แฟนๆเริ่มสงบพอที่จะตั้งสติกันรึยังครับ ? ^^ ของพวกนี้ต้องรอให้สงบสติอารมณ์แล้วมารับรู้รับฟังข้อเท็จจริงและเหตุผล
ถ้าไปคุยตามเพจ ตามเฟซบุคคงคุยไม่รู้เรื่องแน่เพราะมีแต่เกรียนใส่อารมณ์แล้วก็ใส่ไข่มโนกันไปกันมา คิดว่าเหตุการณ์ก็ผ่านไปครบวันละ คงเตรียมใจโฟกัสไปถึงนัดหน้ากันบ้างแล้วมั้ง
ก่อนอื่นทั้งแฟนแมนซิตี้เอง และแฟนลิเวอร์พูล ควรยอมรับความจริงซึ่งกันและกันว่า สองทีมนี้ไม่มีใครมีบารมีพอที่จะโกงหรือสร้างความเกรงใจให้กรรมการ แมนซิตี้เป็นเพียงทีมเศรษฐีมาใหม่ ไม่มีเส้นสาย ลิเวอร์พูลก็ทีมอินดี้ อยู่กับคนรุ่นเก่ารุ่นแก่ในรั้วตัวเองเท่านั้น แต่ไม่ได้มีเส้นสายใน FA ฉะนั้นที่ผ่านมาส่วนมากแมนซิตี้และลิเวอร์พูลมักจะเสียประโยชน์จากกรรมการซะมากกว่า หรือเรียกว่าโชคไม่ดี (อย่างสองนัดที่ผ่านมาจากผลงานแอตกินสันนี่ชัดเจน) แต่ไอ้ที่ได้ประโยชน์น่ะก็เยอะ โดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้ว อังกฤษยังไม่มี VAR ลิเวอร์พูลเคยได้ลูกล้ำหน้า 1 เมตรที่ทีมอริเอาไปโวย 10 ชาติไม่รู้จบ หรืออย่างแมนซิตี้ก็เล่นเกมเร็ว จังหวะกรรมการมองไม่ทันก็เยอะ มือโดนบอลในเขตโทษก็มี หรือแฮนด์บอลในจังหวะทำประตูก็มี อย่างตอนที่กุนใช้มือทำแฮตทริกในเกมชนะอาร์เซนอล
ส่วนถ้าบอกว่า มันได้เปรียบในเรื่องของเจ้าบ้าน เพราะกรรมการและนักเตะอาจถูกเสียงเชียร์กดดัน อันนี้มันมีหมดทุกทีม บอลลีกมันถึงมีเตะเหย้าเยือนไงครับ
ไมเคิล โอลิเวอร์ หรือที่ให้ฉายากันว่า
“โอลิเวอร์พูล” จริงๆฉายานี้แฟนลิเวอร์พูลเป็นคนตั้งให้นะ เพราะเขาชอบกัน ดูจะเป็นกบฏ FA อยู่คนเดียวที่เป่าแล้วมันไม่ทำให้ลิเวอร์พูลเสียประโยชน์เหมือนคนอื่นๆ โดยเฉพาะแฟนๆที่เชื่อเรื่องสถิติ เรื่องโชคลาง ก็มองว่าแค่โอลิเวอร์พูลลงเป่านี่ทีมก็ไม่มีทางแพ้แน่นอน มันจะออกไปทำนองนั้น คือเป็นตัวนำโชคคล้ายๆโอริกี้
ทีนี้มาดูจังหวะที่ดราม่ากัน เรื่องเทรนท์-อาร์โนลด์แฮนด์บอล
คือเดี๋ยวนี้มันก็วิจารณ์กันเร็วไป แชนแนลต่างๆก็รีบแข่งกันออกมาสรุปผลวิจารณ์เกมหรือทำสกู๊ป โดยที่ยังไม่ทันติดตามเก็บตกทุกรายละเอียด หรืออย่างในรายการของต่างประเทศเอง กูรูก็ต้องมานั่งคุยกันหลังเกม โดยที่พวกเขาเห็นแค่จากจอพร้อมๆกับคนดูทางบ้านนี่แหละ ยังไม่ทันไปทวนดูรายละเอียด ซึ่งปรากฏว่าเขามองว่ามันเป็นดุลพินิจผู้ตัดสิน
