เราคบกับแฟนมาได้ 7 ปีแล้วค่ะ แต่งงานมาได้ 3 ปีแล้ว ตอนนี้เราเป็นผู้หญิงอายุ 30ปลาย ที่หมอบอกว่าจะมีลูกยากมากเพราะมีปัญหาเรื่องมดลูก ทำงานบริษัทรายได้ธรรมดา มีชีวิตที่ธรรมดาค่ะ ส่วนแฟนเราเป็นเจ้าของบริษัทเล็กๆมีพนักงานไม่กี่คน ใช้ชีวิตสมถะสุดๆ ปัญหาที่เราไม่กล้ามีลูกก็คือ
1. เรื่องยืมเงินค่ะ อาจจะมองว่าเราเห็นแก่เงินนะคะ แต่ฟังเราเล่าก่อน ปกติเราเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เราเสียแล้ว เราดูแลแม่เราคนเดียวจนเสีย แม่เราเป็นมะเร็งค่ะ จากนั้นเราก็อยู่คนเดียวใช้ชีวิตโสดๆ ดูแลตัวเองมาตลอด จนมันมีแฟนคนนี้เข้ามาในชีวิต แรกๆก็ดีค่ะมีคนมาแชร์ชีวิตความคิดต่างๆ แต่พอผ่านไปได้ไม่ถึงปี แฟนเราก็มายืมเงินเราไปหมุนในธุรกิจ ทีแรก สามสี่แสน เราจำไม่ได้ แล้วก็มายืมทุกปีค่ะ ต้นปีคืนแสนนึง ปลายปีมายืมสี่ห้าแสน จนตอนนี้รวมหนี้ ล้านนึงได้ มันอาจดูไม่เยอะนะคะ แต่เราไม่เคยยืมเงินใครเราหาเงินมาเก็บของเรามา เพื่อให้เค้าเอาไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน เอาไปให้พี่น้องยืม(และไม่เคยคืน)เราเหนื่อยมากเลย คือเค้าไม่มีวินัยในการคืนเราเลย หรืออาจจะไม่คิดที่จะคืน เราเคยร้องไห้ไปคุยไปกับเค้าหลายครั้ง ว่าเราเสียใจ หลักๆไม่ใช่ที่ตัวเงินนะ แต่คือเค้าเอาเงินเราให้ พี่น้องยืม จ่ายคนอื่นก่อนได้ แต่กับเราไห้ทีหลังผลัดผ่อนมาหลายปี เค้าบอกว่า "คนอื่นเค้าลำบากกว่าเรา" แล้วคือยังไงคะ เราทำงานมาเพื่อต้องทำตัวให้ลำบากเหรอคะ (แต่ถ้าให้พ่อแม่เค้าเราไม่เคยว่านะคะ เราสนับสนุนด้วย) เราต้องประหยัดมากเลยนะคะเพราะเรากังวลว่าจะซื้อจะผ่อนอะไร กลัวตอนเค้ามายืมหรือฉุกเฉินอะไร เราจะไม่มี
เราเห็น พี่น้องเค้าที่ยืมๆเงินเค้าไปก็สุขสบายดีส่งลูกเรียนนานาชาติ เรียนเต้นballet ยืมเงินแฟนเราซื้อมือถือรุ่นใหม่สุด รถก็ใช้ดีกว่าเรา คือคนนอก มองบ้านเราดูจนกว่าบ้านน้องๆเค้าแน่นอน
นอกจากเรื่องยืมเงินบ้านที่อยู่ก็ของเราเราออกเองหมด รถเราซื้อเองแถมเค้าเอารถเก่าเราไปให้น้องใช้บอกว่าซื้อต่อ แต่ไม่เคยจ่ายเลย ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดเราออกค่ะ น้ำไฟ แม่บ้านของใช้ต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านมานับได้มีของเค้าซื้อ แค่ 2-3 ชิ้นเท่านั้น พอเราระเบิดเรื่องพวกนี้ทีไร(ประมาณปีละครั้ง) เค้าก็บอกว่าจะทยอยผ่อนเรา ก็นะผ่อนได้ 3 เดือน พอเดือนต่อไปเริ่มไม่มีตังไม่จ่าย เอาเป็นว่าเราออกทุกอย่างของตัวเองและในบ้านทั้งหมด สิ่งที่เค้าจะออกคือ เวลาไปทานข้าวนอกบ้านเค้าออกนะคะ แต่ก็เป็นปมอีกที่เราไม่กล้ากินอะไรแพงๆเพราะสงสารเค้า
