[SR] และแล้วก็เหลือเรากับ(ขุน)เขาเท่านั้น กับทริปปั่นจักรยานทัวร์ริ่งเส้นทางในป่าสน เชียงใหม่-สะเมิง-วัดจันทร์-ปาย (ตอนที่ 2)

กระทู้รีวิว
ตอนที่ 1 https://pantip.com/topic/39417314  ความเดิมจากตอนที่แล้ว
***** เป้าหมายวันที่สอง อช.ขุนขาน – ออป.วัดจันทร์ อ.กัลยาณิวัฒนา  ระยะทาง 77 กม.
วันที่ 6 พ.ย.62 เวลา 06.00 น. เสียงเรียกจากเสือเบริดปลุกให้ผมตื่น  “แหม...กำลังนอนสบาย”  ที่นี่น้ำค้างแรงมาก 

เราใช้เวลาทำธุระส่วนตัวกันไม่นาน จากจุดกางเต็นท์ ผมมองเห็นถนนที่ผ่านหน้าอุทยานที่จะไปยัง อ.กัลยาณิวัฒนา ได้ชัดเจน  บอกตรง แค่เห็นทาง
ก็เหนื่อยแล้ว   "แมร่ง...ชันตั้งแต่ออกตัวเลยรึเนี๊ย"   ประมาณ 07.00 น.  ก็ได้เวลาเดินทางกันต่อ   ออกจากอุทยานก็งัดเนินเผชิญเขากันต่อทันที
ไม่มีให้ได้วอร์มแข้งวอร์มขากันเลย พวกเราก้มตางัดเนินกันไปเรื่อยๆ บอกตรงๆ เขาลูกนี้หนักสาหัสสากรรจ์มาก หลังจากนั้นก็ไหลลงเนินมาถึงทางเข้า
บ้านแม่โต๋ พวกเราได้จอดพักกัน เสือเบริดประเมินสถานการณ์ออกความเห็นทันที  “วันนี้ดูท่า คงไม่น่าถึงวัดจันทร์ ถ้าต้องเจอเขาในลักษณะแบบนี้ไปตลอดทั้งเส้นทาง” ผมเองก็คิดว่าน่าจะเป็นเช่นนั้น อย่างไงก็ขอปั่นกันต่อ อนาคตข้างหน้าค่อยว่ากันอีกที เป้าหมายเช้านี้ ต้องไปหาข้าวกินบ้านบ่อแก้วก่อนเช้านี้
         
 

ประมาณ 3 โมงเช้า พวกเราก็ไหลลงมาถึงบ้านบ่อแก้ว แค่ระยะทางประมาณ 10 กม. เราใช้เวลาประมาณ 2 ชม. กว่าจะมาถึง   
บ้านบ่อแก้วเป็นชุมชนใหญ่ที่สุด ระหว่าง เส้นทาง อ.สะเมิงไป อ.กัลยาณิวัฒนา เราสามารถจะหาซื้อของหรือเสบียงติดตัวในระหว่างการเดินทางได้  
ผมและเสือเบริดแวะกินข้าวขาหมูในร้านอาหารริมทาง ไม่ลืมที่จะสั่งข้าวเปล่าและผัดปลาดุกทอดใส่ถุงแยกไว้ เพื่อจะได้เอามากินกลางทาง พ่อค้าขายข้าวเล่าให้พวกเราฟังว่า ภูเขาที่พวกเราปั่นผ่านมา เรียกว่า “เขาหลวง เป็นภูเขาที่สูงและชันที่สุดในถนนเส้นนี้แล้ว และจากนี้ไปก็จะเป็นภูเขาที่ไม่สูงชันมากนัก ” พอฟังแกเล่าจบ  พวกผมเริ่มมีความหวัง ว่าอย่างไรเสีย วันนี้น่าจะไปถึงจุดหมายได้ทันก่อนมืด ก่อนออกจากบ้านบ่อแก้ว ผมได้แวะซื้อ มาม่า   ไข่ไก่ น้ำดื่ม ขนม ผลไม้(ลองกอง) ติดไปด้วย  หลังจากนั้น จึงเริ่มเดินทางกันต่อ
เส้นทางที่ผ่านบ้านบ่อแก้ว จะมองเห็นแปลงปลูกสตอร์เบอร์รี่ของชาวบ้านอยู่เป็นระยะๆ ทางฝั่งซ้าย จะมองเห็นทิวทัศน์ท้องทุ่งนาสีเหลืองทอง โดยมีฉากหลังเป็นขุนเขาที่แลไกลตา มองดูสวยงามยิ่งนัก  ผมไม่ยอมปล่อยให้ความสวยงามของเส้นทางนี้หายไปจากความทรงจำของผมเป็นแน่นอน  ผมเลยปั่นไปจอดถ่ายรูปไป มุมไหนสวย จุดไหนงาม ผมจอดเก็บภาพหมด ปล่อยให้เสือเบริดแกปั่นล่วงหน้าไปก่อนครับ พอพ้นบ้านบ่อแก้วมาไม่นาน ก็เริ่มปั่นไต่ระดับความสูงกันอีกครั้ง ถึงแม้วันนี้อากาศจะเย็นสบาย มีลมเย็นๆพัดมากระทบผิวกายเป็นระยะๆ แต่การปั่นขึ้นเขาแต่ละลูกกับจักรยานทัวร์ริ่งฟลูโหลดล้อ 700 C  ผมไม่อยากจะอธิบายจริงๆ เอาง่ายๆ ใช้ระบบการหายใจทุกทิศทางที่มีอยู่ในร่างกายเข้าช่วยตลอด งัดเนินเผชิญเขามาพักใหญ่ๆ ผมก็ไหลลงมายังบ้านแม่แจ๊ะ หมู่บ้านกระเหรี่ยงกลางหุบเขา ผมแวะร้านค้าเล็กๆในหมู่บ้านเพื่อซื้อเสบียงเพิ่มอีกเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินทางต่อทันที

