สวัสดีครับเพื่อนๆ
ผมกลับมาพบเพื่อนๆอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ข้ามปี
เนื่องด้วยต้องขยันทำงานหาเลี้ยงชีพ.... เพื่อจะได้มีเงินไปเที่ยว 555
สำหรับชื่อเต็มของตอนนี้ ตามที่ตั้งใจไว้ คือ
รีวิวเที่ยว ชมภูเขาไฟฟูจิ เมืองคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) เมืองมรดกโลกนิกโก (Nikko) และ โตเกียว (Tokyo) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตุลาคมปลายฤดูฝน 11 วัน (ตอนที่ 1) การควานหาเส้นทางไปสู่จุดหมาย เมื่อไต้ฝุ่นฮากิบิส (Hagibis) ถล่มเส้นทางมาตรฐาน ที่วางแผนไว้จนเกลี้ยง กับการหาวิธีเดินทางกลับนาริตะสุดระทึก เมื่อถูก NEX ทิ้งกลางทางเพราะพายุถล่มซ้ำวันกลับ
เนื่องด้วยชื่อหัวข้อจำกัดที่ 120 ตัวอักษร จำต้องย่อเหลือเท่าที่เห็น
ตลอดทั้งทริปครั้งนี้ สนุก และเหนื่อยมาก กว่าจะเที่ยวได้ครบทุกกิจกรรมตามที่ตั้งใจไว้ ก็มี Event ให้สตั้นเป็นระยะๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ
จึงอยากแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอ ที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ ให้เพื่อนๆ ทราบครับ
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 11 วัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ซึ่งตอนนั้น ผมลืมเผื่องบสำหรับพร๊อพกันหนาวกันหิมะ ทำให้ต้องเบิกเงินเก็บมาเที่ยว ช้ำใจไปพอสมควร
ถ้าเพื่อนๆท่านใดสนใจประสบการณ์การเตรียมตัวไปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวของผมครั้งที่แล้ว ดูได้จากกระทู้ด้านล่างครับ
เที่ยว ฮอกไกโด โอซาก้า ช่วงต้นหนาว 2017 วางแผนครึ่งปี เที่ยว 11 วัน กับค่าใช้จ่ายที่เกินงบไปเยอะ by KOR_2012
https://pantip.com/topic/37909450
เอาล่ะ..... เวิ่นเว้อมาเยอะล่ะ
เข้าเรื่องกันเสียที
เนื้อหาที่เขียน ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก ย่อสุดๆ
ส่วนสอง ถ้าคิดว่าส่วนแรกย่อมากไป อันนี้เป็นขยายความส่วนที่ย่อ
ส่วนสาม อันนี้เวิ่นเว้อล่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเวลา หรืออยากทราบที่มาที่ไป
ส่วนแรก ย่อสุดๆ
1. ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีฝนตก มีมรสุม และมีโอกาสเจอพายุไต้ฝุ่น
2. หากเที่ยวช่วงนี้ ควรเผื่อทางเลือกเมื่อต้องผจญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ ควรศึกษาวิธีการเดินทางด้วยเส้นทางอื่นๆ
เช่น สถานที่ขึ้นรถบัส และรถไฟท้องถิ่นเผื่อไว้ กรณีขนวนรถไฟยอดนิยมหยุดให้บริการ และควรเผื่อแผนเที่ยวไว้หลายแบบ
กรณีหาทางวิธีการเดินทางไปเมืองปลายทางไม่ได้
3. กรณีพบเหตุสุดวิสัยที่เกี่ยวกับการเดินทาง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
และเกาะกลุ่มกับนักท่องเที่ยวด้วยกันเอาไว้ เพราะอย่างไรก็ถึงจุดหมาย
