เกริ่นนิดหน่อยก่อนเข้าเรื่องครับ
- อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก ปัจจุบันตามภาพครับ

- อัตราการเต้นหัวใจตามภาพด้านบนครับ ด้านซ้ายคือให้ตั้งตามสูตรปกติ คือ 220-อายุ ด้านขวาคือ เอา Max กับ Min ครับ (ใช้เฉพาะการวิ่ง min เอาจากค่าเฉลี่ยนในระหว่างพักผ่อน และ max เอาจากอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจตอนที่วิ่งอัดเต็มที่ครับ)
- ประสบการณ์วิ่ง ถ้าเริ่มนับจริงๆก็ 10 ปี ตั้งแต่จบ ปวส ที่เริ่มรู้จักการวิ่ง mini marathon วิ่งบ้างหยุดบ้าง เป็นพักๆ ตามประสาวัยรุ่น และเริ่มทำงาน ก็มีเถลไถลบ้าง กินเที่ยว จนมาจริงจังก็ 4-5 ปีก่อน ส่วนก่อนหน้าหั้นไปจนถึงสมัยเด็กๆก็เป็นนักวิ่ง ระยะสั้นครับ 100 เมตร - 800 เมตร
- PB ดีสุดที่เคยทำในงาน Amazing 2018 คือ 3 ชม. 33 นาที ระยะ 42 กิโล หลังจากงานนี้ ก็ไม่เคยทำเวลานี้ได้อีกเลย (เจ็บกันยาวๆ)
- ล่าสุดคือ วังขนาย 4 ชม. 38 นาที ต่างกัน 1 ชม. 5 นาที จาก PB ที่ดีที่สุด
** ใช้ Garmin forrunner 245 ธรรมดาครับ
นี่ก็คือข้อมูลคร่าวๆครับ
** จากรูปข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างของการฝึกอาทิตย์ที่ผ่านผม แต่วันจันทร์ กับ อังคาร ผมไม่ได้วิ่งตามตาราง เพราะวันอาทิตย์เพิ่งกลับจาก เขาชะโงก 32 กิโลเมตรมา (เวลาแย่กว่าปีที่แล้ว 5 นาที) ผมเริ่มวันพุธ แต่เป็นวิ่ง Zone 2 แทน ไม่ได้ฝึกตามตาราง ส่วนวันพฤหัส เป็น fartlex ช้าเร็ว สลับกัน แบบไม่กำหนดตายตัว

ไม่ได้เอาผลการฝึกมาให้ดูเพราะยังไม่ได้ตั้งค่า Zone หัวใจ ตามที่กล่าวไป เหตุผลที่ต้องตั้ง Zone หัวใจโดยใช้ min max เพราะ วิ่งไปนิดเดียว ยังไม่ทันได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลย วิ่งไปร้องเพลงไปพูดคุยหัวเราะกับพี่ๆนักวิ่งหัวใจก็ไป Zone 3 กว่าแล้ว และเวลาวิ่งอัดเต็มที่ หัวใจก็เกิน 189 ที่โปรแกรมตั้งให้อีก อีกย่างวิ่งที่เขาชะโงกที่ผ่านมา วิ่ง Zone 4 กับ Zone 5 เป็น ชม. เลยทีเดียว เลยต้องตั้งค่าให้นาฬิกาใหม่
* โซนหัวใจที่ใช้ที่เขาชะโงก ซึ่งไม่น่าจะมีใครวิ่งอยู่ใน Zone 5 ได้เป็นชม. ขนาดนี้
วันศุกร์ก็พักผ่อนสบายๆ ตามที่โปรแกรมกำหนดให้
**แล้วก็มาวันเสาร์ ในตารางฝึกให้วิ่ง Z4 เป็นเวลา 10 นาที พัก 2 นาที ซ้ำ 3 เซ็ต ตอนแรกก็คิดในใจ จะไหวไหมเนี่ย วันอาทิตย์ก็ต้องวิ่งยาวอีก คือรูปแบบการฝึกเดิมๆ ผมจะพักวันเสาร์ แล้ววิ่งยาววันอาทิตย์ แบบตามมีตามเกิด กำหนดเป้าหมายเอง Zone ไหนอะไรยังไงไม่รู้ วิ่งไปหมดแรงบ้าง เจ็บตัวบ้าง ก็ฝืนๆไป ( *** ลืมบอกว่าผมเพิ่งซื้อ garmin มาก่อนไป วังขนายไม่กี่วัน ***)
ผลการฝึกของวันเสาร์ก็จะเป็นตามรูปด้านล่างนี้