ออกจากบ้านแม่แจ๊ะ ผมก็เริ่มซัดยาวเลย ตั้งใจไว้ว่าจะไปกินข้าวมื้อเที่ยงที่จุดชมวิวผาเหยียบเมฆาบ้านแดดน้อย ซึ่งที่นั่นเสือเบริดน่าจะไปรออยู่ก่อนแล้ว แต่ว่าการจะไปถึงยังจุดชมวิวนั้น ต้องผ่านเขาสูงชันอีกหนึ่งลูกหลักๆ ลูกย่อยๆไม่ต้องนับ บอกตรงๆ มีเข็นครับ ถึงแม้นจะใช้เกียร์ต่ำหมดสปีดแล้วก็ตาม แต่ความล้าและความเหนื่อยมันอยู่กับเราตลอด เนินแต่ละเนินงัดกันด้วยใจล้วนๆ เนินไหนถอดใจก็ลงเข็น บางครั้งเข็นไม่ไหว  หมดแรง ก็ต้องจอดจักรยานกำเบรกไม่ให้จักรยานมันไหลถอยหลังลง หรือบางครั้งแรงที่จะกำเบรกมันไม่มี เนื่องจากจักรยานมันหนักมาก ยังต้องยืนเอาบันไดจักรยานขัดไว้กับขาตัวเองไว้ก็มีบ่อย เวลาหายใจไม่ทันต้องหยุดทันทีครับ ผมลงจากจักรยานมาหายใจยาวๆ ตั้งหลักกันใหม่

เสบียงที่ติดตัวมา   ผมงัดออกมากินตลอดเพื่อเติมพลังให้กำลังมันมีต่อไป   มองไปสองข้างทางเป็นป่าสนเขา  ต้นสนภูเขายืนต้นสูงตระหง่านท้าทาย
ลมหนาว  แม้อากาศจะไม่ร้อนมากนักแต่เหงื่อก็ท่วมกายผมจนชุ่มตลอด   บางครั้งเจอเนินที่มันชันมากๆ  ผมต้องใช้ปั่นเป็นรูปตัวเอส สลับฟันปลาเพื่อ
ลดความชันของเนิน ส่วนหูต้องคอยฟังเสียงเครื่องยนต์ของรถใหญ่ที่วิ่งมาให้ดี  ซึ่งถนนเส้นนี้ นานๆจะเห็นรถยนต์วิ่งผ่านมา 

