คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
แบบเดาเอา ไม่มีหลักฐาน ไม่มีข้อมูลการผลิด และไม่มีอ้างอิงนะครับ ไม่ต้องอ่านข้ามไปได้เลย
1. เลนส์มีกันสั่น กับไม่มีกันสั่น
แพงแน่นอน เพราะ แค่มันขยับ ก็เปลี่ยนทิศทางแสงได้ เลนส์ต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การหักเหของแสงก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน
แต่เมื่อก่อนบางค่าย mount นึงมีกันสั่น อีก mount นึงไม่มีกันสั่น ขายราคาพอๆกันเฉยเลย =_=
2. เลนส์มีชิ้นแก้วพิเศษ กับไม่มีชิ้นแก้วพิเศษ มีชิ้นเลนส์จำนวนมากแก้ไขภาพ
มีชิ้นแก้วจำนวนมากแก้อาการบิดเบี้ยว และให้ภาพคมขึ้น แต่ก็แลกมากกับการสูญเสียแสง หักเหเพิ่มขึ้น เดาว่าเขาแพงเพราะแก้ปัญหา
ชิ้นแก้วแก้การเหลื่อมล้ำของสี => เมื่อแสงเครื่องที่ผ่านวัสดุ จะมีความเร็วของแสงของแต่ละช่วงสีอาจไม่เท่ากัน ทำให้การหักเหของแต่ละช่วงคลื่นแสงไม่เหมือนกัน นึกถึงเขาใส่วัสดุที่เป็นฮีโร่มาแก้ปัญหา ซึ่งต้องขัดให้มีมุมตกกระทบพิเศษ เพื่อรวบรวมแสงที่กระจัดกระจายให้มันกลับมาเข้ารูปเข้ารอย เดาว่าแพงเพราะแก้ปัญหาเช่นกัน อาจใส่หลายชิ้นด้วย
หรือ ชิ้นแก้วพิเศษที่ทำให้ขอบดำลดแสงที่บริเวณขอบ เพื่อให้เกิด bokeh ละมุน ไม่คมขึ้นขอบ เกิด perfect bokeh ค่อยๆจางหายไป... แพงเพราะตอบสนองความต้องการ
แค่ชิ้นเลนส์ ลองจินตนาการว่าจะขัดยังไงให้มันเหมือนๆกันทุกๆ lot และเมื่อขัดไป วัสดุที่ขัดก็สึกกร่อนไปทีละนิดๆ และเรื่องแสงเนี่ย นิดเดียวก็มีผล
3. เทคโนโลยีการขัดผิว ควบคุมได้ error น้อยกว่าเดิม อย่าลืมว่านิดเดียวก็มีผลกับแสง
4. เลนส์มีเทคโนโลยี coating แบบใหม่ ลดการสูญเสียแสง
5. เทคโนโลยี focus อย่าง จาก screw หมุน เสียงฟืดฟาด ที่มีระยะ pit ของเกลียว จนพัฒนา สู่ liner motor ที่เข้าถึงตำแหน่งได้เกือบทันที มันก็นะ..
6. เรื่องกันละอองน้ำน้ำ กันฝุ่น กันหมอกเกาะ มันแพงเพราะต้องออกแบบเพื่อแก้ปัญหาสภาวะแบบนี้
7. สำคัญสุด ประกันศูนย์กับประกันร้าน ถ้าต่างกันมาก ก็แพงจริงๆ 55
1. เลนส์มีกันสั่น กับไม่มีกันสั่น
แพงแน่นอน เพราะ แค่มันขยับ ก็เปลี่ยนทิศทางแสงได้ เลนส์ต้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม การหักเหของแสงก็ต้องเหมาะสมเช่นกัน
แต่เมื่อก่อนบางค่าย mount นึงมีกันสั่น อีก mount นึงไม่มีกันสั่น ขายราคาพอๆกันเฉยเลย =_=
2. เลนส์มีชิ้นแก้วพิเศษ กับไม่มีชิ้นแก้วพิเศษ มีชิ้นเลนส์จำนวนมากแก้ไขภาพ
มีชิ้นแก้วจำนวนมากแก้อาการบิดเบี้ยว และให้ภาพคมขึ้น แต่ก็แลกมากกับการสูญเสียแสง หักเหเพิ่มขึ้น เดาว่าเขาแพงเพราะแก้ปัญหา
ชิ้นแก้วแก้การเหลื่อมล้ำของสี => เมื่อแสงเครื่องที่ผ่านวัสดุ จะมีความเร็วของแสงของแต่ละช่วงสีอาจไม่เท่ากัน ทำให้การหักเหของแต่ละช่วงคลื่นแสงไม่เหมือนกัน นึกถึงเขาใส่วัสดุที่เป็นฮีโร่มาแก้ปัญหา ซึ่งต้องขัดให้มีมุมตกกระทบพิเศษ เพื่อรวบรวมแสงที่กระจัดกระจายให้มันกลับมาเข้ารูปเข้ารอย เดาว่าแพงเพราะแก้ปัญหาเช่นกัน อาจใส่หลายชิ้นด้วย
หรือ ชิ้นแก้วพิเศษที่ทำให้ขอบดำลดแสงที่บริเวณขอบ เพื่อให้เกิด bokeh ละมุน ไม่คมขึ้นขอบ เกิด perfect bokeh ค่อยๆจางหายไป... แพงเพราะตอบสนองความต้องการ
แค่ชิ้นเลนส์ ลองจินตนาการว่าจะขัดยังไงให้มันเหมือนๆกันทุกๆ lot และเมื่อขัดไป วัสดุที่ขัดก็สึกกร่อนไปทีละนิดๆ และเรื่องแสงเนี่ย นิดเดียวก็มีผล
3. เทคโนโลยีการขัดผิว ควบคุมได้ error น้อยกว่าเดิม อย่าลืมว่านิดเดียวก็มีผลกับแสง
4. เลนส์มีเทคโนโลยี coating แบบใหม่ ลดการสูญเสียแสง
5. เทคโนโลยี focus อย่าง จาก screw หมุน เสียงฟืดฟาด ที่มีระยะ pit ของเกลียว จนพัฒนา สู่ liner motor ที่เข้าถึงตำแหน่งได้เกือบทันที มันก็นะ..
6. เรื่องกันละอองน้ำน้ำ กันฝุ่น กันหมอกเกาะ มันแพงเพราะต้องออกแบบเพื่อแก้ปัญหาสภาวะแบบนี้
7. สำคัญสุด ประกันศูนย์กับประกันร้าน ถ้าต่างกันมาก ก็แพงจริงๆ 55
แสดงความคิดเห็น
เลนส์กล้องแพงมันที่ยังไง
แล้วก็อยากให้ช่วยแนะนำเลนส์ดีๆให้ผมหน่อยผมใช้ canon EOS 4000d