กราฟเทียบ PACE กับ HR

Lap แต่ละช่วง ที่วงไว้คืออยู่ใน Loop เดียวกัน คือการวิ่ง Zone 4 เป็นเวลา 10 นาที ซึ่งไม่เคยฝึกแบบนี้มาก่อน ปกติจะฝึก คอร์ท 1600x5 หรือ 800x10 อะไรแบบนั้น (**** ลืมบอกอีกแล้ว ตอนผมเลือกโปรแกรมการฝึก จะมีแบบใช้ Zone หัวใจ กับแบบธรรมดา แต่ผมอยากลองฝึกแบบใช้ Zone หัวใจก็เลยเลือกแบบฝึกที่ใช้ Zone หัวใจ ในระดับกลาง (มี 3 ระดับ เบา กลาง หนัก) ที่เลือกระดับกลาง เพราะใช้วันฝึก 4-6 วันต่อสัปดาห์ซึ่งสะดวกกว่า แบบหนักที่ มีจำนวนการฝึก 6-10 ครั้งต่อสัปดาห์ (ฝึกแทบทุกวัน บางวันมี 2 รอบ)

Zone หัวใจ
*** ส่วนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เป็นการวิ่ง Zone 2 ยังกังวลอยู่ว่าจะไหวไหม เพราะต้องวิ่ง 2 ชม. 15 นาที กลัวว่าจะล้าจากวันเสาร์มา แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี ปรากฏว่า ล้าจริงๆ 555 แต่ก็วิ่งไปได้เรื่อยๆ ถึงจะล้า แต่เรี่ยวแรงก็มีวิ่งไปได้เรื่อยๆจนจบการฝึก

ได้ระยะทาง และ เพซเฉลี่ย ตามภาพ

กราฟเทียบ เพซ กับ หัวใจ ที่แหว่งๆไปช่วงแรก คือ หยุดซื้อของ กับ รอข้ามถนน ส่วนที่แหว่งในช่วงอื่นๆคือ หยุดกินน้ำ และ หลบคน (พอดีสถานที่ซ้อมประจำมีจัดงานวิ่ง แต่ไม่ได้ไปวิ่งปะปนกับคนในงาน ใช้วิ่งสวนทางกับผู้คนที่วิ่งในงานเอา)
แต่ก็มีเรื่องแปลกๆ คือ จะมีกราฟสีแดง ที่พรุ่งปรี๊ดอยู่ 1 ช่วง คืองงมากไม่รู้เกิดจากอระไร แต่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่วิ่งผ่านกองเชียร์ ที่กำลังตีกลอง กันมันมากๆ 555
** Zone 2 ที่ผมฝึก ผมพยายามวิ่งให้อยู่ช่วง 2 ปลายๆ ปริ่มๆไปที่ Zone 3 ซะส่วนมาก คือ Zone 2 ผมจะอยู่ที่ราวๆ 141-154 ผมก็จะวิ่งให้หัวใจเต้นราวๆ 150 - 153 โดยประมาณ ที่น่ารำคาญคือต้องคอยมองนาฬิกาตลอด **

Lap ทุก 1 กิโล Zone 2 ผมจะเฉลี่ยอยู่ที่ pace 5 กลางๆ ไปทาง pace 6 เพราะช่วง 3 โลแรกใช้เวลาเตรียมตัวและปรับตัวไปเยอะก็เลยเฉลี่ยออกมาที่ pace 6

Zone ที่ใช้ มีพุ่งไป 4 - 5 ในจังหวะวิ่งผ่านกองเชียร์ของงานวิ่ง สงสัยเราจะรู้สึกฮึกเหิมไปกับพวกนักวิ่งท่านๆอื่นๆ
แล้วทีนี้ garmin ก็ได้สรุปผลlสถานะการฝึก ออกมาให้ 4 ค่า คือ vo2 max / ปริมาณการ / การฟื้นตัว และ การทำนายการแข่ง

Vo2 max ตอนช่วงอาทิตย์ก่อนอยู่ที่ 55 วันเสาร์ได้ 56 แล้วเมื่อวานก็ได้ 57

ปริมาณการล่าสุด เอาไว้ทำอะไร ?

