายี่ห้อไหนจะดีต่อการวิ่ง แน่นอนว่า Asics มาเป็นอันดับหนึ่งในใจ 555 เห่อตามกระแสไปงั้นแหละจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องรองเท้าวิ่งเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราผู้ที่มีความงกในระดับที่ค่อนข้างสูง(มาก) กว่าจะซื้ออะไรได้แต่ละชิ้นคิดหนักไม่ตํ่ากว่า 2 อาทิตย์ เราตระเวนไปร้านอุปกรณ์การกีฬาหลายที่ ร้านแรกที่ไปเค้าไม่แนะนำAsics เลย พุ่งตรงไปที่Nike รุ่น ZoomX Vaporfly NEXT% (น่าจะกําลังออกใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจ จัดบูสไว้กลางโซนรองเท้าเลย ลุงคนขายที่ดูภายนอกรู้เลยว่านักวิ่งแน่นอน พยายามขายรองเท้ารุ่นนี้ให้ ขายเก่งจนเกือบเคลิ้ม 555 พอลองใส่ รองเท้าอะไรเนี๊ย โคตรนุ่ม โคตรเบา รองเท้าวิ่งดีๆมันยังงี้นี่เอง (ตอนลองใส่ลุงคนขายแนะนำให้ใส่ไซส์พอดีเท้า ปกติเราใส่ 24.5 ซม. ) แต่เนื่องจากรองเท้าแพงมากกกกก คนไม่เคยซื้อรองเท้าวิ่งมาก่อนอย่างเรา บอกตรงๆยังทําใจซื้อไม่ได้ค่ะ หลังจากนั้นก็ลองแวะไปชอปของมิซูโนะตรงอูเมดะ เป็นชอปเล็กๆแต่เป็นที่ที่ทําให้เรามีความรู้เรื่องรองเท้าวิ่งยิ่งขึ้น เดินเข้าไปพี่ชายคนขายเข้ามาถามไถ่ เราก็บอกไปว่าเราจะลงวิ่งมาราธอนแต่ไม่เคยวิ่งเลย พี่ชายจัดแจงเอารองเท้าสําหรับ beginer มาให้ลอง เราบอกไซส์ไป พอลองใส่ พี่คนขายมาจับเท้าให้เราลองเดิน เค้าบอกเท้าเราต้องใส่ไซส์ใหญ่ว่านี้ ให้มีช่องว่างนะหว่างเท้ากับหน้ารองเท้า และพี่ชายทักเราว่าเท้าซ้ายกับขวาไม่เท่ากันนะ ลองใส่ไซส์ที่รู้สึกว่าใส่สบายดู ลองไปหลายไซส์จนได้ที่เบอร์ 25.5 ซม. แต่เรายังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อว่าต้องใส่ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ เราใส่เดินแล้วมันเทอะทะอะ ประกอบกับสีที่อยากได้ที่ร้านหมด พี่คนขายเลยบอกว่าชอปใหญ่มีอีกที่ตรงใกล้ๆสถานีฮันคิวอูเมดะ ไปดูได้ครับ พี่คนขายคนนี้ให้ความรู้เรื่องรองเท้าเราเยอะมากแถมไม่กดดันให้ซื้อเลย เลยแอบปันใจให้ยี่ห้อ Mizuno มาบ้างละ 555
หลังจากนั้นเราก็ลองไปที่ชอปใหญ่ Asics ที่เกรนฟร้อนท์โอซากา ให้เค้าใช้เครื่องวัดเท้าให้ด้วยเลย เครื่องเจ๋งมากวัดละเอียดมาก และผลก็ออกมาว่าควรใส่เบอร์ 25.5 ซม. เห้ย พี่คนขายมิซูโนะ ขอบคุณที่เปิดโลกการซื้อรองเท้าวิ่งให้ ที่ชอปนี้เราหวังว่าจะได้รองเท้าดีๆจากที่นี่ไป แต่โชคร้ายของเรา น้องสาวคนขาย(น่าจะมือใหม่มากๆ) คือน้องเค้าเอารองเท้ามาให้เราลองเยอะมาก แต่ด้วยความที่เราก็อยากรู้รายละเอียด ความแตกต่างของแต่ละรุ่น นักวิ่งใหม่ควรใส่แบบไหนดี น้องตอบไม่ได้เลย น้องแค่บอกว่าแต่ละรุ่นดีหมดค่ะ แล้วแต่ชอบ แต่ที่เราใส่แล้วชอบแพงมากนะสิ แถมไม่ขายจุดเด่นของรุ่นนั้นมาให้เลย ฮือออ ลาก่อน.... และแน่นอนเราไปชอปใหญ่มิซูโนะค่ะ เรารู้ละว่ารุ่นไหนเหมาะกับ Beginer เราเล็งไว้แต่รอพี่สาวคนขายแนะนำก่อน ไปถึงก็บอกไปว่าไม่เคยวิ่งมาก่อน นั่นนี่...