อันนี้เป็นแผนที่รถไฟของ JR East & Keisei
เจ้าหน้าที่ของ NEX แนะนำให้เดินทางต่อหลังจากที่ NEX ต้องหยุดที่สถานี Funabashi เนื่องจากฝนตกหนัก
ซับซ้อนดีไหมครับ ........ 555
ถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่แต่ละสถานีช่วยแนะนำ ส่งต่อ เปิดทางด่วนผ่านประตูเข้าชานชลาโดยไม่ต้องใช้ตั๋ว และช่วยชี้ขบวนที่ต้องขึ้น หลงชัวร์ครับ
ถ้าไม่มีได้เดินตามเพื่อนๆ ร่วมขบวน NEX ช่วยชี้เป้าว่า สถานีไหนควรจะลง ก็หลงชัวร์เหมือนกันครับ
ถ้าเพื่อนๆ ว่าง ลองหาทางจาก Funabashi Station ไป Narita Airport จากแผนที่ดูครับ
ผมขอเก็บไว้เฉลยในส่วน 2 นะ
คำไบ้
ผมขึ้น Nex จาก Tokyo Station, ฝนตกหนัก Nex ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวที่สถานี Funabashi,
เดินข้ามสถานีจาก JR ไป Keisei, สาย Keisei ไปไม่ถึงนาริตะ หยุดที่สถานี Sakura,
ต้องนั่งรถย้อนกลับมาเพื่อหาไปทางขึ้น Narita Sky Access Line
*มีคำไบ้เพิ่มเติมในข้อ 10 ครับ
4. กรณีพบเหตุสุดวิสัยที่อาจทำให้การเที่ยวไม่เป็นไปตามแผน ก็ต้องทำใจ แล้วคิดหาทางแก้ไข
5. ปกติแล้ว การเดินทางไปเมืองต่างๆ มีมากกว่า 1 ช่องทาง
อย่ายอมแพ้ ค่อยๆค้นหาวิธีเดี๋ยวก็พบ
อุปกรณ์หาเส้นทาง เช่น Google Map, Hyperdia, Application ของ JR East และอื่นๆ
6. ก่อนเที่ยว แนะนำให้ซื้อประกันการเดินทาง จากบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยเราก็ได้เงินชดเชยคืนมาบ้างกรณีพบเหตุสุดวิสัยต่างๆ
ที่สำคัญควรศึกษาเงื่อนไขว่า แต่ละเหตุต้องการหลักฐานใดในการเครมบ้าง
7. แนะนำให้เปิด Roaming Call&SMS ไว้รับแจ้งเหตุเตือนภัยจากทางการญี่ปุ่น
รูปซ้ายเป็น SMS ที่ได้จากการเปิด Roaming เป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก
ผม Capture หน้าจอ แล้วนำมาแปลด้วย Google Translate
8. แนะนำให้ Follow Twitter Account ของ JNTO, TOBU Railway และ JR East หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆที่เราใช้เดินทาง
เพื่อเป็นช่องทางในการอัพเดทข่าวสารต่างๆ
ตัวอย่างด้านล่าง เป็น Capture หน้าจอ Twitter ของ JNTO แจ้งว่า เส้นทางรถบัสไปคาวากุจิโกะ ที่ออกจาก Shinjuku Station กับ Tokyo Station
หยุดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบจากไต้ฝุ่นฮากิบิส
อันนี้ผมพบในวันที่ 16 ต.ค. หลังจากไปซื้อตั๋วรถไฟที่ Shinjuku แล้วพบว่า รถไฟหยุดวิ่งชั่วคราวเนื่องจากรางขาด เค้าแนะนำให้ไปซื้อตั๋วรถบัส Shinjuku
เมื่อไปถึงสถานีรถบัส Shinjuku พบว่า รถบัสจาก Shinjuku หยุดวิ่งเนื่องจากถนนขาด เค้าแนะนำให้ไปซื้อตั๋วรถบัสที่ออกจาก Shibuya แทน
หลังจากส่งสัย ก็มาดู Twitter ของ JNTO ย้อนหลัง พบว่า มีแจ้งเตือนตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. ......