และสุดท้ายคือ ทำนายการแข่ง
**ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน
***** ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมสนใจคือ โปรแกรมการฝึกกับทำนายการแข่งนี่แหล่ะครับ 555 กล่าวมาซะยาวเหยียด คืออยากรู้ว่า ใครที่ฝึกตามโปรแกรม แล้ววิ่งได้ตามเวลาที่ทำนายบ้างครับ วันแรกๆที่ใส่ฝึก มันทำนายไว้ว่าจะจบมาราธอนที่ 4 ชม. กว่าๆ จำตัวเลขนาทีไม่ได้แล้ว พอผ่านเขาชะโงกทำนายเหลืออยู่ 3 ชม. 53 พอวันพฤหัสที่วิ่ง fartlek ทำนายว่า 3 ชม. 48 พอผ่านวันอาทิตย์ (เมื่อวาน) ทำนายเหลือ 3 ชม. 25 นาที ตามรูป
คืออยากรู้ว่า จะวิ่งได้ตามนี้จริงๆหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังมีเวลาฝึกซ้อมอีก 3 เดือน ก่อนไปงานวิ่งผ่าเมือง 2020 ( 2 กพ. 2563 ) เวลาก็คงจะลดลงไปอีก ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกมีความหวัง ตั้งความหวังไว้ว่าจะทำ New PB ได้
เริ่มรู้สึกว่าพอมี garmin มีโปรแกรม garmin coach มีการทำนายเวลาแข่ง เข้ามาเกียวข้องแล้วทำให้รู้สึก ชะล่าใจยังไงชอบกล เมื่อก่อนก็แค่ใช้ endomondo เปิดผ่านมือถือ ใส่กระเป๋าคาดเอว วิ่งไปเรื่อย ก็ยางแตกมาแล้ว 3 งาน ( นาวิก ปีที่แล้ว พัทยาที่ผ่านมา แล้วก็วังขนายที่ผ่านมา )
ตอนนี้เหมือนมี Coach มีการทำนายผลไว้ ก็มีความหวังว่า เฮ้ย ทำได้แน่ New PB ก็เลยสงสัยว่ามันจะได้จริงๆตามนี้ หรือ ใกล้เคียงไหมครับ สำหรับใครที่ฝึกตาม garmin coach จบการแข่งขันได้เวลาตามเป้าหรือเปล่าครับ คือผิดหวังมา 3 รายการละ สำหรับระยะ 42 โล ตอนนี้พอมีความหวังขึ้นมาก็เหมือนมีแผลในใจว่าอาจจะล้มไม่เป็นท่าอีกก็ได้ 5555 เพราะมีเวลาอีกตั้งหลายวัน ที่เราอาจจะเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในการคำนวณ ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงสังสรรค์ เจอแน่ๆช่วงปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้เราอืดๆลงได้ ผมเคยน้ำหนัก 60 ต้นๆ ตอนวิ่งผ่าเมือง 2018 ทำให้ได้เวลาดี แต่ตอนนี้มา 66 ละ (เคยไปแตะ 72 อยู่พักนึง หลังจากวิ่งผ่าเมืองเพราะบาดเจ็บและปล่อยตัว 5555)
- -- - แล้วก็กระทู้ก่อนที่ผมเคยถามหารองเท้า สรุปว่าตอนนี้ได้ Mizuno wave emperor 3 ครับ ใช้มาได้สักพักละ ช่วงแรกๆก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ เอาไปยางแตก พัทยา กับ วังขนายมาเรียบร้อย แต่พอผ่านเขาชะโงกมาแล้วรู้สึก เข้าขากันมากขึ้น แต่คงต้องใช้ไปอีกพักใหญ่ๆ (ใช้สลับกับ 5 นิ้ว)
