รีวิวความช่วยเหลือจากหน่วยงานฉุกเฉิน​ 1669 หน่วยพยาบาล​ หน่วยกู้ชีพ​ ตำรว​จ​ นิติวิทยาศาสตร์​ ปอเต๊กตึ้ง​ คืนเดียวมาครบ

สืบเนื่องจาก​ จขกท.​ ได้มีโอกาสได้ใช้บริการ​ (ฉุกเฉิน)​ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา​ เลยอยากจะเล่าเป็นข้อมูล​ และชื่นชมหน่วยงานทุกหน่วยที่ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม​ และเต็มที่จริง​ ๆ​ ถ้าไม่มีหน่วยงานเหล่านี้​ ทางเราคงไม่รู้จะทำกันยังไงดี

ขอเกริ่นที่มาของผู้ป่วยคือคุณแม่ป่วยเป็นเส้นเลือดฝอยในสมองแตก​ ประมาณวันที่​  14​ ต.ค.62​ ครั้งนั้นคุณแม่เป็นลมหน้ามืด​น้องชายได้แจ้ง​ 1669​ มารับตัวคุณแม่ส่ง​ รพ.​ ได้ทัน​ ซึ่งครั้งนั้น​ จขกท.​ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย​เพราะอยู่คนล่ะบ้านกัน

คุณแม่พักอยู๋ที่​ รพ.​ ประมาณ​ 4​ สัปดาห์  การรักษา  รักษาตามอาการ​ เนื่องจากผล​ CT​ Scan พบ เส้นเลือดฝอยแตกมีเลือดออกเล็กน้อย​ แต่ปัญหาสำคัญที่พบคือ​ เส้นเลือดบริเวณแกนสมองโป่งพอง​ รพ.ส่งตัววินิจฉัยต่อที่  รพ.​ รามา​ คุณหมอแจ้งว่าเคสนี้ยาก​ ถ้าผ่าโอกาสรอดน้อยมาก​ ถ้าไม่ผ่าก็รักษาสุขภาพ​ ดูแลอาหาร​ ระวังความดัน​ และความเครียด​ หากเส้นนี้แตก​ มีโอกาสเสียชีวิตสูงมากเช่นกัน​ ตัวคุณแม่ก็ไม่อยากผ่า​ ลูก​ ๆ​ก็ไม่เสี่ยง​ คุณหมอส่งตัวกลับมาพักฟื้นที่​ รพ.​ เดิม​ พักฟื้นควบคุมความดัน​ และปรับยา​ สองอาทิต​ คุณแม่กลับมาพักฟื้นที่บ้านวันที่​ 2​ พ.ย.62​ ซึ่งตกลงกันว่าให้มาพักที่บ้าน​ จขกท.​ เพราะมีคนอยู่ตลอด​ 24​ ชั่วโมง​ และบ้านสะดวกสบายกว่า​ รวมทั้งจะได้อยู่ใกล้หลาน​ ๆ​ แกก็รักหลานมาก​ (ลูกเราค่ะ)​

คุณแม่มาอยู่บ้านอาการดีขึ้น​ ทานยาตรงเวลา​ ไม่เวียนหัว​ ทานข้าวได้ดี​ กับข้าวทำเองทุกมื้อ​ เพื่อควบคุม​ น้ำตาลและเกลือ​ และจะได้ทานของสดใหม่มีประโยชน์

จนวันที่​ศุกร์​ 8​ พ.ย.​62​ ช่วงเย็น​ ๆ​ คุณแม่ทานข้าวได้ปกติ​ ทานยา​ แล้วนอนตอนสองทุ่ม​ น้องชายมาดูแม่แต่เช้ากลับบ้าน​ ตอนประมาณสามทุ่ม​ แฟน​ จขกท.​ ชวนน้องชายมานอนกับแม่​ น้องรับปากว่าเดี๋ยวกลับมา​

เวลา​ 4​ ทุ่ม​ครึ่ง​ จขกท.​ จะขึ้นไปนอนกับลูก​ ๆ​ ที่ขึ้นนอนไปก่อนแล้วกับพี่เลี้ยง​ แฟน​ จขกท.​ จะนอนข้างล่างกับแม่​ ซึ่งตอนที่กำลังจะ​ขึ้น​นอน​ แฟนกำลังพาแม่เข้าห้องน้ำ​ คุณแม่เดินได้โดยใช้ที่พยุง​ แฟนแค่ประคองให้ลุก​ และตอนนอน​ ปกติคุณแม่ใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่​ แต่แกชอบเข้าห้องน้ำมากกว่า

จขกท.​ ขึ้นห้องนอนอาบน้ำแล้ว​ ยังไม่ทันนอนแฟนโทรมาจากข้างล่างบอกแม่ชัก​ เวลา​ 22.50  น.​ จขกท.ลงไปแม่หยุดชัก​ แต่ยังได้ยินเสียงหายใจหอบ​ ๆ​ ตอนนั้นแฟนโทรแจ้ง​ 1669​ แล้ว แจ้งก่อนที่แม่จะชักเพราะแม่หายใจแรง​

จขกท.​ ไปย้ายรถที่จอดในบ้านออก​ เพื่อให้สะดวกกับรถฉุกเฉิน​ จอดรถเสร็จรถฉุกเฉิน​ 1669​ มาถึงพอดี​ เวลา​ 22.55  เจ้าหน้าที่มา​ 2​ ท่าน

จนท.มาถึง​ วัดความดันจับชีพจรไม่มีชีพจรและไม่สามารถวัดความดันได้ จึงได้ทำการ​ CPR.​ จนท.​ ที่มาถึงจะมีอุปการณ์เบื้องต้น​ มาเร็วเพื่อมาดูสถานการณ์ก่อน​ จนท.เรียกทีมพยาบาลมาเสริม​  และตามหน่วยกู้ชีพ ในระหว่างรอสลับกันทำ​ CPR​ 3​ คนคือ​ จนท.​ และแฟน​ จขกท.

