ข่วงนี้มีบัตรแลกเงินออกมาเอาใจสายเที่ยวหลายบัตรค่ะ วันนี้เลยจะมารีวิวประสบการณ์การใช้งานบัตร YouTrip x Kbank พร้อมทั้งแจ้งปัญหาการใช้งานดังนี้ค่ะ
จขกท. ขอรับบัตร YouTrip ผ่านแอพ YouTrip เพื่อนำมาใช้งานในการแลกเงินตราต่างประเทศ โดยมีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับบัตร SCB Planet แต่อันนี้เป็นของ Mastercard โดยการศึกษามา ทราบว่าบัตรนี้เป็นของ YouTrip ซึ่งเป็น StartUp ของสิงคโปร์ เข้ามาร่วมกับ KBank โดยการให้ KBank เป็นสื่อกลางการเติมเงินเข้าบัตร
บัตรนี้มาในรูปแบบของบัตรเติมเงิน และสามารถใช้จ่ายทั้ง online และใช้จ่ายในต่างประเทศได้หลายสกุลเงิน โดยเราจะต้องเติมเงินในบัตรก่อน และแลกเงินไปยังสกุลต่างๆ ที่เราต้องการ เพื่อนำไปใช้งานได้
เนื่องจากวัตถุประสงค์ของบัตร เป็นบัตรเติมเงิน เพื่อใช้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ในบัตรของจขกท. มีการแลกเงินยูโร และฮ่องกงดอลลาร์ เข้ามาไว้ในบัตรเพื่อรอใช้งาน แต่มีการเติมเงินและแลกเงินไม่มากนัก เอาไว้แค่พอใช้ในแต่ละรายการ และยังอยู่ในช่วงทดลองใช้บัตร
Currency: EUR, HKD ไม่มีเงินไทย
17/11/19 ลองใช้ online ซื้อตั๋วรถไฟยุโรปได้ ไม่มีปัญหา เรทค่อนข้างดี แลก EUR และตัด EUR ปกติ (เรทดีกว่า SCB Planet ณ เวลาเดียวกัน)
18/11/19 ใช้ที่สนามบิน Hong Kong ซื้อกาแฟ $45 โดยตั้งใจให้หักจาก HKD ที่มีในบัตร แต่ รายการที่แสดงใน app กลับเป็นการ convert EUR-THB โดยไม่ตัดเงิน HKD ที่มีรอในบัตรพร้อมตัดอยู่แล้ว
จขกท. เลยโทรเข้า Call Center ของ YouTrip ประเทศไทย เพื่อแจ้งปัญหาการใช้งาน และขอให้ตรวจสอบ โดยได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า
1) ร้านค้าใช้รูปแบบ Smart Exchange (ไม่แน่ใจว่าเป็นระบบของ Mastercard หรือเปล่า) โดยระบุว่ามีการชาร์ทเป็นเงินไทย ระบบเลยพยายามหาเงินไทยในบัตร เพื่อจะตัดเงิน (ด้วย Conversion rate 4.136910 หรือ 186.16 บาท ตามสลิปที่รูด) ในกรณีนี้ร้านค้าไม่ได้ถามเราค่ะว่าจะตัดเป็นเงินอะไร เพราะปกติเราจะตัดเป็น local currency อยู่แล้ว เรท ณ เราแลกเข้าบัตร 3.89 บาท ทำให้เราขาดทุน 11.11 บาท
2) เมื่อระบบหาเงินไทยไม่เจอ เพราะเราไม่มีเงินไทยในบัตร ระบบจึงพยายาม convert เงิน EUR ที่มีในบัตร เป็นเงินไทย ให้เท่ากับจำนวนเงิน 186.16 บาทแทน (ระบบจะมีการเรียงลำดับสกุลเงิน THB USD EUR JPY GBP HKD SGD AUD CKF CAD) ระบบจึงล้วงเอาจากกระเป๋าเงินยูโรของเรามา EUR5.58 หรือ 33.39 บาทต่อยูโร--> เรทวันนี้สูงกว่าตอนเราแลก เราได้กำไรจากตรงนี้ 1.18 บาท แต่เราเสียโอกาสจากเรทเมื่อวานที่เราแลกไว้ เพื่อจะนำยูโรไปใช้ เพราะเราจะซื้อยูโรในเรทที่เราซื้อเมื่อวานไม่ได้ ณ วันนี้
หรือถ้าระบบเลือกจะ convert HKD ที่เรามีอยู่แล้ว จะใช้เรท 3.79 บาทต่อ HKD ทำให้เราต้องขาย HKD จำนวน HKD49.12 แทนที่จะเสียแค่ HKD45
3) เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ระบบ smart exchange ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ ให้สามารถชำระเงินได้ แม้ว่าจะไม่มีเงินสกุลที่ต้องการอยู่ในกระเป๋า โดยการ convert เงินสกุลอื่นที่มีอยู่ (เอาดื้อๆ) เพื่อให้การใช้จ่ายผ่านการอนุมัติ โดยในกรณีนี้ สิ่งที่เราทำได้อย่างเดียว คือการเข้าไปที่ร้าน และขอให้ร้านยกเลิกรายการ เพื่อที่จะขอจ่ายเป็น local currency แทน ซึ่งเราไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเราออกร้านมาแล้ว และไม่แน่ใจว่าถ้าหากยกเลิกรายการ จะมีปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอีกหรือเปล่า
ผลของการใช้ smart exchange: ถ้าร้านกดชาร์ทเราเป็นเงินบาท แม้ว่าเราจะมี local currency อยู่ในกระเป๋าเพียงแค่สกุลเดียว แต่บัตรจะบังคับแลกเงิน local currency นั้นกลับมาเป็นเงินบาทอีกที ดังนั้นเราจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนไปโดยปริยาย
แนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งาน ขอให้ย้ำร้านค้าทุกครั้งเวลารูดจ่าย ว่าขอจ่ายเป็น local currency เพราะไม่ว่าคุณจะเติมแค่เงินบาท เพื่อให้ระบบของ visa/ mastercard ชาร์จเป็นเงินบาทเข้ามาเอง แต่ถ้าร้านกดชาร์จเงินบาท เรทที่คิดจะเป็นเรท conversion ของเครื่องรูดเงิน ไม่ใช่ conversion rate ปกติของ visa/master card ซึ่งตามปกติจะแพงกว่าเรทที่เราเลือก local currency ค่ะ
ข้อเสนอแนะต่อ YouTrip หรือ Mastercard user ผู้ใช้งานควรเลือกได้ว่าถ้าสกุลเงินที่ชาร์ทมา ไม่มีในบัตร จะอนุญาตให้ convert เงินในสกุลอื่นมาได้หรือไม่ เพราะเป็นนัยสำคัญในด้านอัตราแลกเปลี่ยน อันนี้เหมือนมาล้วงเงินเราออกไปโดยที่ทำให้เราเสียเงินมากกว่าปกติ แม้จะอ้างว่าให้สามารถทำรายการได้ เราว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่ จริงๆ ถ้าไม่มีเงินสกุลนั้นให้ตัด ก็ฟ้องออกมาเลยว่า เงินไม่พอ จะได้ตรวจสอบรายการได้
ประสบการณ์การใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับบัตร KT Travel Card หรือ SCB Planet
SCB Planet: ใช้ระบบเติมเงินเหมือนกัน ที่ผ่านมาเคยมีผู้พบปัญหาการ convert เงินข้ามสกุลในสนามบินเกาหลี จะมีความแตกต่างจากอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีที่ไม่ได้แลกเงินไว้ในบัตรก่อน (ถ้าแลกไว้ก่อน จะเป็นเรทของบัตร แต่ถ้าไม่ได้แลกไว้ จะใช้เรทของ visa โดยไม่มีค่าความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน)
KT Travel Card: ระบบจะตัดเงินเฉพาะ local currency เท่านั้น ถ้าไม่มีเงินสกุลนั้นเพียงพอ จะไม่สามารถทำรายการได้ โดย KT Travel Card ไม่มีสกุลเงินบาทในบัตร ผู้ใช้งานจึงต้องแลกเงินเข้าบัตรไว้ก่อนเสมอ โดยสามารถแลกได้จากบัญชีกรุงไทยที่ผูกกับบัตร
เนื่องจากในปัจจุบัน การใช้บัตรแลกเงินแพร่หลายมากขึ้น จึงหวังว่าผู้พัฒนาระบบ จะสามารถปิดช่องของความผิดพลาด หรือโอกาสที่จะเกิดในการบริหารจัดการสกุลเงินหลายสกุลได้มากขึ้น เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของบัตร และผู้ใช้งานค่ะ
