จะเริ่มชีวิตใหม่ ในวัย 45

สามีมีชู้ เข้าปีที่ 5  
ที่ผ่านมา  อดทด  ปรัปรุงตัว ปิดหู ปิดตา ทำทุกอย่างที่คิดว่า ต้องอยู่ในจุดนี้ให้ได้
เพื่อลูกๆจะได้ไม่ลำบาก จะได้มีคนหาเลี้ยง  รายได้เรา  เลี้ยงตัวเองได้ ไม่มีหนี้ และไม่มีสมบัติ
แต่งงานมา  จะ 20 ปี  ลูก  3  คน  ลูกๆยังอยู่ในวัยเรียนทุกคน  บ้าน  รถ  ทุกอย่างผ่อนเป็นชื่อสามี
ณ.วันนี้ อยากก้าวออกมาจากครอบครัว ที่มีหัวหน้าครอบครัวที่เต็มไปด้วยความไม่ซื่อสัตย์  ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ   
ไม่วางแผนอนาคต  ไม่มีเงินเก็บ  ไม่มีความมั่นคงใดๆ  ใช้ชีวิตแบบประมาท  คิดว่าเดี๋ยวก็ต้องหาเงินได้อีก (เป็นเซลส์)
ความเสียใจ มันมี แต่มันไม่รู้สึกฟูมฟาย ไม่รู้สึกอยากเป็นครอบครัว ไม่เคยรู้สึกถึงการได้รับเกียรติของความเป็นภรรยา 
คุยกับลูกคนโต อายุ 15 ปี กำลังวัยรุ่น  และรับรู้ทุกปัญหามาตลอด 4-5 ปี ตอนแรกเค้ายังเด็ก  แต่ตอนนี้เค้าพูดว่าเค้าโตมาพร้อมกับปัญหา
และอยากให้จบปัญหานี้ซักที  เค้าถึงกับพูดว่าพ่อเค้าเป็นฝ่ายไม่ยอมหยุด  ปัญหาทุกอย่างมันจึงยังคงอยู่
คนเป็นแม่ฟังแล้วรู้สึกสะเทือนใจ ว่าจัดการอะไรไม่ได้เลย ได้แต่อดทน แต่ไม่แก้ปัญหา
คนเราหมดรักกันได้ ด้วยหลายๆสาเหตุ เป็นธรรมดาของโลก
แต่การจะแยกย้ายต่างคนต่างอยู่  กับคนที่อยู่ร่วมกันมาจะ 20 ปี  จะว่ายากมันก็ยากจริงๆ 
ตอนรักกัน  คิดร่วมกัน  ตอนเลิกกัน  ควรคิดร่วมกันบ้าง  เพื่อเป็นประโยชน์สูงสุดกับลูกที่ต้องได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ
#เราเป็นมนุษย์เงินเดือน
#อยากมีรายได้เสริม
#อยากพ้นสภาพ 3 , 4 คน ผัวเมีย  (ฝ่ายโน้นเค้ามีสามีเป็นนายดาบที่ชายแดนใต้  ลูก  1  คน) 
#เริ่มต้นด้วยการออกไปเช่าห้องพัก จะเป็นยังไง
#เราตัวคนเดียว  ไม่มีญาติที่พอจะช่วยเหลืออะไร เพราะทุกคนก็ต่างดิ้นรน
#อยากเริ่มต้นใหม่ เรื่องเก่าๆปลงได้มากแล้ว  อยากไปจากจุดที่เราไม่มีความสุข ในวัยที่ใกล้หมดแรง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
ขอแสดงความเห็นนะครับ  ผมคิดแบบนี้นะ

1. ไม่ต้องออกจากบ้าน ก็อยู่บ้านนั่นแหล่ะ ไม่ต้องไปเสียค่าเช่า คุณก็ออกไปทำงาน เก็บเงินให้ได้มากที่สุด คุณไม่ได้ทำผิดทำไมต้องออกจากบ้านไปลำบากด้วย