แล้วพอมาถึงจุดที่เราจะต้องรีบมีลูกเพราะหมอบอกแล้วว่าเวลาเหลือน้อย โอกาศน้อย คือเรามีปมแม่เราแทบจะเลี้ยงเดี่ยวเรามาคนเดียวเราเห็นแม่ลำบากมาก เราไม่อยากเป็นแบบแม่ และให้ลูกเป็นแบบเรา ขนาดหมาปัจจุบันที่บ้านคลอดลูกแฟนเรายังไม่มีเงินจ่าย เราเข้า รพ เคยบอกให้ไปจ่ายให้ เค้าก้ไม่มี นี่ถ้าเรามีลูก เราคงต้องออกทุกอย่างแน่ๆ คือหัวหน้าครอบครัวเป็นแบบนี้เหรอคะ ในสายตาพ่อแม่พี่น้องเค้านี่โครตหัวหน้าครอบครัวแต่ในสายตาเรามันไม่ไช่เลย
2. เวลา เค้าเป็นคนทำงานหนักมากทำทุกวันโดยที่บอกว่าจะรีบหาเงินมาให้เรา เหมือนจะดีนะคะ แต่ไม่เคยได้เลยค่ะเงิน ตั้งแต่คบกันมาที่ไปไกลสุดคือหัวหินค่ะ เค้าไม่สามารถหาเวลาไปได้แรกๆเราก็เซ็ง แต่สักพักเราก็พยายามเข้าใจถ้าอยากไปไหนก็ไปกับเพื่อนแทนค่ะ ขนาดพ่อเราตาย เรายังต้องไปงานศพก่อนคนเดียวที่ต่างจังหวัด เค้าบอกว่าเค้าติดงาน จริงๆวันนึงเจอกันหลังสี่ทุ่มถึง แปดโมงเช้า เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานค่ะ เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่กับหมา ทำงานบ้านให้ เป็นคนใช้เป็นตู้เย็นเป็น atm ในบางที แต่ข้อดีของเค้าคือ ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ทำแต่งานค่ะ
3. ปีนี้มาเราได้ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่ให้เค้ายืมเงินอีกเพราะมันค้างเยอะมาก แล้วเราเริ่มป่วยไม่ได้หนักมากอะไรแต่มันทำให้เราทำงานหนักหรือเครียดมากไม่ได้ เราก็เริ่มไม่มั่นคงในชีวิต ต้องเก็บไว้รักษาตัว
แต่สุดท้ายเค้าก็มายืมคะ (ตอนแรกว่าจะไม่ไห้แต่เห็นนอนก่ายหน้าผากหลายคืน สงสารค่ะ) รอบนี้สองล้าน เราเลยต้องบอกว่าเราไปยืมพี่สาวมาให้ (กลัวเค้าไม่คืนอีกค่ะ แล้วคนอื่นที่ไหนจะมาให้ยืมคะ) โดยเค้าต้องจ่ายดอกนิดหน่อย และคำขู่ว่าถ้าไม่คืนภายในกำหนด " เราจบกัน " เพราะนี่ไม่ไช่เงินเรานะ พอครบกำหนดรอบนี้คืนตามเวลาค่ะ แต่ก็ต้องคอยทวงนะคะ แล้วที่วันนี้มาเขียนอะไรยืดยาว เพราะ มันมายืมอีกรอบค่ะ คือจุก ดีนะที่ยังไม่ขอให้เอาบ้านไปจำนองมาให้
แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