พี่สาวแนะนํารุ่นเดียวกับที่แรกที่ไป พร้อมอีก 2 รุ่นที่แพงกว่าเยอะมากแต่ก็มีจุดเด่นเยอะมาก ก่อนลองพี่สาวให้วัดเท้า ได้คําแนะนําที่ 25.5 ซม. เชื่อแล้ว งานนี้ได้รู้แจ้งเห็นจริงว่ารองเท้าวิ่งต้องใหญ่กว่าไซส์ปกติ เราเลือกรุ่น Wave Rider 22 รุ่นที่ลองที่ชอปเล็ก และราคาถูกกว่าอีก 2 รุ่น และมีโปรโมชั่นลด 20%ด้วย แต่ๆๆ เรายังลังเลอยู่ค่ะ พี่สาวคนขายเค้าคงเข้าใจหรือเปล่านะ เค้าบอกว่าที่ร้านมีระบบจองได้นะ ถ้าตัดสินใจได้ค่อยมาจ่ายตังรับของ ภายใน 2 อาทิตย์ ราคาก็ลด20%ให้ได้ด้วย ถ้าไม่เอาก็โทรมาแจ้งแค่นั้น โหยยย ณ จุดนี้ เรารักการขายของ Mizuno จริงๆ ระหว่างนั้นเราผู้ยังคงตัดใจกับความนุ่ม ความเบาของ Nike ไม่ได้ ความว้าวยังคงติดอยู่ในส่วนลึกในใจ 555 ไปค่ะไปชอปใหญ่ Nike ที่ชินไซบาชิกัน ไปถึงร้านคนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยุ่งจนต้องคอยจ้องหาพนักงานที่ว่างแล้ว รอพักใหญ่ๆก็ถึงคิวเรา เราขอลองไซส์ 24.5 และ 25.5 แต่คงเป็นเพราะบรรยากาศร้านที่ค่อนข้างวุ่นวายด้วย คนขายคือแค่เอารองเท้ามาให้ลองและรอจ่ายเงิน เราคาดหวังไปหน่อยที่จะได้รับข้อมูลดีๆจากคนขาย อยากรู้ความยอดเยี่ยมของรองเท้านี้จากคนขายโดยตรง และอาจจะพรหมลิขิตให้เรากลายเป็นสาวกของ Mizuno หรือเปล่านะ 555
เราตัดสินใจไปรับรองเท้าที่ชอป Mizuno ตอนต้นเดือนกันยายน และได้ฤกษ์บอกที่บ้านว่าเราจะลงวิ่งมาราธอน 42 กิโลนะ และตามคาดที่บ้านตกใจมากที่เราจะลงวิ่งมาราธอน ไม่มีใครบอกให้เรา สู้ๆตั้งใจซ้อมและวิ่งให้จบเลย บอกให้เดินเอางี้ บอกอย่าซ้อมหนัก เดี๋ยวร่างกายเสื่อม มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ 42 กิโลนะ...บลาๆ ตามตําราห่วงคนไกลบ้าน ส่วนยายเราเปรี้ยวสุด บอกว่า “วิ่งทําไม รอขึ้นบัสเลย“ 555 โอ้ย แต่ละคน เราต้องหากําลังใจและพลังบวกเอาเองแล้ว 555 ซ้อมเงียบๆไปละกันที่บ้านจะได้ไม่เป็นห่วงมาก
หลังจากที่ได้รองเท้าวิ่งนี้มา รู้สึกวิ่งแล้วสบายเท้าขึ้นมากกกกก ของดีแอบแพงหน่อยมันคุ้มจริงๆค่ะ แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปซะหมด พอวิ่งได้ 2-3 อาทิตย์ เท้าซ้ายนิ้วกลางเจ็บและเปลี่ยนสีเป็นสีม่วงอีกแล้ว กูเกิ้ลไปเจอคําแนะนําเรื่องการผูกรองเท้า รอช้าอะไรคะ ทําตามโลด ผูกให้แน่น วิ่งให้ถูกวิธี คลิปในยูทูป ดูเยอะมาก ดูวนไป เวลานั่งรถไฟไปทํางาน 30 นาที คือเวลาแห่งการดูคลิปวิ่งจริงๆค่ะ