ตอนนี้ก็เล็งๆ Tarther japan / sortie magic rp4 กับ altra aloha ใครใช้ตัวไหน รีวิวได้นะครับ
ฝึกตาม Garmin Coach จะได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นจริงไหม
- อายุ ส่วนสูง น้ำหนัก ปัจจุบันตามภาพครับ
- อัตราการเต้นหัวใจตามภาพด้านบนครับ ด้านซ้ายคือให้ตั้งตามสูตรปกติ คือ 220-อายุ ด้านขวาคือ เอา Max กับ Min ครับ (ใช้เฉพาะการวิ่ง min เอาจากค่าเฉลี่ยนในระหว่างพักผ่อน และ max เอาจากอัตราการเต้นสูงสุดของหัวใจตอนที่วิ่งอัดเต็มที่ครับ)
- ประสบการณ์วิ่ง ถ้าเริ่มนับจริงๆก็ 10 ปี ตั้งแต่จบ ปวส ที่เริ่มรู้จักการวิ่ง mini marathon วิ่งบ้างหยุดบ้าง เป็นพักๆ ตามประสาวัยรุ่น และเริ่มทำงาน ก็มีเถลไถลบ้าง กินเที่ยว จนมาจริงจังก็ 4-5 ปีก่อน ส่วนก่อนหน้าหั้นไปจนถึงสมัยเด็กๆก็เป็นนักวิ่ง ระยะสั้นครับ 100 เมตร - 800 เมตร
- PB ดีสุดที่เคยทำในงาน Amazing 2018 คือ 3 ชม. 33 นาที ระยะ 42 กิโล หลังจากงานนี้ ก็ไม่เคยทำเวลานี้ได้อีกเลย (เจ็บกันยาวๆ)
- ล่าสุดคือ วังขนาย 4 ชม. 38 นาที ต่างกัน 1 ชม. 5 นาที จาก PB ที่ดีที่สุด
** ใช้ Garmin forrunner 245 ธรรมดาครับ
นี่ก็คือข้อมูลคร่าวๆครับ
** จากรูปข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างของการฝึกอาทิตย์ที่ผ่านผม แต่วันจันทร์ กับ อังคาร ผมไม่ได้วิ่งตามตาราง เพราะวันอาทิตย์เพิ่งกลับจาก เขาชะโงก 32 กิโลเมตรมา (เวลาแย่กว่าปีที่แล้ว 5 นาที) ผมเริ่มวันพุธ แต่เป็นวิ่ง Zone 2 แทน ไม่ได้ฝึกตามตาราง ส่วนวันพฤหัส เป็น fartlex ช้าเร็ว สลับกัน แบบไม่กำหนดตายตัว
ไม่ได้เอาผลการฝึกมาให้ดูเพราะยังไม่ได้ตั้งค่า Zone หัวใจ ตามที่กล่าวไป เหตุผลที่ต้องตั้ง Zone หัวใจโดยใช้ min max เพราะ วิ่งไปนิดเดียว ยังไม่ทันได้รู้สึกเหนื่อยอะไรเลย วิ่งไปร้องเพลงไปพูดคุยหัวเราะกับพี่ๆนักวิ่งหัวใจก็ไป Zone 3 กว่าแล้ว และเวลาวิ่งอัดเต็มที่ หัวใจก็เกิน 189 ที่โปรแกรมตั้งให้อีก อีกย่างวิ่งที่เขาชะโงกที่ผ่านมา วิ่ง Zone 4 กับ Zone 5 เป็น ชม. เลยทีเดียว เลยต้องตั้งค่าให้นาฬิกาใหม่
* โซนหัวใจที่ใช้ที่เขาชะโงก ซึ่งไม่น่าจะมีใครวิ่งอยู่ใน Zone 5 ได้เป็นชม. ขนาดนี้
วันศุกร์ก็พักผ่อนสบายๆ ตามที่โปรแกรมกำหนดให้
**แล้วก็มาวันเสาร์ ในตารางฝึกให้วิ่ง Z4 เป็นเวลา 10 นาที พัก 2 นาที ซ้ำ 3 เซ็ต ตอนแรกก็คิดในใจ จะไหวไหมเนี่ย วันอาทิตย์ก็ต้องวิ่งยาวอีก คือรูปแบบการฝึกเดิมๆ ผมจะพักวันเสาร์ แล้ววิ่งยาววันอาทิตย์ แบบตามมีตามเกิด กำหนดเป้าหมายเอง Zone ไหนอะไรยังไงไม่รู้ วิ่งไปหมดแรงบ้าง เจ็บตัวบ้าง ก็ฝืนๆไป ( *** ลืมบอกว่าผมเพิ่งซื้อ garmin มาก่อนไป วังขนายไม่กี่วัน ***)
ผลการฝึกของวันเสาร์ก็จะเป็นตามรูปด้านล่างนี้