4. เราไม่อยากมีลูกแต่แรกอยู่แล้วค่ะ เฉยๆมาก แต่พอป่วย หมอเอยญาติเอยทุกคนเตือนว่าอยากให้มี 36 แล้วนะ แต่ด้วยความที่คิดว่าถ้ามีคงไม่สะดวกด้วยสถานการณ์ตอนนี้
5. เอาจริงๆ เงินก้อนแรก เราไม่เสียดายแล้วนะคะไม่คืนเราก็ไม่เดือดร้อนทางกาย อย่างที่บอกเบื้องต้นด้านบน คือเดือดร้อนทางใจ ที่สามีเห็นคนอื่นสำคัญกว่า (ตอนแรกที่ให้ยืม คือมีแต่คนบอกว่า ครอบครัวเดียวกัน เงินของคนคนเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกัน) ส่วนเงินก้อนหลังที่ได้คืนพร้อมดอกเบี้ยตอนให้ยืมเรามีทำสัญญามีโฉนดที่ดินค่ะ
6. สำหรับคนที่ถามใน ส่วนเรื่องการบริหารเงินเก็บตอน retire ส่วนตัว เราทำเอาไว้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับตัวเราแล้วค่ะ แล้วเราไม่ได้เอาสมบัติที่บ้านมาให้คนยืมนะคะ เพราะเราไม่มีสมบัติใดๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงสาวแก่ไร้ทายาทนะคะ และที่เราทำตัวกินง่ายอยู่ง่ายประหยัดเพราะส่วนนึงเราบอกแฟนเราว่าเราจนเราไม่มีเงินให้ยืมอีกต่อไปแล้วนะ
7. ที่มาถามว่าทำไมเราถึงทนอยู่กับแฟนเราได้
คือเราคิดว่า เราเองก็มีข้อเสียค่ะ เราค่อนข้างใจร้อนยิ่งกับแฟนเรานี่หนักเลย แต่หนักยังไงก็ไม่เคยหยาบคายนะคะ กับญาติพี่น้องแฟนเรา เราก็ไม่อยากคบค้าเลยค่ะ เรานิสัยไม่ดีมากๆเพราะมัวแต่คิดว่า เค้าจะมายืมมาขอเงินแฟนเราอีกละสิ แม้แต่บ้านเราพ่อแม่เค้าเคยจะขอมาอยู่ เราก็ตอบเลยค่ะ no way บ้านชั้น อึดอัดไม่ชอบ
ส่วนแฟนเราถึงไม่ financial supportive ก็ mentally supportive เราได้มากอยู่ค่ะ คนนอกจะมองเค้า แล้วบอกว่า my idol (อีเมียนี่มองบน)
ทีเหลือก็ดูแลเราในแบบ เช่น หิว ป่วย ก็ไปซื้อมาให้กิน พาไปหาหมออะไรงี้ค่ะ คือดูแลดีไหมเราก็ตอบยาก แต่คนข้างนอกเรียกคุณนาย (เราก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตา) คือเราเป็นลูกคนเดียวใช้ชีวิตคนเดียว ดูแลแม่คนเดียว ไปทำงานไกลบ้านคนเดียว พอมีคนมาดูแลแค่basic มันก็ดี เพราะเราไม่เคยมีอ่ะคะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือ คุณต้องหิว ต้องป่วยตอนแฟนเราเสร็จงานนะคะเพราะงานมาเป็นที่ 1 ค่ะ
8. ขอบคุณ DM ทุกอันที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้เราวางแผนให้แฟนเราคืนเงินอยู่แบบเด็ดขาดค่ะทำมาระยะนึงแล้ว เดี๋ยวอีกสักพัก ได้ผลยังไงจะมาอัพเดตนะคะ ที่ไม่กล้าเล่าตอนแรกเพราะมันทดลองมาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นค่ะ