เม่าฝนตกก่อนจะถึงบ้านแม่ตะละ  ผมเห็นเด็กชายคนหนึ่งกำลังเดินอยู่ตามถนน ผมเลยแวะพูดคุยพร้อมแบ่งปันขนมให้ ซึ่งระหว่างที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ปรากฏว่ามีรถกระบะ4ประตูของชาวบ้านคันหนึ่ง ขับมาชะลอแล้วจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม .....ให้ตายเหอะ คนที่เปิดกระจกหลังโผล่หน้าออกมาคือ  เสือเบริด มองไปในกระบะ เฮ้ย...จักรยานเสือเบริดนอนอยู่ในกระบะ เฮ้ย  เอ ผมต้องกลับก่อนน่ะ พอดีญาติเสียกะทันหัน เอาอะไรไว้ไหม” เสียงของเสือเบริดดังออกมา คงไม่ต้องบอกว่าอะไรเกิดขึ้นกับผม....สมองมึนไปชั่วขณะ ผมตอบ “ห๊ะ” ในหัวผมตอนนี้ สับสน ปน งง ๆ ผมได้แต่ตอบ “อ่ะ ๆ ๆ ไม่เป็นไรครับ ผมมีพร้อมแล้ว  พี่กลับไปทำธุระเถิดครับ” แกยังบอกอีกว่า  จุดชมวิวอีกไม่ไกล ข้างหน้านี่เอง เราก็ได้แต่กล่าวคำร่ำลาที่บนดอยกันว่า  “โชคดีครับ”

ไปแล้วหนึ่ง เหลืออีกหนึ่ง และแล้วก็เหลือเรากับเขาเท่านั้น ....ทีนี้ก็มันส์แล้วซิพี่น้อง หลังจากลาจากเสือเบริด ผมก็ออกปั่นต่อทันที  ปั่นมาไม่ไกลนัก ก็ถึงแม่ตะละ ที่นี่เป็นหมู่บ้านริมทางบนถนนลอยฟ้าที่มีขนาดใหญ่พอตัว ผมปั่นผ่านไปโดยไม่แวะ เป้าหมายอยู่ที่จุดชมวิวอย่างเดียว ก่อนจะขึ้นจุดชมวิว ซึ่งเป็นจุดที่สูงสุดของเส้นทาง มีเนินชันๆให้ประลองกันอีกยกใหญ่ๆ ผมงัดกำลังออกมาเต็มที่ อากาศเริ่มเย็นยังไงๆไม่รู้  ไอ้หย่ะ !!!.. ฝนลงเม็ดว่ะเฮ้ย

ผมอัดขึ้นเนินเต็มที่ จนมาถึงจุดชมวิวเหยียบเมฆาแม่แดดน้อย พอเข้าศาลาที่พัก ฝนก็เทลงมาพอดี ตกหนักเสียด้วยซิ อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นมาทันที มองดูเวลาก็ปาเข้าไปบ่ายสองโมงแล้ว ถึงตอนนี้ผมคิดอะไรไม่ออก ว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ข้าวสวยกับผัดปลาดุกทอดที่ติดมาก็กินไม่ลง ได้แต่นั่งกินขนมและลองกองไปเรื่อยๆ ช่วงที่ติดฝนในศาลา  ในใจก็คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ฝนตกหนักขนาดนี้ เมื่อไหร่จะหยุด ถนนหนทางก็คงจะเปียก ยิ่งปั่นลงเขาก็อันตรายมากขึ้น แล้วนี่มาตั้งค่อนวัน ได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นเอง คิดไปคิดมา  สับสนไปหมด 

ซักพักใหญ่ๆ ฝนก็เริ่มซาลง ผมมองดูวิวจากนอกศาลา มองเห็นแปลงปลูกสตอร์เบอรรี่ของชาวเขา เห็นภูเขาที่ห่างไกลสุดลูกหูลูกตา ทิวทัศน์ช่างสวยงามยิ่งนัก แต่ผมจะพักนานไม่ได้ ผมตัดสินใจเข็นรถจักรยานออกมาเพื่อจะเดินทางต่อ คิดในใจแล้วว่าจะลุยไปให้ถึงวัดจันทร์เลย แม้จะถึงมืดๆค่ำๆก็ตาม แต่ระหว่างนั้นได้มีชาวกระเหรี่ยงเดินเข้ามาพูดคุยกับผม สอบถามว่าผมจะไปไหน  มาจากไหน เราสนทนากันพอสมควร ชายชาวกระเหรี่ยงก็เตือนผมว่าอย่าเดินทางกลางคืนเลย มันอันตราย บนป่าบนดอยแบบนี้ แล้วยิ่งมาคนเดียว อาจจะโดนปล้นได้ คำเตือนของชายชาวกระเหรี่ยงคนนี้ ทำให้ผมต้องกลับมาคิดทบทวนอีกครั้ง

