ผมเรียนจบแล้ว ได้ลองมาทำเกี่ยวกับแปลเอกสารได้สองสามเดือนแล้วครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกกฎหมาย สัญญา ฯลฯ
ปกติจะใช้แค่ Google Docs แล้วเชิญทีมมาร่วมกันแปล แต่รู้สึกว่ามันยังอำนวยความสะดวกไม่เต็มที่นัก
อย่างแรก คือ ตาลายครับ คนนึงใช้สีนึง แล้วค่อยมาสรุปว่าจะเรียงประโยคหรือใช้คำของใครดี
อย่างที่สอง คือ เวลาจะหาคำซ้ำประโยคซ้ำทีก็กด Ctrl+F แล้วพิมพ์ บางทีถ้าจำได้ก็พิมพ์ไปเลย แต่บางครั้งสำนวนไม่เหมือนกันทำให้ต้องมานั่งแก้
เห็นว่าโปรแกรมอย่าง Google translator toolkit จะมีฟังก์ชั่นในการช่วยเหลือนักแปลมากกว่า
เช่น คำไหนซ้ำก็เติมเองเลย การแยกส่วนแปลทำให้ตาไม่ลายนัก ฯลฯ
พอได้ลองค้นดูพบว่ามี Google translator toolkit ด้วย ดูใช้งานง่ายดี แต่กำลังจะใช้ไม่ได้แล้ว (ทำไมต้องตอนที่ผมจะใช้ 555)
เห็นว่ามีโปรแกรมราคาหลายหมื่นด้วย แต่เกรงว่าอาจจะใช้ไม่คุ้มค่าหรือต่อไปงานไม่ได้เข้ามาเยอะนักทำให้ขาดทุน
เลยอยากรู้ว่าพี่ ๆ ใช้โปรแกรมหรือเว็บแอบอะไรกันเหรอครับแบบราคาถูกหรือฟรีไปเลยแบบดังกล่าว
หรือ พวก Google Docs หรือ Google Sheets มันสามารถสร้างสคริปส์ได้ พอจะมีแนะนำบ้างไหมครับ ไม่ได้เก่งเขียนสคริปส์อะไรมาก แค่เคยลองทำให้มันหาแล้วย่อคำอัตโนมัติอย่างพวก มาตรา = ม. , ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ = ป.พ.พ. เวลาเราหาคำมาลงเองครับ
คำถามเพิ่มเติม
1. ปกติพี่ ๆ คิดเรทการแปลราคาเท่าไหร่กันบ้างเหรอครับ ของผมมักจะเกี่ยวกับกฎหมาย เคยแปลพวกสัญญาสมัครงาน สัญญาก่อนสมรส ที่ไม่เกิน 20 หน้า หรือบางอันเกี่ยวกับงานใหญ่ก็ปาไปเกือบร้อยหน้าก็มีใช้เวลาไปประมาณเกือบ 70 ชั่วโมง(ต่อคน) บางงานต้องไปหาเนื้อหาอ่านเพิ่มเติมเพราะอาจจะไม่มีคำเรียกเป็นภาษาไทย
(ตอนนี้ที่ที่เขาจ่ายงานมาให้จะคิดเหมือนเหมา เช่น 75 หน้า 12,xxx บาท หรือ 10 หน้า 15xx บาท จากที่ไปหาข้อมูลมาบ้างรู้สึกเหมือนโดนกดราคายับเลยครับ ตอนแรกคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ แต่ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้ว กลัวนิดหน่อยว่าถ้าขอเพิ่มเขาอาจจะไม่จ่ายงานมาอีกรึเปล่า หรือขอเพิ่มเป็นเท่าไหร่ดี)
เหมือนเคยได้ยินว่าบางที่คิดเรทตั้งแต่ 500 - 2000 ต่อหน้าในการแปลเอกสารทางกฎหมาย หรือเขาคิดตามจำนวนคำกันยังไงบ้างครับ
2. พวก Bullet Point เช่น A. (B) (c) d. นี่ควรทำยังไงครับ ส่วนตัวคิดว่าอยากให้คงไว้อย่างเดิม แต่แปลเป็น ก. (ข) (ค) ง. ก็โอเค แต่บางงานมีตั้งแต่ a-q เรียงกันมึนมาก ๆ (ใช้ Find&Replace) แล้วบางครั้งการใช้ ก. ข. ค. มันไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่น Bullet Point ของ Google Docs ที่จะจัดเรียงให้เลยได้ด้วย บางครั้งมีหัวข้อย่อยเยอะ ๆ ก็แย่เหมือนกัน เพราะต้องมานั่งพิมพ์ แบบ (aa) (กก) (i)
เห็นบางที่ใช้ a = เอ ไปเลย แต่ผมมองว่ามันดูตลก ๆ
3. นั่งทำกันวันละกี่ชั่วโมงเหรอครับ ผมบางครั้งสี่ห้าชั่วโมงรวดก็มี (เพลิน) กลัวสายตาพังเหมือนกันเพราะเพ่งหนักมาก
4. มีเทคนิคการแปล และ กรณีแปลกันหลายคนจัดระบบยังไงกันบ้างครับ ตอนนี้กำลังปรับปรุงระบบของตัวเองให้ทีมทำงานไม่ทับซ้อนกันจะได้ใช้เวลาน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คิดว่าถ้ามีโปรแกรมมาช่วยคงช่วยได้เยอะ
