ฮ่องกง ปะทะเดือด!!! ตำรวจรุมฉีด สเปรย์พริกไทย ใส่ผู้ประท้วง!!! จัดเต็ม แก๊สน้ำตา กระสุนยาง เหมือนเช่นเคย!!!

นาที 4.09 - สเปรย์พริกไทย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ





https://www.scmp.com/news/hong-kong/politics/article/3034750/hong-kong-police-fire-tear-gas-anti-government-protesters



https://www.dailynews.co.th/foreign/738663
https://www.matichon.co.th/foreign/news_1729366

27/10/2019

ม็อบฮ่องกง ปะทะเดือดตำรวจ แก๊สน้ำตา กระสุนยาง ว่อน

ตำรวจปราบจลาจลฮ่องกงยิงกระสุนแก๊สน้ำตา และกระสุนยาง สลายการชุมนุม
ของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งนัดรวมตัวประท้วงโดยฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันอาทิตย์

สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงของจีน เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ว่า ตำรวจฮ่องกงระดมกำลังล่วงหน้า เมื่อวันอาทิตย์ กระจายกำลังบนริมอ่าวฝั่งเกาลูน และเตือนผู้ประท้วง ให้ออกจากย่านนักท่องเที่ยวจิมซาจุ่ย ซึ่งอยู่ตรงข้ามโรงแรมเพนินซูลา ยุคอาณานิคมอังกฤษ แต่จำนวนผู้ประท้วงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปิดฉากปะทะกับตำรวจ เมื่อช่วงเย็น มีผู้ได้รับบาดเจ็บรายหนึ่งถูกนำขึ้นรถพยาบาลฉุกเฉินส่งโรงพยาบาล และผู้ประท้วงถูกตำรวจควบคุมตัวหลายคน

กลุ่มผู้ประท้วงยังคงใช้วิธีการแบบแมวจับหนู ในการต่อกรกับตำรวจ โดยแยกออกเป็นกลุ่มย่อย สร้างเครื่องกีดขวางบนถนน และขว้างปาก้อนหินและระเบิดเพลิงใส่ตำรวจ เมื่อเกิดการเผชิญหน้า ก่อนจะใช้ความรวดเร็วแยกย้ายกันหลบหนี เพื่อไปเจอกันใหม่ตามจุดที่ตกลงกันไว้ ทางด้านนายตำรวจอาวุโสรายหนึ่งเผยว่า ตำรวจควบคุมฝูงชนหลายนายได้รับบาดเจ็บ จากการถูกผู้ประท้วงตีด้วยท่อนเหล็กและร่ม

การประท้วงทุกสุดสัปดาห์ในฮ่องกง ดำนเนินมากว่า 4 เดือน โดยเริ่มจากการต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งแม้ทางการฮ่องกงจะตัดสินใจยกเลิกกฎหมายฉบัยนี้ แต่การประท้วงยังดำนเนินต่อไป เนื่องจากแกนนำผู้ประท้วงได้เพิ่มข้อเรียกร้องอีก 5 ข้อ และยืนยันให้รัฐบาลฮ่องกงตอบสนองทุกข้อ โดยข้อเรียกร้องรวมถึง ให้มีการสอบสวนอิสระ การใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจ ให้ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมกว่า 2,500 คนโดยไร้เงื่อนไข และให้มีการเลือกตั้งฮ่องกงโดยเสรี 100 % ซึ่งทุกข้อถูกปฏิเสธโดยรัฐบาลปักกิ่ง และนางแคร์รี่ แลม หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตฮ่องกง



https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/852048











แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่