กอมปานี บอกว่า เทรนท์แฮนด์บอล / มูรินโญ่ ไม่สน / รอย คีน ไม่สน / ไมเคิล โอเว่น บอกว่า ไม่แน่ใจ / แม็คมานามาน บอกว่า ไม่แฮนด์ / โอเว่น ฮากรีฟ บอกว่า ไม่แฮนด์ / คาร์ราเกอร์ บอกว่า แฮนด์ที่แบร์นาโด้ก่อน
มูรินโญ่บอกว่า
“มันตลกน่าดู หากริบประตูสุดสวยของฟาบินโญ่แล้วไปให้จุดโทษกับแมนซิตี้”
ดูเหมือนจากตรงนี้คาร์ราเกอร์จะแม่นสุด คงเพราะได้ทวนดูหลายครั้งเพราะเป็นทีมข่าว Sky Sports ที่เกาะขอบสนามตรงโดย
จังหวะแรกที่ว่าเทรนท์แฮนด์บอลนั้น จริงๆดูจากมุมล่างชอบสนาม จะเห็นว่าแขนไม่โดนบอลเลย แต่ถ้าดูจากมุมสูงที่ถ่ายทอด จะเห็นลูกบอลอยู่ใต้แขน เลยดูเหมือนว่าโดนบอล
ในจังหวะสองที่โดนสเตอร์ลิงเตะใส่นั้น ระยะถือว่าใกล้มาก ประมาณเมตรเดียว ไม่ใช่ว่าห่าง 2-3 เมตร
ทำไมถึงไม่เป่าหยุดเกม ? ปัญหาอยู่ตรงนี้
ในครั้งแรกเข้าใจว่าโอลิเวอร์อยู่ในตำแหน่งที่เห็นชัดว่า บอลไม่โดนแขนเทรนท์ ก็เลยไม่เป่า แต่ไอ้เราซึ่งเป็นคนดูทางบ้านเนี่ย มันดูจากมุมกล้อง ไม่เหมือนคนที่อยู่ในสนาม แต่จังหวะบอลโดนแขนแบร์นาโด้ ลองคิดง่ายๆ ถ้าโอลิเวอร์เป็นคนที่เอียงให้ลิเวอร์พูลหน่อยหรือเกรงใจเจ้าบ้าน แล้วเกิด
เห็นบอลโดนมือแบร์นาโด้ ยังไงเขาก็ต้องเป่าทันทีให้เจ้าบ้านได้ลูกตั้งเตะ แต่จังหวะนี้กรรมการ
ไม่เห็น แล้วก็อาจเห็นว่าบอล
ไม่โดนแขนอาร์โนลด์ด้วย หรืออาจ
ไม่เห็นเหตุการณ์เลย จึงปล่อยยาวมาจนถึงฟาบินโญ่ซัดประตู
ถึงตรงนี้ย้ำว่า หลังที่ซัดประตูไปแล้ว มีการหยุดฟังผล VAR นะครับเนื่องจากผู้เล่นแมนซิตี้ทักท้วง เลยรอผลว่าจะกลับไปให้จุดโทษแมนซิตี้หรือไม่ ? ซึ่งแน่นอนว่าจากห้อง VAR คงแจ้งว่าบอลโดนแขนแบร์นาโด้ ฉะนั้นผู้ตัดสินก็เลยยกประโยชน์ให้เป็นเหตุการณ์ได้เปรียบไป ซึ่งจากที่ทางพรีเมียร์แถลงคือ
บอลไปกระทบทางแบร์นาโด้ก่อนแล้วกระดอนมาทางอาร์โนลด์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในท่าทางที่ผิดปกติ (ซึ่งตรงนี้คงเป็นการตรวจสอบจากมุมมองที่ถ่ายทอด)
