อยากจะแชร์ เล่าประสบการณ์ของตัวเองที่เจอมา
และอยากชื่นชมน้ำใจ และ service mind ของพี่คนนี้ค่ะ
เราเป็นคนเชียงใหม่ค่ะ แต่มาทำงานที่กรุงเทพ
เมื่อวานกลับบ้านที่เชียงใหม่มาค่ะ
ไม่ได้เรียกจากสนามบินหรอกนะคะ
ที่บ้านมารับที่สนามบินค่ะ
แต่ๆๆเรื่องมีอยู่ว่า พอกลับบ้านไปเราก็มีปัญหากันนิดหน่อย
คือทะเลาะกับคนในครอบครัว ด้วยความน้อยใจ
ก็เลยจะออกไปข้างนอกบ้าน แต่ไม่อยากใช้รถที่บ้าน
เลยเปิดแอป grab แล้วเรียกเลยค่ะ
พี่เค้าคงอยู่แถวนั้นพอดี กดรับแล้วมารับไม่ถึง 5 นาที
พอขึ้นรถไป เราก็โทรหาแฟนแล้วระบายเรื่องไม่สบายใจให้ฟัง
เล่าไปก็ร้องไห้ไปตลอดทาง
พอถึงแอร์พอร์ตพลาซ่าที่เราปักหมุด
เราเลยรีบวางสาย แล้วขอโทษพี่เค้าที่คุยเสียงดังรบกวนตลอดทาง
พี่เค้าตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรหนู ลุงเข้าใจ ใจเย็นๆนะ
มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำนะลุงว่า
เราก็ร้องไห้เลยจ้าาาาาทีนี้
พี่เค้าก็พูดว่า ลุงขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้องไห้
ว่าแต่ หนูจะลงตรงนี้จริงๆหรอ มีใครอยู่ด้วยมั้ยเนี่ย
เราก็ตอบว่าไม่มีค่ะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปนั่งร้านกาแฟก็ได้ค่ะ
พี่เค้าก็เสนอว่า งั้นไปนั่งชิวๆร้านกาแฟมั้ย
ลุงพอรู้ร้านที่วัยรุ่นเค้าชอบไปกัน แถวๆหลังมอ
เราก็เลยตอบตกลงไป เพราะกะว่าจะเลี้ยงกาแฟพี่เค้าซะหน่อย
พอถึงร้าน พี่เค้าบอกว่า ให้รอมั้ย หรือให้กลับมารับกี่โมงเดี๋ยวเค้าจะกลับมารับเรา
เราก็เลยชวนพี่เค้าว่า มานั่งกินกาแฟด้วยกันดีกว่า พี่ขับรถมาไกลแล้ว
ด้วยความเกรงใจ พี่เค้าบอกเราว่า ไม่ต้องสั่งเผื่อนะ เค้าทานมาแล้ว
เราก็ไม่รู้จะยังไงดี เลยซื้อน้ำเปล่าให้เค้าไป
ระหว่างนั้น เค้าก็นั่งคุยเป็นเพื่อนเรา ชวนคุยเรื่อยเปื่อย
เพื่อให้เราใจเย็นลง เค้าบอกเราว่า ระบายมาได้เลยนะ
เค้ายินดีรับฟัง หรือถ้าอยากกลับบ้านก็บอกนะ เค้าจะไปส่ง
ตอนนั้นเราเกรงใจพี่เค้ามากๆ
คิดว่าเค้าเสียโอกาสรับลูกค้า มานั่งเป็นเพื่อนเราอีก
ไม่คิดเลยว่า จะมีคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มานั่งฟังเราระบายแบบนี้
เค้าบอกว่าเรียกลุงก็ได้ เพราะลูกเค้าก็อายุพอๆกะเรา
แต่เราบอกเรียกพี่ดีกว่า ดูไม่ห่างกันเกินไป 5555
นั่งคุยกันนานประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
คนที่บ้านก็โทรมาปรับความเข้าใจ
เราก็บอกพี่เค้าว่าเราคงต้องกลับไปทำความเข้าใจกะที่บ้าน
พี่เค้าก็ถามว่า ถ้ากลับไปแล้วต้องใจเย็นๆนะ
ไม่ออกบ้านแล้วร้องไห้แบบนี้แล้วนะ
เราก็โอเคแล้วใจเย็นขึ้นเยอะเลย
เค้าบอกเราว่า เป็นเพื่อนกันแล้วเดี๋ยวเค้าไปส่งไม่ต้องจ่ายเงินนะ
แต่เราบอกว่าไม่ได้ๆๆๆๆ ถึงเป็นเพื่อนกันแล้ว เราก็เกรงใจอยู่ดี
พอถึงบ้านเค้าไม่ยอมรับเงินเรา
เราเลยสแกน QR แล้วโอนเงินจ้าาา
อีกไม่นานพี่เค้ารีบทักกลับมา บอกจะโอนคืนให้เรา
คือตอนนั้นเราบอกเค้าไปว่า
ถ้าเทียบกับน้ำใจพี่ เงินที่หนูโอนไปมันน้อยมากๆเลยค่ะ
คือเรารู้สึกว่าเราโชคดีมากๆ ที่เจอผู้ให้บริการที่ใช้ใจแบบนี้
อยากแชร์ อยากชื่นชม
อยากให้ใครที่มีโอกาส ไปใช้บริการพี่เค้า
รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
จ่ายหลักร้อย บริการหลักล้าน จริงๆค่ะ
ขอแนบนามบัตรพี่เค้าไว้หน่อยนะคะ
ใครไปเชียงใหม่ เรียกพี่เค้าได้เลยค่ะ
คนดีๆเราต้องสนับสนุนค่ะ ☺️
