1)เริ่มมีการขาดความเชื่อมั่นใน ตัว นิชิโนะ เนื่องจากแฟนบอลมีหลายกลุ่มหลายประเภท เกิดการเปรียบเทียบ ว่า ทีโค้ชไทยยังเอาออก นิชิโนะ ก็ควรได้รับมาตรฐานเดียวกัน(โดยอาจจะมองต่างว่า ผลลัพธ์ระยะยาวในการลงทุนในความเสี่ยงกับ นิชิโนะ น่าจะแจกจ่างอย่างไรกับโค้ชไทย หลายๆคน)
2)มีปาหี่ซ้ำซ้อนเกิดขึ้น สมาคมแทนที่จะโทษตนเอง รับผิดชอบ และ หาทางลงทุน ขยับขยายเพิ่มไม่ว่าจะ เรื่อง ลีคเยาวชน,การส่งเสริมทีมงาน และ รากฐานที่ นิชิโนะ วางแผน(สิ่งเหล่านี้พิสูจน์แล้วยิ่งตอนนี้ ชัดเจนว่า ควรจะต้องทำไม่งั้น มันจะวนเวียนอยู่แบบนี้)
3)มีกำลังภายในซ่อนเร้นอยู่จริงๆ ในการผลักดัน เด็กบางคนบางชุด ให้ ผูกขาดสัปทานการติดทีมชาติ โดยท่านบางท่าน ที่เหมือนจะหมดอำนาจไปแล้ว
เอาแค่สามอย่างนี้ ถ้าสิ่งไหนเกิดขึ้นก่อน มันจะไม่รอดพ้นกงกรรม ที่เคยเป็นมา ...ว่า
เอ้า นิชิโนะ ก็ทำแย่หลายนัดแล้ว ถ้าปล่อยไปจนเละเหมือน ราเยวัช หรือ โค้ชไทย สมาคมรับผิดชอบโดยการช่วยไล่ออกหาใหม่ให้ ละก็เช่นเดิม จ้างเทพมาคนนึง แต่ทีมงานไม่เอามาช่วยเขา ไม่กล้าลงทุนจุดที่ควรลงทุน (ทรัพยากรบุคคล) ละมันก็วนลูบ เอาเข้าจริงๆ สัญญาเพิ่มสองปี ดีมากๆ แต่มันจะไม่มีประโยชน์ ถ้าสุดท้าย เอาความเสียงแตกของโซเชี่ยล ไปตัดสิน อนาคตชาติไทยทั้งหมด และ เมื่อนั้น ลูบเก่าก็จะกลับมา
เราก็จะบอกกันว่า ต้องกลับมาเริ่มใหม่ เพราะเรายังไม่ก้าวข้างซีเกมส์ ยอมรับความจริง แล้ว กลับมาเอาแชมป์ซีเกมส์ให้ได้
เอาเถอะครับ จะเอากี่เหรียญ กี่แชมป์ แต่ตราบใดที่ ลงทุนแบบแค่ผักชีโรย(คือ ผมมองว่าสมาคมทำเยอะแล้วนะ แต่ตอนนี้ มันบีบให้ต้องไปต่อแล้ว) ตัดต่อเปลี่ยนหัว ไม่ทุ่มทุนกับลีคเยาวชนที่มาตรฐาน
แล้ว ท่านๆทั้ง กกท กับ สมาคม หรือ คนไทย จะแปลกใจอะไรเล่าที่จะ ตกรอบ ไปๆมาๆ วนเวียน เพราะมันไม่ต่อเนื่องไง ถ้ายังอีหรอบนี้ อนาคตพวกตัวอาชีพ มันไม่ไหวหรอก ใจก็ไม่มาแล้ว เสื้อก็โบราณ พอกับแนวคิด
ท้ายสุดสุดท้าย คือ ต้องรอ คนแบบพ่อจุ้งตบเด็กแบบเจจนไปญี่ปุ่น แบบ สารัช แบบยัคโกลเด้นบอย หรือ เด็กที่ฝึกกับ Jmg หลุดมาให้ ทีมชาติมีอะไหล่
ผมว่าถ้าใจกล้านะ แล้วไม่แคร์หน้าตา เอาซีเกมส์ เป็นโอกาส ให้ เด็กโค้กคัพ หรือ บอลเจ็ดสีเจ็ดคน ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ
แบ่งให้ออกไปเลย อันไหน อาชีพ อันไหน สมัครเล่น กึ่งสมัครเล่น
ตกรอบแรกซีเกมส์ ยังไม่เจ็บปวดถ้าหากหลังจากซีเกมส์เกิดเหตุการณ์เหล่านี้
2)มีปาหี่ซ้ำซ้อนเกิดขึ้น สมาคมแทนที่จะโทษตนเอง รับผิดชอบ และ หาทางลงทุน ขยับขยายเพิ่มไม่ว่าจะ เรื่อง ลีคเยาวชน,การส่งเสริมทีมงาน และ รากฐานที่ นิชิโนะ วางแผน(สิ่งเหล่านี้พิสูจน์แล้วยิ่งตอนนี้ ชัดเจนว่า ควรจะต้องทำไม่งั้น มันจะวนเวียนอยู่แบบนี้)
3)มีกำลังภายในซ่อนเร้นอยู่จริงๆ ในการผลักดัน เด็กบางคนบางชุด ให้ ผูกขาดสัปทานการติดทีมชาติ โดยท่านบางท่าน ที่เหมือนจะหมดอำนาจไปแล้ว
เอาแค่สามอย่างนี้ ถ้าสิ่งไหนเกิดขึ้นก่อน มันจะไม่รอดพ้นกงกรรม ที่เคยเป็นมา ...ว่า
เอ้า นิชิโนะ ก็ทำแย่หลายนัดแล้ว ถ้าปล่อยไปจนเละเหมือน ราเยวัช หรือ โค้ชไทย สมาคมรับผิดชอบโดยการช่วยไล่ออกหาใหม่ให้ ละก็เช่นเดิม จ้างเทพมาคนนึง แต่ทีมงานไม่เอามาช่วยเขา ไม่กล้าลงทุนจุดที่ควรลงทุน (ทรัพยากรบุคคล) ละมันก็วนลูบ เอาเข้าจริงๆ สัญญาเพิ่มสองปี ดีมากๆ แต่มันจะไม่มีประโยชน์ ถ้าสุดท้าย เอาความเสียงแตกของโซเชี่ยล ไปตัดสิน อนาคตชาติไทยทั้งหมด และ เมื่อนั้น ลูบเก่าก็จะกลับมา
เราก็จะบอกกันว่า ต้องกลับมาเริ่มใหม่ เพราะเรายังไม่ก้าวข้างซีเกมส์ ยอมรับความจริง แล้ว กลับมาเอาแชมป์ซีเกมส์ให้ได้
เอาเถอะครับ จะเอากี่เหรียญ กี่แชมป์ แต่ตราบใดที่ ลงทุนแบบแค่ผักชีโรย(คือ ผมมองว่าสมาคมทำเยอะแล้วนะ แต่ตอนนี้ มันบีบให้ต้องไปต่อแล้ว) ตัดต่อเปลี่ยนหัว ไม่ทุ่มทุนกับลีคเยาวชนที่มาตรฐาน
แล้ว ท่านๆทั้ง กกท กับ สมาคม หรือ คนไทย จะแปลกใจอะไรเล่าที่จะ ตกรอบ ไปๆมาๆ วนเวียน เพราะมันไม่ต่อเนื่องไง ถ้ายังอีหรอบนี้ อนาคตพวกตัวอาชีพ มันไม่ไหวหรอก ใจก็ไม่มาแล้ว เสื้อก็โบราณ พอกับแนวคิด
ท้ายสุดสุดท้าย คือ ต้องรอ คนแบบพ่อจุ้งตบเด็กแบบเจจนไปญี่ปุ่น แบบ สารัช แบบยัคโกลเด้นบอย หรือ เด็กที่ฝึกกับ Jmg หลุดมาให้ ทีมชาติมีอะไหล่
ผมว่าถ้าใจกล้านะ แล้วไม่แคร์หน้าตา เอาซีเกมส์ เป็นโอกาส ให้ เด็กโค้กคัพ หรือ บอลเจ็ดสีเจ็ดคน ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ
แบ่งให้ออกไปเลย อันไหน อาชีพ อันไหน สมัครเล่น กึ่งสมัครเล่น