23.10  พยาบาลขับมอไซค์ตามมาสมทบ​ 2​ ท่าน​ ช่วยกันทำ​ CPR

23.25​ รถกู้ชีพมาถึง​ เจ้าหน้าที่​ 3​ ท่าน พร้อมอุปกรณครบ​ มาถึงตรวจคุณแม่พร้อมแจ้งว่า​ คุณแม่ไม่มีชีพจรแล้ว​ จะให้ปั๊มหรือไม่​ ลูก​ ๆ​ตอนนั้น​เดินทางมาถึงครบแล้ว​ ขอให้ทำการปั๊ม​ หน่วยกู้ชีพให้แจ้ว่า​ จะทำการกู้ชีพเป็นระยะเวลา​ 30​ นาที​ ถ้าชีพพจรไม่ขึ้นจะต้องหยุด​ และทำการให้สารน้ำ​ และยา​ (ไม่ทราบนะคะว่ายาอะไร)​ ใช้เครื่องช่วยปั๊ม​ และติดอุปกรณ์บริเวณลำตัว​ เพื่อจับสัญญาณชีพ​ เพื่อหาจังหวะข็อตไฟฟ้า

ในระหว่างปั๊ม​ มีสัญญาณเครื่องดัง​ จนท.​ ทำการช็อตไฟฟ้า​ สองครั้ง​ ก่อนช็อต​ ห้ามโดนตัวคนไข้​ พยาบาลจะร้องบอก​ "ฉันถอย​ คุณถอย​ ทุกคนถอย"  ทำการช็อต​ สองครั้ง​ สัญญาณชีพไม่ขึ้น​
ทำการปั๊มหัวใจต่อ​ มีสัญญาณชีพดังขึ้น​ ทำการช็อตไฟฟ้าอีกครั้ง​ ยังไม่มีสัญญาณชีพขึ้น

จนกระทั่งเวลา​ 23.53 จนท.​ แจ้งญาติว่า​ กู้ชีพมา​ 28​ นาทีแล้ว​ แต่ไม่มีสัญญาณชีพ​ ที่ดังสองครั้ง​ น่าจะเป็นเพราะยาที่ให้​ ถ้าครบ​ 30​ นาทีขออนุญาต หยุดปั๊ม

23.55  จนท.กู้ชีพหยุดปั๊ม​ และแจ้งว่าคุณแม่เสียชีวิต​

1669​ ประสานงานแจ้ง​ ตำรว​จ​ และสาบันนิติวิทยาศาสตร์​

12.30  ตำรวจและนิติวิทยาศาสาตร์เดินทางมาถึง​ และปอเต็กตึ้ง​
ตำรวจลงบันทึก​ นิติวิทยาศาสตร์​ ถ่ายรูปเก็บหลักฐาน​ซักประวัติ​ เคสนี้ไม่ต้องส่งชันสูตรเนื่องจากมีประวัติการรักษาอยู่​

เสร็จเรียบร้อยสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ออกเอกสารรับรองการตาย​ และ​ตำรวจแจ้งให้ไปรับบันทึกประจำวันพรุ่งนี้เช้า

ตำรวจและนิติวิทยาศาสตร์กลับ​
เหลือปอเต็กตึ้ง​ ดำเนินการนำร่างคุณแม่ไปเก็บห้องเย็นที่​ รพ.​ และประสานงานเรื่องโลงศพ​ ไปรับร่างคุณแม่วันพรุ่งนี้​ ช่วงเที่ยงให้เบอร์โทรไว้​ มัดจำค่าโลงไป​ 2​ พัน​

เสร็จเรื่องทุกอย่างประมาณตีสอง​
ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกท่านทำงานได้รวดเร็วและเต็มที่เต็มใจมาก​ ๆ​ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด​ ๆ​ เลย​ ถ้าไม่มีหน่วยงานเหล่านี้​ เราคงไม่รู้จะทำอย่างไรบ้าง​ เสร็จงานคุณแม่อยากจะหาช่องทางบริจาคเพื่อสนับสนุน​
ปล.​1 หน่วยกู้ชีพไม่สามารถนำส่ง​ รพ.ได้เพราะไม่สะดวกต่อการช่วยชีวิต

ปล.2​ เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการ​ วันที่รับคุณแม่จาก​รพ.​ มาวัด​ ได้มีโอกาสแต่งหน้าให้คุณแม่​ บอกเลยแต่งหน้าศพแต่งยากมาก​ ๆ​
ปล.3​ คุณแม่บริจาคร่างกายไว้​ แต่ไม่ได้พกบัตรลูก​ ๆ​ ไม่แน่ใจ​ เคยแต่ได้ยินคุณแม่พูด​ต้องตัดสินใจให้ปอเต๊กตึ้งฝากคุณแม่ไว้ที่​ รพ. สุดท้ายบริจาคไม่ได้เพราะฉีดฟอร์มาลีนแล้ว​

พิมพ์ในมือถือถ้าผิดพลาดประการไดต้องขออภัยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่