กราฟเทียบ PACE กับ HR
Lap แต่ละช่วง ที่วงไว้คืออยู่ใน Loop เดียวกัน คือการวิ่ง Zone 4 เป็นเวลา 10 นาที ซึ่งไม่เคยฝึกแบบนี้มาก่อน ปกติจะฝึก คอร์ท 1600x5 หรือ 800x10 อะไรแบบนั้น (**** ลืมบอกอีกแล้ว ตอนผมเลือกโปรแกรมการฝึก จะมีแบบใช้ Zone หัวใจ กับแบบธรรมดา แต่ผมอยากลองฝึกแบบใช้ Zone หัวใจก็เลยเลือกแบบฝึกที่ใช้ Zone หัวใจ ในระดับกลาง (มี 3 ระดับ เบา กลาง หนัก) ที่เลือกระดับกลาง เพราะใช้วันฝึก 4-6 วันต่อสัปดาห์ซึ่งสะดวกกว่า แบบหนักที่ มีจำนวนการฝึก 6-10 ครั้งต่อสัปดาห์ (ฝึกแทบทุกวัน บางวันมี 2 รอบ)
Zone หัวใจ
*** ส่วนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เป็นการวิ่ง Zone 2 ยังกังวลอยู่ว่าจะไหวไหม เพราะต้องวิ่ง 2 ชม. 15 นาที กลัวว่าจะล้าจากวันเสาร์มา แล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดี ปรากฏว่า ล้าจริงๆ 555 แต่ก็วิ่งไปได้เรื่อยๆ ถึงจะล้า แต่เรี่ยวแรงก็มีวิ่งไปได้เรื่อยๆจนจบการฝึก
ได้ระยะทาง และ เพซเฉลี่ย ตามภาพ
กราฟเทียบ เพซ กับ หัวใจ ที่แหว่งๆไปช่วงแรก คือ หยุดซื้อของ กับ รอข้ามถนน ส่วนที่แหว่งในช่วงอื่นๆคือ หยุดกินน้ำ และ หลบคน (พอดีสถานที่ซ้อมประจำมีจัดงานวิ่ง แต่ไม่ได้ไปวิ่งปะปนกับคนในงาน ใช้วิ่งสวนทางกับผู้คนที่วิ่งในงานเอา)
แต่ก็มีเรื่องแปลกๆ คือ จะมีกราฟสีแดง ที่พรุ่งปรี๊ดอยู่ 1 ช่วง คืองงมากไม่รู้เกิดจากอระไร แต่ตอนนั้นเป็นจังหวะที่วิ่งผ่านกองเชียร์ ที่กำลังตีกลอง กันมันมากๆ 555
** Zone 2 ที่ผมฝึก ผมพยายามวิ่งให้อยู่ช่วง 2 ปลายๆ ปริ่มๆไปที่ Zone 3 ซะส่วนมาก คือ Zone 2 ผมจะอยู่ที่ราวๆ 141-154 ผมก็จะวิ่งให้หัวใจเต้นราวๆ 150 - 153 โดยประมาณ ที่น่ารำคาญคือต้องคอยมองนาฬิกาตลอด **
Lap ทุก 1 กิโล Zone 2 ผมจะเฉลี่ยอยู่ที่ pace 5 กลางๆ ไปทาง pace 6 เพราะช่วง 3 โลแรกใช้เวลาเตรียมตัวและปรับตัวไปเยอะก็เลยเฉลี่ยออกมาที่ pace 6
Zone ที่ใช้ มีพุ่งไป 4 - 5 ในจังหวะวิ่งผ่านกองเชียร์ของงานวิ่ง สงสัยเราจะรู้สึกฮึกเหิมไปกับพวกนักวิ่งท่านๆอื่นๆ
แล้วทีนี้ garmin ก็ได้สรุปผลlสถานะการฝึก ออกมาให้ 4 ค่า คือ vo2 max / ปริมาณการ / การฟื้นตัว และ การทำนายการแข่ง
Vo2 max ตอนช่วงอาทิตย์ก่อนอยู่ที่ 55 วันเสาร์ได้ 56 แล้วเมื่อวานก็ได้ 57
ปริมาณการล่าสุด เอาไว้ทำอะไร ?