ผมปั่นออกมาจากศาลาจากจุดชมวิวได้ซักพัก ฝนก็ปอยลงมาอีกครั้ง ผมอัดเต็มกำลังเพื่อหนีฝนอีกครั้ง แม้ทางจะชันเพราะขึ้นเนินก็ตาม  ในใจก็คิดว่า
พ้นช่วงนี้ไปฝนคงหยุด ผมปั่นผ่าสายฝนมาเรื่อยๆ      ส่วนฝนก็ยังคงตกมา ช่วงไหนเบาผมก็ปั่นต่อไป  แต่ถ้าช่วงไหนฝนตกแรงๆ      ผมก็ต้องหยุด
หลบเข้าข้างทางหาต้นไม้ใหญ่บังสายฝน ช่วงที่ไหลลงจากเนินก็ใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษหน่อย อัดกันมาพักใหญ่ก็ผ่านบ้านแม่แดดน้อย 
ผมไม่สนใจที่จะจอดพักหรือเก็บภาพอะไรทั้งสิ้นแล้ว  เนื่องจากผมพักหลบฝนมาตลอด  แล้วนี่ก็ไม่มีเวลาจะมาชิวๆแล้วด้วย

ผ่านบ้านแม่แดดน้อย  ก็เริ่มขึ้นเขาอีก   ฝนพร่ำมาเป็นระยะๆสลับหนักเบา  ไม่คิดจะหยุดเลย    ผมก้มหน้าก้มตางัดเนินมาเรื่อยๆ   ร่างกายเริ่มล้าเต็มที
จักรยานเหมือนจะหนักขึ้น ฝนที่ตกดูเหมือนจะเบาลงบ้าง แต่แรงก็เบาตามลงไปด้วย บางครั้งเจอเนินชันๆก็ลงเข็นออกแรงแขนกันไป  ในใจคิดว่าถ้าเจอหมู่บ้านข้างหน้าคงต้องประเมินสถานการณ์กันใหม่ ตอนนี้ขาแข้งสั่นไปหมด อากาศเริ่มเย็นมาก ยิ่งบนดอยด้วยแล้ว มันวังเวงมากครับ ชีวิตรันทดจริง ๆ 

แต่ในทางมืดก็ยังมีแสงสว่างที่ปลายทาง   พ้นความสูงของเขาลูกนี้ก็ลงเนินไหลยาวกันเลย      ผมใช้ความระมัดระวังเพราะถนนลื่นมาก
มือกำเบรกตลอด ไม่ให้เกิดความเร็วในการลงเขาจนเอาไม่อยู่   ไหลยาวมาจนถึงบ้านดงสามหมื่น  คราวนี้ผมต้องจอดพักแล้ว ตอนนี้เวลาก็ปาเข้าไป
5 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว  ฝนหยุดเม็ดมาซักพักแล้ว แต่แรงผมก็ไม่เหลือแล้วเช่นกัน ผมจอดจักรยานตรงหมู่บ้าน  ในใจก็ครุ่นคิดว่าวันนี้คงจะต้องหยุดแค่นี้
แต่ผมต้องหาที่พักก่อน “เอาไงดีว่ะ จะหาที่ซุกหัวนอนได้ที่ไหนว่ะกู” ขณะเดียวกันชาวบ้านแถวนั้นก็เดินเข้ามาหาผม บางคนก็มาดูรถจักรยาน บางคนก็
เข้าพูดคุยกับผมด้วยสำเนียงแบบชาวไทยภูเขา ถามว่าผมมาจากไหน  จะไปไหน ผมฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง ก็ยิ้มไว้ก่อนครับ เรามันคนต่างถิ่น
ถ้าไม่อยากโดนหมก ก็อย่าซ่าส์ !!!! 5555

และแล้วสวรรค์ก็เป็นใจ ผมมองเห็นโรงเรียนอยู่ข้างหน้า “เอาล่ะว่ะ กูรอดตายแล้ว” ผมเข็นจักรยานมาเรื่อยๆ จนมาถึงโรงเรียน....... เห็นเด็กนักเรียน
ตัวน้อยๆ  กำลังเล่นกันที่สนามปูน  ผมจูงจักรยานเข้าไปทันที พร้อมเรียกเด็กๆ " สวัสดีจร้า "   ..... เด็กๆ ทุกคนที่น่ารักมาก ยกมือไหว้กลับมาทุกคน
พร้อมรอยยิ้ม ผมนำลูกอมกับขนมมาแจกเด็กๆ ทันที  ปูทางไว้ก่อนเลย 555  ผมพูดคุยกับเด็กๆ และถามหาคุณครูที่นี่  เด็กๆ ก็พาผมไปพบคุณครู
ที่อาคารเรียนทันที 
ชื่อสินค้า:   ปั่นจักรยานทัวร์ริ่งเส้นทางในป่าสน เชียงใหม่-สะเมิง-วัดจันทร์-ปาย
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่