สำหรับสเตอร์ลิง เกมนี้ถูกวางแท็คติกมาให้ป่วน ลากเจาะ ให้ลูกขลุกขลิกในเขตโทษเผื่อว่าจะกระดอนเข้าทางใครซัดประตูได้ หรือสามารถลุ้นเอาฟาวล์หรือเอาแฮนด์บอลได้ แล้วก็คอยโวยวายยั่วประสาทคู่แข่ง สำหรับแฟนลิเวอร์พูลหลายคนคงรำคาญหรือไม่ชอบหน้า แต่สำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของแท็คติกฟุตบอล อย่างลิเวอร์พูลก็มีฟาบินโญ่ที่คอยเป็นตัวป่วนตัวตัดเกม คอยตอดคอยแซะตลอด ฟาวล์บ้าง โดนเตือนบ้าง (แต่ถ้าใครลามปามมากไปถึงขั้นด่ากรรมการก็ต้องโดนเหลืองนะ เพื่อเตือนสติ ^^)
ถามว่าคนเล่นบอลเป็น บรรดานักบอลด้วยกัน บรรดาโค้ช หรือพวกกรรมการเขาดู้รู้ไหมว่า สเตอร์ลิงเป็นตัวคอยยั่วคอยป่วน ? เขาก็รู้ นี่มันคือแท็คติก กรรมการเขาก็ทันเกม ไอ้จังหวะมาเน่ยื่นแขนไปดันในเขตโทษเบียดกันนิดๆหน่อยๆ สเตอร์ลิงพยามทำเป็นล้มแล้วหันมาโวย แต่กรรมการเขาก็ทันเกม หรือ
อย่างจังหวะสองที่ว่าโดนแขนอาร์โนลด์ช่วงท้ายเกมนั้น ก็เป็นการตักบอลไปใส่แขนเทรนท์ อาโนลด์ จังหวะแบนนี้มีลุ้นเพราะบางทีกรรมการก็เป่าให้ บางทีก็ไม่เป่า แล้วแต่ดุลพินิจ ซึ่งสำหรับจังหวะนั้นกรรมการก็อยู่ต่อหน้าต่อตาพอดี เขาก็ชี้ให้เล่นต่อไม่เป่าหยุด
พวกนักเตะเขาก็เข้าใจกันล่ะครับว่ากำลังถูกป่วน แต่มันคือเกม พอจบเกมก็หายกันไป เข้าใจกันไม่ว่ากัน ของแบบนี้มีทุกทีมครับ ฟาบินโญ่เอย โรเบิร์ตสันเอย พวกนี้เป็นตัวป่วนฝ่ายตรงข้ามเหมือนกัน ผมต้องพูดตรงนี้เผื่อสำหรับคนที่ไม่เข้าใจเกมก็จะมีมุมมองของกองเชียร์ซึ่งมันแตกต่างกับมุมมองของคนที่อยู่ในอาชีพนั้นๆ ไม่ว่าจะนักเตะ โค้ช หรือกรรมการ
โกเมซมีรำคาญหงุดหงิดบ้างก็เลยผลักซะหน่อย ^^ แต่นั่นคืออารมณ์ในเกมครับ เป็นเรื่องธรรมดา บอลจบก็ไม่มีอะไร มืออาชีพ
สำหรับกรณีดราม่าแฮนด์บอล แฟนๆที่ออกมาโวยเรื่องนี้มากที่สุด แน่นอนว่าไม่พ้นอริตลอดกาลอย่างแฟนบอลแมนยู
ฉะนั้นตรงนี้
ขอทวนกฎกติกาใหม่ กันก่อนว่า
*สำหรับผู้เล่นฝ่ายรับ ถ้าบอลโดนมือ จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจผู้ตัดสิน โดยจะมองว่า