ถ้ารู้เรื่องนี้ตั้งแต่กรุงเทพ จะได้เปลี่ยนที่พักจาก Shinjuku ไป Shibuya ...... พลาด 555
9. แนะนำให้ Download Application ที่เกี่ยวกับพยากรณ์อากาศมาติดเครื่องมือถือไว้
มีประโยชน์ในการใช้เป็นข้อมูลในการเตรียมเครื่องแต่งกายในแต่ละวัน
อันนี้เป็น App Storm Radar ที่ผมเลือกใช้ครับ
แม่นใช้ได้ ข้อมูลละเอียดถึงรายชั่วโมง แสดงทั้งปริมาณน้ำฝน และ %พื้นที่ที่ฝนตก
มีกราฟแสดงอุณภูมิ สูงสุด/ต่ำสุด ของแต่ละวัน ว่าเกิดกี่โมง
บอกปริมาณน้ำฝนแต่ละชั่วโมง ตัวอย่าง วันที่ 26 รวมกันทั้งวัน 2 mm. ตกช่วงค่ำ เป็นฝนตกปรอยๆ
วันที่ 25 รวมกันทั้งวัน 74 mm. ตกช่วงกลางวัน
รวมถึงแสดง %การตกของฝนครอบคลุมกี่เปอร์เซ้นต์ของพื้นที่ด้วย
กดดูเพื่อดูปริมาณน้ำฝนแต่ละชั่วโมงได้ด้วย
หากดูแล้วว่าฝนตกหนักช่วงใด เราสามารถหาที่หลบฝนช่วงนั้น
แผนภาพแสดงพื้นที่ที่ฝนตก สีแดงฝนตกหนัก สีเขียวฝนตกปรอยๆ
อันนี้เป็นรูปของวันที่ 25 ต.ค.
มีแสดงข้อมูลเส้นทางของไต้ฝุ่น
อันนี้เป็นของวันกลับ 25 ต.ค. มีพายุเข้า 2 ลูก
ถึงแม้ตาพายุผ่านห่างๆ แต่เมฆฝนที่เกิดจากพายุ โดนญี่ปุ่นเต็มๆ
10. ถ้าได้รับ SMS เตือนตามข้อ 7 และยังอยู่บนรถไฟ
แนะนำให้สักเกต สถานีปลายทางในจอมอนิเตอร์ เป็นระยะๆ
เพราะบางขบวนอาจวิ่งแบบจำกัดสถานีอาจมีการเปลี่ยนแปลง
อันนี้เป็นวันกลับ NEX หยุดวิ่งกลางทาง ไปต่อด้วยขบวน KEISEI ที่ปกติวิ่งเข้า Narita (ตามเส้นสีน้ำเงินเข้ม)
ตอนขึ้นรถไฟ เช็คเส้นทางด้วย Google Map ว่าขบวนนี้ไปถึงสถามบินนาริตะ
หลังพอฝนตกหนักต่อเนื่อง รถไฟวิ่งถึงแค่สถานี Sakura (เหลือแค่ for Sakura ตามรูปด้านล่าง)
*คำไบ้ของข้อ 3 (เพิ่มเติม) : ชื่อสถานีที่แสดงในหน้าจอมอนิเตอร์ ในรถไฟของ Keisei
จะตัดคำว่า Keisei ออก เช่น Keisei-Sakura จะเหลือเพียง Sakura
ซึ่งเป็นคนละสถานีกับ Sakura ของ JR East
หลังขบวนรถไฟจอดที่สถานี Sakura พอเช็คกับ Google Map ก็แสดงข้อมูล No Service
แสดงว่า ข้อมูลจาก Google Map ค่อนข้างทันเหตุการณ์ เชื่อถือได้
เมื่อถึงสถานี Sakura ก็มีเจ้าหน้าที่สถานี เข้ามาแนะนำนักท่องเที่ยวต่อว่า ควรจะเดินทางด้วยเส้นทางใดต่อ (ตามข้อ 3)
ถ้าอยากหาข้อมูลจากแหล่งอื่นมายืนยัน
สำหรับเพื่อนๆที่เดินทางด้วยรถไฟ JR ในแถบคันโต แนะนำ Application ที่ชื่อ Train Info ของ JR East ครับ (ตามรูปด้านล่าง)
ผมลองใช้ล่ะ ข้อมูลค่อนข้างอัพเดท ถ้ารางชำรุด ขบวนล่าช้า หรืออื่นๆ
Application จะแสดง Icon เครื่องหมายเตือน
ตามรูปด้านล่าง มีคำว่า Construction แสดงว่าเส้นทางมีปัญหา ควรหลีกเลี่ยงไปเส้นทางอื่น เป็นต้น
