medical care ของประเทศในเอเชียกับไทย ต่างกันมากไหม

คำชี้แจง กระทู้นี้เจ้าของกระทู้เพียงแค่ต้องการชวนพี่ๆน้องๆในพันทิปมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันเรื่องระบบสุขภาพที่เคยได้สัมผัสมา หามีข้อมูลใดที่ผิดเพี้ยนไปสามารถแจ้งได้ แล้วขอโทษมา ณ ที่นี่ด้วย โดยเจ้าของกระทู้ขอใช้เกณฑ์จาก CEOWORLD  เนื่องจาก WHO การจัดอันดับล่าสุดผ่านมาหลายปีแล้ว 


ประเทศแรก ญี่ปุ่น (3)
flower
ระบบประกันสุขภาพของญี่ปุ่น คือจะวัดจากรายได้มาคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ในการจ่าย แล้วเมื่อไปหาหมอต้องจ่ายค่ายา 30 เปอร์เซ็นต์จากราคา
หลักๆคือมี3แบบ
1.ระบบshakai hoken สำหรับพนักงานบริษัท นายจ้างกับพนักงานจ่ายคนละครึ่ง  เงินที่จ่ายคือ9.15 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน รวมถึง
2.ระบบkokumin kenkō hoken สำหรับผู้ที่มีอาชีพอิสระ
3.ประกันราคาถูกสำหรับผู้สูงอายุ(อายุ75ปีขึ้นไป) ครอบคลุมค่ารักษาถึง 90 เปอร์เซ็นต์
สำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้ต้องส่งเรื่องไปยังสำนักงานประกันในท้องถิ่นที่อยู่ แล้วจะได้รับการยกเว้นหากได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล และคนในสวัสดิการของรัฐไม่ต้องจ่ายค่าประกัน
ระบบการรักษา หากไม่สบายจะไปที่คลินิกก่อน ถ้าหมอมีความเห็นว่าต้องส่งตัวถึงไปที่โรงพยาบาล ถ้าได้ใบสั่งยา สามารถไปที่ร้านยาใกล้เคียงได้ ส่วนการไปหาหมอฟันมักจะเสีย5,000เยน (ประมาณ1,400 บาท)ในการตรวจปกติ โดยการอุดฟันด้วยเมททาลิคเท่านั้นที่อยู่ในประกัน ถ้าใช้วัสดุอื่นต้องจ่ายเอง และการฟอกสีฟันก็ไม่อยู่ในประกัน


ประเทศ ไต้หวัน (1)
 
ประชาชนชาวไต้หวันทุกคนมีบัตร NHI IC (การ์ดวงจรรวมสมาร์ทการ์ด) ซึ่งใช้เพื่อระบุตัวบุคคลเก็บประวัติทางการแพทย์สั้น ๆ และเรียกเก็บเงินจาก บริษัท ประกันแห่งชาติ การตรวจสุขภาพขั้นสูงแบบชำระเงินด้วยตนเองนั้นค่อนข้างแพร่หลายในไต้หวันซึ่งสะท้อนถึงความกังวลทั่วไปที่ผู้คนมีต่อสุขภาพของตนเอง เหล่านี้เป็นพื้นที่ที่ไม่ครอบคลุมโดย NHI และจะจ่ายเงินออกจากกระเป๋าโดยผู้ป่วย 
รายได้สำหรับโปรแกรม NHI(หน่ยงานที่รับผิดชอบ) นั้นมาจากหลายแหล่ง ผู้เอาประกันภัยแบ่งออกเป็นหกประเภทหลักและ 15 หมวดย่อยตามงานและรายได้ของพวกเขา ร้อยละของเบี้ยประกันภัยที่จ่ายโดยผู้เอาประกันภัยสำหรับแต่ละประเภทแตกต่างกันจาก 0% สำหรับพลเมืองที่มีรายได้น้อยถึง 100% สำหรับการจ้างงานตนเอง เปอร์เซ็นต์ของรายได้ที่มาจากรัฐบาลและผู้ประกันตน / นายจ้างคือ 23.2% และ 76.8% โดยพลเมือไต้หวันที่จ่าย0% มีปริมาณ12.8% ของประชากรทั้งหมด
ระบบการรักษา ผู้ป่วยมักเลือกที่จะไปพบแพทย์ประจำครอบครัวแล้วค่อยส่งต่อไปยังโรงพยาบาล NHI ครอบคลุมบริการเกือบทั้งหมดที่ระบบสุขภาพสามารถให้บริการได้: ตั้งแต่การดูแลทันตกรรมไปจนถึงการคลอดบุตร, การแพทย์ตะวันตก, การแพทย์แผนจีนและการบริการป้องกันไปจนถึงการดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน 
* ขอแปะไว้เท่านี้ก่อนถ้ามีเวลาว่างจะมาต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่