9. จริงๆ เรามีปัญหาอีกเรื่องอยากปรึกษานะคะ เกี่ยวกับลูกน้องแฟนเรา ที่ต่อหน้าแฟนเรา stawberry ลับหลัง กวนทีน แต่เราอ่านcomment แรงๆในนี้แล้วเราคิดว่าเราอาจจะโดนด่ามากกว่าได้คำแนะนำ
สุดท้ายขอบคุณทุกcomment ถึงจะเข้ามาด่าบ้างไรบ้างนะคะ ถือว่าตั้งใจเข้ามาพิมพ์ เราก็ดีใจแล้วค่ะ
โค้งสุดท้ายของผู้หญิงที่จะมีลูกได้ แต่เราควรจะมีกับสามีแบบนี้ไหมคะ
1. เรื่องยืมเงินค่ะ อาจจะมองว่าเราเห็นแก่เงินนะคะ แต่ฟังเราเล่าก่อน ปกติเราเป็นลูกคนเดียว พ่อแม่เราเสียแล้ว เราดูแลแม่เราคนเดียวจนเสีย แม่เราเป็นมะเร็งค่ะ จากนั้นเราก็อยู่คนเดียวใช้ชีวิตโสดๆ ดูแลตัวเองมาตลอด จนมันมีแฟนคนนี้เข้ามาในชีวิต แรกๆก็ดีค่ะมีคนมาแชร์ชีวิตความคิดต่างๆ แต่พอผ่านไปได้ไม่ถึงปี แฟนเราก็มายืมเงินเราไปหมุนในธุรกิจ ทีแรก สามสี่แสน เราจำไม่ได้ แล้วก็มายืมทุกปีค่ะ ต้นปีคืนแสนนึง ปลายปีมายืมสี่ห้าแสน จนตอนนี้รวมหนี้ ล้านนึงได้ มันอาจดูไม่เยอะนะคะ แต่เราไม่เคยยืมเงินใครเราหาเงินมาเก็บของเรามา เพื่อให้เค้าเอาไปจ่ายเงินเดือนพนักงาน เอาไปให้พี่น้องยืม(และไม่เคยคืน)เราเหนื่อยมากเลย คือเค้าไม่มีวินัยในการคืนเราเลย หรืออาจจะไม่คิดที่จะคืน เราเคยร้องไห้ไปคุยไปกับเค้าหลายครั้ง ว่าเราเสียใจ หลักๆไม่ใช่ที่ตัวเงินนะ แต่คือเค้าเอาเงินเราให้ พี่น้องยืม จ่ายคนอื่นก่อนได้ แต่กับเราไห้ทีหลังผลัดผ่อนมาหลายปี เค้าบอกว่า "คนอื่นเค้าลำบากกว่าเรา" แล้วคือยังไงคะ เราทำงานมาเพื่อต้องทำตัวให้ลำบากเหรอคะ (แต่ถ้าให้พ่อแม่เค้าเราไม่เคยว่านะคะ เราสนับสนุนด้วย) เราต้องประหยัดมากเลยนะคะเพราะเรากังวลว่าจะซื้อจะผ่อนอะไร กลัวตอนเค้ามายืมหรือฉุกเฉินอะไร เราจะไม่มี
เราเห็น พี่น้องเค้าที่ยืมๆเงินเค้าไปก็สุขสบายดีส่งลูกเรียนนานาชาติ เรียนเต้นballet ยืมเงินแฟนเราซื้อมือถือรุ่นใหม่สุด รถก็ใช้ดีกว่าเรา คือคนนอก มองบ้านเราดูจนกว่าบ้านน้องๆเค้าแน่นอน
นอกจากเรื่องยืมเงินบ้านที่อยู่ก็ของเราเราออกเองหมด รถเราซื้อเองแถมเค้าเอารถเก่าเราไปให้น้องใช้บอกว่าซื้อต่อ แต่ไม่เคยจ่ายเลย ค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดเราออกค่ะ น้ำไฟ แม่บ้านของใช้ต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ในบ้านมานับได้มีของเค้าซื้อ แค่ 2-3 ชิ้นเท่านั้น พอเราระเบิดเรื่องพวกนี้ทีไร(ประมาณปีละครั้ง) เค้าก็บอกว่าจะทยอยผ่อนเรา ก็นะผ่อนได้ 3 เดือน พอเดือนต่อไปเริ่มไม่มีตังไม่จ่าย เอาเป็นว่าเราออกทุกอย่างของตัวเองและในบ้านทั้งหมด สิ่งที่เค้าจะออกคือ เวลาไปทานข้าวนอกบ้านเค้าออกนะคะ แต่ก็เป็นปมอีกที่เราไม่กล้ากินอะไรแพงๆเพราะสงสารเค้า