11. ควรจองโรงแรมจากตัวแทนที่ให้เงินคืนหากจำเป็นต้องยกเลิก
ซึ่งปัจจุบัน Website จองเค้าโรงแรมส่วนใหญ่ เค้าคืนเงินให้หากยกเลิกภายในเวลาที่กำหนด
ถึง Website จองจะไม่คิดค่ายกเลิก แต่บางโรงแรมอาจคิดค่าธรรมเนียมยกเลิก 1 คืน เป็นค่าเสียโอกาส
โดยเฉพาะโรงแรมยอดนิยม ที่อยู่ใกล้สถานี ถ้ามีโอกาสดูตรงนี้ก่อนจองด้วยก็ดีครับ
บาง Website มี Option ให้เลือก ทั้งแบบคืนเงิน หรือแบบไม่คืนเงิน
ถึงแม้ว่า Option การจองแบบยกเลิกและคืนเงิน จะต้องเพิ่มเงินอีกนิด
แต่ก็คุ้มหากเราจำเป็นต้องยกเลิกขึ้นมา เพราะหากยกเลิกไม่ได้
เราต้องเสียเงินจองทั้งก้อน พร้อมทั้งต้องเสียเงินจองโรงแรมใหม่ กลายเป็นเสีย 2 ต่อ
รูปซ้าย เป็นแผนเดิมก่อนฮากิบิสเข้าญี่ปุ่น
รูปกลาง เป็นการขยับแผนหลังฮากิบิสเข้าญี่ปุ่น ยกเลิกจองโรงแรมที่นิกโก จากเดิมไปช่วงแรก แล้วจองใหม่เป็นช่วงท้าย
ทางโรงแรมหักค่าธรรมเนียมการยกเลิก 1 คืน (จากทั้งหมด 3 คืน)
รูปขวา ตอนอยู่คาวากุจิโกะ พึ่งทราบว่าทางรถไฟของโทบุไปนิกโกขาด
ระหว่างหาเส้นทางใหม่ ก็ยกเลิกการจองโรงแรมที่นิกโกตามรูปกลางไปก่อน โรงแรมนี้ไม่หักค่าธรรมเนียม ได้เงินคืนเต็มจำนวน
หลังจากหาเส้นทางใหม่ได้ คือ ไปด้วยทางรถไฟของ JR East ก็กลับไปจองโรงแรมเดิมอีกครั้ง
แต่เนื่องจากโรงแรมเดิมเหลือว่างแค่ 2 คืน คืนสุดท้ายจึงต้องย้ายที่พักไปโรงแรมใกล้เคียง
สรุปคือ เที่ยวครั้งนี้ ได้ยกเลิกโรงแรมไป 2 รอบ พบว่า ไม่ยากอย่างที่คิด 555
ได้ประสบการณ์ว่า ครั้งต่อไป ก่อนจอง ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละโรงแรมว่ามีค่าธรรมเนียมยกเลิกหรือไม่
ถึงจะถูกกว่า ก็คงต้องขอผ่านไปก่อน 555
พอจองใหม่แบบจองใกล้วันเข้าพัก ก็พบว่า ราคาไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่คิด แพงกว่าจองล่วงหน้าหลายเดือนแค่หลักร้อย
ที่อาจเสี่ยง ที่พักที่ต้องการใน Website จอง อาจเต็ม
12. เตรียมสุขภาพ
ถ้าตากฝนแล้วเป็นไข้ ไม่สบาย ก็คงเที่ยวไม่สนุก
เดี๋ยวมาต่อส่วนสอง ใน Comment ด้านล่างนะครับ
[CR] ประสบการณ์เที่ยว คาวากุจิโกะ(Kawaguchiko) นิกโก(Nikko) ใบไม้เปลี่ยนสี 11 วัน ผจญกรรมหลังฮากิบิสถล่มเส้นทางรถไฟจนเกลี้ยง
ผมกลับมาพบเพื่อนๆอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ข้ามปี
เนื่องด้วยต้องขยันทำงานหาเลี้ยงชีพ.... เพื่อจะได้มีเงินไปเที่ยว 555
สำหรับชื่อเต็มของตอนนี้ ตามที่ตั้งใจไว้ คือ