1.) กางแขนออกหรือพยามหุบแขนหลบ 2.) จังหวะที่กางแขนเป็นแบบธรรมชาติหรือกางผิดธรรมชาติ (เช่นยกขวาง, หรือชี้ไม้ชี้มือ) 3.) ถ้าเจตนายกมือปัดหรือป้องกัน ก็มีสิทธิ์โดนเหลืองหรือแดง 4.) ระยะที่บอลพุ่งมาโดนแขนนั้นไกลหรือใกล้ แน่นอนว่าถ้าระยะใกล้ ผู้เล่นฝ่ายรับย่อมหลบแขนไม่ทัน (ซึ่งกฎข้อนี้สามารถป้องกันอีกฝ่ายเตะบอลยัดใส่ แต่ถ้าเตะยัดจริงแต่มันไกลหน่อย ก็จะอ้างว่ากางแขนเพราะชักหลบไม่ทันไม่ได้)
*สำหรับผู้เล่นฝ่ายรุก ถ้าบอลโดนมือ จะถือว่าแฮนด์บอลทุกกรณี ไม่ต้องใช้ดุลพินิจผู้ตัดสิน
พอมาดูนัดนี้ จริงๆแฟนแมนยูไม่ควรมาโวยวายคู่อื่นเพราะคู่ของแมนยูเอง ปรากฏว่ามีการโดนมือผู้เล่นฝ่ายรุก บอลโดนมือแม็คไกวร์ในจังหวะเปิดฟรีคิก ซึ่งแม็คไกวร์ยกมือจะค้ำอีกฝ่าย (จะให้ฟาวล์ก็ได้ หรือไม่ให้ก็ได้)
ทำให้บอลมันตกมาโดนแขนของแม็คไกวร์ ตรงนี้แหละที่มีการดู VAR วนแล้ววนอีก ชักขึ้นชักลง ชักเข้าชักออกหลายรอบจังหวะบอลตกมาโดนแขน สุดท้ายผู้ตัดสินตัดสินไม่นับเป็นแฮนด์บอล
คือผมไม่มีปัญหากับชัยชนะของแมนยูนะ บอลมันห่างชั้นกับไบรตัน คงไม่ไปตามแช่งให้เสียเวลา ต่างกับคู่แมนซิตี้ ที่แฟนแมนยูมีลุ้นฝากความหวังว่าจะโค่นลิเวอร์พูลได้ ทีนี้พอการตัดสินมันออกมาขัดหูขัดตาก็เลยไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่กล้าไปโวยทีมอื่นหรือไปดราม่ากับทีมอื่นแน่ จังหวะแฮนด์บอลของแมนยูในประตูที่ 2 ไม่ค่อยมีใครดราม่า ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง
แล้วเป็นจังหวะของทีมฝ่ายรุกด้วย ไม่มีช่องให้เลี่ยงเลย แต่กรรมการพรีเมียร์ก็ยังเลี่ยงได้ แต่สำหรับของลิเวอร์พูลมันเป็นจังหวะของฝ่ายรับ ผู้ตัดสินสามารถใช้ดุลพินิจ
เป่าให้จุดโทษก็ได้ หรือจะไม่เป่าให้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม สกอร์ของแมนยู 3-1 กับของลิเวอร์พูล 3-1 ถ้าจะริบประตูแมนยูไป 1 ถามว่าแมนยูชนะไหมนัดนี้ ? มันก็ชนะอยู่ดี หรืออย่างของลิเวอร์พูลถ้า แมนซิตี้ได้จุดโทษไล่มา 3-2 ผมว่ามันก็จบสกอร์นี้แหละครับ เพราะช่วงท้ายเกมลิเวอร์พูลจัด 4-5-1 ปิดเกมเรียบร้อย แค่ลุ้นเสียวกว่าเดิมเท่านั้นเอง
นัดนี้ต้องบอกว่าแมนซิตี้ โชคไม่ดีตั้งแต่ตัวเจ็บเยอะแล้ว คือโชคไม่ดีเลยในต้นฤดูกาลนี้ ตัวหลักๆเจ็บเพียบ ฉะนั้นเกมนี้ไม่ใช่แพ้เพราะกรรมการนะครับ เล่นก็เล่นดีแล้ว แต่การขาดตัวหลักในเกมรับ เห็นชัดเจนว่าทำให้เสียประตูง่าย
.....