และสุดท้ายคือ ทำนายการแข่ง
**ไม่รู้ว่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน
***** ทั้งหมดทั้งมวลที่ผมสนใจคือ โปรแกรมการฝึกกับทำนายการแข่งนี่แหล่ะครับ 555 กล่าวมาซะยาวเหยียด คืออยากรู้ว่า ใครที่ฝึกตามโปรแกรม แล้ววิ่งได้ตามเวลาที่ทำนายบ้างครับ วันแรกๆที่ใส่ฝึก มันทำนายไว้ว่าจะจบมาราธอนที่ 4 ชม. กว่าๆ จำตัวเลขนาทีไม่ได้แล้ว พอผ่านเขาชะโงกทำนายเหลืออยู่ 3 ชม. 53 พอวันพฤหัสที่วิ่ง fartlek ทำนายว่า 3 ชม. 48 พอผ่านวันอาทิตย์ (เมื่อวาน) ทำนายเหลือ 3 ชม. 25 นาที ตามรูป
คืออยากรู้ว่า จะวิ่งได้ตามนี้จริงๆหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นผมก็ยังมีเวลาฝึกซ้อมอีก 3 เดือน ก่อนไปงานวิ่งผ่าเมือง 2020 ( 2 กพ. 2563 ) เวลาก็คงจะลดลงไปอีก ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกมีความหวัง ตั้งความหวังไว้ว่าจะทำ New PB ได้
เริ่มรู้สึกว่าพอมี garmin มีโปรแกรม garmin coach มีการทำนายเวลาแข่ง เข้ามาเกียวข้องแล้วทำให้รู้สึก ชะล่าใจยังไงชอบกล เมื่อก่อนก็แค่ใช้ endomondo เปิดผ่านมือถือ ใส่กระเป๋าคาดเอว วิ่งไปเรื่อย ก็ยางแตกมาแล้ว 3 งาน ( นาวิก ปีที่แล้ว พัทยาที่ผ่านมา แล้วก็วังขนายที่ผ่านมา )
ตอนนี้เหมือนมี Coach มีการทำนายผลไว้ ก็มีความหวังว่า เฮ้ย ทำได้แน่ New PB ก็เลยสงสัยว่ามันจะได้จริงๆตามนี้ หรือ ใกล้เคียงไหมครับ สำหรับใครที่ฝึกตาม garmin coach จบการแข่งขันได้เวลาตามเป้าหรือเปล่าครับ คือผิดหวังมา 3 รายการละ สำหรับระยะ 42 โล ตอนนี้พอมีความหวังขึ้นมาก็เหมือนมีแผลในใจว่าอาจจะล้มไม่เป็นท่าอีกก็ได้ 5555 เพราะมีเวลาอีกตั้งหลายวัน ที่เราอาจจะเจอเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในการคำนวณ ไม่ว่าจะเป็น งานเลี้ยงสังสรรค์ เจอแน่ๆช่วงปีใหม่ เป็นต้น ซึ่งก็จะทำให้เราอืดๆลงได้ ผมเคยน้ำหนัก 60 ต้นๆ ตอนวิ่งผ่าเมือง 2018 ทำให้ได้เวลาดี แต่ตอนนี้มา 66 ละ (เคยไปแตะ 72 อยู่พักนึง หลังจากวิ่งผ่าเมืองเพราะบาดเจ็บและปล่อยตัว 5555)
- -- - แล้วก็กระทู้ก่อนที่ผมเคยถามหารองเท้า สรุปว่าตอนนี้ได้ Mizuno wave emperor 3 ครับ ใช้มาได้สักพักละ ช่วงแรกๆก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ เอาไปยางแตก พัทยา กับ วังขนายมาเรียบร้อย แต่พอผ่านเขาชะโงกมาแล้วรู้สึก เข้าขากันมากขึ้น แต่คงต้องใช้ไปอีกพักใหญ่ๆ (ใช้สลับกับ 5 นิ้ว)
ตอนนี้ก็เล็งๆ Tarther japan / sortie magic rp4 กับ altra aloha ใครใช้ตัวไหน รีวิวได้นะครับ