รีวิวเที่ยว ชมภูเขาไฟฟูจิ เมืองคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) เมืองมรดกโลกนิกโก (Nikko) และ โตเกียว (Tokyo) ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ตุลาคมปลายฤดูฝน 11 วัน (ตอนที่ 1) การควานหาเส้นทางไปสู่จุดหมาย เมื่อไต้ฝุ่นฮากิบิส (Hagibis) ถล่มเส้นทางมาตรฐาน ที่วางแผนไว้จนเกลี้ยง กับการหาวิธีเดินทางกลับนาริตะสุดระทึก เมื่อถูก NEX ทิ้งกลางทางเพราะพายุถล่มซ้ำวันกลับ
เนื่องด้วยชื่อหัวข้อจำกัดที่ 120 ตัวอักษร จำต้องย่อเหลือเท่าที่เห็น
ตลอดทั้งทริปครั้งนี้ สนุก และเหนื่อยมาก กว่าจะเที่ยวได้ครบทุกกิจกรรมตามที่ตั้งใจไว้ ก็มี Event ให้สตั้นเป็นระยะๆ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อยๆ
จึงอยากแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอ ที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ ให้เพื่อนๆ ทราบครับ
หลังจากเก็บเกี่ยวประสบการณ์เที่ยวฮอกไกโด หน้าหนาว 11 วัน เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
ซึ่งตอนนั้น ผมลืมเผื่องบสำหรับพร๊อพกันหนาวกันหิมะ ทำให้ต้องเบิกเงินเก็บมาเที่ยว ช้ำใจไปพอสมควร
ถ้าเพื่อนๆท่านใดสนใจประสบการณ์การเตรียมตัวไปเที่ยวฮอกไกโดหน้าหนาวของผมครั้งที่แล้ว ดูได้จากกระทู้ด้านล่างครับ
เที่ยว ฮอกไกโด โอซาก้า ช่วงต้นหนาว 2017 วางแผนครึ่งปี เที่ยว 11 วัน กับค่าใช้จ่ายที่เกินงบไปเยอะ by KOR_2012
https://pantip.com/topic/37909450
เอาล่ะ..... เวิ่นเว้อมาเยอะล่ะ
เข้าเรื่องกันเสียที
เนื้อหาที่เขียน ขอแบ่งเป็น 3 ส่วน
ส่วนแรก ย่อสุดๆ
ส่วนสอง ถ้าคิดว่าส่วนแรกย่อมากไป อันนี้เป็นขยายความส่วนที่ย่อ
ส่วนสาม อันนี้เวิ่นเว้อล่ะ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีเวลา หรืออยากทราบที่มาที่ไป
ส่วนแรก ย่อสุดๆ
1. ฤดูใบไม้เปลี่ยนสี อยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาว มีฝนตก มีมรสุม และมีโอกาสเจอพายุไต้ฝุ่น
2. หากเที่ยวช่วงนี้ ควรเผื่อทางเลือกเมื่อต้องผจญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ ควรศึกษาวิธีการเดินทางด้วยเส้นทางอื่นๆ
เช่น สถานที่ขึ้นรถบัส และรถไฟท้องถิ่นเผื่อไว้ กรณีขนวนรถไฟยอดนิยมหยุดให้บริการ และควรเผื่อแผนเที่ยวไว้หลายแบบ
กรณีหาทางวิธีการเดินทางไปเมืองปลายทางไม่ได้
3. กรณีพบเหตุสุดวิสัยที่เกี่ยวกับการเดินทาง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่
และเกาะกลุ่มกับนักท่องเที่ยวด้วยกันเอาไว้ เพราะอย่างไรก็ถึงจุดหมาย
อันนี้เป็นแผนที่รถไฟของ JR East & Keisei
เจ้าหน้าที่ของ NEX แนะนำให้เดินทางต่อหลังจากที่ NEX ต้องหยุดที่สถานี Funabashi เนื่องจากฝนตกหนัก