2. ทำหน้าที่แม่ให้ดี ใส่ใจลูกมากๆ กับสามีก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องสนใจกัน ไม่ต้องชวนทะเลาะ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง

3.พยายามอย่าทะเลาะกับสามี อย่าให้ลูกเห็นความรุนแรงในครอบครัว  เขาจะออกไปไหน ทำอะไรก็ปล่อยเขาไป จะไปอยู่กับเมียน้อยก็ไป อย่าไปห้าม ตามหึงตามหวง คุณอยู่เฉยๆ อยู่บ้านทำหน้าที่แม่ที่ดีไป

4.คุยกันตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายกับสามีให้ดี พูดคุยกันดีๆ ใครรับผิดชอบอะไรตรงไหน อย่าแบกรับภาระคนเดียว

5.อย่านอนกับสามี ถ้าจะนอนต้องป้องกันดีๆ ระวังโรคติดต่อ ระวังอย่าให้ท้อง

6.อดทนให้ลูกเรียนจบมหาลัย มีงานมั่นคงทำ ถ้าอยากย้ายออกค่อยออก ถึงตอนนั้นคุณจะไม่ลำบากมาก

7. พยายามศึกษาธรรมะ การปล่อยวาง อย่าให้ใจตัวเองเป็นทุกข์ ฝึกมีเมตตา ฝึกให้อภัย แล้วจิตจะสงบ

เป็นกำลังใจให้ครับ
ความคิดเห็นที่ 9
สามีไม่ได้แย่ทุกเรื่องนะครับ.  มีแย่เรื่องผู้หญิงและเงินเก็บไม่มี.   แต่ยังดูแลมีบ้านมีรถให้ครอบครัว.   ปัญหาตอนนี้ไม่ใช่ความสัมพันธ์ของสามีภรรยา.   แต่คือการ1.  อธิบายให้ลูกสาวเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพ่อแม่และหญิงอื่น.     การไม่ให้เกียรติของสามีถ้าไม่ได้มากขนาดพาหญิงอื่นเข้าบ้าน.   ด่าทอภรรยาด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าบุคคลที่สาม.   ถือว่ายังพอใช้ได้.  ครับ.  2. มีลูกอีกสองคนที่ยังเล็ก.  ถือว่ายังต้องให้เด็กเด็กเข้าใจด้วยครับ.   3.  อย่าคิดว่าสามีเป็นสามีแต่คิดว่าเป็นพ่อของลูก.   และเป็นเพื่อน.   นะครับ.   4.  อยู่ข้างนอกเช่าห้องไม่สบายเหมือนบ้าน.  และมีค่าใช้จ่าย.   ครับ.   5. เก็บเงินให้มากมาก.  เพื่ออนาคตของตัวเองและลูก.    6. .   ให้คำสอนขององค์พระศาสดาเป็นที่พึ่ง.   ทำหน้าที่ของแม่และภรรยาในทะเบียนสมรสและเพื่อนของสามีต่อไปครับ.
ความคิดเห็นที่ 3
ปรึกษาลูก 15ปีที่อยู่กับปัญหา อย่าไปคิดว่าเค้าเด็ก ช่วยอะไรไม่ได้  ถามเลยว่า ถ้าเราจะออกไปอยู่ข้างนอกกันเอง ลูกคิดว่ายังไง รายได้แม่เท่านี้ ค่าเช่าห้องเท่านี้ ค่ากินแต่ละวันของเราทุกคนจะเท่านี้   จริงๆถ้าคุณตัดใจได้ ถ้ากลัวลูกลำบากจริง ต่างคนต่างอยู่ อย่าให้หนี้สินมาพัวพันกัน ลูกและคุณก็ยังมีบ้าน แต่ถ้าคุณตัดไม่ได้ นั่งน้ำตาเป็นเผาเต่า สุขภาพจิตเสียทุกคน  อีกอย่าง คุณน่ะ คาดหวัง  มันมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าเค้าจะปรับปรุงตัวเป็นพ่อที่ดี คิดถึงผลประโยชน์ลูก เค้าก็ทำไปนานแล้วล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่