แล้วพอมาถึงจุดที่เราจะต้องรีบมีลูกเพราะหมอบอกแล้วว่าเวลาเหลือน้อย โอกาศน้อย คือเรามีปมแม่เราแทบจะเลี้ยงเดี่ยวเรามาคนเดียวเราเห็นแม่ลำบากมาก เราไม่อยากเป็นแบบแม่ และให้ลูกเป็นแบบเรา ขนาดหมาปัจจุบันที่บ้านคลอดลูกแฟนเรายังไม่มีเงินจ่าย เราเข้า รพ เคยบอกให้ไปจ่ายให้ เค้าก้ไม่มี นี่ถ้าเรามีลูก เราคงต้องออกทุกอย่างแน่ๆ คือหัวหน้าครอบครัวเป็นแบบนี้เหรอคะ ในสายตาพ่อแม่พี่น้องเค้านี่โครตหัวหน้าครอบครัวแต่ในสายตาเรามันไม่ไช่เลย
2. เวลา เค้าเป็นคนทำงานหนักมากทำทุกวันโดยที่บอกว่าจะรีบหาเงินมาให้เรา เหมือนจะดีนะคะ แต่ไม่เคยได้เลยค่ะเงิน ตั้งแต่คบกันมาที่ไปไกลสุดคือหัวหินค่ะ เค้าไม่สามารถหาเวลาไปได้แรกๆเราก็เซ็ง แต่สักพักเราก็พยายามเข้าใจถ้าอยากไปไหนก็ไปกับเพื่อนแทนค่ะ ขนาดพ่อเราตาย เรายังต้องไปงานศพก่อนคนเดียวที่ต่างจังหวัด เค้าบอกว่าเค้าติดงาน จริงๆวันนึงเจอกันหลังสี่ทุ่มถึง แปดโมงเช้า เสาร์อาทิตย์ก็ทำงานค่ะ เหมือนเราใช้ชีวิตอยู่กับหมา ทำงานบ้านให้ เป็นคนใช้เป็นตู้เย็นเป็น atm ในบางที แต่ข้อดีของเค้าคือ ไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่ ไม่เจ้าชู้ ทำแต่งานค่ะ
3. ปีนี้มาเราได้ตั้งใจไว้ว่าเราจะไม่ให้เค้ายืมเงินอีกเพราะมันค้างเยอะมาก แล้วเราเริ่มป่วยไม่ได้หนักมากอะไรแต่มันทำให้เราทำงานหนักหรือเครียดมากไม่ได้ เราก็เริ่มไม่มั่นคงในชีวิต ต้องเก็บไว้รักษาตัว
แต่สุดท้ายเค้าก็มายืมคะ (ตอนแรกว่าจะไม่ไห้แต่เห็นนอนก่ายหน้าผากหลายคืน สงสารค่ะ) รอบนี้สองล้าน เราเลยต้องบอกว่าเราไปยืมพี่สาวมาให้ (กลัวเค้าไม่คืนอีกค่ะ แล้วคนอื่นที่ไหนจะมาให้ยืมคะ) โดยเค้าต้องจ่ายดอกนิดหน่อย และคำขู่ว่าถ้าไม่คืนภายในกำหนด " เราจบกัน " เพราะนี่ไม่ไช่เงินเรานะ พอครบกำหนดรอบนี้คืนตามเวลาค่ะ แต่ก็ต้องคอยทวงนะคะ แล้วที่วันนี้มาเขียนอะไรยืดยาว เพราะ มันมายืมอีกรอบค่ะ คือจุก ดีนะที่ยังไม่ขอให้เอาบ้านไปจำนองมาให้
แก้ไขเพิ่มเติมนะคะ
4. เราไม่อยากมีลูกแต่แรกอยู่แล้วค่ะ เฉยๆมาก แต่พอป่วย หมอเอยญาติเอยทุกคนเตือนว่าอยากให้มี 36 แล้วนะ แต่ด้วยความที่คิดว่าถ้ามีคงไม่สะดวกด้วยสถานการณ์ตอนนี้