ซับซ้อนดีไหมครับ ........ 555
ถ้าไม่ได้เจ้าหน้าที่แต่ละสถานีช่วยแนะนำ ส่งต่อ เปิดทางด่วนผ่านประตูเข้าชานชลาโดยไม่ต้องใช้ตั๋ว และช่วยชี้ขบวนที่ต้องขึ้น หลงชัวร์ครับ
ถ้าไม่มีได้เดินตามเพื่อนๆ ร่วมขบวน NEX ช่วยชี้เป้าว่า สถานีไหนควรจะลง ก็หลงชัวร์เหมือนกันครับ
ถ้าเพื่อนๆ ว่าง ลองหาทางจาก Funabashi Station ไป Narita Airport จากแผนที่ดูครับ
ผมขอเก็บไว้เฉลยในส่วน 2 นะ
คำไบ้
ผมขึ้น Nex จาก Tokyo Station, ฝนตกหนัก Nex ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวที่สถานี Funabashi,
เดินข้ามสถานีจาก JR ไป Keisei, สาย Keisei ไปไม่ถึงนาริตะ หยุดที่สถานี Sakura,
ต้องนั่งรถย้อนกลับมาเพื่อหาไปทางขึ้น Narita Sky Access Line
*มีคำไบ้เพิ่มเติมในข้อ 10 ครับ
4. กรณีพบเหตุสุดวิสัยที่อาจทำให้การเที่ยวไม่เป็นไปตามแผน ก็ต้องทำใจ แล้วคิดหาทางแก้ไข
5. ปกติแล้ว การเดินทางไปเมืองต่างๆ มีมากกว่า 1 ช่องทาง
อย่ายอมแพ้ ค่อยๆค้นหาวิธีเดี๋ยวก็พบ
อุปกรณ์หาเส้นทาง เช่น Google Map, Hyperdia, Application ของ JR East และอื่นๆ
6. ก่อนเที่ยว แนะนำให้ซื้อประกันการเดินทาง จากบริษัทประกันที่น่าเชื่อถือ
เพื่อให้มั่นใจได้ว่า อย่างน้อยเราก็ได้เงินชดเชยคืนมาบ้างกรณีพบเหตุสุดวิสัยต่างๆ
ที่สำคัญควรศึกษาเงื่อนไขว่า แต่ละเหตุต้องการหลักฐานใดในการเครมบ้าง
7. แนะนำให้เปิด Roaming Call&SMS ไว้รับแจ้งเหตุเตือนภัยจากทางการญี่ปุ่น
รูปซ้ายเป็น SMS ที่ได้จากการเปิด Roaming เป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านไม่ออก
ผม Capture หน้าจอ แล้วนำมาแปลด้วย Google Translate
8. แนะนำให้ Follow Twitter Account ของ JNTO, TOBU Railway และ JR East หรือผู้ให้บริการรายอื่นๆที่เราใช้เดินทาง
เพื่อเป็นช่องทางในการอัพเดทข่าวสารต่างๆ
ตัวอย่างด้านล่าง เป็น Capture หน้าจอ Twitter ของ JNTO แจ้งว่า เส้นทางรถบัสไปคาวากุจิโกะ ที่ออกจาก Shinjuku Station กับ Tokyo Station
หยุดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากผลกระทบจากไต้ฝุ่นฮากิบิส
อันนี้ผมพบในวันที่ 16 ต.ค. หลังจากไปซื้อตั๋วรถไฟที่ Shinjuku แล้วพบว่า รถไฟหยุดวิ่งชั่วคราวเนื่องจากรางขาด เค้าแนะนำให้ไปซื้อตั๋วรถบัส Shinjuku
เมื่อไปถึงสถานีรถบัส Shinjuku พบว่า รถบัสจาก Shinjuku หยุดวิ่งเนื่องจากถนนขาด เค้าแนะนำให้ไปซื้อตั๋วรถบัสที่ออกจาก Shibuya แทน
หลังจากส่งสัย ก็มาดู Twitter ของ JNTO ย้อนหลัง พบว่า มีแจ้งเตือนตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. ......
