เราเป็นริซซี่มาได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ก็อยู่ด้วยกันอย่างราบรื่นมาโดยตลอด..
จนเมื่อช่วงที่ผ่านมา เรามีความรู้สึกว่าเราถ่ายไม่สุด คือรู้เลยว่ายังมีน้องอุนจิรออยู่ แต่ทำยังไงก็ถ่ายไม่ออก ทั้งพรุนสกัด ผลไม้กากใยมากมาย
และแล้วเราตัดสินใจไปพบหมอจนหมอบอกว่าเราเป็นริซซี่ทั้งภายในและภายนอก
ต้องผ่าจัดส่องกล้องนะครับเพื่อเป็นการจัดการทั้งภายในและภายนอก...เราก็เลยตัดสินใจตามคำที่หมอแนะนำ
ก่อนถึงวันนัดหมาย หมอให้ยาระบายและที่สวนทวารมา ต้องเอาออกให้ได้มากที่สุด ไม่งั้นหลังผ่าตัดจะมีปัญหา..
โดยเราเข้าไปรพ.เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่11/11เลยขั้นตอนก็ตามนี้
1.เจาะเลือด
2.ให้น้ำเกลือ
3.ตรวจวัดหัวใจโดยใช้คลื่นความถี่ไฟฟ้า
4.เอกซเรย์ปอด
5.ขึ้นห้องพัก รอและรอเวลา จากที่นัดหมาย 15.00 เลื่อนมาเป็น 17.30น.
หมอวิสัญญีมาพบเราก่อนหน้านี้ตอนที่เรารออยุ่บนหัองพัก แจ้งว่าจะเป็นการบล็อคหลังและฉีดยาชาร่วมด้วย แต่ด้วยความที่เรากลัวมาก เลยขอไปว่าดมยาสลบได้เลยหรือไม่ ซึ่งคุณหมอก็สอบถามการแพ้ของเราก่อน ซึ่งเราก็ไม่แพ้อะไรเลย จนหมอบอกว่าขอไปปรึกษากับคุณหมอผ่าตัดก่อนนะ
แต่ตอนที่เข็นเราเข้าห้องผ่าตัด เราก็เห็นอะไรไม่ชัดมากเพราะสายตาสั้นแล้วตามกฏ ต้องถอดคอนแทคเลนส์ แครื่องประดับ ฟันโยก ฟันปลอม อะไรต้องถอดให้หมด หรือไม่ก็ต้องบอกคุณหมอให้หมด
ด้วยความเมตตาจากคุณหมอที่รู้ว่าเรากลัวมากเลยจัดสินใจให้ดมยาสลบ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงรวมพักฟื้น เราขึ้นห้องพักมาตอน 19.30น. ในช่วงแรกยังไม่เจ็บแผลนะ ทางพยาบาลเค้ามีใส่แผ่นอนามัยแบบห่วงให้ไว้คอยซับเลือด แต่เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ความเจ็บปวดทรมานนั้นแสนสาหัส แถมด้วยอาการอาเจียนเพราะผลค้างเขียงจากฤิทธิ์ยา สุดบรรยายเลย
ตอนนี้เราออกจากรพ.แล้วหลังจากพักฟื้นได้1คืนแล้วก็มาทำงานปรากฏว่าเรามีอาการท้องโตเหมือนคนท้องเลยกินอะไรได้แต่ยังไม่ถ่ายมีแต่คนทักว่าเราท้องหรือเปล่า(ขนาดท้องประมาณ5เดือนได้)เรากลุ้มใจมากโทรถามนางพยาบาลซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะเราอดอาหารลำไส้เลยปรับตัวยังไม่ได้เหมือนท้องอืดยังไงรอดูอาการก่อนเดี๋ยวจะดีขึ้นเอง
ใครพอจะแนะนำได้ไหมคะว่าต้องทำยังไงกับปัญหาท้องอืดนี้ไม่กล้ากินยาอะไรเลยนอกจากที่หมอให้มาคะ...