[CR] รีวิวและแจ้งปัญหาการใช้งานบัตร YouTrip x Kbank
จขกท. ขอรับบัตร YouTrip ผ่านแอพ YouTrip เพื่อนำมาใช้งานในการแลกเงินตราต่างประเทศ โดยมีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับบัตร SCB Planet แต่อันนี้เป็นของ Mastercard โดยการศึกษามา ทราบว่าบัตรนี้เป็นของ YouTrip ซึ่งเป็น StartUp ของสิงคโปร์ เข้ามาร่วมกับ KBank โดยการให้ KBank เป็นสื่อกลางการเติมเงินเข้าบัตร
บัตรนี้มาในรูปแบบของบัตรเติมเงิน และสามารถใช้จ่ายทั้ง online และใช้จ่ายในต่างประเทศได้หลายสกุลเงิน โดยเราจะต้องเติมเงินในบัตรก่อน และแลกเงินไปยังสกุลต่างๆ ที่เราต้องการ เพื่อนำไปใช้งานได้
เนื่องจากวัตถุประสงค์ของบัตร เป็นบัตรเติมเงิน เพื่อใช้เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ในบัตรของจขกท. มีการแลกเงินยูโร และฮ่องกงดอลลาร์ เข้ามาไว้ในบัตรเพื่อรอใช้งาน แต่มีการเติมเงินและแลกเงินไม่มากนัก เอาไว้แค่พอใช้ในแต่ละรายการ และยังอยู่ในช่วงทดลองใช้บัตร
Currency: EUR, HKD ไม่มีเงินไทย
17/11/19 ลองใช้ online ซื้อตั๋วรถไฟยุโรปได้ ไม่มีปัญหา เรทค่อนข้างดี แลก EUR และตัด EUR ปกติ (เรทดีกว่า SCB Planet ณ เวลาเดียวกัน)
18/11/19 ใช้ที่สนามบิน Hong Kong ซื้อกาแฟ $45 โดยตั้งใจให้หักจาก HKD ที่มีในบัตร แต่ รายการที่แสดงใน app กลับเป็นการ convert EUR-THB โดยไม่ตัดเงิน HKD ที่มีรอในบัตรพร้อมตัดอยู่แล้ว
จขกท. เลยโทรเข้า Call Center ของ YouTrip ประเทศไทย เพื่อแจ้งปัญหาการใช้งาน และขอให้ตรวจสอบ โดยได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่า
1) ร้านค้าใช้รูปแบบ Smart Exchange (ไม่แน่ใจว่าเป็นระบบของ Mastercard หรือเปล่า) โดยระบุว่ามีการชาร์ทเป็นเงินไทย ระบบเลยพยายามหาเงินไทยในบัตร เพื่อจะตัดเงิน (ด้วย Conversion rate 4.136910 หรือ 186.16 บาท ตามสลิปที่รูด) ในกรณีนี้ร้านค้าไม่ได้ถามเราค่ะว่าจะตัดเป็นเงินอะไร เพราะปกติเราจะตัดเป็น local currency อยู่แล้ว เรท ณ เราแลกเข้าบัตร 3.89 บาท ทำให้เราขาดทุน 11.11 บาท
2) เมื่อระบบหาเงินไทยไม่เจอ เพราะเราไม่มีเงินไทยในบัตร ระบบจึงพยายาม convert เงิน EUR ที่มีในบัตร เป็นเงินไทย ให้เท่ากับจำนวนเงิน 186.16 บาทแทน (ระบบจะมีการเรียงลำดับสกุลเงิน THB USD EUR JPY GBP HKD SGD AUD CKF CAD) ระบบจึงล้วงเอาจากกระเป๋าเงินยูโรของเรามา EUR5.58 หรือ 33.39 บาทต่อยูโร--> เรทวันนี้สูงกว่าตอนเราแลก เราได้กำไรจากตรงนี้ 1.18 บาท แต่เราเสียโอกาสจากเรทเมื่อวานที่เราแลกไว้ เพื่อจะนำยูโรไปใช้ เพราะเราจะซื้อยูโรในเรทที่เราซื้อเมื่อวานไม่ได้ ณ วันนี้
หรือถ้าระบบเลือกจะ convert HKD ที่เรามีอยู่แล้ว จะใช้เรท 3.79 บาทต่อ HKD ทำให้เราต้องขาย HKD จำนวน HKD49.12 แทนที่จะเสียแค่ HKD45
3) เจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่า ระบบ smart exchange ต้องการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ ให้สามารถชำระเงินได้ แม้ว่าจะไม่มีเงินสกุลที่ต้องการอยู่ในกระเป๋า โดยการ convert เงินสกุลอื่นที่มีอยู่ (เอาดื้อๆ) เพื่อให้การใช้จ่ายผ่านการอนุมัติ โดยในกรณีนี้ สิ่งที่เราทำได้อย่างเดียว คือการเข้าไปที่ร้าน และขอให้ร้านยกเลิกรายการ เพื่อที่จะขอจ่ายเป็น local currency แทน ซึ่งเราไม่ได้ทำแบบนั้น เพราะเราออกร้านมาแล้ว และไม่แน่ใจว่าถ้าหากยกเลิกรายการ จะมีปัญหาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอีกหรือเปล่า
ผลของการใช้ smart exchange: ถ้าร้านกดชาร์ทเราเป็นเงินบาท แม้ว่าเราจะมี local currency อยู่ในกระเป๋าเพียงแค่สกุลเดียว แต่บัตรจะบังคับแลกเงิน local currency นั้นกลับมาเป็นเงินบาทอีกที ดังนั้นเราจะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนไปโดยปริยาย
แนวทางการแก้ไขปัญหาของผู้ใช้งาน ขอให้ย้ำร้านค้าทุกครั้งเวลารูดจ่าย ว่าขอจ่ายเป็น local currency เพราะไม่ว่าคุณจะเติมแค่เงินบาท เพื่อให้ระบบของ visa/ mastercard ชาร์จเป็นเงินบาทเข้ามาเอง แต่ถ้าร้านกดชาร์จเงินบาท เรทที่คิดจะเป็นเรท conversion ของเครื่องรูดเงิน ไม่ใช่ conversion rate ปกติของ visa/master card ซึ่งตามปกติจะแพงกว่าเรทที่เราเลือก local currency ค่ะ
ข้อเสนอแนะต่อ YouTrip หรือ Mastercard user ผู้ใช้งานควรเลือกได้ว่าถ้าสกุลเงินที่ชาร์ทมา ไม่มีในบัตร จะอนุญาตให้ convert เงินในสกุลอื่นมาได้หรือไม่ เพราะเป็นนัยสำคัญในด้านอัตราแลกเปลี่ยน อันนี้เหมือนมาล้วงเงินเราออกไปโดยที่ทำให้เราเสียเงินมากกว่าปกติ แม้จะอ้างว่าให้สามารถทำรายการได้ เราว่ามันไม่แฟร์เท่าไหร่ จริงๆ ถ้าไม่มีเงินสกุลนั้นให้ตัด ก็ฟ้องออกมาเลยว่า เงินไม่พอ จะได้ตรวจสอบรายการได้
ประสบการณ์การใช้งาน เมื่อเปรียบเทียบกับบัตร KT Travel Card หรือ SCB Planet
SCB Planet: ใช้ระบบเติมเงินเหมือนกัน ที่ผ่านมาเคยมีผู้พบปัญหาการ convert เงินข้ามสกุลในสนามบินเกาหลี จะมีความแตกต่างจากอัตราแลกเปลี่ยน ในกรณีที่ไม่ได้แลกเงินไว้ในบัตรก่อน (ถ้าแลกไว้ก่อน จะเป็นเรทของบัตร แต่ถ้าไม่ได้แลกไว้ จะใช้เรทของ visa โดยไม่มีค่าความเสี่ยงในการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน)
KT Travel Card: ระบบจะตัดเงินเฉพาะ local currency เท่านั้น ถ้าไม่มีเงินสกุลนั้นเพียงพอ จะไม่สามารถทำรายการได้ โดย KT Travel Card ไม่มีสกุลเงินบาทในบัตร ผู้ใช้งานจึงต้องแลกเงินเข้าบัตรไว้ก่อนเสมอ โดยสามารถแลกได้จากบัญชีกรุงไทยที่ผูกกับบัตร
เนื่องจากในปัจจุบัน การใช้บัตรแลกเงินแพร่หลายมากขึ้น จึงหวังว่าผู้พัฒนาระบบ จะสามารถปิดช่องของความผิดพลาด หรือโอกาสที่จะเกิดในการบริหารจัดการสกุลเงินหลายสกุลได้มากขึ้น เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ของบัตร และผู้ใช้งานค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้