ถ้ารู้เรื่องนี้ตั้งแต่กรุงเทพ จะได้เปลี่ยนที่พักจาก Shinjuku ไป Shibuya ...... พลาด 555
9. แนะนำให้ Download Application ที่เกี่ยวกับพยากรณ์อากาศมาติดเครื่องมือถือไว้
มีประโยชน์ในการใช้เป็นข้อมูลในการเตรียมเครื่องแต่งกายในแต่ละวัน
อันนี้เป็น App Storm Radar ที่ผมเลือกใช้ครับ
แม่นใช้ได้ ข้อมูลละเอียดถึงรายชั่วโมง แสดงทั้งปริมาณน้ำฝน และ %พื้นที่ที่ฝนตก
มีกราฟแสดงอุณภูมิ สูงสุด/ต่ำสุด ของแต่ละวัน ว่าเกิดกี่โมง
บอกปริมาณน้ำฝนแต่ละชั่วโมง ตัวอย่าง วันที่ 26 รวมกันทั้งวัน 2 mm. ตกช่วงค่ำ เป็นฝนตกปรอยๆ
วันที่ 25 รวมกันทั้งวัน 74 mm. ตกช่วงกลางวัน
รวมถึงแสดง %การตกของฝนครอบคลุมกี่เปอร์เซ้นต์ของพื้นที่ด้วย
กดดูเพื่อดูปริมาณน้ำฝนแต่ละชั่วโมงได้ด้วย
หากดูแล้วว่าฝนตกหนักช่วงใด เราสามารถหาที่หลบฝนช่วงนั้น
แผนภาพแสดงพื้นที่ที่ฝนตก สีแดงฝนตกหนัก สีเขียวฝนตกปรอยๆ
อันนี้เป็นรูปของวันที่ 25 ต.ค.
มีแสดงข้อมูลเส้นทางของไต้ฝุ่น
อันนี้เป็นของวันกลับ 25 ต.ค. มีพายุเข้า 2 ลูก
ถึงแม้ตาพายุผ่านห่างๆ แต่เมฆฝนที่เกิดจากพายุ โดนญี่ปุ่นเต็มๆ
10. ถ้าได้รับ SMS เตือนตามข้อ 7 และยังอยู่บนรถไฟ
แนะนำให้สักเกต สถานีปลายทางในจอมอนิเตอร์ เป็นระยะๆ
เพราะบางขบวนอาจวิ่งแบบจำกัดสถานีอาจมีการเปลี่ยนแปลง
อันนี้เป็นวันกลับ NEX หยุดวิ่งกลางทาง ไปต่อด้วยขบวน KEISEI ที่ปกติวิ่งเข้า Narita (ตามเส้นสีน้ำเงินเข้ม)
ตอนขึ้นรถไฟ เช็คเส้นทางด้วย Google Map ว่าขบวนนี้ไปถึงสถามบินนาริตะ
หลังพอฝนตกหนักต่อเนื่อง รถไฟวิ่งถึงแค่สถานี Sakura (เหลือแค่ for Sakura ตามรูปด้านล่าง)
*คำไบ้ของข้อ 3 (เพิ่มเติม) : ชื่อสถานีที่แสดงในหน้าจอมอนิเตอร์ ในรถไฟของ Keisei
จะตัดคำว่า Keisei ออก เช่น Keisei-Sakura จะเหลือเพียง Sakura
ซึ่งเป็นคนละสถานีกับ Sakura ของ JR East
หลังขบวนรถไฟจอดที่สถานี Sakura พอเช็คกับ Google Map ก็แสดงข้อมูล No Service
แสดงว่า ข้อมูลจาก Google Map ค่อนข้างทันเหตุการณ์ เชื่อถือได้
เมื่อถึงสถานี Sakura ก็มีเจ้าหน้าที่สถานี เข้ามาแนะนำนักท่องเที่ยวต่อว่า ควรจะเดินทางด้วยเส้นทางใดต่อ (ตามข้อ 3)
ถ้าอยากหาข้อมูลจากแหล่งอื่นมายืนยัน
สำหรับเพื่อนๆที่เดินทางด้วยรถไฟ JR ในแถบคันโต แนะนำ Application ที่ชื่อ Train Info ของ JR East ครับ (ตามรูปด้านล่าง)