ใครแฮนด์บอลกันแน่ ? ชี้แจง : เทรนท์-อาร์โนลด์ แฮนด์บอลจริงหรือไม่ [นัด ลิเวอร์พูล 3 – แมนซิตี้ 1]
ถ้าไปคุยตามเพจ ตามเฟซบุคคงคุยไม่รู้เรื่องแน่เพราะมีแต่เกรียนใส่อารมณ์แล้วก็ใส่ไข่มโนกันไปกันมา คิดว่าเหตุการณ์ก็ผ่านไปครบวันละ คงเตรียมใจโฟกัสไปถึงนัดหน้ากันบ้างแล้วมั้ง
ก่อนอื่นทั้งแฟนแมนซิตี้เอง และแฟนลิเวอร์พูล ควรยอมรับความจริงซึ่งกันและกันว่า สองทีมนี้ไม่มีใครมีบารมีพอที่จะโกงหรือสร้างความเกรงใจให้กรรมการ แมนซิตี้เป็นเพียงทีมเศรษฐีมาใหม่ ไม่มีเส้นสาย ลิเวอร์พูลก็ทีมอินดี้ อยู่กับคนรุ่นเก่ารุ่นแก่ในรั้วตัวเองเท่านั้น แต่ไม่ได้มีเส้นสายใน FA ฉะนั้นที่ผ่านมาส่วนมากแมนซิตี้และลิเวอร์พูลมักจะเสียประโยชน์จากกรรมการซะมากกว่า หรือเรียกว่าโชคไม่ดี (อย่างสองนัดที่ผ่านมาจากผลงานแอตกินสันนี่ชัดเจน) แต่ไอ้ที่ได้ประโยชน์น่ะก็เยอะ โดยเฉพาะฤดูกาลที่แล้ว อังกฤษยังไม่มี VAR ลิเวอร์พูลเคยได้ลูกล้ำหน้า 1 เมตรที่ทีมอริเอาไปโวย 10 ชาติไม่รู้จบ หรืออย่างแมนซิตี้ก็เล่นเกมเร็ว จังหวะกรรมการมองไม่ทันก็เยอะ มือโดนบอลในเขตโทษก็มี หรือแฮนด์บอลในจังหวะทำประตูก็มี อย่างตอนที่กุนใช้มือทำแฮตทริกในเกมชนะอาร์เซนอล
ส่วนถ้าบอกว่า มันได้เปรียบในเรื่องของเจ้าบ้าน เพราะกรรมการและนักเตะอาจถูกเสียงเชียร์กดดัน อันนี้มันมีหมดทุกทีม บอลลีกมันถึงมีเตะเหย้าเยือนไงครับ
ไมเคิล โอลิเวอร์ หรือที่ให้ฉายากันว่า “โอลิเวอร์พูล” จริงๆฉายานี้แฟนลิเวอร์พูลเป็นคนตั้งให้นะ เพราะเขาชอบกัน ดูจะเป็นกบฏ FA อยู่คนเดียวที่เป่าแล้วมันไม่ทำให้ลิเวอร์พูลเสียประโยชน์เหมือนคนอื่นๆ โดยเฉพาะแฟนๆที่เชื่อเรื่องสถิติ เรื่องโชคลาง ก็มองว่าแค่โอลิเวอร์พูลลงเป่านี่ทีมก็ไม่มีทางแพ้แน่นอน มันจะออกไปทำนองนั้น คือเป็นตัวนำโชคคล้ายๆโอริกี้
ทีนี้มาดูจังหวะที่ดราม่ากัน เรื่องเทรนท์-อาร์โนลด์แฮนด์บอล
คือเดี๋ยวนี้มันก็วิจารณ์กันเร็วไป แชนแนลต่างๆก็รีบแข่งกันออกมาสรุปผลวิจารณ์เกมหรือทำสกู๊ป โดยที่ยังไม่ทันติดตามเก็บตกทุกรายละเอียด หรืออย่างในรายการของต่างประเทศเอง กูรูก็ต้องมานั่งคุยกันหลังเกม โดยที่พวกเขาเห็นแค่จากจอพร้อมๆกับคนดูทางบ้านนี่แหละ ยังไม่ทันไปทวนดูรายละเอียด ซึ่งปรากฏว่าเขามองว่ามันเป็นดุลพินิจผู้ตัดสิน