Google translator toolkit กำลังจะใช้ไม่ได้หลัง 4 ธค.นี้ นักแปลไปใช้อะไรแทนกันบ้างครับ
ปกติจะใช้แค่ Google Docs แล้วเชิญทีมมาร่วมกันแปล แต่รู้สึกว่ามันยังอำนวยความสะดวกไม่เต็มที่นัก
อย่างแรก คือ ตาลายครับ คนนึงใช้สีนึง แล้วค่อยมาสรุปว่าจะเรียงประโยคหรือใช้คำของใครดี
อย่างที่สอง คือ เวลาจะหาคำซ้ำประโยคซ้ำทีก็กด Ctrl+F แล้วพิมพ์ บางทีถ้าจำได้ก็พิมพ์ไปเลย แต่บางครั้งสำนวนไม่เหมือนกันทำให้ต้องมานั่งแก้
เห็นว่าโปรแกรมอย่าง Google translator toolkit จะมีฟังก์ชั่นในการช่วยเหลือนักแปลมากกว่า
เช่น คำไหนซ้ำก็เติมเองเลย การแยกส่วนแปลทำให้ตาไม่ลายนัก ฯลฯ
พอได้ลองค้นดูพบว่ามี Google translator toolkit ด้วย ดูใช้งานง่ายดี แต่กำลังจะใช้ไม่ได้แล้ว (ทำไมต้องตอนที่ผมจะใช้ 555)
เห็นว่ามีโปรแกรมราคาหลายหมื่นด้วย แต่เกรงว่าอาจจะใช้ไม่คุ้มค่าหรือต่อไปงานไม่ได้เข้ามาเยอะนักทำให้ขาดทุน
เลยอยากรู้ว่าพี่ ๆ ใช้โปรแกรมหรือเว็บแอบอะไรกันเหรอครับแบบราคาถูกหรือฟรีไปเลยแบบดังกล่าว
หรือ พวก Google Docs หรือ Google Sheets มันสามารถสร้างสคริปส์ได้ พอจะมีแนะนำบ้างไหมครับ ไม่ได้เก่งเขียนสคริปส์อะไรมาก แค่เคยลองทำให้มันหาแล้วย่อคำอัตโนมัติอย่างพวก มาตรา = ม. , ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ = ป.พ.พ. เวลาเราหาคำมาลงเองครับ
คำถามเพิ่มเติม
1. ปกติพี่ ๆ คิดเรทการแปลราคาเท่าไหร่กันบ้างเหรอครับ ของผมมักจะเกี่ยวกับกฎหมาย เคยแปลพวกสัญญาสมัครงาน สัญญาก่อนสมรส ที่ไม่เกิน 20 หน้า หรือบางอันเกี่ยวกับงานใหญ่ก็ปาไปเกือบร้อยหน้าก็มีใช้เวลาไปประมาณเกือบ 70 ชั่วโมง(ต่อคน) บางงานต้องไปหาเนื้อหาอ่านเพิ่มเติมเพราะอาจจะไม่มีคำเรียกเป็นภาษาไทย
(ตอนนี้ที่ที่เขาจ่ายงานมาให้จะคิดเหมือนเหมา เช่น 75 หน้า 12,xxx บาท หรือ 10 หน้า 15xx บาท จากที่ไปหาข้อมูลมาบ้างรู้สึกเหมือนโดนกดราคายับเลยครับ ตอนแรกคิดว่าก็ยังดีกว่าไม่มีงานทำ แต่ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจแล้ว กลัวนิดหน่อยว่าถ้าขอเพิ่มเขาอาจจะไม่จ่ายงานมาอีกรึเปล่า หรือขอเพิ่มเป็นเท่าไหร่ดี)
เหมือนเคยได้ยินว่าบางที่คิดเรทตั้งแต่ 500 - 2000 ต่อหน้าในการแปลเอกสารทางกฎหมาย หรือเขาคิดตามจำนวนคำกันยังไงบ้างครับ
2. พวก Bullet Point เช่น A. (B) (c) d. นี่ควรทำยังไงครับ ส่วนตัวคิดว่าอยากให้คงไว้อย่างเดิม แต่แปลเป็น ก. (ข) (ค) ง. ก็โอเค แต่บางงานมีตั้งแต่ a-q เรียงกันมึนมาก ๆ (ใช้ Find&Replace) แล้วบางครั้งการใช้ ก. ข. ค. มันไม่สามารถใช้ฟังก์ชั่น Bullet Point ของ Google Docs ที่จะจัดเรียงให้เลยได้ด้วย บางครั้งมีหัวข้อย่อยเยอะ ๆ ก็แย่เหมือนกัน เพราะต้องมานั่งพิมพ์ แบบ (aa) (กก) (i)
เห็นบางที่ใช้ a = เอ ไปเลย แต่ผมมองว่ามันดูตลก ๆ
3. นั่งทำกันวันละกี่ชั่วโมงเหรอครับ ผมบางครั้งสี่ห้าชั่วโมงรวดก็มี (เพลิน) กลัวสายตาพังเหมือนกันเพราะเพ่งหนักมาก
4. มีเทคนิคการแปล และ กรณีแปลกันหลายคนจัดระบบยังไงกันบ้างครับ ตอนนี้กำลังปรับปรุงระบบของตัวเองให้ทีมทำงานไม่ทับซ้อนกันจะได้ใช้เวลาน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น คิดว่าถ้ามีโปรแกรมมาช่วยคงช่วยได้เยอะ