5. เอาจริงๆ เงินก้อนแรก เราไม่เสียดายแล้วนะคะไม่คืนเราก็ไม่เดือดร้อนทางกาย อย่างที่บอกเบื้องต้นด้านบน คือเดือดร้อนทางใจ ที่สามีเห็นคนอื่นสำคัญกว่า (ตอนแรกที่ให้ยืม คือมีแต่คนบอกว่า ครอบครัวเดียวกัน เงินของคนคนเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกัน) ส่วนเงินก้อนหลังที่ได้คืนพร้อมดอกเบี้ยตอนให้ยืมเรามีทำสัญญามีโฉนดที่ดินค่ะ
6. สำหรับคนที่ถามใน ส่วนเรื่องการบริหารเงินเก็บตอน retire ส่วนตัว เราทำเอาไว้ค่อนข้างปลอดภัยสำหรับตัวเราแล้วค่ะ แล้วเราไม่ได้เอาสมบัติที่บ้านมาให้คนยืมนะคะ เพราะเราไม่มีสมบัติใดๆ ขอบคุณที่เป็นห่วงสาวแก่ไร้ทายาทนะคะ และที่เราทำตัวกินง่ายอยู่ง่ายประหยัดเพราะส่วนนึงเราบอกแฟนเราว่าเราจนเราไม่มีเงินให้ยืมอีกต่อไปแล้วนะ
7. ที่มาถามว่าทำไมเราถึงทนอยู่กับแฟนเราได้
คือเราคิดว่า เราเองก็มีข้อเสียค่ะ เราค่อนข้างใจร้อนยิ่งกับแฟนเรานี่หนักเลย แต่หนักยังไงก็ไม่เคยหยาบคายนะคะ กับญาติพี่น้องแฟนเรา เราก็ไม่อยากคบค้าเลยค่ะ เรานิสัยไม่ดีมากๆเพราะมัวแต่คิดว่า เค้าจะมายืมมาขอเงินแฟนเราอีกละสิ แม้แต่บ้านเราพ่อแม่เค้าเคยจะขอมาอยู่ เราก็ตอบเลยค่ะ no way บ้านชั้น อึดอัดไม่ชอบ
ส่วนแฟนเราถึงไม่ financial supportive ก็ mentally supportive เราได้มากอยู่ค่ะ คนนอกจะมองเค้า แล้วบอกว่า my idol (อีเมียนี่มองบน)
ทีเหลือก็ดูแลเราในแบบ เช่น หิว ป่วย ก็ไปซื้อมาให้กิน พาไปหาหมออะไรงี้ค่ะ คือดูแลดีไหมเราก็ตอบยาก แต่คนข้างนอกเรียกคุณนาย (เราก็ได้แต่ก้มหน้าหลบตา) คือเราเป็นลูกคนเดียวใช้ชีวิตคนเดียว ดูแลแม่คนเดียว ไปทำงานไกลบ้านคนเดียว พอมีคนมาดูแลแค่basic มันก็ดี เพราะเราไม่เคยมีอ่ะคะ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคือ คุณต้องหิว ต้องป่วยตอนแฟนเราเสร็จงานนะคะเพราะงานมาเป็นที่ 1 ค่ะ
8. ขอบคุณ DM ทุกอันที่เข้ามาให้กำลังใจนะคะ ตอนนี้เราวางแผนให้แฟนเราคืนเงินอยู่แบบเด็ดขาดค่ะทำมาระยะนึงแล้ว เดี๋ยวอีกสักพัก ได้ผลยังไงจะมาอัพเดตนะคะ ที่ไม่กล้าเล่าตอนแรกเพราะมันทดลองมาแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นค่ะ
9. จริงๆ เรามีปัญหาอีกเรื่องอยากปรึกษานะคะ เกี่ยวกับลูกน้องแฟนเรา ที่ต่อหน้าแฟนเรา stawberry ลับหลัง กวนทีน แต่เราอ่านcomment แรงๆในนี้แล้วเราคิดว่าเราอาจจะโดนด่ามากกว่าได้คำแนะนำ
สุดท้ายขอบคุณทุกcomment ถึงจะเข้ามาด่าบ้างไรบ้างนะคะ ถือว่าตั้งใจเข้ามาพิมพ์ เราก็ดีใจแล้วค่ะ