ผ่าตัดส่องกล้องน้องริซซี่ (ริดสีดวงทวาร)
จนเมื่อช่วงที่ผ่านมา เรามีความรู้สึกว่าเราถ่ายไม่สุด คือรู้เลยว่ายังมีน้องอุนจิรออยู่ แต่ทำยังไงก็ถ่ายไม่ออก ทั้งพรุนสกัด ผลไม้กากใยมากมาย
และแล้วเราตัดสินใจไปพบหมอจนหมอบอกว่าเราเป็นริซซี่ทั้งภายในและภายนอก
ต้องผ่าจัดส่องกล้องนะครับเพื่อเป็นการจัดการทั้งภายในและภายนอก...เราก็เลยตัดสินใจตามคำที่หมอแนะนำ
ก่อนถึงวันนัดหมาย หมอให้ยาระบายและที่สวนทวารมา ต้องเอาออกให้ได้มากที่สุด ไม่งั้นหลังผ่าตัดจะมีปัญหา..
โดยเราเข้าไปรพ.เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่11/11เลยขั้นตอนก็ตามนี้
1.เจาะเลือด
2.ให้น้ำเกลือ
3.ตรวจวัดหัวใจโดยใช้คลื่นความถี่ไฟฟ้า
4.เอกซเรย์ปอด
5.ขึ้นห้องพัก รอและรอเวลา จากที่นัดหมาย 15.00 เลื่อนมาเป็น 17.30น.
หมอวิสัญญีมาพบเราก่อนหน้านี้ตอนที่เรารออยุ่บนหัองพัก แจ้งว่าจะเป็นการบล็อคหลังและฉีดยาชาร่วมด้วย แต่ด้วยความที่เรากลัวมาก เลยขอไปว่าดมยาสลบได้เลยหรือไม่ ซึ่งคุณหมอก็สอบถามการแพ้ของเราก่อน ซึ่งเราก็ไม่แพ้อะไรเลย จนหมอบอกว่าขอไปปรึกษากับคุณหมอผ่าตัดก่อนนะ
แต่ตอนที่เข็นเราเข้าห้องผ่าตัด เราก็เห็นอะไรไม่ชัดมากเพราะสายตาสั้นแล้วตามกฏ ต้องถอดคอนแทคเลนส์ แครื่องประดับ ฟันโยก ฟันปลอม อะไรต้องถอดให้หมด หรือไม่ก็ต้องบอกคุณหมอให้หมด
ด้วยความเมตตาจากคุณหมอที่รู้ว่าเรากลัวมากเลยจัดสินใจให้ดมยาสลบ ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงรวมพักฟื้น เราขึ้นห้องพักมาตอน 19.30น. ในช่วงแรกยังไม่เจ็บแผลนะ ทางพยาบาลเค้ามีใส่แผ่นอนามัยแบบห่วงให้ไว้คอยซับเลือด แต่เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมง ความเจ็บปวดทรมานนั้นแสนสาหัส แถมด้วยอาการอาเจียนเพราะผลค้างเขียงจากฤิทธิ์ยา สุดบรรยายเลย
ตอนนี้เราออกจากรพ.แล้วหลังจากพักฟื้นได้1คืนแล้วก็มาทำงานปรากฏว่าเรามีอาการท้องโตเหมือนคนท้องเลยกินอะไรได้แต่ยังไม่ถ่ายมีแต่คนทักว่าเราท้องหรือเปล่า(ขนาดท้องประมาณ5เดือนได้)เรากลุ้มใจมากโทรถามนางพยาบาลซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นเพราะเราอดอาหารลำไส้เลยปรับตัวยังไม่ได้เหมือนท้องอืดยังไงรอดูอาการก่อนเดี๋ยวจะดีขึ้นเอง
ใครพอจะแนะนำได้ไหมคะว่าต้องทำยังไงกับปัญหาท้องอืดนี้ไม่กล้ากินยาอะไรเลยนอกจากที่หมอให้มาคะ...