แชร์ประสบการณ์ซ้อมวิ่ง 2 เดือนเพื่อมาราธอนแรกในชีวิตที่ Kobe Marathon 2019 ด้วยเวลา 4.49 ชั่วโมง
พอรู้ว่าจะได้ลงวิ่งโกเบมาราธอน สิ่งแรกที่คิดคือ 42.195 กิโลเมตร ในเวลาจำกัด 7 ชั่วโมง เอาน่า .. “วิ่งไปเดินไป 7 ชั่วโมงน่าจะเข้าเส้นชัยได้สิ” ปีนขึ้นยอดฟูจิซังทั้งคืนยังทํามาแล้ว หาความน่าจะเป็นว่าวิ่งคราวนี้วิ่งได้อยู่แล้วมาคิดเข้าข้างตัวเอง....ใช่ค่ะ มันคือความคิดผิดๆของคนที่ไม่เคยลงวิ่งมาราธอนใดๆมาก่อนในชีวิต แต่ความคิดเหล่านั้นเราว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะคะ มันคืออีกหนึ่งพลังงานบวกที่เป็นกําลังใจให้กับตัวเองว่าเราทําได้แหละ
เราเริ่มหยิบรองเท้ากีฬาที่มีมาเริ่มซ้อมได้ไม่ถึงอาทิตย์เล็บของนิ้วกลางเท้าซ้ายชํ้าเลือด แต่ก็ทนวิ่งไปได้ไม่กี่วันเลยตัดสินใจหยุดวิ่งไปก่อน
ระหว่างหยุดวิ่งเราเริ่มเปิดดูข้อมูลในเน็ต ศึกษาจริงจัง มี Google YouTube Pantip เพจวิ่งต่างๆเป็นครูออนไลน์ ความรู้มีอยู่รอบตัวจริงๆค่ะถ้าเรานํามาใช้ให้เกิดประโยชน์
สิ่งแรกคือรองเท้า เราก็เริ่มดูละว่ารองเท้ายี่ห้อไหนจะดีต่อการวิ่ง แน่นอนว่า Asics มาเป็นอันดับหนึ่งในใจ 555 เห่อตามกระแสไปงั้นแหละจริงๆแล้วก็ไม่ได้มีความรู้เรื่องรองเท้าวิ่งเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราผู้ที่มีความงกในระดับที่ค่อนข้างสูง(มาก) กว่าจะซื้ออะไรได้แต่ละชิ้นคิดหนักไม่ตํ่ากว่า 2 อาทิตย์ เราตระเวนไปร้านอุปกรณ์การกีฬาหลายที่ ร้านแรกที่ไปเค้าไม่แนะนำAsics เลย พุ่งตรงไปที่Nike รุ่น ZoomX Vaporfly NEXT% (น่าจะกําลังออกใหม่หรือเปล่าไม่แน่ใจ จัดบูสไว้กลางโซนรองเท้าเลย ลุงคนขายที่ดูภายนอกรู้เลยว่านักวิ่งแน่นอน พยายามขายรองเท้ารุ่นนี้ให้ ขายเก่งจนเกือบเคลิ้ม 555 พอลองใส่ รองเท้าอะไรเนี๊ย โคตรนุ่ม โคตรเบา รองเท้าวิ่งดีๆมันยังงี้นี่เอง (ตอนลองใส่ลุงคนขายแนะนำให้ใส่ไซส์พอดีเท้า ปกติเราใส่ 24.5 ซม. ) แต่เนื่องจากรองเท้าแพงมากกกกก คนไม่เคยซื้อรองเท้าวิ่งมาก่อนอย่างเรา บอกตรงๆยังทําใจซื้อไม่ได้ค่ะ หลังจากนั้นก็ลองแวะไปชอปของมิซูโนะตรงอูเมดะ เป็นชอปเล็กๆแต่เป็นที่ที่ทําให้เรามีความรู้เรื่องรองเท้าวิ่งยิ่งขึ้น เดินเข้าไปพี่ชายคนขายเข้ามาถามไถ่ เราก็บอกไปว่าเราจะลงวิ่งมาราธอนแต่ไม่เคยวิ่งเลย พี่ชายจัดแจงเอารองเท้าสําหรับ beginer มาให้ลอง เราบอกไซส์ไป พอลองใส่ พี่คนขายมาจับเท้าให้เราลองเดิน เค้าบอกเท้าเราต้องใส่ไซส์ใหญ่ว่านี้ ให้มีช่องว่างนะหว่างเท้ากับหน้ารองเท้า และพี่ชายทักเราว่าเท้าซ้ายกับขวาไม่เท่ากันนะ ลองใส่ไซส์ที่รู้สึกว่าใส่สบายดู