ขอชื่นชม พี่ Grab car เชียงใหม่ค่ะ
และอยากชื่นชมน้ำใจ และ service mind ของพี่คนนี้ค่ะ
เราเป็นคนเชียงใหม่ค่ะ แต่มาทำงานที่กรุงเทพ
เมื่อวานกลับบ้านที่เชียงใหม่มาค่ะ
ไม่ได้เรียกจากสนามบินหรอกนะคะ
ที่บ้านมารับที่สนามบินค่ะ
แต่ๆๆเรื่องมีอยู่ว่า พอกลับบ้านไปเราก็มีปัญหากันนิดหน่อย
คือทะเลาะกับคนในครอบครัว ด้วยความน้อยใจ
ก็เลยจะออกไปข้างนอกบ้าน แต่ไม่อยากใช้รถที่บ้าน
เลยเปิดแอป grab แล้วเรียกเลยค่ะ
พี่เค้าคงอยู่แถวนั้นพอดี กดรับแล้วมารับไม่ถึง 5 นาที
พอขึ้นรถไป เราก็โทรหาแฟนแล้วระบายเรื่องไม่สบายใจให้ฟัง
เล่าไปก็ร้องไห้ไปตลอดทาง
พอถึงแอร์พอร์ตพลาซ่าที่เราปักหมุด
เราเลยรีบวางสาย แล้วขอโทษพี่เค้าที่คุยเสียงดังรบกวนตลอดทาง
พี่เค้าตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไรหนู ลุงเข้าใจ ใจเย็นๆนะ
มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน ยังไงเลือดก็ข้นกว่าน้ำนะลุงว่า
เราก็ร้องไห้เลยจ้าาาาาทีนี้
พี่เค้าก็พูดว่า ลุงขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจจะให้ร้องไห้
ว่าแต่ หนูจะลงตรงนี้จริงๆหรอ มีใครอยู่ด้วยมั้ยเนี่ย
เราก็ตอบว่าไม่มีค่ะ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวไปนั่งร้านกาแฟก็ได้ค่ะ
พี่เค้าก็เสนอว่า งั้นไปนั่งชิวๆร้านกาแฟมั้ย
ลุงพอรู้ร้านที่วัยรุ่นเค้าชอบไปกัน แถวๆหลังมอ
เราก็เลยตอบตกลงไป เพราะกะว่าจะเลี้ยงกาแฟพี่เค้าซะหน่อย
พอถึงร้าน พี่เค้าบอกว่า ให้รอมั้ย หรือให้กลับมารับกี่โมงเดี๋ยวเค้าจะกลับมารับเรา
เราก็เลยชวนพี่เค้าว่า มานั่งกินกาแฟด้วยกันดีกว่า พี่ขับรถมาไกลแล้ว
ด้วยความเกรงใจ พี่เค้าบอกเราว่า ไม่ต้องสั่งเผื่อนะ เค้าทานมาแล้ว
เราก็ไม่รู้จะยังไงดี เลยซื้อน้ำเปล่าให้เค้าไป
ระหว่างนั้น เค้าก็นั่งคุยเป็นเพื่อนเรา ชวนคุยเรื่อยเปื่อย
เพื่อให้เราใจเย็นลง เค้าบอกเราว่า ระบายมาได้เลยนะ
เค้ายินดีรับฟัง หรือถ้าอยากกลับบ้านก็บอกนะ เค้าจะไปส่ง
ตอนนั้นเราเกรงใจพี่เค้ามากๆ
คิดว่าเค้าเสียโอกาสรับลูกค้า มานั่งเป็นเพื่อนเราอีก
ไม่คิดเลยว่า จะมีคนที่ไม่รู้จักกันมาก่อน มานั่งฟังเราระบายแบบนี้
เค้าบอกว่าเรียกลุงก็ได้ เพราะลูกเค้าก็อายุพอๆกะเรา
แต่เราบอกเรียกพี่ดีกว่า ดูไม่ห่างกันเกินไป 5555
นั่งคุยกันนานประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง
คนที่บ้านก็โทรมาปรับความเข้าใจ
เราก็บอกพี่เค้าว่าเราคงต้องกลับไปทำความเข้าใจกะที่บ้าน
พี่เค้าก็ถามว่า ถ้ากลับไปแล้วต้องใจเย็นๆนะ
ไม่ออกบ้านแล้วร้องไห้แบบนี้แล้วนะ
เราก็โอเคแล้วใจเย็นขึ้นเยอะเลย
เค้าบอกเราว่า เป็นเพื่อนกันแล้วเดี๋ยวเค้าไปส่งไม่ต้องจ่ายเงินนะ
แต่เราบอกว่าไม่ได้ๆๆๆๆ ถึงเป็นเพื่อนกันแล้ว เราก็เกรงใจอยู่ดี
พอถึงบ้านเค้าไม่ยอมรับเงินเรา
เราเลยสแกน QR แล้วโอนเงินจ้าาา
อีกไม่นานพี่เค้ารีบทักกลับมา บอกจะโอนคืนให้เรา
คือตอนนั้นเราบอกเค้าไปว่า
ถ้าเทียบกับน้ำใจพี่ เงินที่หนูโอนไปมันน้อยมากๆเลยค่ะ
คือเรารู้สึกว่าเราโชคดีมากๆ ที่เจอผู้ให้บริการที่ใช้ใจแบบนี้
อยากแชร์ อยากชื่นชม
อยากให้ใครที่มีโอกาส ไปใช้บริการพี่เค้า
รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ
จ่ายหลักร้อย บริการหลักล้าน จริงๆค่ะ
ขอแนบนามบัตรพี่เค้าไว้หน่อยนะคะ
ใครไปเชียงใหม่ เรียกพี่เค้าได้เลยค่ะ
คนดีๆเราต้องสนับสนุนค่ะ ☺️