กอมปานี บอกว่า เทรนท์แฮนด์บอล / มูรินโญ่ ไม่สน / รอย คีน ไม่สน / ไมเคิล โอเว่น บอกว่า ไม่แน่ใจ / แม็คมานามาน บอกว่า ไม่แฮนด์ / โอเว่น ฮากรีฟ บอกว่า ไม่แฮนด์ / คาร์ราเกอร์ บอกว่า แฮนด์ที่แบร์นาโด้ก่อน
มูรินโญ่บอกว่า “มันตลกน่าดู หากริบประตูสุดสวยของฟาบินโญ่แล้วไปให้จุดโทษกับแมนซิตี้”
ดูเหมือนจากตรงนี้คาร์ราเกอร์จะแม่นสุด คงเพราะได้ทวนดูหลายครั้งเพราะเป็นทีมข่าว Sky Sports ที่เกาะขอบสนามตรงโดย
จังหวะแรกที่ว่าเทรนท์แฮนด์บอลนั้น จริงๆดูจากมุมล่างชอบสนาม จะเห็นว่าแขนไม่โดนบอลเลย แต่ถ้าดูจากมุมสูงที่ถ่ายทอด จะเห็นลูกบอลอยู่ใต้แขน เลยดูเหมือนว่าโดนบอล
ในจังหวะสองที่โดนสเตอร์ลิงเตะใส่นั้น ระยะถือว่าใกล้มาก ประมาณเมตรเดียว ไม่ใช่ว่าห่าง 2-3 เมตร
ทำไมถึงไม่เป่าหยุดเกม ? ปัญหาอยู่ตรงนี้
ในครั้งแรกเข้าใจว่าโอลิเวอร์อยู่ในตำแหน่งที่เห็นชัดว่า บอลไม่โดนแขนเทรนท์ ก็เลยไม่เป่า แต่ไอ้เราซึ่งเป็นคนดูทางบ้านเนี่ย มันดูจากมุมกล้อง ไม่เหมือนคนที่อยู่ในสนาม แต่จังหวะบอลโดนแขนแบร์นาโด้ ลองคิดง่ายๆ ถ้าโอลิเวอร์เป็นคนที่เอียงให้ลิเวอร์พูลหน่อยหรือเกรงใจเจ้าบ้าน แล้วเกิดเห็นบอลโดนมือแบร์นาโด้ ยังไงเขาก็ต้องเป่าทันทีให้เจ้าบ้านได้ลูกตั้งเตะ แต่จังหวะนี้กรรมการไม่เห็น แล้วก็อาจเห็นว่าบอลไม่โดนแขนอาร์โนลด์ด้วย หรืออาจไม่เห็นเหตุการณ์เลย จึงปล่อยยาวมาจนถึงฟาบินโญ่ซัดประตู ถึงตรงนี้ย้ำว่า หลังที่ซัดประตูไปแล้ว มีการหยุดฟังผล VAR นะครับเนื่องจากผู้เล่นแมนซิตี้ทักท้วง เลยรอผลว่าจะกลับไปให้จุดโทษแมนซิตี้หรือไม่ ? ซึ่งแน่นอนว่าจากห้อง VAR คงแจ้งว่าบอลโดนแขนแบร์นาโด้ ฉะนั้นผู้ตัดสินก็เลยยกประโยชน์ให้เป็นเหตุการณ์ได้เปรียบไป ซึ่งจากที่ทางพรีเมียร์แถลงคือ บอลไปกระทบทางแบร์นาโด้ก่อนแล้วกระดอนมาทางอาร์โนลด์ ซึ่งไม่ได้อยู่ในท่าทางที่ผิดปกติ (ซึ่งตรงนี้คงเป็นการตรวจสอบจากมุมมองที่ถ่ายทอด)