ลองไปหลายไซส์จนได้ที่เบอร์ 25.5 ซม. แต่เรายังรู้สึกไม่ค่อยเชื่อว่าต้องใส่ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ เราใส่เดินแล้วมันเทอะทะอะ ประกอบกับสีที่อยากได้ที่ร้านหมด พี่คนขายเลยบอกว่าชอปใหญ่มีอีกที่ตรงใกล้ๆสถานีฮันคิวอูเมดะ ไปดูได้ครับ พี่คนขายคนนี้ให้ความรู้เรื่องรองเท้าเราเยอะมากแถมไม่กดดันให้ซื้อเลย เลยแอบปันใจให้ยี่ห้อ Mizuno มาบ้างละ 555
หลังจากนั้นเราก็ลองไปที่ชอปใหญ่ Asics ที่เกรนฟร้อนท์โอซากา ให้เค้าใช้เครื่องวัดเท้าให้ด้วยเลย เครื่องเจ๋งมากวัดละเอียดมาก และผลก็ออกมาว่าควรใส่เบอร์ 25.5 ซม. เห้ย พี่คนขายมิซูโนะ ขอบคุณที่เปิดโลกการซื้อรองเท้าวิ่งให้ ที่ชอปนี้เราหวังว่าจะได้รองเท้าดีๆจากที่นี่ไป แต่โชคร้ายของเรา น้องสาวคนขาย(น่าจะมือใหม่มากๆ) คือน้องเค้าเอารองเท้ามาให้เราลองเยอะมาก แต่ด้วยความที่เราก็อยากรู้รายละเอียด ความแตกต่างของแต่ละรุ่น นักวิ่งใหม่ควรใส่แบบไหนดี น้องตอบไม่ได้เลย น้องแค่บอกว่าแต่ละรุ่นดีหมดค่ะ แล้วแต่ชอบ แต่ที่เราใส่แล้วชอบแพงมากนะสิ แถมไม่ขายจุดเด่นของรุ่นนั้นมาให้เลย ฮือออ ลาก่อน.... และแน่นอนเราไปชอปใหญ่มิซูโนะค่ะ เรารู้ละว่ารุ่นไหนเหมาะกับ Beginer เราเล็งไว้แต่รอพี่สาวคนขายแนะนำก่อน ไปถึงก็บอกไปว่าไม่เคยวิ่งมาก่อน นั่นนี่...พี่สาวแนะนํารุ่นเดียวกับที่แรกที่ไป พร้อมอีก 2 รุ่นที่แพงกว่าเยอะมากแต่ก็มีจุดเด่นเยอะมาก ก่อนลองพี่สาวให้วัดเท้า ได้คําแนะนําที่ 25.5 ซม. เชื่อแล้ว งานนี้ได้รู้แจ้งเห็นจริงว่ารองเท้าวิ่งต้องใหญ่กว่าไซส์ปกติ เราเลือกรุ่น Wave Rider 22 รุ่นที่ลองที่ชอปเล็ก และราคาถูกกว่าอีก 2 รุ่น และมีโปรโมชั่นลด 20%ด้วย แต่ๆๆ เรายังลังเลอยู่ค่ะ พี่สาวคนขายเค้าคงเข้าใจหรือเปล่านะ เค้าบอกว่าที่ร้านมีระบบจองได้นะ ถ้าตัดสินใจได้ค่อยมาจ่ายตังรับของ ภายใน 2 อาทิตย์ ราคาก็ลด20%ให้ได้ด้วย ถ้าไม่เอาก็โทรมาแจ้งแค่นั้น โหยยย ณ จุดนี้ เรารักการขายของ Mizuno จริงๆ ระหว่างนั้นเราผู้ยังคงตัดใจกับความนุ่ม ความเบาของ Nike ไม่ได้ ความว้าวยังคงติดอยู่ในส่วนลึกในใจ 555 ไปค่ะไปชอปใหญ่ Nike ที่ชินไซบาชิกัน ไปถึงร้านคนเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยุ่งจนต้องคอยจ้องหาพนักงานที่ว่างแล้ว รอพักใหญ่ๆก็ถึงคิวเรา เราขอลองไซส์ 24.5 และ 25.5 แต่คงเป็นเพราะบรรยากาศร้านที่ค่อนข้างวุ่นวายด้วย คนขายคือแค่เอารองเท้ามาให้ลองและรอจ่ายเงิน เราคาดหวังไปหน่อยที่จะได้รับข้อมูลดีๆจากคนขาย อยากรู้ความยอดเยี่ยมของรองเท้านี้จากคนขายโดยตรง และอาจจะพรหมลิขิตให้เรากลายเป็นสาวกของ Mizuno หรือเปล่านะ 555