ผมลองใช้ล่ะ ข้อมูลค่อนข้างอัพเดท ถ้ารางชำรุด ขบวนล่าช้า หรืออื่นๆ
Application จะแสดง Icon เครื่องหมายเตือน
ตามรูปด้านล่าง มีคำว่า Construction แสดงว่าเส้นทางมีปัญหา ควรหลีกเลี่ยงไปเส้นทางอื่น เป็นต้น
11. ควรจองโรงแรมจากตัวแทนที่ให้เงินคืนหากจำเป็นต้องยกเลิก
ซึ่งปัจจุบัน Website จองเค้าโรงแรมส่วนใหญ่ เค้าคืนเงินให้หากยกเลิกภายในเวลาที่กำหนด
ถึง Website จองจะไม่คิดค่ายกเลิก แต่บางโรงแรมอาจคิดค่าธรรมเนียมยกเลิก 1 คืน เป็นค่าเสียโอกาส
โดยเฉพาะโรงแรมยอดนิยม ที่อยู่ใกล้สถานี ถ้ามีโอกาสดูตรงนี้ก่อนจองด้วยก็ดีครับ
บาง Website มี Option ให้เลือก ทั้งแบบคืนเงิน หรือแบบไม่คืนเงิน
ถึงแม้ว่า Option การจองแบบยกเลิกและคืนเงิน จะต้องเพิ่มเงินอีกนิด
แต่ก็คุ้มหากเราจำเป็นต้องยกเลิกขึ้นมา เพราะหากยกเลิกไม่ได้
เราต้องเสียเงินจองทั้งก้อน พร้อมทั้งต้องเสียเงินจองโรงแรมใหม่ กลายเป็นเสีย 2 ต่อ
รูปซ้าย เป็นแผนเดิมก่อนฮากิบิสเข้าญี่ปุ่น
รูปกลาง เป็นการขยับแผนหลังฮากิบิสเข้าญี่ปุ่น ยกเลิกจองโรงแรมที่นิกโก จากเดิมไปช่วงแรก แล้วจองใหม่เป็นช่วงท้าย
ทางโรงแรมหักค่าธรรมเนียมการยกเลิก 1 คืน (จากทั้งหมด 3 คืน)
รูปขวา ตอนอยู่คาวากุจิโกะ พึ่งทราบว่าทางรถไฟของโทบุไปนิกโกขาด
ระหว่างหาเส้นทางใหม่ ก็ยกเลิกการจองโรงแรมที่นิกโกตามรูปกลางไปก่อน โรงแรมนี้ไม่หักค่าธรรมเนียม ได้เงินคืนเต็มจำนวน
หลังจากหาเส้นทางใหม่ได้ คือ ไปด้วยทางรถไฟของ JR East ก็กลับไปจองโรงแรมเดิมอีกครั้ง
แต่เนื่องจากโรงแรมเดิมเหลือว่างแค่ 2 คืน คืนสุดท้ายจึงต้องย้ายที่พักไปโรงแรมใกล้เคียง
สรุปคือ เที่ยวครั้งนี้ ได้ยกเลิกโรงแรมไป 2 รอบ พบว่า ไม่ยากอย่างที่คิด 555
ได้ประสบการณ์ว่า ครั้งต่อไป ก่อนจอง ต้องดูเงื่อนไขของแต่ละโรงแรมว่ามีค่าธรรมเนียมยกเลิกหรือไม่
ถึงจะถูกกว่า ก็คงต้องขอผ่านไปก่อน 555
พอจองใหม่แบบจองใกล้วันเข้าพัก ก็พบว่า ราคาไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างที่คิด แพงกว่าจองล่วงหน้าหลายเดือนแค่หลักร้อย
ที่อาจเสี่ยง ที่พักที่ต้องการใน Website จอง อาจเต็ม
12. เตรียมสุขภาพ
ถ้าตากฝนแล้วเป็นไข้ ไม่สบาย ก็คงเที่ยวไม่สนุก
เดี๋ยวมาต่อส่วนสอง ใน Comment ด้านล่างนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น