สำหรับสเตอร์ลิง เกมนี้ถูกวางแท็คติกมาให้ป่วน ลากเจาะ ให้ลูกขลุกขลิกในเขตโทษเผื่อว่าจะกระดอนเข้าทางใครซัดประตูได้ หรือสามารถลุ้นเอาฟาวล์หรือเอาแฮนด์บอลได้ แล้วก็คอยโวยวายยั่วประสาทคู่แข่ง สำหรับแฟนลิเวอร์พูลหลายคนคงรำคาญหรือไม่ชอบหน้า แต่สำหรับผมมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาของแท็คติกฟุตบอล อย่างลิเวอร์พูลก็มีฟาบินโญ่ที่คอยเป็นตัวป่วนตัวตัดเกม คอยตอดคอยแซะตลอด ฟาวล์บ้าง โดนเตือนบ้าง (แต่ถ้าใครลามปามมากไปถึงขั้นด่ากรรมการก็ต้องโดนเหลืองนะ เพื่อเตือนสติ ^^)
ถามว่าคนเล่นบอลเป็น บรรดานักบอลด้วยกัน บรรดาโค้ช หรือพวกกรรมการเขาดู้รู้ไหมว่า สเตอร์ลิงเป็นตัวคอยยั่วคอยป่วน ? เขาก็รู้ นี่มันคือแท็คติก กรรมการเขาก็ทันเกม ไอ้จังหวะมาเน่ยื่นแขนไปดันในเขตโทษเบียดกันนิดๆหน่อยๆ สเตอร์ลิงพยามทำเป็นล้มแล้วหันมาโวย แต่กรรมการเขาก็ทันเกม หรืออย่างจังหวะสองที่ว่าโดนแขนอาร์โนลด์ช่วงท้ายเกมนั้น ก็เป็นการตักบอลไปใส่แขนเทรนท์ อาโนลด์ จังหวะแบนนี้มีลุ้นเพราะบางทีกรรมการก็เป่าให้ บางทีก็ไม่เป่า แล้วแต่ดุลพินิจ ซึ่งสำหรับจังหวะนั้นกรรมการก็อยู่ต่อหน้าต่อตาพอดี เขาก็ชี้ให้เล่นต่อไม่เป่าหยุด
พวกนักเตะเขาก็เข้าใจกันล่ะครับว่ากำลังถูกป่วน แต่มันคือเกม พอจบเกมก็หายกันไป เข้าใจกันไม่ว่ากัน ของแบบนี้มีทุกทีมครับ ฟาบินโญ่เอย โรเบิร์ตสันเอย พวกนี้เป็นตัวป่วนฝ่ายตรงข้ามเหมือนกัน ผมต้องพูดตรงนี้เผื่อสำหรับคนที่ไม่เข้าใจเกมก็จะมีมุมมองของกองเชียร์ซึ่งมันแตกต่างกับมุมมองของคนที่อยู่ในอาชีพนั้นๆ ไม่ว่าจะนักเตะ โค้ช หรือกรรมการ
โกเมซมีรำคาญหงุดหงิดบ้างก็เลยผลักซะหน่อย ^^ แต่นั่นคืออารมณ์ในเกมครับ เป็นเรื่องธรรมดา บอลจบก็ไม่มีอะไร มืออาชีพ
สำหรับกรณีดราม่าแฮนด์บอล แฟนๆที่ออกมาโวยเรื่องนี้มากที่สุด แน่นอนว่าไม่พ้นอริตลอดกาลอย่างแฟนบอลแมนยู
ฉะนั้นตรงนี้ ขอทวนกฎกติกาใหม่ กันก่อนว่า
*สำหรับผู้เล่นฝ่ายรับ ถ้าบอลโดนมือ จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจผู้ตัดสิน โดยจะมองว่า
