สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ตอนนี้วิธีการฉีดหลุมสิวกำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะเห็นผลเร็วและแทบไม่ต้องพักหน้าเลย แต่ผลลัพธ์และความถาวรจะขึ้นอยู่กับตัวยาเช่นกัน
1) Rejuran S เป็นตัวท็อปที่สุดในของยาที่ใช้ฉีดหลุมสิวเป็น Rejuran S เป็น PolyNucleotide (PN) ซึ่งต่างจาก SalmonDNA ทั่วไปที่เป็นเพียงแค่ PDRN ข้อแตกต่างก็คือความเข้มข้นจะมีสูงกว่า สามารถฉีดลึกเข้าไประดับชั้นเดียวกับฟิลเลอร์เพื่อทำ Skin Generation สร้างชั้นผิวขึ้นมาใหม่ด้วยตัวของเราเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ก็แลกมาด้วยราคาต้นทุนยาที่สูงมากจึงไม่มีตัวแทนนำเข้ามา คนไทยส่วนมากจึงต้องดั้นด้นไปฉีดที่เกาหลีกัน
2) Derma Care เป็น PDRN จะเป็น SalmonDNA ที่คล้ายกับ Rejuran แต่เป็นสาย DNA ที่สั้นกว่า ทำให้ความเข้มข้นของยาไม่สูงมาก ถ้าฉีดลึกระดับเดียวกับ Rejuran จะทำให้ยาจมหายหมด ผมลัพธ์จึงอยู่ได้ไม่นาน จึงนิยมฉีดแค่สะกิดผิวในระดับ Epidermis เพื่อทำ tissue generation เท่านั้น แนะนำฉีดเพื่อความความวาว หน้าใส รูขุมขน
3) รักษาหลุมสิวด้วยเกล็ดเลือดของเราเองน่าจะมีชื่อว่า PRP (ไม่ใช่ PDRN) เครื่องปั่นเลือดมีหลายเกรด เครื่องที่มีคุณภาพสูงจะปั่นและอบออกมาเป็นเนื้อเจล สามารถฉีดเป็น Growth Factor ในผิวชั้นลึกได้ แต่คลินิกราคาถูกส่วนมากปั่นออกมาเป็นน้ำผลที่ได้คือฉีดได้แค่ผิวๆ ไม่สามารถรักษาหลุมสิวได้
4) AirJet เป็นการใช้ปืนแรงดันอากาศและสารเติมเต็ม(ฟิลเลอร์) แรงดันอากาศมีไว้ตัดพังผืดและฟิลเลอร์มีไว้สำหรับเติมหลุมสิว เหมาะสำหรับคนที่เป็นหลุม BoxScar ที่ลึก ต้องการผลการรักษาแบบเร่งด่วนทันใจ เพราะผลลัพธ์ของ AirJet 1 ครั้ง สามารถเทียบเท่าผลการรักษาของเลเซอร์ได้ 3-5 ครั้ง จึงเหมาะกับคนใจร้อนต้องการเห็นผลทันที
หลุม Rolling Scar มีพังผืดอยู่ ผลแนะนำ Subcision ร่วมกับยาฉีด Rejuran S ถ้างบถึงครับ เพราะอาจจะต้องใช้ยาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์โดยส่วนตัว ผมว่าคุ้มกว่าลงทุนเลเซอร์แน่นอน ให้เรื่องผลลัพธ์ที่รวดเร็วและการพักหน้าที่น้อยมาก สามารถใช้หน้าได้แทบจะทันที (จากคนลองมาทุกอย่างแล้ว)
1) Rejuran S เป็นตัวท็อปที่สุดในของยาที่ใช้ฉีดหลุมสิวเป็น Rejuran S เป็น PolyNucleotide (PN) ซึ่งต่างจาก SalmonDNA ทั่วไปที่เป็นเพียงแค่ PDRN ข้อแตกต่างก็คือความเข้มข้นจะมีสูงกว่า สามารถฉีดลึกเข้าไประดับชั้นเดียวกับฟิลเลอร์เพื่อทำ Skin Generation สร้างชั้นผิวขึ้นมาใหม่ด้วยตัวของเราเอง จึงให้ผลลัพธ์ที่ถาวร แต่ก็แลกมาด้วยราคาต้นทุนยาที่สูงมากจึงไม่มีตัวแทนนำเข้ามา คนไทยส่วนมากจึงต้องดั้นด้นไปฉีดที่เกาหลีกัน
2) Derma Care เป็น PDRN จะเป็น SalmonDNA ที่คล้ายกับ Rejuran แต่เป็นสาย DNA ที่สั้นกว่า ทำให้ความเข้มข้นของยาไม่สูงมาก ถ้าฉีดลึกระดับเดียวกับ Rejuran จะทำให้ยาจมหายหมด ผมลัพธ์จึงอยู่ได้ไม่นาน จึงนิยมฉีดแค่สะกิดผิวในระดับ Epidermis เพื่อทำ tissue generation เท่านั้น แนะนำฉีดเพื่อความความวาว หน้าใส รูขุมขน
3) รักษาหลุมสิวด้วยเกล็ดเลือดของเราเองน่าจะมีชื่อว่า PRP (ไม่ใช่ PDRN) เครื่องปั่นเลือดมีหลายเกรด เครื่องที่มีคุณภาพสูงจะปั่นและอบออกมาเป็นเนื้อเจล สามารถฉีดเป็น Growth Factor ในผิวชั้นลึกได้ แต่คลินิกราคาถูกส่วนมากปั่นออกมาเป็นน้ำผลที่ได้คือฉีดได้แค่ผิวๆ ไม่สามารถรักษาหลุมสิวได้
4) AirJet เป็นการใช้ปืนแรงดันอากาศและสารเติมเต็ม(ฟิลเลอร์) แรงดันอากาศมีไว้ตัดพังผืดและฟิลเลอร์มีไว้สำหรับเติมหลุมสิว เหมาะสำหรับคนที่เป็นหลุม BoxScar ที่ลึก ต้องการผลการรักษาแบบเร่งด่วนทันใจ เพราะผลลัพธ์ของ AirJet 1 ครั้ง สามารถเทียบเท่าผลการรักษาของเลเซอร์ได้ 3-5 ครั้ง จึงเหมาะกับคนใจร้อนต้องการเห็นผลทันที
หลุม Rolling Scar มีพังผืดอยู่ ผลแนะนำ Subcision ร่วมกับยาฉีด Rejuran S ถ้างบถึงครับ เพราะอาจจะต้องใช้ยาเยอะอยู่เหมือนกัน แต่ผลลัพธ์โดยส่วนตัว ผมว่าคุ้มกว่าลงทุนเลเซอร์แน่นอน ให้เรื่องผลลัพธ์ที่รวดเร็วและการพักหน้าที่น้อยมาก สามารถใช้หน้าได้แทบจะทันที (จากคนลองมาทุกอย่างแล้ว)
แสดงความคิดเห็น
ถามผู้รู้เกี่ยวกับการฉีดหลุมสิวครับ
1. Rejuran s ของเกาหลี
2. Derma care ของเกาหลี
3. Pdrn injection ที่สกัดจากเลือดของเรา
4. Air jet ที่ยิงฟิลเลอร์เข้าไป
อยากทราบว่าแต่ละวิธีต่างกันยังไง ผมเป็นหลุมสิวแบบrollingเหมาะกับวิธีการรักษาแบบไหนสุด และฉีดครั้งนึงอยู่ได้กี่เดือนครับ