1.) กางแขนออกหรือพยามหุบแขนหลบ 2.) จังหวะที่กางแขนเป็นแบบธรรมชาติหรือกางผิดธรรมชาติ (เช่นยกขวาง, หรือชี้ไม้ชี้มือ) 3.) ถ้าเจตนายกมือปัดหรือป้องกัน ก็มีสิทธิ์โดนเหลืองหรือแดง 4.) ระยะที่บอลพุ่งมาโดนแขนนั้นไกลหรือใกล้ แน่นอนว่าถ้าระยะใกล้ ผู้เล่นฝ่ายรับย่อมหลบแขนไม่ทัน (ซึ่งกฎข้อนี้สามารถป้องกันอีกฝ่ายเตะบอลยัดใส่ แต่ถ้าเตะยัดจริงแต่มันไกลหน่อย ก็จะอ้างว่ากางแขนเพราะชักหลบไม่ทันไม่ได้)
*สำหรับผู้เล่นฝ่ายรุก ถ้าบอลโดนมือ จะถือว่าแฮนด์บอลทุกกรณี ไม่ต้องใช้ดุลพินิจผู้ตัดสิน
พอมาดูนัดนี้ จริงๆแฟนแมนยูไม่ควรมาโวยวายคู่อื่นเพราะคู่ของแมนยูเอง ปรากฏว่ามีการโดนมือผู้เล่นฝ่ายรุก บอลโดนมือแม็คไกวร์ในจังหวะเปิดฟรีคิก ซึ่งแม็คไกวร์ยกมือจะค้ำอีกฝ่าย (จะให้ฟาวล์ก็ได้ หรือไม่ให้ก็ได้) ทำให้บอลมันตกมาโดนแขนของแม็คไกวร์ ตรงนี้แหละที่มีการดู VAR วนแล้ววนอีก ชักขึ้นชักลง ชักเข้าชักออกหลายรอบจังหวะบอลตกมาโดนแขน สุดท้ายผู้ตัดสินตัดสินไม่นับเป็นแฮนด์บอล
คือผมไม่มีปัญหากับชัยชนะของแมนยูนะ บอลมันห่างชั้นกับไบรตัน คงไม่ไปตามแช่งให้เสียเวลา ต่างกับคู่แมนซิตี้ ที่แฟนแมนยูมีลุ้นฝากความหวังว่าจะโค่นลิเวอร์พูลได้ ทีนี้พอการตัดสินมันออกมาขัดหูขัดตาก็เลยไม่พอใจ แต่ถ้าเป็นผม ผมไม่กล้าไปโวยทีมอื่นหรือไปดราม่ากับทีมอื่นแน่ จังหวะแฮนด์บอลของแมนยูในประตูที่ 2 ไม่ค่อยมีใครดราม่า ไม่ค่อยมีใครกล่าวถึง แล้วเป็นจังหวะของทีมฝ่ายรุกด้วย ไม่มีช่องให้เลี่ยงเลย แต่กรรมการพรีเมียร์ก็ยังเลี่ยงได้ แต่สำหรับของลิเวอร์พูลมันเป็นจังหวะของฝ่ายรับ ผู้ตัดสินสามารถใช้ดุลพินิจ เป่าให้จุดโทษก็ได้ หรือจะไม่เป่าให้ก็ได้
อย่างไรก็ตาม สกอร์ของแมนยู 3-1 กับของลิเวอร์พูล 3-1 ถ้าจะริบประตูแมนยูไป 1 ถามว่าแมนยูชนะไหมนัดนี้ ? มันก็ชนะอยู่ดี หรืออย่างของลิเวอร์พูลถ้า แมนซิตี้ได้จุดโทษไล่มา 3-2 ผมว่ามันก็จบสกอร์นี้แหละครับ เพราะช่วงท้ายเกมลิเวอร์พูลจัด 4-5-1 ปิดเกมเรียบร้อย แค่ลุ้นเสียวกว่าเดิมเท่านั้นเอง
นัดนี้ต้องบอกว่าแมนซิตี้ โชคไม่ดีตั้งแต่ตัวเจ็บเยอะแล้ว คือโชคไม่ดีเลยในต้นฤดูกาลนี้ ตัวหลักๆเจ็บเพียบ ฉะนั้นเกมนี้ไม่ใช่แพ้เพราะกรรมการนะครับ เล่นก็เล่นดีแล้ว แต่การขาดตัวหลักในเกมรับ เห็นชัดเจนว่าทำให้เสียประตูง่าย
.....